บทที่ 82 เป็นครอบครัวเดียวกัน

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 82 เป็นครอบครัวเดียวกัน

แต่ว่า!

ใบหน้าของตาเฒ่าเย่นเต็มไปด้วยเจ้า ‘หลอกสีหน้าของข้าไม่ได้’ทำให้หลานเยาเยาอธิบายยังไงก็ไม่พ้นการกล่าวหาสุดท้ายจึงทำได้เพียงยอมรับไปโดยปริยาย

ถึงอย่างไรตราบใดที่เย่แจ๋หยิ่งไม่ตายก็พอ!

“ ตาเฒ่าเย่น ข้ายอมรับแล้ว เขาไม่ตายได้ใช่หรือไม่?”

ใครจะรู้……

ปากตาเฒ่าเย่นกระดกขึ้น พูดไม่ชัดเจนด้วยเสียงเย็นชา:

“ตายไม่ตายก็ต้องดูความโชคดีของเขา นังหนู ตามข้ามานี่”

เอ๋?

ยังต้องดูความโชคดีหรอ?

ตาเฒ่าเย่นคุ้นเคยที่นี่ขนาดนี้จะต้องรู้ว่าห้องเครื่องที่ควบคุมเครื่องจักรนั้นอยู่ที่ไหนแน่ๆ หรือนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาบอกว่าช่างมันไปหรอ?

เมื่อเห็นว่านางอยากถามตาเฒ่าเย่นก็รีบยกมือเป็นสัญญาณว่านางอย่าพูด หลังจากนั้นก็พานางเดินไปยังทางเดินที่กว้างขวาง

ผ่านไปไม่นานก็มาอยู่หน้าห้องหิน

ตาเฒ่าเย่นกดไปที่ปุ่มเปิดปิดห้องหินก็เปิดออก แต่หลังจากที่ห้องหินเปิดออก หลานเยาเยาและตาเฒ่าเย่นก็ต้องตกตะลึงทันที

ห้องหินนี้เป็นห้องควบคุมเครื่องจักร ถ้าไม่ใช่คนที่ออกแบบที่นี่ก็จะไม่มีทางหาทางเข้าห้องหินนี้เจอ

แต่ทว่าตอนนี้กลับเห็นชายรูปงามยืนพิงอยู่ข้างๆเครื่องจักร คิ้วลดลงจมอยู่กับความคิด ไม่รู้ว่าคิดอะไร

คุณพระช่วย!

คาดไม่ถึงเลยว่าคือเย่แจ๋หยิ่ง!

ที่แขนและตัวของเขาได้รับบาดเจ็บในระดับที่ต่างกันแต่ก็ถูกพันไว้เรียบร้อยแล้ว

อีกคนหนึ่งที่ยืนพิงกำแพงอยู่ไม่ห่างจากเขาแม้จะไม่เห็นหน้าแต่เมื่อเห็นเสื้อผ้าและท่าทางของเขา หลานเยาเยาก็สามารถยืนยันได้ว่าคนนี้คือจื่อซี

แต่ดูท่าทางนั้นแล้วน่าจะไม่ได้สติ!

เมื่อได้ยินเสียงประตูหินเปิดออกเย่แจ๋หยิ่งก็หันกลับมา

เมื่อตอนที่เขาเห็นหลานเยาเยาและชายชราผมขาวที่อยู่ข้างๆ คิ้วก็ขมวดขึ้นเล็กน้อยเสียงไพเราะก็ดังขึ้นอย่างเย็นชา

“เขาคือใคร?”

บรรยากาศรอบๆก็ตึงเครียดขึ้นมา……

เอ่อ……

คำถามนี้ตอบยากเล็กน้อย

ที่นี่คือสถานที่ฝังของล้ำค่าในราชวงศ์ก่อน เย่แจ๋หยิ่งใช้เวลาหลายปีกว่าจะหาทางเข้าเจอคนที่สามารถเข้ามาในนี้ได้ก็ต้องมีความสัมพันธ์กับราชวงศ์ก่อนไม่มากก็น้อย

เขาต้องสงสัยว่าตาเฒ่าเย่นเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ก่อน!

ส่วนตอนนี้เขาเป็นท่านอ๋องที่มีอำนาจสูงสุด ความคับแค้นของราชวงศ์ก่อนกับราชวงศ์ปัจจุบันนางไม่รู้เรื่องแต่ราชวงศ์ก่อนถูกทำลายในชั่วข้ามคืน

เล่ากันมาว่าเป็นเหตุจากภัยธรรมชาติ!

