บทที่ 112 แหวนเพชรเหมาะกับคนสวย

คิงดราก้อน

เย่หยุนซูรู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมา ที่จริงไม่ว่าเซียวหยางจะให้เครื่องประดับราคาเท่าไหร่กับเธอ ขอแค่ให้ด้วยใจก็เพียงพอแล้ว

“ขอโทษนะ ที่ทำให้เธอน้อยใจ!” เซียวหยางพูดพลางเปิดกล่องเครื่องประดับออก

เย่หยุนซูตกตะลึงไปในทันที!

แหวนเพชรที่อยู่ในกล่องเม็ดใหญ่กว่าที่อยู่บนมือของเสิ่นเจียเจียถึงสองเท่า ส่องประกายระยิบระยับแวววาว แสงที่สะท้อนออกมาทำให้คนตาพร่ามัวเลยทีเดียว!

เติ้งเจียเฉิงและเสิ่นเจียเจียมองของขวัญที่เซียวหยางมอบให้เย่หยุนซูด้วยสายตาดูถูก เมื่อเห็นท่าทางที่ตกตะลึงของเย่หยุนซู พวกเขาก็หันไปมองแวบหนึ่ง จากนั้นทั้งสองคนก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปมาก!

“นี่……ทำไมถึงได้มีแหวนเพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้?”

“ต้องเป็นของปลอมแน่นอน!”

“เป็นไปไม่ได้!” เสิ่นเจียเจียรู้สึกอิจฉาริษยาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก วันนี้อุตส่าห์ได้เชิดหน้าชูตาต่อหน้าเย่หยุนซู เธอจะยอมได้ยังไงกันล่ะ

“เหมือนเพชรสังเคราะห์โมซาไนท์ ฉันว่าต้องเป็นโมซาไนท์แน่นอน!”

ได้ยินเสิ่นเจียเจียพูดอย่างนี้ เติ้งเจียเฉิงก็พูดอย่างมั่นใจว่า “ต้องเป็นเพชรสังเคราะห์โมซาไนท์ที่เลียนแบบของจริงนั่นแหละ โมซาไนท์ไม่ใช่เพชรสักหน่อย เทียบกับเพชรแท้ไม่ได้เลยสักนิด!”

เงินเดือนเซียวหยางแค่สองพันหยวนเท่านั้น ยังไม่พอซื้อแหวนเพชรสองหมื่นหยวนเลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงแหวนเพชรที่แพงล้ำค่าขนาดนี้!

เย่หยุนซูก็แปลกใจมาก เสิ่นเจียเจียอาจพูดถูกก็ได้ ที่เซียวหยางซื้อมาคงเป็นเพชรสังเคราะห์โมซาไนท์ราคาถูก

แต่ว่า ต่อให้เป็นเพียงเพชรสังเคราะห์โมซาไนท์ก็สวยมากเหลือเกิน เลียนแบบได้เหมือนจริงมาก ๆ!

“ฉันว่าเป็นของปลอม พนักงานมาดูนี่หน่อย!” เติ้งเจียเฉิงตัดสินทันทีว่าเพชรที่อยู่ในมือเซียวหยางเป็นของปลอมแน่นอน ดังนั้นจึงเรียกพนักงานมาตรวจสอบเพื่อให้เซียวหยางอับอายขายหน้า

เซียวหยางพยักหน้า ทองแท้ย่อมไม่กลัวถูกไฟลน ของที่อู่เจี้ยนหวามอบให้เขาจะปลอมได้ยังไง?

เขายืนกล่องผ้าให้พนักงาน พนักงานที่เพิ่งเห็นแหวนเพชรเม็ดใหญ่ขนาดนี้ก็ตกตะลึงมาก ความบริสุทธิ์และความประณีตของเพชรถือว่าอยู่ในระดับยอดเยี่ยม แหวนเพชรในร้านพวกเขาแทบเทียบไม่ติดเลย

พนักงานรับกล่องผ้ามาด้วยความระมัดระวัง เมื่อสวมถุงมือเรียบร้อยแล้วก็หยิบเครื่องมือออกมาตรวจสอบอย่างละเอียด

เสิ่นเจียเจียกลอกตาใส่เซียวหยาง “ของปลอมก็คือของปลอม สวะอย่างเซียวหยางจะมีปัญญาซื้อแหวนเพชรได้ยังไง น่าขำชะมัด!”

