ตอนที่ 53 โปรดชำระล้างข้าด้วยความรักอีกครั้งเถิด ทัณฑ์สวรรค์! (1)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

เหตุใดอาจารย์ถึงประสบกับความเจ็บปวดมากเมื่อเขาต้านทานทัณฑ์สวรรค์ เป็นเพราะเขาไม่ได้ขอบคุณเต๋าสวรรค์ใช่หรือไม่

หลี่ฉางโซ่วรู้สึกสงสัย เขาหวนนึกถึงความรู้สึกยามเมื่อเผชิญทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่สองที่เขาเพิ่งประสบมาและวิเคราะห์ผลกระทบของพลังแห่งเต๋าสวรรค์ที่มีต่อเขา

ไม่น่าจะเป็นเพราะการขอบคุณเต๋าสวรรค์ก่อนที่เขาจะข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ เพราะอย่างไรเสียทัณฑ์สวรรค์ย่อมคงความยุติธรรม และเขาก็แค่ลองทำดูโดยไม่คิดอะไร ดังนั้นจึงไม่น่าจะมีผลกระทบใดๆ

ทว่าสาเหตุที่สายฟ้าทัณฑ์สวรรค์สองสายแรกรู้สึกสบายมากเช่นนี้ก็คือ…

เขารู้สึกว่าทัณฑ์สวรรค์สองครั้งแรกไม่สามารถสร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงแก่เขาได้

เรื่องนี้อันที่จริงเข้าใจได้ไม่ยาก

เช่นเดียวกับบรรดาแขกที่ไปสำนักโคมเขียวแล้วต่างก็ถูกสตรีคนเดียวกันทุบตีอย่างประจบประแจงแล้วกล่าวว่า “อ๊าย ทำไมท่านถึงมาที่นี่ได้ล่ะ”

เพราะความเป็นมืออาชีพของนาง ท่าทางของหญิงสาวที่แกล้งทุบตีแบบมีจริตกระชดกระช้อยและแรงที่ทุบตีผู้คนก็เหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับระดับความอ่อนแอของแขก รวมถึงความรู้สึกของแขกก็แตกต่างกันอีกด้วย…

สถานการณ์นี้ก็น่าจะเป็นเช่นนั้น

บัดนี้ทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่สามกำลังควบแน่นและก่อตัวขึ้นอยู่เหนือศีรษะของหลี่ฉางโซ่ว แต่เขาก็รับรู้และทำความเข้าใจได้มากขึ้นแล้ว

ดูเหมือนทัณฑ์สวรรค์สองครั้งก่อนหน้านี้จะแยกช่องว่างออกต่อหน้าเขา และทำให้เขามองเห็นโลกลึกลับที่ลึกซึ้ง

นี่น่าจะเป็นผลมาจากเต๋าอันยิ่งใหญ่หรือเต๋าสวรรค์เข้ามาเชื่อมโยงกับเต๋าของตนเอง

นี่อาจเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป็นเซียนหรือไม่

ตูม!

พื้นผิวทะเลเกิดระลอกคลื่นอันเป็นผลมาจากทะเลสั่นสะเทือนด้วยสายฟ้าฟาด

ท่ามกลางเสียงฟ้าร้องคำราม มีจุดกำเนิดสายฟ้าหลายจุดสาดประกายระยิบระยับออกมา และสายฟ้าฟาดอย่างรุนแรงอีกสายก็ซัดลงมาอีกระลอก!

หลี่ฉางโซ่วซึ่งลอยอยู่ในอากาศ ถูกสายฟ้าฟาดลงจนร่างของเขาลดระดับลงมาสามฉื่อก่อนที่เขาจะสามารถหยัดร่างของเขาให้กลับมามั่นคงได้อีกครั้ง และต้านทานสายฟ้าฟาดเข้ากระแทกใส่เขา และสายฟ้าหลายสายก็แตกแยกออกเหนือศีรษะของเขา แล้วตกกระทบไปทั่วทุกที่บนพื้นผิวทะเล

โชคดีที่กรงฟาราเดย์ทั้งสิบสองกรงอยู่ห่างไกลออกไป ไม่เช่นนั้นเกรงว่าเขาจะถูกฆ่าตายได้ในเวลานี้

