ตอนที่ 31

The simple life of the emperor

ก่อนที่จะกลับบ้านเทียนหลางแวะไปเยี่ยมถังหยานและให้ยาทิพย์ที่เจือจางลงไปอีกหลายหมื่นเท่าให้กับเล่าจิงเอาไว้ เพื่อให้ถังหยานดื่มตอนที่เขาฟื้นซึ่งมันจะทำให้เขานั้นหายไวยิ่งขึ้น

เมื่อกลับมาที่บ้านเทียนหลางก็รีบเก็บตัวบ่มเพาะทันทีด้วยยาทิพย์ของเขา การที่มียาทิพย์ทำให้เทียนหลางสามารถพัฒนาความสามารถได้รวดเร็วยิ่งขึ้นหลายสิบเท่าในตอนนี้เทียนหลางอยู่ในระดับเปลี่ยนแปลงเรียบร้อยแล้วและได้เชื่อมต่อกับดวงดาวระดับสวรรค์อีกสองดวง

ภายในตันเถียนของเทียนหลางตอนนี้มีดวงดาวลอยเคว้งอยู่สามดวงพวกมันส่องแสงสว่างไสวไปทั่วดินแดนลมปราณภายในตันเถียนของเทียนหลาง

สองวันต่อมาเทียนหลางไปเรียนตามปกติแต่ที่ไม่ปกติก็คือหลินเสวี่ยที่มีท่าทีสนิทสนมกับเขาเพิ่มขึ้นทำให้มีข่าวลือแปลก ๆ ระหว่างเขากับหลินเสวี่ยเพิ่มมากขึ้นไปอีก

ในขณะที่กำลังพักเที่ยงอยู่นั้นหลินเสวี่ยก็ได้เดินเข้ามาหาเทียนหลาง

”วันหยุดนี้นายมีธุระอะไรรึเปล่า ?”

เทียนหลางมองหน้าหลินเสวี่ยเล็กน้อยก่อนจะขบคิด

”ไม่มีนะ”

”งั้นเหรอ”

หลินเสวี่ยพูดและเดินจากไปทำให้เทียนหลางรู้สึกงุนงงเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากนัก

………………………………….

หลังเลิกเรียนเทียนหลางขับรถไปที่ร้านตัดเสื้อที่เขาเคยได้สั่งเอาไว้ เพราะดูเหมือนว่าทางร้านจะตัดชุดทั้งหมดของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อมาถึงเทียนหลางก็ตรวจเช็คเสื้อผ้าทุกชุดก่อนจะพูดขึ้น

”ไม่คิดว่าช่างของคุณจะฝีมือดีขนาดนี้”

‘แม้วัสดุจะน่าสังเวชก็ตามแต่ก็ถือว่ายอมเยี่ยมหล่ะนะ’

เจ้าของร้านก็ยิ้มรับพร้อมกับพูดขึ้น

”ขอบคุณ คุณลูกค้ามากนะคะที่ไว้ใจทางร้านของเราให้รับตัดชุดให้ ทันทีที่ทางร้านของเราได้เห็นแบบชุดที่คุณลูกค้าออกแบบมานั้นทางเราก็รับรู้ได้ทันทีเลยว่าชุดพวกนี้เมื่อเสร็จแล้วสวยงามแค่ไหน ดังนั้นทางเราจึงได้ทำงานกันอย่างสุดฝีมือเพื่อให้ทางคุณลูกค้าพอใจ”

”ขอบคุณมากนะครับ”

หลังจากจ่ายเงินเสร็จทางร้านก็ขอใช้แบบชุดของเทียนหลางเพื่อตัดชุดมาตั้งโชว์ในร้านเพื่อนำมาโปรโมทร้าน ซึ่งเทียนหลางก็ไม่ได้ติดขัดอะไรหลังจากรับชุดทั้งหมดเรียบร้อยแล้วเทียนหลางก็เดินทางกลับบ้าน จากนั้นลุงฮูก็โทรมาบอกกับเทียนหลางว่าเรือนมังกรของเขาที่อยู่ในสวนสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว

เมื่อเทียนหลางเข้าไปตรวจดูก็พบว่าเรือนมังกรได้สร้างเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ดีอย่างที่ลุงฮูบอกจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอน ห้องอ่านหนังสือ ห้องน้ำ ส่วนสวนด้านหน้านั้นยังไม่เรียบร้อยดีเพราะยังไม่ได้นำต้นไม้มาลง แต่ก็คงอีกไม่นาน

