บทที่ 111 ช็อปปิ้ง

บทที่ 111 ช็อปปิ้ง

“รถคุณงั้นเหรอ?”

เมื่อถังอวี่เฟยนำอู๋ฝานมายังรถเฟอรารี่สีแดงพร้อมนำกุญแจรถออกมา อู๋ฝานจึงอดไม่ได้ที่จะต้องเอ่ยคำถาม

นักศึกษาบางส่วนของมหาวิทยาลัยเจียงโจวมีรถเป็นของตัวเอง ทางสถานศึกษาไม่ได้ห้ามนักศึกษาขับรถแต่อย่างใด ซึ่งก็มีจำนวนไม่ได้มากมาย และกับผู้ที่มีรถหรูดูดี ยิ่งมีจำนวนน้อยยิ่งกว่า

ส่วนทางด้านหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ที่แม้สถานะทางบ้านไม่ได้เลวร้าย แต่ก็ไม่เคยพบเห็นเธอขับรถมามหาวิทยาลัย ครั้งก่อนที่ไปคัลเลอร์แมนกับอู๋ฝาน ยังเป็นการขึ้นแท็กซี่ไปเสียด้วยซ้ำ

“ใช่ค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบรับเรียบเฉย “อาจารย์อยากลองขับไหมคะ?”

“ไม่ครับ” อู๋ฝานโบกมือตอบกลับ “ผมไม่มีใบขับขี่ด้วยซ้ำ”

“ไม่มีใบขับขี่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าหากเกิดอะไรขึ้น ฉันจัดการได้ค่ะ” ถังอวี่เฟยตอบกลับ

“ขอปฏิเสธครับ” อู๋ฝานยืนกราน

“ตอนแรกก็นึกอยากนั่งรถที่อาจารย์ขับสักหน่อย แต่เหมือนว่าฉันจะกลายเป็นคนขับให้อาจารย์นั่งเสียแล้ว” ถังอวี่เฟยยิ้มบางตอบรับ

“ต้องขอโทษนักศึกษาถังที่ทำให้ผิดหวังนะครับ” อู๋ฝานตอบรับอย่างเขินอาย

“อาจารย์ หยุดเรียกแบบนั้นเลยค่ะ เรียกแค่ชื่อฉันก็พอแล้ว นักศึกษาถังนี่ดูห่างเหินเกินไปนะคะ” ถังอวี่เฟยขยิบตาให้อู๋ฝาน “ยิ่งไปกว่านั้น พวกเราก็กำลังจะไปช็อปปิ้ง ถ้าหากคนอื่นได้ยินคำเรียกแบบนั้น คงได้รู้ว่าพวกเราเป็นศิษย์อาจารย์กัน ในความเห็นของอาจารย์ การเรียกแบบนั้นทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องต้องห้ามที่ชวนตื่นเต้นกว่าหรือเปล่าคะ? ถ้าหากเป็นแบบนั้น ฉันก็ไม่บังคับอะไรค่ะ”

“ไม่ครับ ไม่เลยสักนิด” อู๋ฝานเร่งรีบตอบรับ “งั้นผมเรียกชื่อก็แล้วกัน”

ถังอวี่เฟยยิ้มรับอย่างผู้มีชัย “ขึ้นรถกันค่ะอาจารย์!”

ถังอวี่เฟยจงใจเน้นย้ำคำว่า ‘อาจารย์’ อย่างชัดถ้อยชัดคำ

“นอกมหาวิทยาลัย เรียกผมด้วยชื่อก็ได้ครับ” อู๋ฝานเกิดนึกถึงคำที่ถังอวี่เฟยเพิ่งพูดออกมา ดังนั้นจึงเร่งร้อนขอให้ถังอวี่เฟยเปลี่ยนคำเรียกหา ตัวเขาไม่คิดอยากถูกสายตาประหลาดของคนอื่นจับจ้องมองมา

“ได้เลยค่ะอาจารย์!” ถังอวี่เฟยยังคงยิ้มรับอย่างผู้มีชัย

รถเคลื่อนตัวออกไป นับเป็นอีกครั้งที่อู๋ฝานได้นั่งรถหรู และคนขับยังเป็นหญิงงามเช่นกัน กับสถานการณ์เช่นตอนนี้ เรียกได้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะได้มีโอกาสสัมผัส

หากว่าเลือกได้ อู๋ฝานก็ไม่อยากออกมากับถังอวี่เฟย เพียงแต่ใครใช้ให้เธอรับมือได้ยากกัน

