บทที่ 84 โฉมหน้าสวยงาม

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่ 84 โฉมหน้าสวยงาม

เอ่อ……

สีหน้าของพวกเขานี้คืออะไร? เหมือนกับเห็นสิ่งน่ากลัวอะไรอย่างงั้น

หรือว่าในบ่อยานี้มีอะไรอยู่?

ดังนั้นนางจึงรีบมองไปรอบๆบ่อยาก็พบว่าในบ่อยานี้นอกจากยาน้ำก็ไม่มีสิ่งอื่นอีก

อีกทั้งสีของยาน้ำนี้ก็เป็นสีฟ้าอ่อนๆ นอกจากกลิ่นแรงๆแล้วก็ไม่มีสิ่งน่ากลัวอย่างว่า

แล้วพวกเขาเห็นอะไรหล่ะ?

โอ้ะ ไม่ถูก!

ที่พวกเขามองไม่ใช่น้ำในบ่อยาแต่เป็นหน้าของนาง……ขณะนี้!

หลานเยาเยาก็รู้สึกถึงว่ามีอะไรบางอย่างตกลงมาบนหลังมือนางเมื่อก้มหัวดู ที่แท้ก็เป็นหนังขนาดเท่าเล็บมือ

แม่เจ้า!

หนังหน้านางหลุดเหรอ?

ตกใจนางรีบหยิบกระจกออกมาจากระบบมาส่องหน้าตนเอง

ไม่ดูไม่รู้ พอดูก็ต้องตกใจตัวโหยง!

ผิวหน้าบนหน้านางกำลังแตกเหมือนกับการลอกคราบแล้วก็ตกลง ตกลงทีละชิ้นๆ ดูแล้วน่ากลัวจริงๆ

แต่ว่า……

จนกระทั่งรอจนหลังจากหนังชิ้นสุดท้ายตกลง หลานเยาเยาก็ต้องตกตะลึงตนเอง

ผมเปียกๆก็ตกมาอยู่ตรงหน้าอก เรียนรู้การทำหน้าม้าเล็กน้อยเพื่อมาปกคิ้วไว้ส่วนนึง ดวงตาโตใสสะอาดสีนิล……

แล้วยังมีจมูกโด่งสวย แก้มหยกขาวๆ ริมฝีปากบาง หน้าขาวราวกับหิมะเปร่งประกายราวกับหยก ผิวขาวราวกับหยก

พระเจ้า!

ถ้าไม่ใช่เพราะสีหน้าซีดเล็กน้อยและใบหน้าผอมลงเล็กน้อย หน้าตาของนางก็คู่ควรกับสี่คำที่ว่าสวยจนล่มเมืองได้

ที่แท้นี่ก็คือใบหน้าที่แท้จริงของนาง!

มิน่าหล่ะแต่ก่อนใช้ของบำรุงผิวตั้งเยอะก็ไม่มีประโยชน์อะไรสักนิด

แล้วผิวชั้นแรกหลุดลงมาคงไม่ใช่หน้ากากผิวหนังคนหรอกนะ?

อีกอย่างหน้ากากผิวหนังคนชนิดนั้นน่าจะทำอย่างประณีตละเอียดอ่อน.ถ้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญจริงๆก็จะดูร่องรอยไม่ออก

“อะแฮ่ม!”

หลานเยาเยากระแอมเบาๆ

จากนั้นก็ยิ้มหวานให้พวกเขาแล้วพูดอย่างไม่ถ่อมตัวว่า: “สวยมากใช่ไหมหล่ะ? นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ข้าพบว่าข้าสวยขนาดนี้!”

จื่อซี “……”พระชายาไม่พูดจะเป็นคนสวยจนล่มเมืองจริง

จื่อเฟิง “……”ได้ยินเสียงนี้……คือพระชายาไม่ผิด!

แต่หลังจากที่เย่แจ๋หยิ่งตกตะลึงก็เก็บสายตากลับมาแล้วพูดเรียบๆว่า: “เวลาไม่มากแล้ว ไปเถอะ!”

พบว่าสีผิวบนหน้าของหลานเยาเยากับสีผิวบนตัวไม่เหมือนกันก็คิดว่านางตั้งใจแต่งให้น่าเกลียดแต่เห็นปฏิกิริยานางเมื่อครู่แล้วแม้แต่ตัวนางเองก็ไม่รู้ว่าบนหน้าตนเองมีหน้ากากผิวคนอยู่

นี่น่าสนใจแล้ว!

แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือหลานเยาเยายื่นมือก็สามารถเอาสิ่งที่เหมือนกระจกแปลกๆออกมาได้

เป็นกลรึเปล่า?

หรือว่าบนตัวนางยังมีความลับอย่างอื่นอีก?

แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดพวกนี้

แต่ต้องรีบออกจากที่นี่ให้ไว

เมื่อครู่เขาได้ค้นหาแล้ว ที่นี่มากที่สุด

กล่องหยกลับนั่นไม่มีอะไรอยู่ ของที่เขาต้องการถูกชายชราผมขาวเอาไปแล้ว

“อ้ออ้อ รู้แล้ว พวกเจ้าเดินนำไปก่อน ตัวข้าเปียกขอจัดการสักครู่แล้วจะตามไป”

หน้าก็เป็นแค่ผิวหนังเท่านั้น สวยแล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไร!

แต่ว่า สิ่งที่นางสนใจที่สุดก็ยังคงเป็นเงินทองเพชรพลอยเหล่านั้น

ดังนั้นนางจึงรีบกระตุ้นให้พวกเขาไปก่อนแล้วนางค่อยเอาพวกมันเก็บเข้าระบบ

“อื้ม!”

เมื่อเห็นสายตาที่เป็นประกายของนาง เย่แจ๋หยิ่งก็รู้ว่าเขามีแผนอยู่ในใจ

ดังนั้น!

จื่อซีกับจื่อเฟิงก็ไปรออยู่ด้านนอกห้องหิน หลานเยาเยาไม่ได้รีรอ หลังจากที่พวกเขาออกไปก็โบกมือกว้าง เอาเงินทองเพชรพลอยส่วนหนึ่งเข้าไปในระบบ

ตอนจะไป ก็เอาโถใบใหญ่ออกมาจากระบบแล้วเอาน้ำยาในบ่อยาใส่เข้าไป!

จนกระทั่งตอนที่พวกเขาออกมาจากวงกตใต้ดินตามแผนที่แล้วก็เพิ่งพบว่าทางออกนี้แต่ก่อนคือคุกใต้ดินที่หลานเฉินมู๋กักขังตาเฒ่าเย่นไว้

ตอนนี้!

หลานเยาเยาอยากหัวเราะขึ้นมา

หลานเฉินมู๋กักขังตาเฒ่าเย่นไว้ตั้งหลายปี แม้ทางออกก็หาไม่พบ ไร้ความสามารถจริงๆ

เมื่อเห็นเย่แจ๋หยิ่งกำลังจะไป หลานเยาเยาก็รีบถาม:

“เย่แจ๋หยิ่ง เจ้าไม่ปิดประตูทางออกนี้หน่อยหรือ? ข้างในยังมีคนอีกทั้งเป็นศัตรูของเจ้าด้วย”

“ไม่ต้อง!”

หลังจากที่พูดสองคำอย่างไม่แยแสก็ก้าวเท้าออกไป

อ้าว!

ดูแล้ว เย่แจ๋หยิ่งไม่เพียงแต่รู้ว่ามีคนแอบตามรอยเขาแต่ยังตั้งใจให้ทางรอดแก่พวกเขาอีก นี่เพื่ออะไร?

หลังจากที่พวกเขาออกมาไม่นาน แม้แต่ยอดเขาที่เชื่อมกับป่าทึบก็เริ่มสั่นสะเทือนสุดท้ายยอดเขานั้นก็ถล่มลง

ก้าวลงไปในบริเวณรอบๆ พอดีกับที่วัดที่อยู่ด้านบนป่าทึบก็ถล่มลงมาครึ่ง คนที่โชคดีรอดอยู่ก็ทยอยหนีลงเขา หนึ่งในนั้นก็รวมหลานชิวหยุนที่ถูกหลานเฉินมู๋ส่งไปที่วัด

การสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงนี้มีขอบเขตค่อนข้างกว้าง ทำให้ฮ่องเต้ที่อยู่ในวังส่งคนมาตรวจสอบสุดท้ายก็ไม่พบอะไร

เพียงแค่คิดว่าเกิดแผ่นดินไหว!

