บทที่ 87 ชั่วโมงแห่งความสุขในการเล่นสเกต
บทที่ 87 ชั่วโมงแห่งความสุขในการเล่นสเกต
วันอาทิตย์แดดออกสดใส
โจวอี้จับมือลูกสาวและพากันเดินเที่ยวไปตามย่านที่คนพลุกพล่านของจัตุรัสเต๋อจี่
วันนี้ถังเหมียวเหมี่ยวแต่งตัวน่ารักมาก เธอสวมแจ็กเก็ตขนเป็ดสีเบจ รองเท้าบูทสีกาแฟ หมวกถักนิตติ้ง และผ้าพันคอสีฟ้าอ่อน
ตอนนี้คือช่วงเวลาที่มีความสุขมากสำหรับถังเหมียวเหมี่ยวที่ได้อยู่กับโจวอี้
เธอมีความสุขที่ได้รับความรักจากพ่อของเธอเพราะนี่คือสิ่งที่เด็กน้อยต้องการมาโดยตลอด
ตอนนี้
โจวอี้จูงมือข้างหนึ่งของเด็กน้อย ส่วนมืออีกข้างของเด็กน้อยถือลูกกวาดสีสันสดใส
“พ่อจ๋า หนูอยากจะเล่นสเกต”
ระหว่างเดินผ่านลานสเกต ถังเหมียวเหมี่ยวมองดูผู้คนจำนวนมากที่กำลังเล่นสเกตอย่างอิสระ
“เหมียวเหมี่ยวเล่นสเกตเป็นด้วยเหรอ” โจวอี้ถามด้วยรอยยิ้ม
“หนู..หนูยังไม่เคย…” ถังเหมียวเหมี่ยวส่ายหัว และใบหน้าที่บอบบางของเด็กน้อยก็ฉายชัดถึงความผิดหวัง
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อสอนให้เอง” โจวอี้อุ้มเธอขึ้นมาและเดินไปที่ประตูลานสเกต
ด้านนอกประตูเล็ก ๆ ของลานสเกตมีครอบครัวหนึ่งกำลังลังเลที่จะเข้าไป
ทันใดนั้น เด็กชายอายุสี่หรือห้าขวบก็ชี้ไปที่ถังเหมียวเหมี่ยวและตะโกนว่า “ถังเหมียวเหมี่ยว! พ่อครับแม่ครับ! นี่คือถังเหมียวเหมี่ยวเพื่อนร่วมชั้นของผม”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทั้งคู่ก็มองไปที่โจวอี้และถังเหมียวเหมี่ยวทันที
“พ่อคะ นั่นจางหลงหลงเพื่อนร่วมชั้นของหนูเอง” ถังเหมียวเหมี่ยวกอดคอของโจวอี้และกระซิบบอก
โจวอี้ยิ้มและทักทายคู่รักหนุ่มสาว “สวัสดีครับ ผมชื่อโจวอี้ เป็นพ่อของเหมียวเหมี่ยว การได้พบพวกคุณที่นี่คงเป็นเพราะโชคชะตา”
โจวอี้?
พ่อของ ถังเหมียวเหมี่ยว?
พ่อลูกมีนามสกุลต่างกัน!
คงไม่ใช่พ่อลูกสายเลือดเดียวกันสินะ?
