ตอนที่ 128 กล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแกร่ง

“ถูกพิษงั้นเหรอ?”

เสี่ยวจือหลงขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคําพูดของหลินหนาน แต่แล้วเธอก็ถามหลินห นานกลับด้วยน้ําเสียงที่บ่งบอกถึงความตลกขบขัน

“นี่นายคงจะอ่านนิยายมากไปสินะ? เพ้อเจ้อสิ้นดี!”

นี่มันปี 2020 แล้ว ยังจะมาพูดเรื่องอะไรแบบนี้อยู่อีก!

เฮ้อ.. ถูกพิษ? หึ ไม่บอกว่าฉันถูกคนฆ่าตัดหัวไปเลยล่ะ?

“มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องสร้างเรื่องโกหกคุณ?” หลินหนานย้อนถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม

เสี่ยวจือหลงจ้องหน้าหลินหนานแน่นิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับไปว่า “มันก็พูดยาก เพราะฉันเองก็ไม่รู้ว่านายเป็นคนสติดีหรือเปล่า? หรือพูดออกมาด้วยเหตุผลบางอย่าง..”

ถ้าไม่ใช่คนเสียสติ ใครบ้างจะกล้าทําอะไรบ้าบินแบบที่นายทําได้?

หลินหนานได้แต่ส่ายหน้าไปมา พร้อมกับก้าวเท้าเดินจากไป เมื่อเห็นว่าเสี่ยวจือหลงเลือกที่จะไม่เชื่อคําพูดของตน เขาก็ไม่จําเป็นต้องคะยั้นคะยอให้อีกฝ่ายเชื่อ

ในเมื่อเรื่องที่ควรทํา เขาก็ทําไปหมดแล้ว อะไรที่ควรเห็น เขาก็เห็นไปหมดแล้วเช่นกันจึงไม่มีความจําเป็นที่เขาจะต้องอยู่ที่นี่ต่อไปอีก

“เดี๋ยวก่อน.. อย่าเพิ่งไป!” เสี่ยวจือหลงร้องตะโกนเรียกเสียงหลง และสีหน้า ของเธอก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด

หลินหนานหยุดชะงักทันที พร้อมหันหลังกลับไปยิ้มให้กับหญิงสาว และบอกไปว่า “อย่าบอกนะว่าคุณรู้สึกอะไรกับผม? เฮ้อ.. ผมคงช่วยอะไรคุณไม่ได้จริงๆ เพราะผมไม่ใช่ผู้ชายประเภทนั้น!”

เสี่ยวจือหลงได้แต่กร่นด่าหลินหนานอยู่ในใจ แต่ปากก็พูดออกไปว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นในคืนนี้ได้โปรดอย่านําไปบอกต่อ โดยเฉพาะเรื่องของฉัน”

“เรื่องของคุณ? เรื่องอะไรกันเหรอ?” หลินหนานแกล้งทําเป็นตีหน้าเซ่อ

เสี่ยวจือหลงเห็นหลินหนานแกล้งทําเป็นโง่แบบนั้น ก็ได้แต่ร้องตะโกนตอบไปด้วยความโมโห

“ก็เรื่องที่ฉันเป็นผู้หญิงน่ะสิ!”

“อะไรนะ?! นี่นายเป็นผู้หญิงเหรอ? นี่หมายความว่าราชานักแข่งเป็นผู้หญิงงั้นเหรอ? ผมได้ยินถูกต้องมั้ย?” หลินหนานแกล้งพูดยียวนกวนประสาท เพื่อให้เสียวจือหลงโมโหมากขึ้น

เสี่ยวจือหลงแทบอยากจะร้องไห้ออกมา เมื่อได้พบเจอกับผู้ชายปากโทรโข่ง มิหนําซ้ํายังเป็นผู้ชายที่รู้เรื่องราวความลับของเธอด้วย

เฮ้อ.. หมอนี่คงจะต้องรีบไปปาวประกาศเรื่องนี้ให้โลกรู้แน่!

