ตอนที่ 108 สินสอด
หลินชวนฮวาไม่ได้สนใจสิ่งใดเลยแม้กระทั่งภาพลักษณ์ของตนต่อหน้าชาวบ้านทุกคน! นางเพียงแต่คิดจะทําลายหยุนเถียนเถียนให้สิ้นเท่านั้น!
“หยุนเคอ! เจ้าไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ความบริสุทธิ์ของหญิงสาวผู้นี้ถูกพรากไปโดยเจ้า นับเป็นความผิดมหันต์ เจ้าต้องไม่มีที่ยืนในหมู่บ้านนี้! ท่านผู้เฒ่าจงเป็นพยาน หากเขาไม่รับผิดชอบก็ไม่ต้องตามหมอมาและนํานางไปถ่วงน้ําเสีย!”
ชาวบ้านต่างนิ่งเฉยโดยไม่ขัดอะไร แม้พวกเขาจะรู้สึกสงสารหยุนเถียนเถียน แต่เมื่อเรื่องแบบนี้ได้เกิดขึ้นแล้วและพวกเขาก็ไม่สามารถปกปิดมันไว้ได้! ท้ายที่สุด การที่หญิงสาวผู้นี้เสียบริสุทธิ์ให้กับหยุนเคอก็นับเป็นความอัปยศของหมู่บ้านยิ่งนัก!
หยุนเคอมองดูทุกคนที่เฝ้าดูเพื่อรอให้เขาตัดสินใจ!
หยุนเคอก้มลงมองและเห็นว่าใบหน้าของหยุนเถียนเถียนแดงอย่างผิดปกติเนื่องจากมีไข้สูง!
เมื่อเห็นดังนั้น เขาก็บีบความเจ็บปวดในใจไว้แน่น แม้อยากจะปฏิเสธเพียงใดแต่ก็ทนปล่อยให้หญิงสาวมีอันเป็นไปไม่ได้!
อันที่จริง มีหญิงอีกมากมายที่เสียชีวิตต่อหน้าหยุนเคอและเขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรพวกนางเลย!
เมื่อนึกถึงเรื่องดังกล่าว หยุนเคอก็สงบจิตใจและยอมรับ!
“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่ได้แตะต้องหญิงผู้นี้เลยและไม่จําเป็นต้องแต่งงานกับนาง! แต่ในเมื่อทุกอย่างเป็นเช่นนี้ ข้า…หยุนเคอจะรับผิดชอบนางเอง! ท่านช่วยตามหมอมาได้ไหม?!”
| หลินชวนฮวายิ้มมุมปากอย่างภาคภูมิใจในความสําเร็จ “เจ้าบอกว่าจะรับผิดชอบนางโดยการแต่งงานใช่ไหม? แล้วสินสอดทองหมั้นล่ะ?”
กระแอมก่อนจะกล่าว “หลินชวนฮวา! หุบปากเสีย!”
หลินชวนฮวากล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ “แม้จะลําบากแต่ก็ถือได้ว่าข้าอุ้มชูนางมาจนเติบโต! แม้ครอบครัวจะแยกจากกัน ข้าก็ไม่เคยเพิกเฉยต่อการเอาใจใส่หรือเลี้ยงดูนางเลยมาเป็นเวลาหลายปี! ตอนนี้ข้าไม่ขออะไรนอกจากสินสอดทองหมั้น เหตุใดข้าจึงทําไม่ได้เล่า?”
ในที่สุด หลี่เสี่ยวเหอก็ทนไม่ได้จึงขัดจังหวะและพูดว่า “ในเมื่อนางต้องการสินสอดทองหมั้นก็มอบให้นางไปเถิด!”
หยุนเคอเห็นหยุนเทียนเถียนกําลังทุกข์ทรมานจากการมีไข้สูง จึงส่งเสียงครวญครางด้วยความกังวลก่อนจะพูดว่า “ตกลง เจ้าต้องการเท่าไหร่?!”
หลี่เสี่ยวเหอพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อขัดจังหวะไม่ให้หลินชวนฮวาพูดอะไร และหยุนเคอเองก็ไม่ได้สนใจ!
