บทที่ 91 ตามหาผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่91 ตามหาผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย

นี่ใครเหรอ?

คนที่นางรู้จักไม่เยอะ คนที่สามารถทำให้นางคุ้นหน้ามีไม่กี่คน

แต่ว่า!

นางรีบเดินผ่านไป มองซ้ายมองขวา มองจนขอทานคนนั้นอาย นางก็เริ่มปริปากพูด

“พวกข้าเคยเจอกันที่ไหนหรือเปล่า?”

เมื่อได้ยินอย่างนี้ขอทานคนนั้นรีบพยักหน้า “เคยเจอเคยเจอ เคยเจออยู่แล้ว เพียงแต่ว่าเวลานาน พระชายา ท่านลืมแล้ว

เหรอมีคนรับใช้คนหนึ่งเคยรับใช้ท่านที่ทะเลสระว่างชวน?”

เคยเห็นผีนะซิ!

นางมาเมืองหลวงนี่เพื่อตามหาสามี แต่ระหว่างทางโดนตามฆ่ามาตลอด นางก็ไม่มีค่าเดินทาง

นั่นเป็นสาเหตุถึงมีจุดจบอย่างนี้

มองเห็นผู้หญิงตรงหน้าที่ใส่ชุดพระชายา แต่รูปร่างของเขาค่อนข้างคล้ายกับสามีของเขา ก็เลยจ้องมองหลายครั้ง

“เสียงท้องร้องกูลูกูลู……”

หิวมากเลย!

ทั้งวันทั้งคืนนางไม่ได้กินอาหารเลย

แล้ว สายตาของเขาก็จ้องไปที่อาหารในมือหลานเยาเยา

แล้วกลืนน้ำลายตลอด

เมื่อได้เห็น!

หลานเยาเยาตกตะลึง

“เป็นไร? เป็นไร?”

ใช้สายตาที่น่าสงสารของข้า เพื่อที่ข้าจะได้กินอาหารของพระชายา?

“พระชายา เห็นแก่ที่พวกข้ารู้จักกัน ท่านให้ข้ากินหน่อยได้ไหม?”

คิดๆแล้วนางมีฐานะสูงส่ง เคยไหมเป็นเพราะความหิวต้องขอร้องคนอื่น ?

ไม่มีหนทางอื่นแล้ว!

คนตรงหน้านี้ในมือถืออะไรไม่รู้ดูแล้วน่ากินมาก

แต่แล้ว!

เพื่อต้องการให้หลานเยาเยาเห็นใจ เขาได้นำภาพวาดผู้ชายคนหนึ่งออกมา แล้วแอบใช้น้ำลายป้ายตาเพื่อแทนน้ำตา พูด

ด้วยความเศร้าโศก

“พระชายา ตั้งแต่ท่านจากไปข้าก็ได้เจอผู้ชายรูปงามคนหนึ่ง เขาช่วยชีวิตข้า ใช้ชีวิตเขาปกป้องข้า จากนั้นพวกข้าได้สัญญา

จะเป็นคู่กันตลอดชีวิต

แต่ว่า……ฮึฮึฮึ แต่ว่ามีอยู่วันหนึ่งเขาหายตัวไป ได้ข่าวว่าเขาเป็นคนในเมืองหลวง ดังนั้นข้าจึงเข้าเมืองหลวงเพื่อตามหาเขา

เห็นแก่ความรักที่ข้าเสียสละตัวเอง ขออาหารให้ข้ากินหน่อยได้ไหม?”

เอ่อ……

หลานเยาเยารู้สึกสับสน

สิ่งที่นางสับสนไม่ใช่เรื่องอาหารที่จะแบ่งให้นาง แต่สับสนภาพวาดที่ขอทานคนนี้ถืออยู่

ในภาพวาดผู้ชายคนนี้หน้าตาอัปลักษณ์ รูปร่างจะเตี้ยกว่าผู้ชายปกติ

และที่สำคัญคือ ภาพนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่าคือนางเองผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชาย

เพราะฉะนั้น……

ขอทานที่อยู่ตรงหน้าคนนี้คือฮัวหยู่อันคนที่นางรู้จักตอนอยู่ในป่า!

ไม่น่าแปลกที่รู้สึกคุ้นเคยกับนางเล็กน้อย ที่แท้ก็รู้จักกัน!