คู่หนุ่มสาวมองหน้ากันก่อนจะพยักหน้าให้โจวอี้ด้วยรอยยิ้ม และทักทายกลับอย่างสุภาพ
“พวกคุณมาที่นี่เพื่อเล่นสเกตด้วยใช่ไหมครับ เหมียวเหมี่ยวก็อยากเข้าไปเล่นเหมือนกัน ทำไมเราไม่เข้าไปด้วยกันล่ะ?” โจวอี้ถามด้วยรอยยิ้ม
“ดี ดี!” จางเฉาพยักหน้าอย่างเบิกบาน
รอไม่นาน
พนักงานก็นำรองเท้าสเกตมามอบให้โจวอี้และครอบครัวของจางเฉา
จางเฉาและภรรยาของเขาต่างก็รู้วิธีเล่นสเกต พวกเขาจึงสนับสนุนลูกชายของพวกเขาเป็นอย่างดี และได้สอนพื้นฐานการเล่นให้ที่นอกลาน
โจวอี้ไม่เคยเล่นสเกตเช่นกัน แต่ตอนที่เขาอยู่บนภูเขาซึ่งมีหิมะปกคลุมในฤดูหนาว ทักษะการเล่นสกีของเขานั้นยอดเยี่ยมมาก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการฝึกยุทธ์ทำให้ร่างกายของเขามีความสมดุลและแข็งแกร่งเหนือมนุษย์ เขาจึงเชี่ยวชาญทักษะการเล่นสเกตหลังจากฝึกฝนไปเพียงเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็เริ่มสอนลูกสาวให้เล่น
ความสมดุลของถังเหมียวเหมี่ยวไม่ค่อยอำนวยมากนัก แต่ด้วยความช่วยเหลือของโจวอี้ เด็กน้อยจึงจะพอยืนตรงอย่างเก้ ๆ กัง ๆ และเคลื่อนไหวไปได้ช้า ๆ
สิบนาทีต่อมา
โจวอี้พยายามปล่อยถังเหมียวเหมี่ยวเล่นด้วยตัวเอง เขาให้กำลังใจเธอและบอกสิ่งที่เธอควรให้ความสนใจ
ในที่สุดถังเหมียวเหมี่ยวก็ชินกับการเดินและเคลื่อนที่ด้วยตัวเอง
“อ๊า…”
ถังเหมียวเหมี่ยวพลาดล้มลงขณะฝึกซ้อม
โจวอี้ยืนอยู่ข้าง ๆ และค่อย ๆ ช่วยพยุงถังเหมียวเหมี่ยวขึ้นมา เมื่อเห็นเด็กน้อยเริ่มเบะปากและดวงตาก็เต็มไปด้วยน้ำตา โจวอี้ก็แกล้งทำเป็นล้มลงบ้างในท่าที่น่าอาย
“โอยยย เจ้าหญิงเหมียวเหมี่ยว ก้นของพ่อเกือบหักแน่ะ” โจวอี้พูดเกินจริง แต่รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาสดใสมาก
“ฮ่า ๆ พ่อก็ล้มเหมือนกัน!” สีหน้าของถังเหมียวเหมี่ยวดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเธอปรบมือและหัวเราะเธอก็ล้มลงกับพื้นอีกครั้ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า เหมียวเหมี่ยวก็ล้มลงเหมือนกัน มาเถอะพ่อช่วย ไปฝึกกันต่อ เมื่อเราฝึกจนเป็นเมื่อไหร่ เราจะกลับบ้านไปอวดแม่กัน” โจวอี้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและช่วยลูกสาวของเขาให้ลุกขึ้น
“อืม อืม หนูจะอวดแม่!” ถังเหมียวเหมี่ยวมีขวัญกำลังใจสูงขึ้น
พ่อลูกซ้อมกันในสภาพที่ล้มลงบ้างแล้วลุกขึ้นใหม่
ด้วยการฝึกฝนราวครึ่งชั่วโมง ถังเหมียวเหมี่ยวก็สามารถเล่นสเกตได้ช้า ๆ
“พ่อคะ พ่อของจางหลงหลงเล่นสเกตเก่งจัง” ขณะที่พ่อและลูกสาวนั่งอยู่ในบริเวณที่พักด้านข้างสนามสเกต ถังเหมียวเหมี่ยวก็อิจฉาการเล่นสเกตอย่างคล่องแคล่วของจางเฉา
โจวอี้เลิกคิ้ว
บ้าจริง!
ลูกสาวฉันไปสรรเสริญพ่อคนอื่นได้ยังไง!?
โจวอี้ยืนขึ้นทันทีและถามกลับ “เหมียวเหมี่ยวลูกอยากเห็นการแสดงซูเปอร์แมนไหม?”