ทันใดนั้น! หลินชวนฮวาจึงพูดอย่างมีชัย “ข้าไม่ต้องการอะไรมากมาย เพียงเงินห้าสิบตําลึงทองเท่านั้น!”
ครานี้ แม้กระทั่งหัวหน้าหมู่บ้านก็ไม่เห็นด้วย “หลินชวนฮวา เจ้าเรียกค่าสินสอดในการแต่งงานหรือเรียกราคาขายลูกสาวกันแน่? ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนนางจะไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเจ้าใช่ไหม? กล้าร้องขอเต็มปากเต็มคําเช่นนี้ได้อย่างไร?!”
ผู้เฒ่าสี่มองหลินชวนฮวาด้วยความไม่พอใจ ขณะเดียวกันหยุนเถียนเถียนกําลังจะทนพิษไข้ไม่ได้! ดังนั้นหยุนเคอจึงเอื้อมหยิบเงินออกจากกระเป๋าและโยนให้หลินชวนฮวาทันที!
“เอาล่ะ รับเงินและออกไปจากที่นี่เสีย! หากเจ้ายังเข้ามายุ่งก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือน! ท่านหัวหน้าหมู่บ้าน ได้โปรดเรียกหมอโดยเร็ว ข้าเกรงว่านางจะทนไม่ไหว!”
หัวหน้าหมู่บ้านมองหยุนเคอและตระหนักได้ว่าไม่ควรถามอะไรตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงโบกมือสั่งอย่างรวดเร็ว “รีบไปเชิญหมอหวงมาก่อนเพราะหมอในเมืองไม่อยู่!”
หยุนเคอไม่ได้พูดอะไรและเดินออกไปพร้อมหญิงสาวคนหนึ่ง! เมื่อมาถึงบ้านของตน เขาจึงเปิดประตูก่อนจะรีบนํานางไปวางบนเตียงอย่างรวดเร็ว!
หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้ารับ เนื่องจากมีคนเต็มใจที่จะจัดการเรื่องนี้จึงทําให้เขารู้สึกสบายใจ!
เมื่อผู้เฒ่าสี่เห็นว่าทุกอย่างในหมู่บ้านได้รับการแก้ไขและคิดว่าคงสงบลงแล้ว จึงจากไปและทิ้งไม้เท้าไว้
แม้ว่าหลินชวนฮวาจะกลัวว่าแผนการที่นางวางไว้อาจพังทลาย แต่ก็ได้คิดหาวิธีจัดการกับมันแล้ว!
ตอนนี้หลินชวนฮวาได้เงินมาห้าสิบตําลึงทอง ก่อนจะมองดูมันอย่างมีความสุขและถืออย่างระมัดระวังในอ้อมแขน นางรู้สึกว่าแม้จะทําให้เด็กสาวราคาถูกนั้นตายไม่ได้ แต่ก็ไม่เลวเลยที่จะแลกกับเงินมากมายขนาดนี้!
หลินชวนฮวากลับมาพร้อมความสุข! สําหรับเฉินเฉิน ลูกชายที่หลินชวนฮวาละเลยมาเป็นเวลาหลายปี ก็ไม่ได้ทําให้นางได้รับความเดือดร้อนอะไร!
เมื่อความวุ่นวายจบลงชาวบ้านก็ต่างแยกย้ายกันกลับและพูดคุยกันไปตามทาง!
เฉินเฉินที่ตื่นมาในบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านและมองเห็นสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาด ก็ร้องไห้ออกมาด้วยความกระวนกระวายใจ!
หัวหน้าหมูบ้านเดินไปดูเด็กชายผู้นี้ด้วยความสงสาร
“เด็กน้อยเจ้าปลอดภัยแล้ว ตอนนี้เจ้าอยู่ในบ้านของหัวหน้าหมู่บ้าน สบายใจได้!”
เฉินเฉินพูดทั้งน้ําตาอย่างกังวลว่า “แล้วพี่สาวของข้าเล่า? พี่สาวของข้ายังอยู่บนภูเขาหรือไม่?”
