ตอนที่ 101 แต่ต้นจนจบช่างลวงหลอก

เก็บตกนักฆ่า มาเป็นหนุ่มบ้านนา

การหลับครานี้ ซูสุ่ยเลี่ยนหลับไปถึงสองวันหนึ่งคืน หลังจากหลงซีเยว่กับโอวหยางซวินผลัดกันมาตรวจชีพจรแล้ว ก็เน้นย้ำว่านางไม่เป็นไร เพียงแต่เหนื่อยมากไปต้องการนอนให้อิ่ม หลินซือเย่ายังคงร้อนใจหวาดกลัว กลัวว่านางจะหลับไปเช่นนี้ ไม่ตื่นขึ้นมาอีก นอกจากอาหารสามมื้อที่ถูกซือชงกับซือทั่วลากไปกินที่ห้องอาหารแล้ว เวลาที่เหลือเขาแทบไม่ก้าวห่างจากเตียงซูสุ่ยเลี่ยนแม้แต่ก้าวเดียว

ท่านอ๋องผู้เฒ่าจวนอ๋องจิ้งกับพระชายาเฟิงไฉ่อวิ้นมาถึงตอนซูสุ่ยเลี่ยนปวดท้องคลอดมาได้หนึ่งชั่วยาม เป็นมือแรกที่รับทารกแฝดจากมือชิงหลันออกมาทีละคน เพราะบิดาทารกแฝดห่วงแต่ภรรยาในห้องคลอด ไม่ได้สนใจพวกเขาเลย

เหลียงเสวียนจิ้งกับเฟิงไฉ่อวิ้นเห็นดังนี้ก็ยิ้มสบตากัน ลูกเขยเช่นนี้พวกเขาจะยังหาอะไรมาติได้อีก?! หน้าตาก็หล่อเหลา ยังดีกับสุ่ยเลี่ยนอีก เกิดเป็นหญิงไม่ว่าสถานะใด ในชีวิตหนึ่งก็วาดหวังว่าจะมีสามีที่คอยประคอง คอยรักใคร่ปกป้องเช่นนี้ไม่ใช่หรือ ดังนั้นพวกเขาเดิมที่ยังแอบเป็นห่วงอยู่ ยามนี้ก็คลายลงทันที

โชคดีที่เหลียงหมัวมัวก่อนหน้านี้ไปหาแม่นมสองคนมาจากในเมืองเรียบร้อยแล้ว พอซูสุ่ยเลี่ยนคลอดคุณหนูกับคุณชายออกมา ก็ส่งองครักษ์ไปรับตัวมา ไม่อย่างนั้นท่านเขยที่เอาแต่เฝ้าคุณหนู ไม่สนใจทารกแฝดที่คลอดออกมาแม้แต่น้อย คุณหนูเอาแต่นอน คุณหนูตัวน้อยกับคุณชายตัวน้อยเกรงว่าก็คงหิวตาย

เหลียงหมัวมัวกับชุนหลันสบตากัน โชคดีที่พวกนางรับคำสั่งการจัดการจากท่านอ๋องผู้เฒ่ากับพระชายาเฒ่ามารับใช้คุณหนู ไม่อย่างนั้นพวกนางไม่กล้าคิดว่าสถานการณ์ตอนนี้จะวุ่นวายเพียงใด

……

ตอนซูสุ่ยเลี่ยนตื่น นอกห้องยังมืดสลัว คิดว่ายังไม่ถึงยามอิ๋น แอบบิดขี้เกียจก่อนจะรู้สึกว่าอาการหมดแรงก่อนหน้านี้หายไปหมดสิ้น เหลือแต่ความสดชื่นสบายตัว

มือขวายื่นออกไปสัมผัสเข้ากับร่างอุ่นก็หันไปมองอย่างแปลกใจ ที่แท้หลินซือเย่าแอบหมอบสัปหงกอยู่ข้างเตียง ตอนมือนางแตะโดนเขา เขาก็เงยหน้าตื่นทันที เห็นนางไม่เป็นอะไรยังยิ้มให้เขาอีก ก็ดึงมือน้อยของนางมาแนบใบหน้าตน น้ำเสียงแหบพร่าถามว่า “ตื่นแล้ว? รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง”

