บทที่ 80 ลงโทษ

เมื่อเห็นว่าใบหน้าของส้งหวั่นหวั่นยิ่งดูปั้นยากมากขึ้นเรื่อยๆ ลี่หยูนห่วนก็เป็นกังวลขึ้นมาแล้ว ส้งหวั่นหวั่นมีผลประโยชน์แก่ตระกูลของพวกเขาอย่างยิ่ง ดังนั้นเขาจึงไม่อยากไปทำให้เธอโกรธขึ้นมา

“เฉียวซินเชื่อฟังฉัน รีบขอโทษ”ลี่หยูนห่วนเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เฉียวซินสลัดแขนของลี่หยูนห่วนออกและเข้าไปหาเขาอย่างไม่ตั้งใจ “ฝันไปเถอะ! ฉันไม่มีทางขอโทษเธอแน่!”

เมื่อเห็นแบบนี้ ลี่หยูนห่วนก็ไม่สามารถระงับความโกรธในใจได้อีกต่อไป และยกมือตบเข้าที่ใบหน้าของเฉียวซินถึงสองครั้ง

เสียงกระทบชัดเจนดังขึ้นพร้อมกับความเจ็บปวดบนใบหน้าของเธอบอก เฉียวซินอย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น เธอตกตะลึงอยู่นานและมองไปที่ ลี่หยูนห่วนด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “ลี่หยูนห่วนคุณกล้าตบฉัน? ที่ผ่านมาคุณไม่เคยทำตัวดุฉันมาก่อน มาวันนี้คุณกลับกล้าลงมือกับฉัน?”

หลังจากตบเฉียวซินไปถึงสองครั้ง อันที่จริงลี่หยูนห่วนก็รู้สึกเสียใจอยู่บ้าง เขาเม้มริมฝีปากเบาๆ จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นหลังจากเงียบไปสักพัก “วันนี้คุณทำผิด ฉันจำเป็นต้องให้บทลงโทษ”

เฉียวซินยกมือขึ้นปิดหน้าของเธอ กรอบตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา ร่างทั้งร่างแทบจะเหมือนพังทลายลง

ส้งหวั่นหวั่นไม่มีกะจิตกะใจอยากอยู่ดูละครน้ำเน่าของพวกเขา หลังจากเหลือบมองทั้งคู่อย่างเย็นชา เธอก็พูดกับลี่หยูนห่วน “ฉันไปก่อน หลังจากนี้ไปคุณค่อยคิดหาวิธีดู ยังไงเรื่องนี้ ฉันไม่ยอมให้มันล้มเหลว”

พูดจบ ส้งหวั่นหวั่นก็จากไป

มองดูแผ่นหลังที่จากไปของส้งหวั่นหวั่นลี่หยูนห่วนก็ยืนอยู่ที่เดิมและถอนหายใจเฮือกใหญ่ จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องยากขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

หลังจากออกจากบริษัท เจียงหยุนเอ๋อก็ไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์ในทันที คนรับใช้ในคฤหาสน์รู้ว่าตอนนี้เธอทำงานอยู่ข้างนอก ถ้าหากวันนี้เธอกลับไปก่อนเวลา พวกเขาคงรู้สึกแปลกใจอย่างยิ่ง

เจียงหยุนเอ๋อไม่กลัวว่าคนรับใช้จะพูดอะไร ในเมื่อท้ายที่สุดแล้วเธอก็ได้ยินเรื่องซุบซิบมามากมาย จนมันไม่สามารถทำร้ายเธอได้อีกต่อไปแล้ว แต่ว่า….เธอกลัวว่าคนรับใช้จะไปบอกกับลี่จุนถิงลี่จุนถิงจะต้องมาถามตัวเธอให้ชัดเจนแน่

แต่เดิม การทำงานของตนก็ส่งผลกระทบต่อผู้คนไปไม่น้อย เจียงหยุนเอ๋อไม่ต้องการให้เรื่องนี้มีลี่จุนถิงเข้ามาเกี่ยวข้องอีก

เจียงหยุนเอ๋อเดินฆ่าเวลาอยู่ด้านนอกสักพัก ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เธอก็ค้นพบว่าฟ้าค่อยๆมืดลงแล้ว เธอถึงค่อยนึกขึ้นมาได้ว่าตนเองถึงเวลาที่จะต้องไปรับถวนจื่อจากโรงเรียนแล้ว