“คุณไม่คุ้นเคยกับแถวนี้จริงเหรอ?” อู๋ฝานอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม ในยามที่รถของถังอวี่เฟยเคลื่อนตัวไปใกล้จัตุรัสว่านลี่

พื้นที่รอบด้านของจัตุรัสว่านลี่ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ซึ่งคึกคักและจอแจที่สุดในเจียงโจว มีทั้งห้างสรรพสินค้ามากมาย ร้านค้าหลากหลาย รวมถึงแบรนด์ทั่วไปและแบรนด์หรู เรียกได้ว่าสามารถหาซื้อทุกสิ่งได้จากที่นี่ ดังนั้นหลายคนจึงมองเป็นตัวเลือกแรกสำหรับสถานที่ช็อปปิ้ง

ในอดีตที่ผ่านมาของอู๋ฝาน เพียงแค่เคยได้ยินชื่อของย่านนี้ ตัวเขาแทบไม่เคยมา เพราะมันไม่เหมือนหน้าร้านทั้งหลายบนถนนตรงหน้ามหาวิทยาลัยเจียงโจว ย่านนี้ขึ้นชื่อเรื่องความแพง อะไรก็ตามที่ขายที่นี่ล้วนเป็นของหรูหราเกินจำเป็นสำหรับอู๋ฝานไปมาก

เพียงแต่ว่าเมื่อมองยังสถานภาพของถังอวี่เฟย มาที่นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

เธอที่ดูคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ดีอยู่แล้ว ไม่มีท่าทีของความไม่คุ้นเคยแม้แต่น้อย

หรือนี่จะเป็นการหลอกลวงกัน?

“ที่นี่ใหญ่โตมากค่ะ ฉันก็เลยกลัวว่าจะหลงทาง” ถังอวี่เฟยตอบกลับอย่างกระมิดกระเมี้ยน

หลงก็แย่แล้ว!

เพียงแต่ในเมื่อมาถึงที่แล้ว อู๋ฝานก็ไม่อาจจากไปได้โดยง่าย ทำให้มีแต่ต้องไปช็อปปิ้งกับถังอวี่เฟย

จัตุรัสว่านลี่นับว่าเป็นย่านที่มีขนาดใหญ่โตที่สุดในเจียงโจว ไม่ว่าจะการประดับตกแต่ง สภาพแวดล้อม สถานที่อื่นไม่อาจเทียบเปรียบกับที่นี่ แน่นอนว่าจำนวนคนสัญจรไปมาก็มากมายเช่นเดียวกัน

‘ถ้ามีร้านอาหารของตัวเองสักร้านที่นี่คงดีไม่น้อย’ อู๋ฝานคิดกับตัวเองอยู่ในใจ

ผู้คนที่ไปมาในจัตุรัสว่านลี่มีปริมาณมหาศาล นอกจากนี้แล้ว อู๋ฝานยังมั่นใจในชีวิตทำอาหารและวัตถุดิบ เขาเชื่อว่าตราบเท่าที่เปิดภัตตาคารที่นี่ มันจะต้องได้รับความนิยมอย่างไม่ต้องสงสัย

เพียงแต่เขาเคยได้ยินมาว่าค่าเช่าของทุกร้านค้าที่นี่ไม่ใช่น้อย หากว่าเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่หน่อย ค่าเช่าต่อปีก็ร่วมหนึ่งล้าน บางทำเลจะยิ่งแพงขึ้นไปอีก เห็นได้ว่ามันไม่ใช่อะไรที่อู๋ฝานในปัจจุบันจะจ่ายได้ไหว

อีกสองเดือนถัดจากนี้ เมื่อได้รับชำระเงินที่ติดค้าง เมื่อนั้นไว้ค่อยคิดอีกครั้งหนึ่ง

แน่นอนว่าย่านนี้ย่อมต้องยังมีหน้าร้านว่างให้เช่า เพราะทำเลของที่นี่ดีเยี่ยม เพียงแต่คิดหาหน้าร้านให้เช่าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นเดียวกัน

อู๋ฝานที่เพิ่งเคยได้ช็อปปิ้งกับผู้หญิงเป็นครั้งแรก ในที่สุดก็ได้เปิดประสบการณ์อันน่าสะพรึงในยามผู้หญิงเลือกซื้อของ