“ข้าสบายดี” ซูสุ่ยเลี่ยนลูบไล้คางเขาที่มีหนวดขึ้นเต็มคางเบาๆ มองลึกเข้าไปในแววตาเขาที่มีรอยเส้นเลือดเหมือนไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ก็รู้สึกปวดใจ “ทำไมไม่กลับห้องไปนอน”

“นอนที่ไหนก็เหมือนกัน” เขากำลังซึมซับการปลอบประโลมของนาง จากนั้นก็ประคองนางขึ้นนั่งพิงหัวเตียงอย่างระมัดระวัง “หิวไหม ข้าไปเอาอะไรมาให้เจ้ากิน”

“หิวเหมือนกัน ลูกๆ ล่ะ” เพิ่งฟังเขาถามจบ ก็ได้ยินเสียงท้องร้องจ๊อกๆ ดังขึ้น แอบยอมรับอย่างเขินอาย หันไปมองหาเด็กแฝดสองคนที่ทุ่มเทกำลังคลอดออกมา พอไม่เห็นก็รู้สึกแปลกใจ พอมองอีกทีก็พบว่าเตียงน้อยสองตัวที่วางไว้ในนี้ก่อนหน้านี้ก็ไม่เห็นแล้ว

“สุ่ยเลี่ยน ท่านพ่อท่านแม่เจ้า แค่ก…ข้าหมายถึงท่านอ๋องผู้เฒ่ากับพระชายาเฒ่าจวนอ๋องจิ้งมาแล้ว ลูกๆ ให้พวกเขาช่วยดูแลอยู่” หลินซือเย่ามองนางลึกซึ้ง

ก่อนหน้ารู้จักนาง เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะแต่งภรรยา และไม่คิดว่าจะแต่งสตรีอ่อนโยนนุ่มนวลและอรชรบอบบางเช่นนี้ ยิ่งไม่คิดว่านางจะเป็นถึงคุณหนูสูงศักดิ์แห่งจวนอ๋อง

ตอนท่านอ๋องจิ้งกับพระชายาจิ้งเฟยลงจากรถม้าแล้วมามองดูเขาอย่างสังเกต เขาถึงกับแอบใจเต้นแรงเพราะว่าตนเองเคยมือเปื้อนเลือดมาก่อน กลัวพวกเขาจะเอาลูกสาวคืน ไม่รับเขาเป็นลูกเขย

แม้เขาไม่สนใจสายตาใต้หล้า ไม่สนใจสถานะร่ำรวยสูงส่งของสุ่ยเลี่ยน เพราะว่าเรื่องพวกนี้เดิมก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่ที่เขาแสวงหา เขาเพียงแค่ต้องการสตรีตัวน้อยผู้นี้คนเดียว แต่หากบิดามารดานางไม่ยอมรับเขา ไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ หาทางขัดขวางพวกเขา เขาก็จะไม่พูดอะไรมา พานางไปให้ไกลสุดหล้าได้ก็จริง แต่ก็ไม่อาจขัดขวางสายสัมพันธ์ทางสายเลือดของนางกับบิดามารดานางได้

โชคดีที่พ่อตาแม่ยายเขาไม่ได้วางอำนาจเหมือนที่เขาคิด ไม่เพียงแต่แวบแรกก็พึงพอใจเขา ยังรับหน้าที่ตัดสินใจเหมือนผู้ใหญ่ในครอบครัวแทนทุกอย่าง รวมทั้งข้าวของที่ต้องใช้ในหนึ่งเดือนนี้ ยังใจดีให้สาวใช้ยกเตียงเล็กออกไปวางที่เรือนสวนไผ่พวกเขา หวังว่าจะให้สองทารกน้อยได้อยู่กับพวกเขาตอนกลางคืน แน่นอนเพราะอากาศหนาว พวกเด็กๆ ย่อมไม่อาจต้องลม สุดท้ายถูกนำไปไว้ที่ห้องปีกตะวันออก ตอนกลางวันก็ให้พวกเขาตั้งใจดูแลให้ดี เช่นนี้ก็ทำให้เขายิ่งมีเวลาดูแลซูสุ่ยเลี่ยนอย่างไร้กังวล เป็นเพื่อนยามนางตื่นขึ้นมา

“ท่านพ่อ ท่านแม่?” ซูสุ่ยเลี่ยนได้ยินก็เลิกคิ้วแปลกใจ “ท่านอ๋องผู้เฒ่ากับพระชายาเฒ่าจวนอ๋องจิ้ง?”