เติ้งเจียเฉิงกลับไม่คิดอย่างนั้น เมื่อเห็นท่าทางที่ตกตะลึงของพนักงานเมื่อครู่นี้ ตกลงจะใช่ของปลอมหรือเปล่าก็บอกได้ยาก

หลังผ่านไปสองนาที พนักงานก็วางเครื่องมือลง แล้วมองเย่หยุนซูด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอิจฉา “คุณผู้หญิงคะ คุณมีสามีที่รักคุณมากอย่างนี้ต้องมีความสุขมากแน่เลย! ฉันเชื่อว่าความรักที่เขามีต่อคุณต้องมั่นคงแน่วแน่อย่างแน่นอนค่ะ ไม่เปลี่ยนแปลงแม้สิ้นลมหายใจ!”

เติ้งเจียเฉิงและเสิ่นเจียเจียสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “หมายความว่ายังไง? เธอหมายความว่าแหวนเพชรวงนี้ของเขาเป็น……ของจริงเหรอ?”

เย่หยุนซูก็ไม่กล้าเชื่อเหมือนกัน เซียวหยางจะสามารถซื้อแหวนเพชรราคาแพงอย่างนี้ได้ยังไง

“เธอแน่ใจเหรอ?” เสิ่นเจียเจียไม่เชื่อเลยสักนิด

พนักงานยิ้มแล้วพยักหน้า “ใช่ค่ะ เพชรเม็ดนี้น้ำหนักมากกว่าสามกะรัต ทั้งความปราณีตในการเจียระไนและความบริสุทธิ์ของเพชรล้วนแต่อยู่ในระดับยอดเยี่ยม เพชรแบบนี้ถ้าหากวางขายอยู่ในร้านลาวเฟิงเซียงของพวกเราคงมีราคาสูงกว่าสองล้านเก้าแสนหยวน!”

“ฉะนั้นเมื่อครู่นี้ฉันเลยพูดว่าคุณผู้หญิงท่านนี้คงมีความสุขมากแน่เลย!”

เติ้งเจียเฉิงตกตะลึงอ้าปากค้าง เซียวหยางที่เขาดูถูกเหยียดหยามกลับมีเงินซื้อแหวนเพชรราคาเกือบสามล้านหยวน

แหวนเพชรราคาสองแสนยังไม่ถึงเศษเสี้ยวหนึ่งของเขาเลย เสิ่นเจียเจียมองแหวนเพชรบนมือตัวเองที่เม็ดเล็กเท่าเม็ดถั่วเขียว เมื่อเทียบกับเพชรเม็ดโตเท่าไข่ห่านของเขาแล้วก็ดูหม่นหมองลงทันที

เย่หยุนซูรู้สึกช็อกมาก เธอมองเซียวหยางด้วยความสงสัย แหวนเพชรราคาแพงขนาดนี้ทำไมถึงได้มาอยู่ในมือของเซียวหยาง

เซียวหยางหยิบแหวนเพชรออกมาสวมเข้าที่นิ้วนางของเย่หยุนซูด้วยท่าทางที่ดูเป็นสุภาพบุรุษมาก “มีเพียงแหวนเพชรแบบนี้เท่านั้นที่คู่ควรกับเธอ!”

ฉากเหตุการณ์แบบนี้เย่หยุนซูเคยคิดเอาหลายครั้งแล้ว แต่ทุกครั้งก็ได้แต่ส่ายหน้า เธอคิดมาตลอดว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นกับตัวเองแน่นอน เพราะเซียวหยางไม่ใช่คนแบบนั้นเลยแม้แต่น้อย

คิดไม่ถึงว่าวันนี้ฝันได้กลายเป็นจริง เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นกะทันหันเกินไป รู้สึกเซอร์ไพรส์มากจริง ๆ!