เจียงหยุนเอ๋อมาถึงโรงเรียนอนุบาลอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็เห็นถวนจื่อออกมาจากโรงเรียนอนุบาล เมื่อเขาเห็นเจียงหยุนเอ๋อก็ตื่นเต้นอย่างยิ่ง

“หม่ามี๊ ทำไมวันนี้มาที่นี่เร็วจัง?” ถวนจื่อโผเข้ากอดเจียงหยุนเอ๋อ และพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

เจียงหยุนเอ๋อรีบรับถวนจื่อเอาไว้อย่างรวดเร็ว ตอนนี้ถวนจื่อนับวันยิ่งโตขึ้นเรื่อยๆ น้ำหนักของเขาเธอเริ่มรับไม่ไหว “อืม แม่มารับหนูเช้าขนาดนี้ หนูไม่ดีใจหรือ?”

“แน่นอนว่าผมดีใจ! แต่หม่ามี๊ดูเหมือนจะไม่ได้ดีใจมากนัก…” ถวนจื่อลูบไหล่ของเจียงหยุนเอ๋อและพึมพำเสียงเบา

เจียงหยุนเอ๋อตะลึงไป จากนั้นจึงรีบก้มหน้าลงเพื่อปกปิดความรู้สึกของตนเอง “ไม่มีนี่…..ถวนจื่อ แม่ไม่ได้ไม่ดีใจ”

“จริงหรือ?” ถวนจื่อยื่นปากออกมา ราวกับไม่ค่อยเชื่อถือคำพูดของเจียงหยุนเอ๋อสักเท่าไหร่

เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้อธิบายอะไรต่อ เธอจับมือของถวนจื่อ และเตรียมพาเขากลับบ้าน

หลังจากกลับไปที่คฤหาสน์ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็ยังคงหดหู่อย่างยิ่ง แม้กระทั่งถวนจื่อพูดกับเธอ เธอกลับไม่ได้ฟังสักเท่าไหร่

“ถวนจื่อ หนูกลับไปเล่นที่ห้องของตัวเองก่อนสักครู่ อีกเดี๋ยวแม่จะไปเล่นกับหนู ดีไหม?”​ เจียงหยุนเอ๋อเอ่ยเบา ๆ

ถวนจื่อพยักหน้าอย่างรู้ความ เขาหมุนตัวและเดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อกลับไปที่ห้องของเขา เพียงแต่ในขณะที่เดินไปยังบันไดก็หันกลับมามองที่เจียงหยุนเอ๋ออีกครั้งอย่างไม่วางใจ

เมื่อลี่จุนถิงกลับมา เขาบังเอิญเห็นเจียงหยุนเอ๋อนั่งอยู่คนเดียวในสนามหญ้า สีหน้าดูเศร้าโศก และกำลังจ้องมองพระอาทิตย์ตก

ลี่จุนถิงเดินเข้าไปโดยไม่แม้แต่จะลังเลและเอ่ยถาม “คุณเป็นอะไร?”

เจียงหยุนเอ๋อตกใจกับเสียงของลี่จุนถิง เธอหันกลับไปมองเขาและไม่มีอะไรจะพูด

เมื่อเห็นท่าทางค่อนข้างร้อนใจของลี่จุนถิงและท่าทีเตรียมจะถามคำถามของเขา จู่ๆเจียงหยุนเอ๋อก็เอ่ยถามเขา “ลี่จุนถิง ฉัน….ฉันไม่เป็นที่ชื่นชอบมากขนาดนั้นเลยหรือ?”