เวลานี้… เขาได้รับบาดเจ็บบางส่วนเนื่องจากทัณฑ์สวรรค์

หลี่ฉางโซ่วมองดูเส้นผมยาวจำนวนหนึ่งที่เขาถืออยู่ โชคยังดีที่ยังมีเส้นผมยาวสีขาวที่เขาย้อมไว้เพื่อปลอมตัว เขาจึงรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยในใจ

ทัณฑ์สวรรค์ของเขาไม่แตกต่างจากผู้บำเพ็ญคนอื่นๆ

บัดนี้เสื้อคลุมเต๋าสีดำที่เขาสวมอยู่นั้นไหม้เกรียมเล็กน้อย

ก่อนที่ทัณฑ์สวรรค์จะมาถึง เขาได้ถอดชิ้นส่วนโลหะทั้งหมดที่อยู่บนตัวเขาแล้ว และบริเวณสีดำที่ไหม้เกรียมบนเสื้อคลุมของเขานั้น เกิดจากการระเบิดของลูกปัดหยกประดับตกแต่งในตอนนี้

เวลานี้ ทั่วทั้งร่างของหลี่ฉางโซ่วยังคงสาดประกายแสงไฟน้อยๆ ออกมา

ในขณะที่กระแสปราณเซียนรวมตัวกันรอบแขนและไหล่ของเขา และร่างเต๋าของเขาก็ก่อตัวจนมีขนาดเท่ากับเล็บมืออยู่ที่ส่วนบนของศีรษะของเขา และเขาก็เริ่มเปลี่ยนสู่ร่างเซียนแล้ว

เขาบินกลับขึ้นไปอยู่ที่ความสูงเหนือพื้นดินเก้าจั้งอีกครั้ง ในขณะที่เขาเรียกพลังเวททั้งหมดของเขาพร้อมๆ กับปราณวิญญาณเซียนในร่างที่เขามีอยู่แล้วในตอนนี้ เพื่อรอทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่สี่ที่จะมาถึง

ชั่วขณะนั้นก็มีเสียงคำรามจากกระแสวังวนที่อยู่ด้านบนเหนือเขา และหมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ก็พลุ่งพล่านปั่นป่วนอย่างต่อเนื่อง

ขณะนี้มีปรากฏการณ์หลากหลายแปลกๆ มากมายปรากฏขึ้นที่หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์อีกครั้ง ราวกับว่ามีสัตว์ดุร้ายหลายสิบตัวที่ถูกกักขังอยู่ในหมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ซึ่งกำลังพยายามหลบหนีให้หลุดพ้นการผูกมัดก่อนจะพุ่งลงไปที่ด้านล่างแล้วเขมือบร่างของหลี่ฉางโซ่วเข้าไปทั้งหมด

“ทัณฑ์สวรรค์จะเปลี่ยนไปในทุกๆ สามครั้ง และทัณฑ์สวรรค์ครั้งนี้ก็กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป”

ในเวลานี้ก็มีมีดแกะสลักที่เรียบง่ายและเป็นสนิมปรากฏขึ้นในมือขวาของหลี่ฉางโซ่ว อย่างไรก็ตาม เขาลังเลเล็กน้อยและเก็บมันออกไปอีกครั้ง แล้วเลือกที่จะใช้กายเนื้อ ปราณวิญญาณ และพลังเวทของเขาเพื่อต้านทานทัณฑ์สวรรค์ และด้วยวิธีนี้เต๋าอันยิ่งใหญ่และเต๋าของเขาเองจะยังคงปะทะกันต่อไปตามวิถีของมันเอง

เขาต้องการการปะทะกันในครั้งนี้!