“อยากเห็น!” ถังเหมียวเหมี่ยวพยักหน้ารัว
“ถ้าอย่างนั้นลูกนั่งดูแล้วก็โบกมือให้กำลังใจพ่ออยู่ตรงนี้นะ แต่ถ้าลูกต้องการอะไรก็แค่เรียกพ่อ เข้าใจไหม” โจวอี้ยิ้มอ่อนโยน
“อืมม..” ถังเหมียวเหมี่ยวพยักหน้า
“คุณโจว ฉันจะอยู่ที่นี่กับหลงหลงเอง คุณออกไปแสดงได้ตามสบาย! ฉันจะดูแลเหมียวเหมี่ยวให้เอง” ภรรยาของจางเฉายิ้ม
“ขอบคุณครับ ผมรบกวนสักครู่”
โจวอี้พูดอย่างสุภาพแล้วจึงสเกตไปในลาน
ความเร็วของเขาเร็วมาก เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วราวกับนกนางแอ่นโผบิน นอกจากนี้ เขายังเคลื่อนไหวด้วยท่ายากเป็นครั้งคราว เช่นการเล่นสเกตเท้าเดียว การนั่งยอง และการหมุนตีลังกา
ผู้คนรอบข้างมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขาให้ความสนใจโจวอี้ อีกทั้งผู้ที่ชื่นชอบการเล่นสเกตหลายคนยังปรบมือและผิวปากให้อย่างชื่นชม
บริเวณพื้นที่พักผ่อนนอกลานสเกต
“แง…”
จู่ ๆ จางหลงหลงก็ร้องไห้ออกมา
แม่ของหลงหลงจึงถามอย่างุนงง “หลงหลง ลูกเป็นอะไร? ร้องไห้ทำไม?”
“ฮือ ฮือ… พ่อเล่นสเกตไม่เก่งเท่าพ่อของถังเหมียวเหมี่ยว…” จางหลงหลงร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ฟุ่บ…”
จางเฉาเพิ่งกลับออกมาจากลาน ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินลูกชายร้องไห้ เขาได้ยินเช่นนั้นก็ถึงกับเซและนั่งลงบนพื้น
ภรรยาของจางเฉามองไปที่สามีของเธออย่างกระอักกระอ่วน และเห็นว่าว่าเขามีสีหน้าเขินอาย
“พ่อไม่ได้เรื่อง! แง……” จางหลงหลงร้องไห้อย่างขมขื่น
“หลงหลง อย่าเปรียบเทียบ!” จางเฉาลุกขึ้นและพยายามปรามลูกชายตัวเองอย่างอับอาย
“ไม่ พ่อไม่เก่งเหมือนพ่อของเหมียวเหมี่ยว พ่อเล่นสเกตไม่เก่ง!” จางหลงหลงสะอื้นไห้
ถังเหมียวเหมี่ยวมองไปที่จางหลงหลงอย่างไม่พอใจและเอ่ยขึ้นว่า “เพื่อนร่วมชั้นจาง ครูของเราสอนว่าเด็ก ๆ ไม่ควรแข่งขันกัน พ่อของฉันเป็นซูเปอร์แมน จึงเป็นเรื่องปกติที่จะเล่นสเกตได้ดีเยี่ยม!”
จางเฉาและภรรยาของเขามองไปที่ถังเหมียวเหมี่ยว พวกเขาทั้งหมดมีสีหน้าขมขื่นหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้
สาวน้อยน่ารักคนนี้เธอจะเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟอีกทำไม?
ทันใดนั้น!
เมื่อจางหลงหลงได้ยินประโยคพูดของถังเหมียวเหมี่ยว เด็กชายก็ยิ่งร้องไห้ออกมาหนักกว่าเดิม “ไม่ ผมต้องการพ่อซูเปอร์แมนด้วยเหมือนกัน แม่หาพ่อซูเปอร์แมนให้ผมหน่อย!!”
“เอิ่ม…”
“ไอ้เจ้าลูกบ้า!”
เวลาแห่งการเล่นสเกตที่มีความสุขผ่านไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อโจวอี้ออกจากลานสเกตไปพร้อมกับลูกสาวที่อยู่ในอ้อมแขน สมาชิกสามคนของตระกูลจางก็ยังไม่ออกมาจากลานสเกต
“พ่อเก่งมากเลย หนูไม่อยากเปลี่ยนพ่อ!” ถังเหมียวเหมี่ยวกอดโจวอี้ไว้แน่น และหอมแก้มเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ไม่อยากเปลี่ยนพ่อ? ลูกหมายความว่าไงเนี่ย?” โจวอี้ไม่เข้าใจ
“จางหลงหลงไม่ชอบทักษะการเล่นสเกตของพ่อเขา และยังบอกว่าพ่อของเขาไม่ใช่ซูเปอร์แมน เขาก็เลยร้องไห้และขอให้แม่ของเขาหาพ่อที่เป็นซูเปอร์แมนมาแทน! ฮี่ฮี่…” ถังเหมียวเหมี่ยวกล่าวอย่างสดใส
“ฮ่าฮ่า…” โจวอี้รู้สึกขบขัน
ไม่แปลกใจที่เด็กชายผู้โชคร้ายคนนั้นจะถูกตีที่ก้นถึงสองครั้ง