มุมมองของเกรซ :
ฉันยังคงร้องไห่ต่อไปโดยที่เวลาค่อยๆ ผ่านไป โดยไม่ทราบเวลาต่อมาฉันเงยหน้าขึ้นในขณะที่พยายามเช็ดน้ำตา
‘สงบสติอารมณ์ตัวเองไว้เกรซ แบบนี้ดีที่สุดแล้ว’
เมื่อฉันมองสร้อยคอบนหน้าอกของตัวเอง ภาพของออสตินก็แวบเข้ามาในความคิดพร้อมกับความเจ็บปวดที่แล่นเข้ามาในหัว
ทำไมฉันถึงต้องทนทุกข์ทรมานแบบนี้ด้วยกันนะ ถ้าเพียงแค่พวกเราไม่ใช่แม่ลูกกันหล่ะก็
ขณะที่ฉันสาปแช่งชะตากรรมของตัวเองอยู่นั้นก็ได้ยินเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นพร้อมกับเสียงของคลาร่า
“นายหญิงคะ ขอเข้าไปได้ไหมคะ?”
เมื่อได้ยินเสียงของเธอ ฉันก็รีบทำความสะอาดหน้าของตัวเองก่อนจะสวมใส่ท่าทางที่สง่างามอีกครั้งและพูดขึ้น
“จ่ะ เข้ามาได้”
ไม่นานประตูก็เปิดออกพร้อมกับคลาร่าที่เดินเข้ามา
ฉันเห็นได้ว่าเด็กที่ไร้ความมั่นใจในตอนนั้นเติบโตขึ้นมาอย่างดี ฉันสามารถบอกได้เลยว่าเธอรักลูกชายของฉัน การได้เห็นเธออยู่กับลูกชายของตัวเองในขณะที่ฉันต้องทนทุกข์ทำให้ฉันไม่พอใจเล็กน้อย แต่ฉันก็ควบคุมตัวเองเอาไว้เพื่อหยุดความคิดที่ไร้เหตุผลเช่นนั้น
“มีอะไรเหรอจ๊ะ?”
เสียงของฉันเจือด้วยความรำคาญเล็กน้อย ฉันเห็นว่าคลาร่าลังเลราวกับว่าเธอกลัวที่จะพูดอะไรบางอย่าง ดังนั้นฉันจึงพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นอีกเล็กน้อย
“เธอมีอะไรรึเปล่า!”
เมื่อได้ยินคำถามของฉัน คลาร่าก็หน้าซีดพร้อมกับที่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว เธอทำท่าทางลังเลก่อนที่จะพูดขึ้น
“มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างนายหญิงกับนายน้อยรึเปล่าคะ?”
“ทำไม? ออสตินทำอะไรหรือเปล่า?”
เมื่อได้ยินคำพูดของคลาร่า ฉันก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นกับเขารึเปล่านะ?
“เปล่าค่ะ ฉันเห็นนายน้อยวิ่งออกจากคฤหาสน์ขณะที่กำลังร้องไห้ แถมเขายังทิ้งจดหมายนี่ไว้บนโต๊ะด้วยค่ะ”
เมื่อเห็นจดหมายในมือของคลาร่า ฉันก็รีบใช้มานาของตัวเองเพื่อดึงมันเข้ามาก่อนจะรีบเปิดอ่านมันอย่างรวดเร็ว
< ถึงแม่,
ถ้าแม่อ่านข้อความนี้อยู่ แสดงว่าผมได้ออกจากคฤหาสน์ไปแล้ว แต่ไม่ต้องนะครับผมไม่ได้ไปไหนไกลหรอก อีก 2 วันผมจะกลับมา ผมไม่รู้ว่ามีอะไรกำลังกวนใจแม่อยู่นะครับ แต่ถ้ามันมากเกินไปก็ไม่ต้องบอกผมก็ได้ครับ
*ตั้งแต่ผมยังเด็กแม่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมเสมอมาครับ ผมอยากจะช่วยเหลือแม่, อยู่เคียงข้างแม่, ให้กำลังใจแม่ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นได้เพียงความปรารถนาของผม ผมขอโทษด้วยถ้าผมทำให้แม่เจ็บปวด แต่มันเจ็บปวดมากเมื่อผมรู้ว่าแม่พยายามหลบหน้าผม
*ดังนั้นผมจึงวางแผนที่จะอยู่ห่างจากแม่ ถ้าแม่คิดว่าผมทำให้แม่เสียใจงั้นผมก็จะไม่มาพบแม่อีกต่อไป นับตั้งแต่นี้ไปแม่ไม่ต้องมาเจอหน้าผมอีกก็ได้ครับ ผมจะไปสถาบันบาบิโลนเร็วกว่าที่เคยวางแผนไว้ครับ
*แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ ขอเพียงแค่ใช้ชีวิตตามที่แม่ต้องการ ทั้งหมดที่ผมต้องการคือความสุขของแม่ครับ ถ้าการที่ผมไม่อยู่ใกล้แม่แล้วทำให้แม่มีความสุข ผมก็จะอยู่ให้ห่างจากแม่ครับ
ด้วยรัก
ออสติน >
เมื่อหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านฉันก็สัมผัสได้เลยว่าจดหมายนี้เปียกน้ำ ซึ่งพิสูจน์ได้ว่าออนตินกำลังร้องไห้ในตอนที่เขาเขียนจดหมายฉบับนี้
ฉันวางจดหมายลงบนโต๊ะอย่างทะนุถนอม
เป็นแบบนี้ก็ดี เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว แบบนี้ฉันก็ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว อย่างนี้เขาจะได้ค่อยๆ จากไปและความรู้สึกของฉันก็จะค่อยๆ จางหายไปด้วย แบบนี้คงไม่มีปัญหาอะไร แบบนี้ทุกๆ อย่างก็จะได้กลับมาเป็นปกติ
แต่ว่าทำไมหล่ะ? ทำไมใจฉันถึงเจ็บเหลือเกิน ทำไมน้ำตาของฉันถึงไหลออกมากัน? ทำไมความรู้สึกถึงไม่หายไป? ทำไมฉันถึงรู้สึกแบบนี้? แบบนี้มันควรจะดีกว่าไม่ใช่เหรอ?