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ด้านในก็ถูกทำอย่างดีด้วยไม้ราคาแพง แม้จะสู้ไม้ของต้นสนพันปีไม่ได้แต่ก็ยังถือว่าแข็งแรงทนทานดี ซึ่งทำให้เทียนหลางพอใจไม่น้อย

เทียนหลางนั่งอยู่ห้องหนังสือและทอดสายตาออกไปยังหน้าต่างและเฝ้ามองสวนสวรรค์ในขณะที่กำลังค่อย ๆ ก่อสร้างอยู่นั้นเขาก็พลันสัมผัสได้ถึงบางอย่างเทียนหลางกระโดดออกจากห้องอ่านหนังสือและยืนอยู่บนหลังคาของเรือนมังกร

เทียนหลางจ้องมองไปยังท้องฟ้าและพบเห็นลำแสงสายหนึ่งกำลังพุ่งผ่านท้องฟ้าอย่างช้า ๆ แต่ด้วยระยะทางที่ห่างไกลทำให้เทียนหลางไม่สามารถมองเห็นได้ว่าสิ่งใดกำลังร่วงหล่นลงมา

แต่แม้เทียนหลางจะมองไม่เห็นมันแต่เขาก็ยังสัมผัสและรับรู้ถึงมันได้ หลังจากที่จ้องมองมันอยู่สักพักเทียนหลางก็พบว่าภายในตันเถียนของเขาดวงดาวทั้งสามกำลังเรียกร้องหาบางสิ่ง เทียนหลางคาดว่ามันต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้นอย่างแน่นอน

เมื่อหาข้อสรุปไม่ได้เทียนหลางก็จำจะต้องไปถามกับคนที่พอจะรู้เรื่อง นั่นก็คือปู่ของหลินเสวี่ยที่อยู่ในโลกวรยุทธ เทียนหลางคาดว่าเขาน่าจะรู้เรื่องอะไรบ้างไม่มากก็น้อยจึงตัดสินใจจะไปหาในวันพรุ่งนี้

”น่าเศร้าที่การบ่มเพาะของข้ายังคงน้อยเกินไป ไม่งั้นคงใช้ย่างก้าวสวรรค์ไปที่นั่นได้ในไม่กี่วินาที”

………………………………….

วันต่อมาเทียนหลางก็เดินทางไปหาปู่ของหลินเสวี่ย เมื่อพ่อบ้านเหลาพบเห็นเทียนหลางก็ต้อนรับเขาอย่างดีและนำเทียนหลางมายังห้องอ่านหนังสือ เทียนหลางพบกับปู่ของหลินเสวี่ยก็กล่าวทักทายเล็กน้อย

จากนั้นปู่ของหลินเสวี่ยก็พูดขึ้น

”ฉันขอแนะนำตัวก่อนเลยก็แล้วกันฉันชื่อ หลินจินทง เป็นปู่ของหลินเสวี่ย และฉันต้องขอบคุณเธอจริง ๆ ที่ช่วยชีวิตลูกชายของฉันเอาไว้ก่อนหน้านี้ถ้าหากมีอะไรที่เธอต้องการ ก็ไม่ต้องเกรงใจพูดออกมาได้เลย”

”ผมเทียนหลาง ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

หลังจากแนะนำตัวกันเสร็จปู่ของหลินเสวี่ยเงียบไปสักพักก่อนจะพูดขึ้น

”ฉันพอจะถามได้ไหมว่าทำไมเธอถึงได้มาหาฉันในเวลาแบบนี้ ?”

เทียนหลางยิ้มแล้วก็พูดขึ้น

”ผมพอจะรู้เรื่องของโลกวรยุทธมาบ้าง แต่เมื่อวานได้มีบางอย่างเกิดขึ้นผมอยากจะรู้ว่าคุณได้ข่าวอะไรมาบ้างรึเปล่า ?”

เมื่อปู่ของหลินเสวี่ยได้ยินก็แสดงสีหน้าตกใจออกมาเพราะเขาไม่คิดว่าเทียนหลางจะรู้เรื่องนี้ด้วย เขาคาดว่าแม้เทียนหลางจะรู้เรื่องแต่เขาก็คงเป็นเพียงแค่ตัวตนเล็ก ๆ ในโลกวรยุทธจึงไม่ได้รู้อะไรมากนัก และพอเห็นว่าเขาเป็นคนเก่าแก่ก็อาจจะรู้อะไรมาบ้างจึงได้มาถาม

แต่สิ่งที่ยังคงกังขาอยู่ภายในใจของเขานั่นก็คือ ถ้าหากเทียนหลางสามารถผลิตยาทิพย์ที่แสนวิเศษนั่นได้ก็แปลว่าเขาไม่ใช่เพียงแค่ผู้บ่มเพาะตัวเล็ก ๆ ในโลกวรยุทธแน่นอนหรืออย่างน้อยก็ไม่ใช่กับอาจารย์ของเขาอย่างแน่นอน

หลินจิงทงครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะเอ่ยขึ้น

”ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอกนะ รู้เพียงแค่ว่าเมื่อวันก่อนมีดาวหางดวงหนึ่งตกลงที่ทะเลซาฮาร่า และวันนี้สำนักและนิกายต่าง ๆ ของโลกวรยุทธก็กำลังเตรียมตัวเดินทางไปที่นั้นเพื่อสำรวจ หรือก็กอบโกยสิ่งต่าง ๆ จากดาวตกนั่น”

เทียนหลางได้ยินก็พยักหน้าเล็กน้อย แต่ในใจของเขากับยิ้มออกมาด้วยความยินดี

‘ดาวตกงั้นรึ ! ดูเหมือนโชคของข้าจะไร้ที่สิ้นสุดจริง ๆ’

เทียนหลางมียิ้มพร้อมกับเอ่ยถาม

”แล้วคุณมีแผนจะไปที่นั่นรึเปล่า ?”

”แน่นอน เพราะฉันก็เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสของสำนักจิตมังกรฉันต้องเข้าร่วมคณะเดินทางอยู่แล้ว”

เทียนหลางพยักหน้าก่อนจะพูดขึ้น

”เช่นนั้นผมจะขอเข้าร่วมด้วยคุณคงไม่ว่าอะไร”

เมื่อหลินจินทงได้ยินก็ตกใจทันทีก่อนจะพูดขึ้น

”เธอบอกว่าจะไปด้วยงั้นเหรอ ?”

”แน่นอน คุณมีปัญหางั้นเหรอ ?”

”มีอยู่แล้ว เพราะที่นั่นอันตรายมากไม่ว่าจะเป็นสำนัก หรือลัทธิอื่น ๆ แต่ยังมีพวกลัทธินอกรีตอีกด้วยการที่เธอจะไปด้วยนั้นมันค่อนข้างจะ…”

ในจังหวะที่หลินจินทงกำลังพูดอยู่เทียนหลางก็ยกมือขัดจังหวะ พร้อมกับพูดขึ้น

”คุณไม่จำเป็นจะต้องเป็นห่วงผมหรอก ผมสามารถดูแลตัวเองได้ คุณแค่ช่วยพาผมไปแค่นั้นก็พอแล้ว”

หลินจินทงมองเห็นความสงบนิ่งของเทียนหลางก็ได้แต่พยักหน้าตอบรับ เพราะเขาคาดว่าหากเขาไม่ได้พาเทียนหลางไป เทียนหลางก็คงไปด้วยตัวเองอยู่ดีฉะนั้นการที่จะให้เทียนหลางอยู่ในการดูแลของตนคงจะดีกว่า

หลังจากพูดคุยกับหลินจินทงอยู่สักพักเทียนหลางก็ขอตัวกลับ ในขณะที่เทียนหลางกำลังขับรถกลับมุมปากของเทียนหลางก็ยกขึ้นอยู่ตลอดเวลาแสดงถึงความยินดีของเขา

”ไม่คิดเลยว่าโอกาสของข้าจะมาเร็วขนาดนี้ ดาวตกงั้นรึยอดเยี่ยมไม่น้อย”

เทียนหลางนั้นรู้วิธีจัดการใช้ประโยชน์จากดาวตกนับร้อยนับพันวิธีการที่เขาจะให้มันไปตกอยู่ในมือของพวกผู้บ่มเพาะในโลกนี้นั้นช่างเป็นอะไรที่เสียเปล่าโดยแท้จริง ดังนั้นในเมื่อเทียนหลางรู้จากหลินจินทงว่ามีดาวหากตกลงมาบนโลกนี้ ทำให้เขาตัดสินใจจะแย่งชิงมันมาจากเหล่าผู้บ่มเพาะของโลกวรยุทธทันที

แล้วอีกเหตุผลหนึ่งที่เทียนหลางตัดสินใจเดินทางไปยังทะเลทรายนั้นก็เพราะว่าเขาอยากเห็นความแข็งแกร่งของพวกระดับสูงหรือผู้นำของโลกวรยุทธว่าแข๊งแกร่งแค่ไหนซึ่งนั่นจะทำให้เทียนหลางหาวิธีรับมือได้ง่ายยิ่งขึ้น

”ดูเหมือนจะมีการต่อสู้ที่น่าสนใจเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า”

เทียนหลางยิ้มอยู่ภายในใจก่อนที่จะเดินกลับเข้าห้องไปบ่มเพาะต่อ