เมื่อนึกถึงนางพยายามทุกวิถีทางเพื่อแต่งงานกับนาง ก็รู้สึกตัวสั่นขึ้นมา

ก็เลยเอาเนื้อที่ห่อกลับมาจากร้านเหล้ายื่นให้นาง

“เอา ให้เจ้ากิน!”

“ขอบพระทัยพระชายา!”

เห็นฮัวหยู่อันรับอาหารไป หลานเยาเยารีบหันหลังจากไป

ใครจะไปรู้……

ฮัวหยู่อันรีบก้าวเท้าตามมา

“พระชายา ข้าดูข้างกายท่านก็ไม่มีใครคอยรับใช้ท่าน ข้ามาเป็นคนรับใช้ท่านดีกว่า!”

“ไม่เอา!”

ฮัวหยู่อันอยากอยู่ข้างกายนาง จะได้ตามหาผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายคนนั้น

นางคงหาที่ตาย ถ้าให้นางอยู่ข้างกายนาง

ดังนั้น!

ฮัวหยู่อันดีใจเริ่มเห็นความหวัง เพราะฉะนั้นก็ตามตื้อไม่หยุด

“สุภาษิตพูดว่าถึงแม้เขาจะช่วยเหลือเราเล็กน้อยแต่เราก็ต้องตอบแทนเขาเต็มที่ ท่านให้อาหารที่อร่อยแก่ข้า ถึงให้ข้าเป็นวัว

เป็นม้าข้าก็จะตอบแทนท่าน ก็ให้ข้าเป็นคนรับใช้ได้ไหม? งานหนักงานเบาข้าก็ทำได้ อีกอย่างสมองข้าก็ฉลาด หาเงินก็เก่ง”

พอได้ฟังตรงนี้!

หลานเยาเยาหยุดชะงัก หันมามองนาง ในสายตาเหมือนแผ่แสงสว่างขึ้นมา

หาเงินเก่งเหรอ?

พูดเร็วกว่านี้ซิ มันเป็นเรื่องที่ดี!

“ทำไมมองข้าอย่างนี้?” ในใจฮัวหยู่อันลังเลนิดหนึ่ง

ตอนนี้กลับใจยังจะทันไหม?

“มากับข้า!”

อืม……

นี่สำเร็จแล้วเหรอ?

ฮัวหยู่อันรู้สึกไม่น่าเชื่อ นางยังไม่ได้ใช้แผนเด็ดเลย!

อย่างไรก็ตาม!

สิ่งที่นางไม่รู้คือ นึกว่าถ้าอยู่กับหลานเยาเยาแล้ว นางสามารถหาคนที่นางต้องการหา มีแต่สวรรค์ที่รู้เป็นคนรับใช้แล้วก็

ย้อนกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว

ผ่านไปไม่นาน

พวกเขาสองคนนั่งตรงข้ามกันบนโต๊ะน้ำชา

หลานเยาเยาชี้ใบสัญญาขายตัวที่อยู่บนโต๊ะแล้วพูด “จะคืนอาหารให้กับข้า หรือลงชื่อสัญญาขายตัวเอง”

“ขาย สัญญาขายตัวเอง”

นางฐานะสูงส่ง…….ให้นางลงชื่อขายตัวเอง

“ไม่ลงชื่อก็ได้ แต่อาหารที่เจ้ากินเข้าไปเมื่อกี้ต้องคายออกมาให้หมด แล้วต้องติดให้มีลักษณะเดิม อีกอย่างรสชาติก็ต้อง

เหมือนเดิม!”

“……”

ฮัวหยู่อันอยากร้องไห้แต่ไม่มีน้ำตา

ทำไมสายตาตัวเองเป็นยังนี้?

ก่อนหน้านี้นึกว่าพระชายาคนนี้จะไร้เดียงสาไม่มีพิษมีภัย เหมือนจะหลอกได้ง่ายๆ

ใครจะไปรู้เหมือนหมาจิ้งจอกตัวใหญ่ กินเนื้อไม่คายกระดูก!

สุดท้าย!

ฮัวหยู่อันก็อยู่ในสถานการณ์ไม่เต็มใจ ได้ลงชื่อสัญญาขายตัว

จากนั้นหลานเยาเยาก็เอาน่องไก่ให้นาง จากนั้นนางก็มีความสุขแล้วพากลับไปจวนอ๋องเย่

มองเห็นป้ายจวนอ๋องเย่แขวนอยู่หน้าประตูใหญ่ สามคำ มีเกียรติและอำนาจ ทำให้รู้สึกหนาวไปทั้งตัว

โอ้สวรรค์!