เสิ่นเจียเจียอิจฉาตาร้อนมาก ดึงแขนเติ้งเจียเฉิงแล้วพูดออดอ้อนว่า “ที่รัก อันนี้มันเล็กเกินไปแล้ว ฉันก็อยากได้เม็ดใหญ่แบบนั้นเหมือนกัน!”

เติ้งเจียเฉิงรู้สึกเหงื่อตกไปทั้งตัวทันที แค่ซื้อในราคาสองแสนเขาก็ขูดเนื้อตัวเองแล้ว

ถ้าหากต้องซื้อเม็ดใหญ่เท่าไข่ห่านราคาเกือบสามล้านเขาคงต้องสิ้นเนื้อประดาตัวแน่นอน!

ขณะนั้นเองได้มีหญิงสาววัยกลางคนสวมชุดพนักงานสีดำคนหนึ่งเดินเข้ามาพูดด้วยความเคารพว่า “คุณผู้หญิงคะ สวัสดีค่ะ ฉันเป็นผู้จัดการร้านเครื่องประดับแห่งนี้ แหวนเพชรในมือของคุณพิเศษมากเลย ขอฉันดูหน่อยได้ไหมคะ?”

เห็นว่าเป็นผู้จัดการร้าน เย่หยุนซูจึงไม่ได้ระแวงสงสัยอะไร แล้วถอดแหวนเพชรจากนิ้วยื่นให้ผู้จัดการร้าน

ผู้จัดการร้านรับแหวนเพชรมาแล้วรีบวิ่งเข้าไปในเคาน์เตอร์ จากนั้นก็หยิบเครื่องมือเฉพาะทางออกมาตรวจสอบดู ทันใดนั้นก็ตกใจเป็นอย่างมาก จ้องมองไปที่เซียวหยางแล้วพูดเสียงแข็งใส่ “คุณผู้ชายคะ ขอถามหน่อยค่ะว่าคุณซื้อแหวนเพชรวงนี้มาจากสาขาไหน?”

“แหวนเพชรวงนี้ผมไม่ได้ซื้อ……”

เซียวหยางยังพูดไม่ทันจบก็ถูกผู้จัดการร้านขัดขึ้นมา “คิดไว้ไม่มีผิด! ฉันเดาไม่ผิดจริง ๆ ด้วย แหวนเพชรวงนี้คุณขโมยมาล่ะสิ!”

ขณะที่พูด ผู้จัดการร้านก็เอาแหวนเพชรวางกลับเข้าไปในลิ้นชักเคาน์เตอร์ แหวนเพชรวงนี้เมื่อหลายวันก่อนท่านประธานเพิ่งบอกว่าจะเอามาวางจำหน่ายที่สาขาของพวกเขา

ทุกคนต่างตกตะลึงกันมาก!

เซียวหยางขมวดคิ้ว “คุณพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง?”

ผู้จัดการร้านพูดอย่างภาคภูมิใจว่า “นี่เป็นแหวนเพชรที่มีมูลค่าสูงสุดของร้านเรา ปัจจุบันยังไม่มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ตามหลักแล้วน่าจะอยู่ในมือของท่านประธาน ทำไมถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะคุณขโมยมา มันจะโผล่มาได้ยังไง?”

“คุณแน่ใจขนาดนี้เลยเหรอว่าผมขโมยมา?” เซียวหยางเอ่ยถาม

ผู้จัดการร้านกอดอก “ถ้าไม่ใช่คุณขโมยมา หรือจะบอกว่าท่านประธานของพวกเรามอบให้คุณ!”

มองดูการแต่งตัวของเซียวหยางแล้วก็ไม่ใช่คนมีฐานะอะไรเลย ท่านประธานจะไปรู้จักคนแบบนี้ได้ยังไง!

สิ่งเดียวที่สามารถอธิบายได้นั่นก็คือแหวนเพชรวงนี้เซียวหยางต้องขโมยมาแน่นอน ยึดเอาแหวนเพชรล้ำค่าขนาดนี้กลับมาได้ ครั้งนี้ต้องได้ความดีความชอบมากแน่นอน!