ประตูที่เปิดไว้ก่อนหน้านี้ถูกผลักเปิดออกอีกครึ่งหนึ่ง และเขาได้เห็นทิวทัศน์ที่สวยงามมากมายข้างหน้าแล้ว

ปราณวิญญาณดั้งเดิมของเขาจมดิ่งอยู่ในสายฟ้า ตกอยู่ในสภาวะลึกลับ และเริ่มดูดซับกระแสสายฟ้าขนาดเล็กเหล่านั้นเพื่อดำเนินการเปลี่ยนแปลงร่างกายของเขาเอง

สถานการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า หลี่ฉางโซ่วจะสามารถ ‘ทะยานขึ้น’ ได้อย่างแน่นอนเมื่อเขารอดพ้นจากทัณฑ์สวรรค์

เพียงแต่ว่าโอกาสที่เขาจะทะยานขึ้นในยามนี้ก็ไม่ได้มากนัก เพราะทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับทัณฑ์สวรรค์ที่ตามมาเพื่อดูว่าเขาจะได้รับโอกาสมากขึ้นหรือไม่

ชู่ว์ๆ

บัดนั้น จุดกำเนิดสายฟ้าขนาดใหญ่หกจุดที่จัดเรียงเป็นรูปหกเหลี่ยมก็ปรากฏขึ้นภายในกระแสวังวนเหนือศีรษะ และสามารถมองเห็นใบหน้าเลือนรางของพยัคฆ์ขาวอยู่ภายในนั้นได้

ในเวลาต่อมาพยัคฆ์ขาวก็คำรามออกมาในขณะที่สายฟ้าพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง แล้วรวมตัวกันก่อตัวขึ้นเป็นลำแสงสายฟ้าที่พุ่งดิ่งลงมา!

ฉับพลันนั้นทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่สี่ก็ฟาดลงมา!

ด้วยพลังอุดมท่วมท้นของเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่พุ่งดิ่งลงไปด้านล่างตามการนำแห่งสายฟ้า ทันใดนั้นหลี่ฉางโซ่วก็ส่งเสียงร้องครวญครางออกมา ขณะที่ร่างของเขาซึ่งกำลังลอยอยู่ถูกกดลงไปหลายสิบฉื่ออีกครั้ง

ในขณะนั้นบนชายฝั่งที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยลี้ก็มีชาวประมงกลุ่มหนึ่งมองข้ามมายังสถานที่แห่งนี้จากระยะไกล และบางคนก็เริ่มก้มกราบไปในทิศทางนั้นพร้อมกับสวดวิงวอนขอพร

ภายในรัศมีสามร้อยลี้นั้น ก็มีเหล่าเซียนและผู้บำเพ็ญหลายคนที่ผ่านมาโดยบังเอิญแต่ไกลๆ และมองมาเมื่อพวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังอันรุนแรงแห่งทัณฑ์สวรรค์

“ผู้ใดกันที่มาข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ในสถานที่เช่นนี้”

“หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้ น่าจะสามารถครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่นับสิบลี้ได้ เป็นไปได้หรือไม่ว่า นั่นอาจจะเป็นแปดสายฟ้าในตำนาน”

แน่นอนว่าเมื่อมีคนข้ามผ่านทัณฑ์สวรรค์ ผู้คนย่อมจะหลีกเลี่ยงพื้นที่นั้นและอยู่ให้ห่างจากทัณฑ์สวรรค์เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้ได้รับบาดเจ็บโดยบังเอิญจากทัณฑ์สวรรค์

แล้วจากนั้นสายฟ้าก็แยกย้ายกระจายหายไปในขณะที่หลี่ฉางโซ่วก็ลอยขึ้นไปในอากาศอีกครั้ง

ทัณฑ์สวรรค์ครั้งที่สี่นี้ไม่เลว มันทรงพลังรุนแรงและแม่นยำเพียงพอ ทำให้ข้าได้รับรู้เข้าใจมากขึ้นโดยไม่ทำร้ายปราณวิญญาณของข้า

นี่เป็นทัณฑ์สายฟ้าที่วิเศษยิ่ง หากสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์สายที่ห้าและหกยังคงเป็นเช่นนี้ก็ย่อมจะดีอย่างยิ่ง

ทว่าหลี่ฉางโซ่วก็ยังแอบรู้สึกผิดหวังในใจเช่นกัน

เมื่อพิจารณาจากความรุนแรงแล้ว ความเร็วที่หมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์ใช้ไปน่าจะกำลังจะหมดลงรวมถึงกฎต่างๆ ที่เขาได้รับมาก่อนหน้านี้ ทัณฑ์สวรรค์ของเขาน่าจะเป็นแปดสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์อย่างแน่นอน