หลังจากผ่านไปสิบกว่าวัน คำวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับอุโมงค์ใต้ดินก็ค่อยๆถูกเรื่องอื่นกลบไป

นั่นก็คือเทศกาลแห่งความรักใกล้จะมาถึงแล้ว

เทศกาลแห่งความรักเป็นวันที่ค่อนข้างอลังการสำหรับประเทศก่วงส้า!

ในแผ่นดินที่ผู้ชายใหญ่กว่าผู้หญิงแล้วตั้งเงื่อนไขที่เข้มงวดให้กับผู้หญิงปกติจะไม่ค่อยมีผู้หญิงที่ทำพิธีจี๋พิ่น(สาววัยอายุ15-16ถือเป็นผู้ใหญ่และสามารถแต่งงานได้)และไม่สามารถออกไปข้างนอกไปปรากฏตัวในสังคม

ถ้าอยากออกไปซื้อของข้างนอกก็ต้องสวมหมวกปิดบังใบหน้าให้หมดถึงออกจากบ้านได้

ก็มีแต่เพียงเทศกาลแห่งความรักนี้ ผู้หญิงถึงสามารถออกจากบ้านได้แล้วก็ไม่ต้องปิดบังใบหน้าตนเองแล้วยังสามารถมอบถุงหอมให้แก่คนที่ตนเองชอบ

ดังนั้นเทศกาลแห่งความรักนี้ บนถนน ริมทะเลสาบและวัดสถานที่ขอแต่งงานแล้วก็สถานที่จำพวกร้านน้ำชาก็จะเต็มหมด

ดังนั้นเหล่าหนุ่มหล่อสาวสวยก็ล้วนรอคอยวันนั้น……

หลายคนก็คาดหวังว่าจะพบคนที่ถูกใจในวันนี้

เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของชายหญิงหนุ่มสาวเหล่านั้น ลานหนวนซินของจวนอ๋องเย่กลับมีการเปลี่ยนแปลงทันที

หลานเยาเยาคว่ำหน้าไปบนโต๊ะอย่างหมดแรง!

ตอนเช้าตรู่ ก็ไม่รู้ว่าโหลวเย่วเกิดบ้าอะไรขึ้นมาถึงไม่สวมหมวกแล้ววิ่งออกจากลานไปทำให้นางป่วยอีกครั้ง

โชคดีที่ก่อนหน้านี้ไม่นานนางเสร็จภารกิจแล้วเลื่อนขั้นระบบโดยไม่คาดคิด มีเครื่องมือทางการแพทย์กับยาชั้นสูงในที่สุดก็ดึงโหลวเย่วกลับมาจากวังยมราชได้

เรื่องที่ทำให้คนดีใจยิ่งกว่า

นางไม่ต้องปิดบังเข้มงวดขนาดนั้นแล้ว ตราบใดที่แดดไม่ออกนางก็สามารถออกไปข้างนอกได้อย่างคนปกติ!

นี่ทำให้โหลวเย่วดีใจจนเป็นลมไป

ส่วนหลานเยาเยาก็เหนื่อยจนนอนคว่ำหน้าอยู่บนโต๊ะแล้วก็มองดูปลาตัวโตเนื้อชิ้นใหญ่บนโต๊ะนางก็กลืนน้ำลายหลายต่อหลายครั้งแต่ก็เหนื่อยซะจนขี้เกียจใช้แรงลุกขึ้นมากิน

ตอนที่นางรู้สึกว่าตนเองจะหลับแล้ว เย่แจ๋หยิ่งที่หลังออกมาจากเขาวงกตใต้ดินก็ไม่เคยเจอเป็นสิบกว่าวันก็มาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า

“โหลวเย่วยังไม่ตื่น แต่นางไม่เป็นอะไร เจ้าไปดูเถอะ!”

หลานเยาเยายังคิดว่าเขามาหาโหลวเย่วดังนั้นจึงบอกเขาอย่างอ่อนแรง

ใครจะรู้!

เย่แจ๋หยิ่งอื้มเบาๆแล้วก็พูดเรียบๆว่า:

“อื้ม ข้ารู้แต่ข้ามาหาเจ้า”

เอ่อ……

หานาง?