ได้ยินผู้จัดการร้านพูดแบบนี้ เติ้งเจียเฉิงก็รีบซ้ำเติมทันที “ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง เซียวหยางนายเอาของที่ขโมยมามาอวดรวยต่อหน้าพวกเราเนี่ยนะ นายนี่มันหาเรื่องตายจริง ๆ!”

“เศษสวะก็เป็นเศษสวะอยู่วันยังค่ำ! ถึงกับกล้าทำเรื่องชั่วช้าอย่างนี้ ไม่มียางอายจริง ๆ!” เสิ่นเจียเจียพูดด้วยความโมโห แล้วกลับมามีท่าทียโสโอหังเหมือนเดิม

ในเมื่อเรื่องมาถึงขนาดนี้ เซียวหยางก็ไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรอีกต่อไป จึงได้แต่พูดความจริงออกมา

“แหวนเพชรวงนี้ที่จริงอู่เจี้ยนหวาท่านประธานของพวกเธอเป็นคนให้ฉันมา”

ผู้จัดการเหมือนได้ฟังเรื่องตลกขบขันยังไงยังงั้น อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “จะโกหกทั้งทีก็ไม่ใช้สมองคิดสักหน่อยนะ ท่านประธานของพวกเราเป็นใคร จะไปรู้จักคนจรจัดอย่างนายได้ยังไง!”

“จะตายอยู่แล้วยังไม่รู้จักกลับตัวกลับใจอีก!” เติ้งเจียเฉิงพูดกระแนะกระแหน

เย่หยุนซูรู้สึกสับสนงุนงงไปหมดแล้ว เธอเชื่อว่าเซียวหยางไม่มีทางลักขโมยหรอก แต่จากที่เธอรู้จักเซียวหยางมา เซียวหยางก็ไม่น่าจะรู้จักท่านประธานของร้านลาวเฟิงเซียง

เซียวหยางส่ายหน้า แล้วพูดอย่างจนปัญญา “ถ้าไม่เชื่อ ก็โทรศัพท์ไปถามท่านประธานของพวกเธอดูสิ”

ผู้จัดการร้านทำเสียงเหอะออกมา “โทรน่ะต้องโทรอยู่แล้ว ฉันต้องให้ท่านประธานเห็นโจรที่ขโมยแหวนเพชรด้วยตาตัวเองแน่นอน”

ขณะที่พูด ผู้จัดการก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วโทรศัพท์ไปหาผู้ช่วยของท่านประธาน

ผู้จัดการร้านวางโทรศัพท์ลง แล้วชี้นิ้วใส่เซียวหยางด้วยท่าทางโอหัง “นายอย่าคิดหนีเชียวล่ะ ที่นี่มีกล้องวงจรปิด”

เติ้งเจียเฉิงเดินไปข้างหน้าแล้วจับแขนของเซียวหยางเอาไว้แน่น พลางเอ่ยพูดอย่างได้ใจว่า “วางใจเถอะ มีผมอยู่ เขาหนีไม่ได้หรอก!”

เซียวหยางสะบัดแขนออกจากเติ้งเจียเฉิง แล้วพูดอย่างเย็นชา “ฉันไม่ไปไหนหรอก ฉันก็อยากเจอกับท่านประธานของพวกเธออยู่พอดี จะได้ให้เขาเห็นว่าทำไมถึงได้มีพนักงานที่มีตาแต่ไม่มีแววแบบนี้อยู่ในร้านสาขาของเขาได้”

เติ้งเจียเฉิงถูกเซียวหยางสะบัดออกในทีเดียว พละกำลังที่มหาศาลนี้เขารับไม่ไหว ทำให้เขากระเด็นออกไปถึงห้าหกเมตร จนเซล้มไปบนพื้น

“เซียวหยาง แกไอ้สารเลวนี่จะทำอะไรห๊ะ?” เสิ่นเจียเจียร้องโวยวายวิ่งไปประคองเติ้งเจียเฉิง

เติ้งเจียเฉิงเช็ดเลือดที่มุมปากออก แล้วพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “แจ้งตำรวจ! รีบแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้!”