“ก็ได้ๆ ฉันตกลงยอมให้นายเปลี่ยนจากรถเป็นเงินสด แต่นายต้องสัญญากับฉันว่า จะไม่เอาความลับของฉันไปบอกต่อให้คนอื่นรู้”

หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเสียวจือหลงก็กัดฟันกรอด พร้อมกับร้องตะโกนบอกหลินหนาน

“งั้นผมคงจะต้องขอถามว่า เป็นเงินจํานวนเท่าไหร่?” หลินหนานยอนถามเสี่ยวจือหลง พร้อมกับยิ้มกว้าง

เสี่ยวจือหลงถึงกับถอนหายใจเสียงดัง ก่อนจะตอบกลับไปว่า “สามล้านพอมั้ย?”

ห้ะ! คิดไม่ถึงว่าเธอจะร่ํารวยขนาดนี้! เปิดปากออกมาก็เสนอเงินก้อนโตให้ขนาดนี้เชียว

เหรอ?

หลินหนานถึงกับยืนอ้าปากค้าง

นี่เธอร่ํารวยขนาดนี้เชียวเหรอ?

เฮ้อ.. ทําให้ฉันยิ่งดูยากจนไปเลย!

เสนอเงินให้คนอื่นสามล้านโดยที่ตาไม่กระพริบด้วยซ้ํา

และสําหรับเสี่ยวจือหลงแล้ว ในความรู้สึกของเธอนั้น เงินสามล้านหยวนไม่ได้ต่างจากเงินสามร้อยหยวนเลยแม้แต่น้อย เธอจึงสามารถเสนอให้หลินหนานได้อย่างไม่รู้สึกสะทกสะท้านอะไร

แต่เธอก็มีตัวเลขสูงสุดอยู่ในใจที่สามล้านห้าแสนหยวน และหากหลินหนานขอมากไปกว่านี้เธอเองก็คงไม่ตกลงเช่นกัน!

แต่เมื่อเห็นหลินหนานเอาแต่นิ่งเงียบ เสี่ยวจือหลงเองก็ได้แต่ครุ่นคิด และแอบคิดว่า หากหลีนหนานไม่ตกลง เธอก็จะเสนอเงินเพิ่มให้เขาอีกเล็กน้อย

หลินหนานได้แต่ตกตะลึง และอยากจะบอกกับเสี่ยวจือหลงว่า

แม่คนร่ํารวย ที่บ้านมีลูกเขยหรือยัง? รับผมไว้เป็นเขยสักคนมั้ย? รับรองว่าหลังจากนี้คุณจะไม่ต้องนอนเหงาเดียวดายอยู่บนเตียงแน่..

แต่หลินหนานก็ได้แต่คิด และเปลี่ยนใจที่จะไม่เอ่ยถามออกไป

“พอๆ! ถึงแม้ผมรู้ว่าจะสามารถเรียกร้องได้มากกว่านี้ แต่ผมก็ไม่ใช่คนโลภมาก!” หลินหนานแสดงสีหน้าท่าทางที่บ่งบอกถึงความจริงใจอย่างมาก

หากเขาเอารถสปอร์ตที่ได้ไปขาย อย่างมากก็คงได้หนึ่งหรือสองล้านหยวนสูงสุด!

เสี่ยวจือหลงไม่รอช้า เธอถาม QR Code บัญชีธนาคารของหลินหนาน และจัดการโอนเงินให้เขาทันที

หลังจากที่หลินหนานเห็นยอดเงินในโทรศัพท์ น้ําตาของเขาก็ถึงกับรื้นขึ้นมาทันที

นี่เงินมันหาได้ง่ายๆแบบนี้เลยเหรอ?

แต่เมื่อหันไปเห็นสภาพยับเยินของรถเฟอรารี่สีแดงที่จอดอยู่ตรงหน้า สีหน้าของเขาก็ถึงกับเปลี่ยนไปและศรีษะก็เริ่มหนักอึ้ง..