นางคงไม่ใช่ว่ายังนอนไม่ตื่นกระมัง ไม่ใช่กล่าวว่านางคือลูกสาวนอกสมรสท่านอ๋องผู้เฒ่า ป้ายวิญญาณมารดาแท้ๆ ของนางได้เข้าตั้งในศาลบรรพชนจวนอ๋องก็เพราะนางทิ้งจดหมายไว้ก่อนจะหนีออกจากบ้านมาไม่ใช่หรือ เช่นนี้ก็ควรกล่าวได้ว่าเป็นลูกสาวนอกสมรสที่ถูกจวนอ๋องลืมเลือน ทำไมจึงได้รับการใส่ใจจากท่านอ๋องผู้เฒ่าได้อีก และยังถึงกับมาเยี่ยมตอนนางคลอดด้วยตนเองอีก?

พระชายาเฒ่าก็ยิ่งไม่มีเหตุผลที่จะดีกับนางอย่างนี้ไหม ไม่เพียงแต่ส่งสาวใช้กับคนงานชายมาปรนนิบัติ ยังติดตามท่านอ๋องผู้เฒ่ามาด้วย หากเพียงแค่ต้องการแสดงความใจกว้างของนายหญิงจวนอ๋อง ก็ทำได้เกินพอแล้วไหม อย่างไรก็ไม่มีสตรีที่ไหนจะยินยอมจากใจ นึกใจดีกับลูกที่เกิดจากผู้หญิงอื่นกับสามีตนกระมัง

ซูสุ่ยเลี่ยนตบหน้าผากตนเอง หวังให้ตนเองมีสติอีกนิด

หลินซือเย่าดึงมือนางไว้อย่างนึกขำ “อย่าคิดเหลวไหล กินอะไรก่อน เรื่องพวกนี้พวกเขาย่อมกล่าวกับเจ้าเอง” เมื่อวานตอนหลังอาหารค่ำเขาถูกท่านอ๋องผู้เฒ่าเชิญไปที่ห้องหนังสือคุยไปถึงครึ่งชั่วยามก็พอเข้าใจที่มาที่ไปของเรื่องนี้แล้ว

ก่อนซูสุ่ยเลี่ยนความจำเสื่อมมีชื่อเดิมว่าเหลียงเอินซวี่ เป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านอ๋องจิ้งกับพระชายาเอก ตอนเกิดมา สาวรับใช้ใกล้ชิดนึกอิจฉาริษยา จึงได้นำตัวออกจากจวนอ๋องไปโยนทิ้งหน้าผา โชคดีน้องสาวที่เป็นญาติกับเฟิงไฉ่อวิ้นชื่อว่าฟางฉิงช่วยเอาไว้ ฟางฉิงแม้ช่วยเหลียงเอินซวี่ไว้ แต่เพราะท่านอ๋องจิ้งปฏิเสธแต่งนางเป็นภรรยาน้อย จึงพาเหลียงเอินซวี่ไปเมืองอื่น ไม่เพียงไม่นำส่งมอบคืนจวนอ๋องจิ้ง แต่ยังไม่ส่งคนมาแจ้งเฟิงไฉ่อวิ้นอีกด้วย หลังเอินซวี่เติบโตขึ้น นางก็ช่างเล่นตลก บอกเอินซวี่ว่าเอินซวี่ก็คือลูกสาวที่นางแอบตั้งท้องกับท่านอ๋องจิ้ง เพราะจวนอ๋องไม่ยอมรับนางสองแม่ลูก จึงได้หนีออกมาใช้ชีวิตพึ่งพากันและกันสองแม่ลูก