หัวหน้าหมู่บ้านเอื้อมมือแตะศรีษะของเฉินเฉิน ในช่วงเวลาเช่นนี้เขายังนึกถึงพี่สาวได้ ดังนั้นเขาจึงไม่น่าจะเป็นเด็กไม่ดีอย่างที่ใครกล่าวอ้าง!
“พี่สาวของเจ้าไม่เป็นไรแล้ว! ไม่ต้องกังวล! เจ้าช่วยบอกข้าได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น? เด็กอย่างเจ้าวิ่งเข้าไปในภูเขาได้อย่างไร?”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เด็กน้อยก็จําได้ว่าเขาถูกแม่ทอดทิ้งจึงร้องไห้ด้วยความเศร้า “ท่านปู่หัวหน้าหมู่บ้าน…”
หัวหน้าหมู่บ้านถามด้วยความสงสัย “พี่สาวของเจ้าพาเจ้าไปที่ภูเขาหรือ?”
เมื่อเห็นว่าทุกคนกําลังจะกล่าวหาพี่สาวของเขาอีกครั้ง เฉินเฉินก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าและตะโกนว่า “ไม่ พี่สาวเป็นคนช่วยข้า!”
หัวหน้าหมู่บ้านตกตะลึงกับเสียงที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันของเด็กชายจึงถามว่า “ในเมื่อพี่สาวไม่ได้พาเจ้าไปที่นั่น แล้วเจ้าเข้าไปในภูเขาได้อย่างไร? ที่นั่นมีหมาป่าอยู่นะ!”
เฉินเฉินพูดด้วยอาการสั่นเทา “เมื่อเช้านี้ แม่เรียกให้ข้าไปร่วมโต๊ะอาหารและข้าก็ความสุขมากเพราะไม่ได้กินข้าวที่บ้านนานแล้ว! แต่ทันทีที่นั่งลงแม่ก็เฆี่ยนข้าอย่างรุนแรง ข้ากลัวมากจึงวิ่งหนีและหมดสติไป จากนั้นก็ตื่นมาบนภูเขาและพี่สาวกําลังกอดข้าไว้ ก่อนที่ข้าจะหมดสติไปอีกครั้ง!”
หัวหน้าหมู่บ้านเดาเหตุการณ์ได้อย่างรวดเร็วจากคําพูดเหล่านี้ และรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก “นางปีศาจหลินชวนฮวา! ยังกล้าบอกว่าเขายังเป็นลูกชายอยู่อีกหรือ? กล้าทํากับเด็กตัวเล็ก ๆ เช่นนี้ได้อย่างไร? ลูกเอ๊ย ที่เจ้าบอกว่าไม่ได้กินข้าวที่บ้านมานานแล้ว แล้วที่ผ่านมาใครเป็นผู้หาอาหารมาให้เจ้าเล่า?”
เฉินเฉินคิดถึงเรื่องนี้และเศร้าใจก่อนจะกล่าวว่า “ทุกวัน แม่มักจะหาข้ออ้างเพื่อไม่ให้ข้ากินอาหาร และพ่อก็เชื่อฟังทุกสิ่งที่นางพูด… ข้าต้องออกไปหาพี่สาวเพื่อให้นางทําอาหารให้ แล้วพี่สาวก็แบ่งอาหารให้ข้ากิน!”
หัวหน้าหมู่บ้านถอนหายใจ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ยังเป็นพ่อแม่ของเด็ก! หากจะฟ้องร้องผู้เป็นแม่คงไม่เป็นผลดีต่อเฉินเฉินนัก หัวหน้าหมู่บ้านนิ่งไปสักพักพร้อมครุ่นคิดว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี?
เฉินผิงอันมักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นการพนัน! เขาจึงไม่มีความคิดเกี่ยวกับเรื่องยุ่งๆเหล่านี้เลย!
สายตาของชาวบ้านยังคงเหมือนเดิม แต่เฉินผิงอันไม่สนใจอะไรอีกแล้ว…