เขารู้ว่าจุดแข็งของเขาอยู่ที่ความรอบรู้ เขามีความสามารถในการหยั่งรู้ ความคิดเชิงรุกและมีวิธีการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่นในขณะที่คุณสมบัติของเขาไม่ได้สร้างข้อได้เปรียบให้เขามากนัก

กฎแห่งเต๋าสวรรค์กล่าวว่า ทักษะความสามารถต่างๆ นับตั้งแต่ที่คนผู้หนึ่งเริ่มฝึกบำเพ็ญจะเป็นตัวกำหนดทัณฑ์สวรรค์ที่พวกเขาจะต้องข้ามผ่าน

นอกเหนือกว่านั้น ทัณฑ์สวรรค์ของเขานั้นน่าประทับใจ

ทว่าเมื่อทัณฑ์สวรรค์มาถึง เขาก็พบว่ามันแตกต่างไปจาก ‘เก้าสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์’ ที่เขากังวลมานานกว่าหกสิบปี

ดังนั้นแน่นอนว่าเขาย่อมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

อย่างไรก็ตามทุกสิ่งย่อมเป็นเฉกเช่นเหรียญที่มีสองด้านอยู่เสมอเช่นกัน หลี่ฉางโซ่วน่าจะสามารถข้ามผ่านแปดสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ได้สำเร็จอย่างแน่วแน่ และยังไม่จำเป็นต้องเปิดเผยไพ่ตายของเขามากจนเกินไปอีกด้วย

ที่สำคัญกว่านั้น การปะทะกันระหว่างเต๋าอันยิ่งใหญ่และเต๋าของเขาเอง ทำให้เขาได้รับผลประโยชน์มากมาย มองเห็นขอบเขตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสร้างข้อมูลเชิงลึกมากมายในหัวใจของเขา

การได้เข้าใกล้กับการบรรลุถึงสวรรค์ย่อมเป็นเรื่องดี

ตูม-

ครั้นเมื่อสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์สายที่ห้าฟาดลงมา หลี่ฉางโซ่วก็ทุ่มเททุกอย่างเต็มที่เพื่อต้านรับมัน และพลังเซียนในร่างของเขาก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ชั่วขณะนั้นก็มีลำแสงเจ็ดสีสาดประกายออกมาจากหน้าผากของเขา นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายของเขาเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงกลายเป็นร่างเซียนรวดเร็วขึ้นแล้ว!

จากนั้นก็ตามมาด้วยสายฟ้าสายที่หก…

และสายฟ้าสายที่เจ็ด…

เมื่อมองดูจากระยะไกลแล้ว ยังคงเห็นหมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์พลุ่งพล่านปั่นป่วน และสัตว์อสูรโบราณจำนวนมากก็ปรากฏขึ้นเหนือหมู่เมฆทัณฑ์สวรรค์นั้น

เช่น ฉยงฉีที่กางปีกออกเพื่อเตรียมพร้อมเหินเวหา ฉีหลินที่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีเทา เทาเที่ยซึ่งมีปากขนาดใหญ่บนท้องของมัน และเถาอู้ซึ่งมีหนามแหลมยาวทั่วร่างกาย[1]

มีสัตว์อสูรร้ายทั้งหมดสามสิบสองตัว ซึ่งผลัดกันปรากฏออกมาให้เห็นบนเมฆทัณฑ์สวรรค์นั้น

และทุกครั้งที่สัตว์อสูรร้ายเหล่านี้ปะทะกัน ลำแสงสายฟ้าขนาดใหญ่จะพุ่งออกมา แล้วฟาดลงไปยังร่างที่ลอยอยู่กลางอากาศเบื้องล่าง

…………………………………………

[1] ฉยงฉี เทาเที่ย เถาอู้ และฮุ่นตุ้น เป็นสี่สัตว์ร้ายบรรพกาลที่มีชื่อเสียงในตำนานจีน

ฉีหลิน หรือ กิเลน นั้นถือเป็นสัตว์มงคล