จากนั้นเพราะกลัวคนแอบรู้ความจริง ฟางฉิงก็ไม่ได้พาเอินซวี่กลับบ้านเกิด จงใจเลือกเมืองที่ห่างไกลใช้ชีวิต ถึงกับตัดขาดจากเมืองหลวง และด้วยเหตุนี้ ตอนนั้นเหลียงเสวียนจิ้งส่งคนไปตรวจสอบการตายของลูกสาวตนจึงได้หลุดตรวจสอบเรื่องนี้

ตอนเอินซวี่อายุสิบสาม ฟางฉิงป่วยหนัก ไม่นานก็จากไป ก่อนจากไปก็ขอร้องให้เอินซวี่ไปเมืองหลวงหาอ๋องจิ้งหลายครั้ง บอกเพียงว่าเอินซวี่เป็นลูกสาวแท้ๆ ท่านอ๋องจิ้ง แต่ไม่บอกว่าบอกว่าแท้จริงนางไม่ได้เป็นมารดาแท้ๆ ของเอินซวี่ กลัวเอินซวี่จะเกลียดนางก่อนนางจากไป จึงได้แต่ให้นางนำจดหมายมายังจวนอ๋องจิ้ง ในจดหมายบอกเล่าความจริงของเอินซวี่ว่าเป็นลูกสาวแท้ๆ ของท่านอ๋องจิ้งกับพระชายา และเขียนเรื่องราวต่างๆ ที่พวกนางสองคนเผชิญมาตลอดสิบสามปีนี้พร้อมทั้งความเจ็บแค้นในใจนาง หากไม่ใช่ว่าถูกความแค้นบดบังสายตา บางทีนางคงแต่งงานมีลูกไปแล้ว ไยต้องมานึกเสียใจทนทุกข์กับความแค้นนี้จนร่างกายค่อยๆ ทรุดโทรมลง

ดังนั้นในจดหมายนางขอให้ท่านอ๋องจิ้งกับพระชายาให้อภัยการกระทำของนาง ให้นางในปรภพได้นอนตายตาหลับ เหลียงเอินซวี่ที่ไม่รู้ความจริงคิดว่ามารดาแท้ๆ ติดใจกับการที่จวนอ๋องไม่ยอมรับนางสองแม่ลูกจนต้องตรอมใจป่วยจากไป ดังนั้นจึงแค้นใจจวนอ๋องอย่างมาก แต่ไม่อาจไม่ทำตามคำสั่งเสียมารดา นางขายบ้านฝังมารดาเสร็จก็มาเมืองหลวงหาจวนอ๋องจิ้งเจอ

เพราะความปวดใจจึงไม่ได้มอบจดหมายมารดานางให้ท่านอ๋องจิ้ง แต่กลับประกาศว่าตนเองเป็นลูกนอกสมรสท่านอ๋องจิ้ง เป็นลูกของท่านอ๋องจิ้งกับหญิงชาวบ้าน คิดอยากดูว่าบิดาแสนใจร้ายจะทำเช่นกับลูกสาวที่อยู่ๆ ผุดออกมาไม่รู้จริงเท็จคนนี้อย่างไร

ตามคาด ท่านอ๋องจิ้งแอบส่งคนไปตรวจสอบคำพูดนาง พร้อมกันนั้นนางยังโดนโจมตีจากบรรดาภรรยาน้อยและคุณหนูในเรือน

หลังจากมองเรื่องราวเข้าใจกระจ่างใจแล้วว่าวันหน้าต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายเช่นไร เหลียงเอินซวี่ที่มีนิสัยหยิ่งทะนงก็ทิ้งจดหมายขอให้ท่านอ๋องจิ้งรับฟางฉิงมารดานางเข้าไปตั้งในศาลบรรพชนจวนอ๋อง พร้อมกับจดหมายจากมารดานางที่ทิ้งไว้ วางรวมกันไว้ที่ห้องหนังสือก่อนจะหนีออกจากจวนอ๋องไป

จากนี้ก็เป็นเรื่องที่นางได้พบกับหลินซือเย่าที่เขาต้าซื่อแล้วก็สูญเสียความทรงจำ…ซูสุ่ยเลี่ยน…