ตายแล้ว! นี่น่ะเหรอสภาพรถเฟอรารี่ของเมียภูเขาน้ําแข็ง? ฉันจะทํายังไงดีล่ะทีนี้?

เสี่ยวจือหลงเห็นสีหน้าเป็นกังวลอย่างมากของหลินหนาน เธอจึงได้เสนอตัวที่จะจัดการเรื่องนี้ให้

“นายไม่ต้องกังวลใจเรื่องรถ ฉันจะรับผิดชอบเรื่องค่าซ่อมทั้งหมดให้เอง ถือเป็นรางวัลที่นายได้ช่วยชีวิตของฉันไว้เ”

“โอ้โห! ต้องแบบนี้สิ! สมกับเป็นราชานักแข่งจริงๆ ใจกว้างอย่างกับแม่น้ํา!” หลินหนานรีบยกนิ้วโป้งให้เสี่ยวจือหลง พร้อมกับเอ่ยชมเธอด้วยความจริงใจ

และในเวลานั้นเอง เสียงเครื่องยนต์ดังกระหมก็ดังขึ้น และได้ยินมาแต่ไกล

บูม..

รถสปอร์ตหลากหลายยี่ห้อ และหลากหลายสีนับสิบคัน ก็ได้พากันขับขึ้นมาบนเขาผู้หลงอย่างระมัดระวัง และในที่สุดก็ทั้งหมดก็มาถึงยอดเขากันอย่างปลอดภัย

“พี่เขย โชคดีที่นายไม่เป็นอะไร ฉันตกใจกลัวแทบแย่! ฉันนึกว่านายประสบอุบัติเหตุตายไปแล้ว!”

ทันทีที่รถสปอร์ตคันแรกที่วิ่งนํามาหยุดนิ่ง เย่เข่อเอ๋อก็เปิดประตู และวิ่งตรงเข้าไปหาหลินหนานทันที พร้อมกับกลิ่นหอมที่โชยมาตามสายลม

“เฮ้อ.. นี่เธอเป็นห่วงฉันจริงๆ หรือเป็นห่วงอะไรกันแน่?” หลินหนานไม่รู้ว่าจะร้องไห้ หรือหัวเราะดี

“ฉันก็ต้องเป็นห่วงนายน่ะสิ! จู่ๆ สัญญาณภาพก็ตัดหายไปแบบนั้น พวกเราก็เลยไม่รู้ว่างคู่เป็นยังไงกันบ้างน่ะสิ” เย่เข่อเอ๋อตอบหลินหนาน พร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

นั่นเพราะในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการแข่งขัน จู่ๆ หน้าจอ LED ขนาดใหญ่นั้นก็ดับลง เหลือเพียงแค่หน้าจอสีดําเท่านั้น และไม่มีสัญญาณภาพใดๆ จากรถทั้งสองคันอีกเลย

ทุกคนที่อยู่ตีนเขารวมทั้งเย่เข่อเอ้อ ต่างก็พากันตกอกตกใจ และคิดว่าทั้งคู่ได้ร่วงตกหน้าผาไปแล้ว จึงได้พากันขับรถตามขึ้นมาดู

และเวลานี้ ทั้งสองคนก็ปลอดภัยดีทั้งคู่

“ไม่ต้องห่วง! พี่เขยของคุณคนนี้หัวแข็งอย่างกับอะไรดี ไม่ตายง่ายๆหรอกน่า!” หลินหนานตอบกลับไป พร้อมกับหัวเราะร่วน

หลินหนานรู้สึกซาบซึ้งใจไม่น้อย ที่เด็กสาวคนนี้เป็นห่วงความปลอดภัยของเขา

ดูท่าน้องเมียคงจะรู้สึกดีกับฉันขึ้นมาบ้างแล้วสินะ ถ้าเธอรู้จักฉันจริงๆ จะได้รู้ว่าฉันเป็นพี่เขยที่อบอุ่นมากแค่ไหน?

แต่เมื่อเย่เข่อเอ๋อเหลือบไปเห็นสภาพของรถเฟอรารี่สีแดง เธอก็ถึงกับกรีดร้องออกมาเสียงดังด้วยความโมโห..