ตราบเท่าที่มองจากภายนอกว่าร้านดูดี ถังอวี่เฟยจะเข้าไปสำรวจ ตราบเท่าที่ชื่นชอบอะไรเข้า เธอจะซื้อหาโดยไม่สนใจราคาแม้แต่น้อย

“อืม ชุดของร้านนี้ดูดีอยู่นะ” ที่ตรงหน้าร้านอีกแห่งหนึ่ง ฝีเท้าของถังอวี่เฟยหยุดลง เธอไม่เดินไปต่อ

“ร้านก่อนหน้านี้คุณก็พูดแบบนี้” อู๋ฝานบ่นออกมา

“ไปกัน ไปกัน ไปดูกันก่อน” เธอเมินเฉยคำทักท้วงของอู๋ฝาน ถังอวี่เฟยเดินมุ่งตรงไปยังร้านเป็นคนแรก

อู๋ฝานไร้ซึ่งทางเลือก มีแต่ต้องแบกหามของเดินตามไปต่อ

ทั้งสองมาถึงที่นี่ได้ราวสองชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ทั้งสองยังไม่ได้หยุดแม้สักครั้ง ผลลัพธ์ที่ได้ ยิ่งผ่านไปอู๋ฝานยิ่งมีถุงสินค้าอยู่เต็มมือ ทั้งหมดล้วนเป็นของที่ถังอวี่เฟยช็อปปิ้งมา

“ยินดีต้อนรับค่ะ” ทันทีที่คนทั้งสองเข้าร้าน พนักงานแนะนำในร้านจึงให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ตอนที่พบเห็นถุงมากมายในมือของอู๋ฝาน ดวงตาของพวกเธอจึงเกิดประกาย รอยยิ้มฉายชัด ใบหน้ายิ้มแย้ม และให้บริการอย่างตั้งใจ

ถังอวี่เฟยเดินไปสำรวจภายในร้านด้วยความสนใจ เพื่อเลือกเสื้อผ้าไปเรื่อย

“อู๋ฝาน คุณคิดว่าชุดนี้เป็นยังไง?” ถังอวี่เฟยเอ่ยถามอู๋ฝาน พร้อมกับถือชุดกระโปรงสีแดงในมือ

“ไม่เลวครับ” อู๋ฝานตอบรับโดยไม่แม้แต่จะมอง

สองชั่วโมงที่ผ่านมา ตัวเขาประสบกับสารพัดคำถามมาแล้ว หากบอกว่าดูไม่ดี เช่นนั้นถังอวี่เฟยจะเลือกชุดใหม่มาและสอบถามอีกครั้ง จนกระทั่งอู๋ฝานตอบว่า ‘ดี’ หรือ ‘เหมาะ’ เธอจึงหยุดถามคำถามเช่นนี้

“ใส่ใจหน่อยสิคะ” ถังอวี่เฟยทำท่าออดอ้อนอู๋ฝาน

“คุณผู้หญิงมีสายตาที่ดีมากเลยค่ะ ชุดนี้เป็นสินค้าใหม่ของทางร้าน เพิ่งออกวางจำหน่าย และมีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นค่ะ” พนักงานขายที่คอยติดตามถังอวี่เฟยเร่งร้อนพูดขึ้นมา “คุณผู้หญิงหุ่นดีขนาดนี้ สวมใส่ชุดกระโปรงจะต้องเป็นที่น่าจับตามองมากเลยค่ะ”

“ฉันเองก็คิดว่าไม่เลวเหมือนกัน” ถังอวี่เฟยยิ้มรับ “งั้นขอลองหน่อยนะคะ”

ด้วยเหตุนั้น เธอจึงนำชุดเข้าไปยังห้องลองชุด ขณะที่อู๋ฝานรออยู่ด้านนอก

“พี่ชายตรงนั้น นั่งก่อนสิครับ” ตอนนี้เองที่ลูกค้าชายภายในร้านบอกกับอู๋ฝาน “ผู้หญิงเลือกชุดนานครับ นั่งลงก่อน จะได้พักไปในตัวด้วยครับ”

อู๋ฝานไม่ปฏิเสธ เพราะหลายร้านก่อนหน้านี้ ถังอวี่เฟยใช้เวลาเลือกชุดนานไม่มีเว้น ขอเพียงเธอรู้สึกว่าชุดนั้นไม่เลว เธอจะเริ่มลองทีละตัว หากต้องยืนนิ่งรอคอยเรียกได้ว่าจะทั้งน่าเบื่อและชวนเหนื่อยล้า