ท่านอ๋องจิ้งกับพระชายาจิ้งเฟยตรวจสอบเรื่องราวเหนือคาดในตอนนั้นอีกครั้ง จึงได้เชื่อมั่นว่าซูสุ่ยเลี่ยนก็คือลูกสาวของตนที่พลัดพรากจากกันไปตอนนั้นจริงๆ จึงได้จัดการต่างๆ ตามมา

กลัวว่าก่อนหาลูกสาวเจอ ก่อนจะได้บอกความจริงทุกอย่างกับนาง ลูกสาวจะสงสัยเจตนาของพวกเขา แล้วยิ่งหลบพวกเขา ไม่ยอมให้พบ ดังนั้นจึงตามใจนาง ยอมรับฟางฉิงเข้าในศาลบรรพชนก่อน แล้วให้สถานะภรรยาน้อยจวนอ๋องกับนาง ก็นับว่าได้ตอบแทนคุณที่นางช่วยชีวิตลูกสาวตนในตอนนั้น หวังว่าลูกสาวจะได้ยินข่าวนี้แล้วยอมกลับมา นอกจากนี้ยังติดประกาศตามหาคน เพื่อขอให้ลูกสาวกลับจวนอ๋อง

โชคดีที่อ๋องเซียงสหายสนิทเหลียงเอินไจ่ลูกชายคนโตพวกเขาเล่าว่าภรรยาเขามาไหว้พระขอพรที่วัดศักดิ์สิทธิ์ห่างไกลแห่งหนึ่ง ได้พบกับสตรีที่เหมือนกับลูกสาวตนบนภาพในประกาศตามหา…

เหลียงเสวียนจิ้งรีบส่งคนมาสอบถามทันที สุดท้ายก็หาซูสุ่ยเลี่ยนที่เมืองฝานฮัว ก่อนจะส่งพ่อบ้านอานกับเซี่ยหมัวมัวที่ไว้ใจที่สุดมาดู ก็พบว่านางแต่งงานและตั้งครรภ์แล้ว นอกจากความดีใจแล้วก็คือความกังวล พื้นที่ห่างไกลเมืองหลวงเช่นนี้ หากคลอดจะปลอดภัยหรือ ดังนั้นจึงส่งสาวใช้ หมัวมัว และองครักษ์กับคนงานชายมารับใช้…

……

ซูสุ่ยเลี่ยนฟังจบก็อ้าปากค้างมองสองคนไปมาเป็นนานไม่กล่าวอันใด

สวรรค์ นางถึงกับมีชะตาชีวิตเช่นนี้?

เดิมคิดว่าร่างสูงศักดิ์ที่นางครอบครอง อย่างมากก็เป็นบุตรสาวตระกูลสูงศักดิ์ไม่ต่างกับตระกูลซูมากนัก ผู้ใดจะคิดว่าเป็นบุตรสาวนอกสมรสจวนอ๋อง ดีที่มารดาผู้ให้กำเนิดจากไปแล้ว และได้รับการยอมรับวางในศาลจวนอ๋องแล้ว นางก็วางใจได้แล้ว มารดาผู้ให้กำเนิดอยู่ร่วมกันมาสิบกว่าปีจากไปแล้ว ไม่เข้าใจบิดาแท้ๆ ตนเอง และไม่พึงใจยอมรับสถานะตนเอง สำหรับนางนับเป็นเรื่องดี อย่างน้อยก็ใช้ชีวิตกับอาเย่าสองคนที่เมืองฝานฮัวไปชั่วชีวิต

ผู้ใดจะคิดว่า หลังจากผ่านเรื่องราววกไปวนมา นางถึงกับกลายเป็นคุณหนูจวนอ๋องที่เกิดจากภรรยาเอก เป็นลูกสาวแท้ๆ เพียงคนเดียวของท่านอ๋องจิ้งกับพระชายาเอก! เรื่องนี้ทำให้นางที่คิดมาตลอดว่าไม่เกี่ยวข้องกันจะยอมรับได้อย่างไร!