“หลินหนาน! ไอ้คนบ้า! ทําไมรถถึงได้มีสภาพแบบนี้?!!”

รถเฟอรารี่ยับเยินจนแทบจําสภาพเดิมไม่ได้ แล้วฉันจะกลับไปอธิบายให้พี่ใหญ่ฟังได้ยังไง?

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกเราค่อยกลับไปอธิบายให้พี่สาวของคุณฟังด้วยกัน!” หลินหนานกระซิบบอกเย่เข่อเอ๋อ

“อธิบายงั้นเหรอ? นายรู้มั้ยว่ารถคันนี้มีความหมายกับพี่ใหญ่มากแค่ไหน? รถคัน นี้เป็นสมบัติล้ําค่าที่พี่ใหญ่รักมากที่สุด!”

ยิ่งคิดเย่เข่อเอ๋อก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เธอหันไปตวาดหลินหนานเสียงดัง “นี่นายขับรถภาษาอะไร? ถ้ารู้ตัวว่าขับรถไม่เป็น ก็ไม่ควรเสนอตัวขับตั้งแต่แรก..”

หลินหนานถึงกับอ้าปากค้าง

ผู้หญิงนี้อารมณ์แปรปรวนจริงๆ

เข่อเอ๋อ.. เธอเป็นคนบอกให้ฉันขับเองไม่ใช่เหรอ?

เฮ้อ.. เมื่อครู่เพิ่งจะบอกว่าเป็นห่วงพี่เขยอย่างฉัน แต่ดูตอนนี้สิ สีหน้า ของเธอบ่งบอกชัดเจนว่าพร้อมจะส่งพี่เขยคนนี้ไปสวรรค์ได้ทุกเมื่อ!

ไร้มโนธรรมสิ้นดี!

เสี่ยวจือหลงที่เวลานี้อยู่ท่ามกลางผู้คนรายล้อม จึงได้เป็นฝ่ายบอกกับเย่เข่อเอ๋อไปว่า “เรื่องรถไม่ต้องห่วง ผมรู้จักช่างเก่งๆหลายคน ผมจะรับผิดชอบเรื่องค่าซ่อมทั้งหมดให้เองรับรองได้ว่าจะกลับมาในสภาพเหมือนเดิมทุกอย่าง…”

หลังจากที่ได้รับคํายืนยันจากราชานักแข่งอย่างเสี่ยวจือหลง ในที่สุดเยี่เข่อเอ๋อก็สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง

จากนั้นเเข่อเอ๋อก็กรอกตาไปมา ก่อนจะถามออกไปว่า “แล้วนี่ใครเป็นฝ่ายชนะ?”

คนอื่นๆ ต่างก็ดูเหมือนเพิ่งจะนึกขึ้นได้ จึงรีบถามออกไปเป็นเสียงเดียวกัน “นั่นน่ะสิ ใครเป็น ฝ่ายชนะ?”

นั่นเพราะ ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการแข่งขัน ภาพทั้งหมดก็ถูกตัดไปเสียก่อน จึงไม่มีใครรู้ว่าผลการแข่งขันเป็นเช่นใด?

หลินหนานได้แต่ยืนเอามือไขว้หลังนิ่งไม่พูดไม่จา ในขณะที่เสี่ยวจือหลงได้แต่ถอนหายใจพร้อมกับพูดออกไปว่า

“ผมแพ้!”

แม้เสี่ยวจือหลงแทบไม่อยากจะพูดสองคํานี้ออกไป แต่กลับพบว่า หลังจากตัด สินใจพูดออกไปแล้วจิตใจของเขากลับโล่ง และผ่อนคลายขึ้นกว่าเดิมมาก

แพ้ก็คือแพ้!

หลังจากได้ยินคําตอบของเสี่ยวจือหลง ทุกคนในกลุ่มนักแข่งรถต่างก็มีสีหน้าตกตะลึง..