เฮ้อ!

นี่ก็เป็นเพียงแค่การหลอกประชาชนก็เท่านั้น

การสิ้นพระชนม์ของราชวงศ์ก่อนเกี่ยวข้องกับราชวงศ์ปัจจุบัน

เผชิญกับเหตุการณ์เช่นนี้ ถ้านางบอกว่าตาเฒ่าเย่นเป็นคุณปู่ของนาง เขาจะจับนางไหมหรือเขาจะฆ่านาง?

หลานเยาเยาอ้าปากเล็กน้อยแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเสียงของตาเฒ่าเย่นก็ดังขึ้นมาจากข้างหู

“เจ้าหนุ่มนี่เป็นใครอีก? ข้าถึงไม่ได้บอกเจ้าว่าข้าเป็นคุณปู่ที่เพิ่งรู้จักของนังหนูนี่ เจ้าอย่าอะไรมาก!”

หลานเยาเยา “……”

มีคนทรยศอย่างงี้หรือ?

ได้ยินเช่นนั้น,

เย่แจ๋หยิ่งเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองไปยังตาเฒ่าเย่นแล้วก็ส่งเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชาแต่ก็ไม่พูดอะไร

แต่ว่า!

บรรยากาศตึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้หลานเยาเยาอดไม่ได้ที่จะใจเต้นแรง

ตอนนี้พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ นางทำได้เพียงยิ้มอย่างเขินๆให้พวกเขา

แต่ทว่าตาเฒ่าเย่นก็เหมือนกับไม่รู้อะไรแล้วก็คิดไม่ถึงว่าจะพูดว่า:

“โอ้~ ข้ารู้แล้ว เจ้าคืออ๋องเย่ที่ทำให้นังหนูนั่นชอบจนไม่สามารถใช้ชีวิตคนเดียวได้ใช่ไหม? เจอวันนี้ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่นี่!”

ให้ตายเถอะ!

หน้าตาหล่อขนาดนั้น ออร่าออกขนาดนี้ มิน่าหล่ะถึงทำให้นังหนูนั่นหลงใหลได้ ถ้าเขาเป็นผู้หญิง……

อ่าเฮ้ยเฮ้ยเฮ้ย คิดอะไรนี่!

เมื่อคำพูดเช่นนั้นออกมา!

หลานเยาเยาก็แข็งเป็นหิน

นางมีความรู้สึกเหมือนโดนฟ้าผ่าอย่างแรงจนทำให้ข้างนอกแข็งทื่อแต่ข้างในอ่อนระทวย

บนพื้นมีรอยแยกไหม?

ขอให้นางมุดเข้าไปหน่อย!

เย่แจ๋หยิ่งก็ตกใจ เปลี่ยนสายตาไปมองหน้าแดงๆของหลานเยาเยา เมื่อเห็นว่านางทำหน้าอย่างกับท้องผูกก็มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก

บรรยากาศที่ตึงเครียดก็ค่อยๆผ่อนคลายลง

“นางพูดเองรึ?”

เขาถามเรียบๆราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขา

“ข้าได้ยินกับหูจะไม่จริงหรือ?ถ้าไม่เชื่อข้าก็จะพูดในสิ่งที่นางพูดเจ้าก็จะรู้ว่ามันจริงไม่จริง นางพูดเช่นนี้……”

แต่ประโยคหลังยังไม่ได้พูดออกมาก็ถูกหลานเยาเยาที่สติกลับมาแล้วปิดปากเอาไว้

“ท่านพูดอะไรส่งเดช? ใครชอบเขากัน?”

หลานเยาเยากระวนกระวายรีบส่งสายตาให้ตาเฒ่าเย่น

ชาติที่แล้วนางทำเวรทำกรรมอะไรไว้นะ?

ชาตินี้ถึงต้องมารู้จักกับคุณปู่น่าโมโหนี่ ต้องการให้นางโมโหตายรึไง?

อะไรที่เป็นสีขาว สีแดง สีเหลือง สีฟ้าก็ถูกเขาพูดเป็นสีดำหมด!

วิธีที่ดีที่สุดตอนนี้ก็คือให้เขาหุบปากซะ!

แต่ตาเฒ่าเย่นไม่ยอม เอามือหลานเยาเยาออกและพูดอย่างเฉียบขาดว่า:

“เจ้าไม่ได้บอกหรือว่าเขาตายไม่ได้ถ้าเขาตายเจ้าก็จะมีชีวิตอยู่ต่อไม่ได้?”