ที่แท้ก็จวนอ๋องเย่

หมดกัน ฮัวหยู่อันรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิด ดูแล้วต่อไปต้องเอาใจพระชายาให้มากๆ มิเช่นนั้นจะตายยังไงยังไม่รู้เลย

จากนั้น!

เมื่อถึงจวนอ๋องเย่หลานเยาเยาได้พาฮัวหยู่อันไปอยู่กับพ่อบ้านเหมยเพื่อให้คุ้นเคยสถานที่ เรียนรู้กฎระเบียบ ตัวเองก็

ออกไปเที่ยวต่อ

ครั้งนี้ นางไปบ้านที่เคยซื้อกับไอ้แก่เย่น ปรากฏว่ามีควันจากการปรุงอาหาร

ก็นึกว่าไอ้แก่เย่นกลับมาแล้ว

นางดีใจรีบวิ่งเข้าไป แต่ก็โดนคนแปลกหน้าทั้งครอบครัวไล่ออกมา

“ผู้หญิงบ้ามาจากไหน?ออกไปออกไป”

จากนั้นหลานเยาเยาก็เข้าใจ

ไอ้แก่เย่นได้ขายบ้านที่นางซื้อเอาไว้ ช่างใจกล้าเหลือเกิน!

ต่อไป ถ้าเขากลับมา จะต้องหักเงินเขา

เฮ้อ!

กูจะบ้าตาย

ระหว่างทางที่กลับ นางเห็นถิงเมี่ยน

เย่ พระชายาเย่?”

ถิงเมี่ยนหยุดมองหลานเยาเยาอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่เจอกันมาสักพัก หน้าตาเปลี่ยนไปเลย

หญิงงามที่สุดในเมืองหลวง!

สวยงามเหลือเกิน

แต่ว่า เสียงก็ยังเหมือนเดิม แต่ชุดที่ใส่คือชุดพระชายาเย่

น่าจะเป็นหลานเยาเยาไม่ผิดแน่นอน!

“บังเอิญ?” หลายนเยาเยามองมาทีหนึ่ง “เจ้ามีธุระอะไร?”

ดูท่าอย่างนี้

เหมือนมาขวางนาง บังเอิญที่ไหน?

“ปู่เจ้า……”

“เจ้ากวนมากเลยนะ” มาขวางนางตรงนี้ เพื่อต้องการด่านาง?

ถิงเมี่ยนรีบโบกมือ แล้วอธิบาย “ไม่ใช่ไม่ใช่ สิ่งที่ข้าอยากบอกเจ้าคือปู่เจ้า……”

วันนี้เขาก็ไม่เห็นกินอะไรผิด ทำไมพูดติดอ่าง”

ใครจะไปรู้……

หลานเยาเยาสีหน้าเปลี่ยนไป!

ยกแขนเสื้อขึ้น ก็ดึงแขนของเขาฟาดลงกับพื้น

“โอ้โห! แม่เจ้า นี่เจ้าทำอะไร?” ถิงเมี่ยนโดนฟาดลงไปจนหมดท่า สีหน้าเต็มไปด้วยทุกข์แล้วมองหน้านาง

อยู่ดีๆก็โดนฟาดกับพื้นอย่างไร้เหตุผล นี่เขาได้ไปหาเรื่องกับใคร?

ดูท่าทาง ไม่ได้ทำอะไรผิดและบริสุทธิ์ใจ

“เจ้าทักทายปู่ข้า ข้าก็ต้องทักทายเจ้า” หลานเยาเยาจัดชุดที่ตัวเองใส่ให้เรียบร้อย จากนั้นก็ขมวดคิ้วมองเขา

“เข้าใจผิดเข้าใจผิด เป็นปู่เจ้า…… ท่านปู่เย่นเอาของฝากไว้ที่ข้า ให้ข้าหาโอกาสเอาไปให้ท่าน”

จวนอ๋องเย่เขาไม่กล้าเข้าไป ก่อนหน้านี้ที่ตลาดมืด สายตาที่อ๋องเย่มองเขา เขากลัวจนขวัญหาย

ฉะนั้นเขาถึงรออยู่ตรงนี้หลายวัน!

ใครจะไปรู้ว่าพอรอก็รอมาสิบกว่าวัน วันนี้ถึงเจอนาง…