ราชานักแข่งของพวกเขาเป็นฝ่ายแพ้ มิหนําซ้ํายังแพ้ให้กับใครก็ไม่รู้

แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็แทบไม่อยากยอมรับความจริงอยู่ดี!

“เสียใจด้วยนะทุกคน! ตอนนี้ฉันเป็นราชาผู้พิชิตเขาฟูหลงแทนแล้ว!” หลินหนานคุยข่ มคนอื่นๆทันที

ทุกคนที่ได้ยินคําพูดของหลินหนาน ต่างก็รู้สึกราวกับกําลังถูกเหยียบย่ํา

“หึ! ไม่ต้องรีบโอ้อวดขนาดนั้นก็ได้!” เสี่ยวจือหลงกัดฟันกรอด

และความสามารถพิเศษของหลินหนานนั้นก็คือ สามารถยั่วโมโหคนรอบข้างให้คลุ้มคลั่งได้

“เอาล่ะ! ในเมื่อการแข่งขันก็สิ้นสุดลงแล้ว พวกเรากลับกันดีกว่า!”

หลินหนานแกล้งทําเป็นยกมือขึ้นโบกพร้อมกับยิบตาให้กับเย่เข่อเอ้อ ก่อนจะหันไปบอกเสี่ยวจือหลงว่า

“คงต้องรบกวนนายจัดการเรื่องรถให้ด้วย อ่อ เรียบร้อยแล้วก็ส่งกลับให้ด้วยนะ!”

เย่เข่อเอ๋อเดินตามหลินหนานไปอย่างว่าง่าย ทั้งคู่ก้าวเดินออกไปอย่างสง่าผ่าเผย แต่แล้วจู่ๆหลินหนานก็หันกลับมา และพูดอะไรบางอย่างที่ทุกคนไม่เข้าใจ

“อ่อ. ฉันลืมบอกเรื่องสําคัญกับพวกนายไป ราชานักแข่งลูกพี่ของพวกนายนะ มีกล้ามเนื้อหน้าอกที่แข็งแกร่งมากจริงๆ!”

คนอื่นๆต่างก็หันไปมองเสี่ยวจือหลงด้วยสีหน้างุนงง..

“นี่นาย…”

ฝากนิยายของทีมงานด้วยนะคะ

เรื่อง : เทพปีศาจผงาดฟ้า

เขาฟื้นสติตื่นขึ้นมาในร่างและพื้นพิภพแห่งใหม่ หลังจากที่ล่วงลับตายจากไปในโลกก่อนหน้า

หลงเฉินเริ่มออกเดินทางครั้งใหม่ในพื้นพิภพที่เต็มไปด้วยเทพเซียนและมารปีศาจ สิ่งมีชีวิตลึกลับมากมายหลายหลาก และมนุษย์ที่สามารถบ่มเพาะพลังจนขึ้นกลายเป็นยอดฝีมือผู้ใช้เทียมทาน พร้อมผงาดขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งผืนพิภพทั้งมวล

หนทางเบื้องหน้าของเขามิได้เรียบง่ายอย่างที่คิด จําต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมายเกินคณานับสังหารทุกคนที่เข้าขัดขวาง ยอดผู้ฝึกยุทธ์พเนจรท่องโลกาท้ายุทธภพสุดขอบฟ้าจนกลายเป็นที่รู้ จักในนามเทพปีศาจแห่งจักรวาล ปกครองความเป็นและความตาย

แม้กระทั้งสรวงสวรรค์ยังต้องก้มกราบต่อหน้าเขา!

เรื่อง : จักรพรรดิ์เทพมังกร

ความเป็นอมตะของหลิงหยุนได้มลายหายไป. ทําให้เขาตกลงมาสู่โลกมนุษย์ ในยุคที่ เต็มไปด้วยความเสื่อมทรามอย่างที่สุด

จากนั้น หลิงหยุนจะค่อยๆ บ่มเพาะพลังในตัวเองทีละขั้น ทีละขั้น และไต่ลําดับขึ้นไปต่อกรกับสวรรค์ได้อย่างไร..