“ไม่ได้พูด!”นางรีบปฏิเสธ

สองมือถูขมับ เดินเข้าไปในห้องหินอย่างหมดอาลัยตายอยาก

เมื่อตาเฒ่าเย่นได้ฟังดังนั้น นั่นมันไม่ใช่ ก็รีบตามหลังไปแล้วพูดเถียงว่า:

“นี่ นังหนูโกหก เห็นชัดๆว่าเมื่อก่อนเคยพูดตอนนี้ยังกล้าปฏิเสธคิดว่าข้าหูหนวก ความจำไม่ดีรึไง?

จะบอกเจ้านะ ข้าหน่ะจำได้ทุกคำ เจ้ายังบอกว่าชะตาเจ้ากับเขาผูกกันไว้แล้วแยกก็แยกไม่ได้!”

“ข้าหลอกท่าน!”

แม่เจ้า!

อะไรที่เรียกว่าแยกก็แยกไม่ได้!

ตาแก่นี่ ท่านอย่ามาเติมคำมั่วซั่วได้ไหมเนี่ย? ผลที่ตามมามันร้ายแรงเข้าใจไหม?

ตอนนี้นางไม่ได้หมดอาลัยตายอยากแล้วแต่กำลังหาช่องว่าง

แต่ทว่า!

ตาเฒ่าเย่นก็ไม่ได้จะหยุดถามแต่ไล่ต้อน

มาอยู่ตรงหน้านางแล้วถามนางด้วยสีหน้าจริงจังว่า:

“เจ้าไม่ได้ชอบเขาจริงเหรอ?”

“ไม่ได้ชอบ!”

“งั้นตอนนี้ข้าฆ่าเขาเจ้าก็จะไม่มาขวาง?”

“ไม่ขวาง!”

นางจะกล้าขวางที่ไหนถ้าขวางก็เท่ากับนางแก้ตัวไม่ขึ้นแล้ว

อีกอย่าง เย่แจ๋หยิ่งมีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งมีกำลังภายในมั่นคง แม้ตาเฒ่าเย่นจะเก่งแค่ไหนความต่างของพวกเขาก็คงไม่เยอะมากหรอก!

ใครจะรู้หล่ะ!

สิ้นเสียงนาง ท่าทางของตาเฒ่าเย่นก็เปลี่ยนไปพยักหน้าอย่างพอใจหลังจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปทางเย่แจ๋หยิ่งพร้อมกับพูดกับตัวเองอย่างภูมิใจว่า:

“แม้ทักษะการต่อสู้ของอ๋องเย่จะแข็งแกร่ง กำลังภายในมั่นคงแต่ร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกอย่างมีแขนข้างหนึ่งบาดเจ็บถึงเส้นเลือด ข้าฆ่าเขาได้อย่างง่ายดาย”

อะไร?

หลานเยาเยารีบมองไปยังเย่แจ๋หยิ่ง บาดแผลบนแขนที่ได้รับบาดเจ็บของเขามันอยู่ที่เส้นเลือด สีหน้าก็ซีดยืนอยู่ตรงนั้นนิ่ง

หน้าตาเหมือนกับไม่อยากโต้ตอบ!

ดูท่าทางแล้ว ตอนนี้เขาไม่สามารถเอาชนะตาเฒ่าเย่นได้

ดังนั้น!

นางจึงรีบเดินไปข้างหน้า กอดขาตาเฒ่าเย่นไว้พูดอย่างออดอ้อนว่า

“เดี๋ยวก่อนตาเฒ่าเย่น อ๊ะ……ไม่ไม่ไม่ คุณปู่ คุณปู่แสนดีของข้า ท่านรอครู่นึงนะ”

ตาเฒ่าเย่นเห็นท่าทางนางเช่นนี้ก็ถามอย่างอารมณ์เสีย

“อะไร?”

“คุณปู่ เขา……เขาตายไม่ได้ ท่านดูสิ ตอนนี้ข้าเป็นหลานสาวของท่านแล้วก็เป็นพระชายาของเขาที่เพิ่งแต่งงานเข้ามาไม่นาน นี่ไม่ใช่หลานเขยท่านหรอ? ก็เป็นครอบครัวเดียวกันแล้วจะทะเลาะฆ่ากันทำไม? แหะแหะ ท่านว่าไหมหล่ะ?”

คนอธิบายนี้มีเหตุผลอย่างมาก!

นางมองไปที่สีหน้าของตาเฒ่าเย่นอย่างระมัดระวัง