เมื่อได้ยินคำถามของเจียงหยุนเอ๋อ ลี่จุนถิงก็ตระหนักได้ทันทีว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น แต่ว่าเขากลับไม่ได้เอ่ยถามออกไปอย่างรีบร้อย แต่กลับพูดขึ้น “ไม่นี่ ครั้งที่แล้วที่ครอบครัวสมิทธ์มาคุณทำดีมาก พวกเขาล้วนชื่นชอบคุณ จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังถามถึงคุณ”

เจียงหยุนเอ๋อก้มหน้าลง และไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอเงียบลงไป เมื่อเห็นท่าทีของเธอแบบนี้ ในใจของลี่จุนถิงก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาด้วยเช่นกัน

เขายังคง….ชอบที่จะเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่เต็มไปด้วยพลังคนนั้นมากกว่า

“อ้อใช่ จากนี้ไม่นานฉันจะมีงานเลี้ยงรุ่น ถึงตอนนั้นยังคงต้องให้เธอช่วยเหลือ” ลี่จุนถิงกล่าวขึ้นอย่างกะทันหัน

เจียงหยุนเอ๋อไม่ได้ลังเลอะไร และรีบพยักหน้าตอบรับ ตอนนี้ทั้งเธอและถวนจื่อล้วนพักอยู่ในคฤหาสน์ของลี่จุนถิง หนทางในการแข่งขันของถวนจื่อล้วนเป็นลี่จุนถิงที่เปิดทางให้ การช่วยเหลือเขาด้วยเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ แน่นอนว่าเธอย่อมเต็มใจอย่างยิ่ง

เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อตอบตกลงอย่างยินดี ลี่จุนถิงก็รีบพูด “ดี ตกลงตามนี้”

ไม่นานนัก ก็ถึงเวลาทานอาหารค่ำ ลี่จุนถิงเพิ่งจะเรียกเจียงหยุนเอ๋อเข้าไปในห้องอาหาร ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นด้านนอก

คนรับใช้ไปเปิดประตู และเห็นไปส้งหวั่นหวั่นที่กำลังยืนอยู่ด้านนอก

“คุณหนูส้ง เชิญเข้ามาด้านใน”

ส้งหวั่นหวั่นยิ้มอย่างภูมิใจ เมื่อเห็นลี่จุนถิงเดินออกมา เธอก็รีบโบกมือทักทายเขาอย่างรวดเร็ว “จุนถิง คุณดูสิว่าฉันเอาอะไรมาให้? ไวน์แดงที่คุณชอบมากที่สุด ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินเลขาของคุณบอกว่ามีคนทำไวน์แดงล้ำค่าของคุณแตก ต่อมาฉันก็เลยไปซื้อไวน์แดงที่คล้ายกันมาจากคนอื่น แล้วก็เอามาให้คุณเสียเลยวันนี้ คงไม่ได้รบกวนคุณใช่ไหม?”

“ขอบคุณมาก เงินที่คุณเสียไป ผมจะให้ซู่จี้งยี้คืนให้คุณ” ลี่จุนถิงเอ่ยอย่างเรียบๆ

รอยยิ้มบนใบหน้าของส้งหวั่นหวั่นค้างไป อีกทั้งยังเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างลี่จุนถิงก็คือเจียงหยุนเอ๋อ เป็นเพราะเธอรู้อยู่แล้วว่าเจียงหยุนเอ๋ออาศัยอยู่ในคฤหาสน์แห่งนี้ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้มีท่าทีตกใจอะไรมากนัก ซ้ำยังดูเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง

เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ในใจของเจียงหยุนเอ๋อก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนกับตอนที่เธอพบกับส้งหวั่นหวั่นในบ้านของลี่จุนถิงเป็นครั้งแรก แต่ครั้งนี้ท่าทีของส้งหวั่นหวั่นกลับแสดงออกราวกับเป็นคุณนายของบ้าน แต่ตนเองที่อยู่ในคฤหาสน์มานานขนาดนี้ กลับดูเหมือนคนนอกไป

ส้งหวั่นหวั่นพูดเจื้อยแจ้วอย่างยิ่ง เธอเดินไปข้างๆของเจียงหยุนเอ๋อและกล่าวทักทายย่างเป็นมิตร อีกทั้งยังขอโทษเธอ “คุณหนูเจียง เรื่องในบริษัทครั้งก่อนฉันได้ยินแล้ว เป็นความผิดฉันเอง ทำให้คุณต้องลำบากแล้ว”

“ไม่…” เจียงหยุนเอ๋อโบกมือเล็กน้อยอย่างลุกลี้ลุกลน “ฉันรู้ว่าคุณหนูส้งมีเจตนาดี”