ฉันมองลงไปที่จดหมายซึ่งเต็มไปด้วยน้ำตาของออสตินที่ยังไม่แห้ง แต่ละคำที่เขียนในจดหมายนั้นช่างเลือนลาง บ่งบอกได้ว่ามือของเขาสั่นในขณะที่กำลังเขียนจดหมายฉบับนี้
ฉันหลับตาขณะวางมือลงบนหน้าอก ความทรงจำดูเหมือนจะแวบผ่านดวงตาของฉัน ทุกช่วงเวลาที่ฉันได้อยู่กับลูกชาย รอยยิ้มของเขา คำพูดขี้เล่นของเขาในตอนที่เขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับฉัน ความสุขที่ฉันรู้สึกได้ในตอนที่เขาจับมือฉันและเพลงที่เขาเล่นซึ่งทำให้ใจฉันสั่นไหว
‘ฉันเข้าใจแล้ว…’
ฉันเข้าใจแล้ว…
ฉันหลับตาขณะที่เอามือทาบหน้าอก ฉันไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว ฉันลืมตาขึ้นในขณะที่มองไปยังคลาร่าที่กำลังยืนมึนงงก่อนจะพูดกับเธอ
“เขาออกไปไหน?”
“ข -เขาวิ่งไปทางฝั่งตะวันตกของเมืองค่ะ”
เมื่อได้คำตอบฉันก็ไม่ได้พูดอะไรอีกและวิ่งออกจากห้องไป
สิ่งที่ฉันไม่เห็นในตอนนั้นคือรอยยิ้มขี้เล่นที่ปรากฏบนใบหน้าของคลาร่าหลังจากที่ฉันวิ่งออกจากห้องไป
ฉันพูดกับคนรับใช้ที่ไว้ใจได้เพียงไม่กี่คำก่อนจะวิ่งออกจากคฤหาสน์ไปทางตะวันตกของเมือง
ฉันวิ่งด้วยความเร็วเต็มที่โดยไม่ได้หยุดพัก เมื่อวิ่งออกจากเมืองไปยังเนินเขาที่คุ้นเคยแล้วฉันก็วิ่งต่อขึ้นไปยังยอดเขา
เมื่อวิ่งขึ้นมาถึงบนยอดฉันก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังก้องเข้ามาในหู มันคือเสียงเพลงอันไพเราะที่ทำให้ฉันต้องหยุดวิ่ง เมื่อมองไปยังที่มาของเสียงฉันก็พบกับร่างอันคุ้นเคยที่กำลังยืนอยู่บนยอดเขา ผมสีเงินของเขาปลิวไสวไปตามสายลมในตอนที่ลมยามเย็นพัดผ่านพร้อมกับพิณที่ถืออยู่ในมือ เพลงที่เขาเล่นนั้นต่างต่างจากเพลงปกติ มันดูเหมือนเพลงที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ฉันมองไปทางเขาขณะที่ค่อยๆ เดินเข้าไปหาเขา หัวใจของฉันเหมือนจะเต้นออกมาจากอกด้วยความประหม่า
ฉันค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้เขาก่อนจะตะโกนขึ้นมา
“ออสติน!!”
เสียงตะโกนของฉันทำให้เพลงที่กำลังบรรเลงอยู่นั้นหยุดลงพร้อมกับที่ออสตินหันกลับมามองฉันด้วยความประหลาดใจ ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อเห็นฉัน
ฉันหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะตะโกนออกไปโดยไม่ปล่อยให้เขาได้พูดอะไร
“ฉันรักเธอ!!”
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต