บทที่ 92 เครื่องส่งสัญญาณ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

บทที่92 เครื่องส่งสัญญาณ

ในที่สุดวันนี้ก็เจอนาง ก็เจ็บโดยไม่รู้ตัว

“อ๊า ฮ่าฮ่าฮ่า ที่แท้ก็เป็นอย่างนี้! ทำไมไม่พูดตั้งแต่แรก พูดแต่แรกข้าก็ไม่ทำอย่างนี้แล้ว ทำไมเจ้าไม่พูดเร็วหน่อย?”

หลานเยาเยายิ้มอย่างทำตัวไม่ถูก รู้สึกละอายใจเล็กน้อย

ทันใดนั้นถิงเมี่ยนรู้สึกหมดคำจะพูด!

นางให้โอกาสเขาพูดแล้วเหรอ?

เขาก็แค่ติดอ่างสองครั้ง นางก็เข้าใจผิดความหมาย

โอ้ย!

ดูแล้ววันนี้ฤกษ์ออกจากบ้านไม่ดี

“เป็นเพราะข้าน้อยไม่มีความสามารถในการสื่อสาร ขอให้พระชายาอภัยโทษ ของของท่านปู่เย่นอยู่ในตลาดมืด พระชายา

จะรออยู่ตรงนี้? หรือจะไปตลาดมืดด้วยกัน?”

“ก็ไปตลาดมืดซิ!”

แต่ว่า เดินไปสักพัก หลานเยาเยารู้สึกถิงเมี่ยนผิดปกติ

แล้วรีบถาม “ทำไมเจ้าต้องจ้องข้าตลอด?”

ถิงเมี่ยนยิ้มด้วยความเขินอาย จากนั้นก็คิดทบทวนสักพัก

“พระชายา ท่านสวมชุดพระชายาเต็มยศอย่างนี้เดินตลาดมันไม่เป็นไร แต่ถ้าไปเดินตลาดมืด มันจะแสดงความโอ้อวด

เกินไปหรือเปล่า?”

ตลาดมืดคนร้ายเยอะ คนดีคนเลวผสมกันไปหมด

มีคนที่ไม่กลัวตายเยอะแยะ

ตอนแรกเขาอยากหาเงิน แต่พอเห็นรูปร่างหน้าตาของนาง หรือเห็นการแต่งตัวของนาง เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีความคิดชั่วร้าย

“อืม รู้สึกโอ้อวดเกินไปหน่อย”

ถิงเมี่ยนไม่พูด นางก็ลืมไปเลย นางตอนนี้ได้สวมชุดพระชายา

แต่ว่า!

ถ้าไปเปลี่ยนชุดมา

แล้วค่อยไปตลาดมืดกับถิงเมี่ยน ตอนกลับมา ท้องฟ้าก็มืดแล้ว

กลับถึงลานซวนซีของตัวเอง หลานเยาเยาได้เปิดของที่เอากลับมา อดไม่ได้ที่จะตกตะลึง

นี่นี่นี่คือ……ตราหยกฮ่องเต้?

น่าจะมีค่ามาก!

แต่ว่า ไอ้แก่เย่นเอาตราหยกมาให้ข้าหมายความว่าไง?

จากนั้นนางได้หาของในกล่อง แล้วเจอจดหมายที่ไอ้แก่เขียนไว้

“ว้าว ตัวหนังสือนี่ก็สวยเหมือนกัน มีสไตล์ของอาจารย์!”

แต่ในเนื้อความทำให้นางรู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นสาดใส่

นึกไม่ถึงหยกที่อยู่ตรงหน้า ที่แท้เป็นตราหยกที่สืบทอดราชวงศ์ องค์ชายที่ได้ตราหยกนี้ สามารถล้มราชบัลลังก์ปัจจุบันได้

เขาต้องการให้นางช่วยหาองค์ชายสมัยก่อน สมบัติที่เอามาจากเขาวงกต ก็เป็นค่าตอบแทนให้นาง

สวรรค์!

ถ้ารู้เป็นอย่างนี้ สมบัติพวกนั้นนางก็……ก็ต้องเอา

แค่นึกไม่ถึง ไอ้แก่เย่นวางแผนได้ร้ายกาจขนาดนี้ คนที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ยังรู้ว่านางได้เอาเครื่องเพชรพลอยทองคำออกมา

แต่ว่า……

องค์ชายสมัยก่อนยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่ายังไม่แน่ใจ แต่ถ้าเขายังมีชีวิตอยู่ ลักษณะเขาจะเป็นกลมเป็นแบนหรือยาวกว้างยัง

ไม่รู้เลย?

ท้องฟ้ากว้างใหญ่ จะให้นางไปหาจากที่ไหน?

เป็นไอ้แก่ที่หาเรื่องมาทรมานนางจริง!

เพราะฉะนั้น ไอ้แก่เย่นคิดว่านางต้องช่วยเหลืออยู่แล้ว เพราะว่าแม่แท้ๆของนางคือฉู่ซื่อ

อยู่ในจดหมายไอ้แก่เย่นได้พูด แม่ของนางมีความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงกับราชวงศ์สมัยก่อนที่โดนโค่นล้ม

ต่อเนื่องกัน แม่ของนางไม่เพียงแต่เป็นแค่เมียน้อยในจวนแม่ทัพ

หรือว่าเบาะแสขององค์ชายสมัยก่อนจะเกี่ยวพันกับแม่ของนาง

ทำให้หลานเยาเยางุนงงไปหมด!

หรือว่าการตายของแม่เกี่ยวกับราชวงศ์สมัยก่อน?

นางยังจำได้ หลานเฉินมู่เคยพูดว่าการตายของแม่เป็นเรื่องแปลกมาก

ไม่ได้!

นางต้องไปดูที่สุสานแม่ก่อน

แต่ว่า นางได้เก็บตราหยกเข้าไปในกล่องระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

จากนั้นก็ลุกไปเปิดประตูห้อง คิดว่าจะไปดูที่สุสานแม่ก่อน

ใครจะไปรู้……

ทันใดที่เปิดประตูออก รูปร่างที่สูงเรียวยาวก็ปรากฏในสายตานาง

“อ๋อง ท่านอ๋อง?”

ไม่รู้ทำไม ตอนที่มองเห็นเขา นางรู้สึกผิดเล็กน้อย เพราะฉะนั้นเวลาพูดเสียงสั่นนิดหนึ่ง

“ดึกขนาดนี้พระชายาจะไปไหน?”

ดึก?

หลานเยาเยาเกือบลืมเวลาเลย ตอนนี้ท้องฟ้ามืดแล้ว ถึงไปที่สุสานแม่ ก็ทำอะไรไม่ได้

“ข้ากินเยอะไปหน่อย จะไปเดินเล่น”

ใช่!

แค่ไปเดินเล่น

นางไม่ใช่จะไปทำเรื่องอะไรที่ผิด! ไม่ใช่แน่นอน

“ถ้าอย่างนั้นก็ไปด้วย พอดีข้ามีธุระจะบอกเจ้า”

“อ่อ!”

จากนั้นสองคนก็เดินเคียงข้างกันตรงระเบียงทางเดินหลังสวน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอันไพเราะของเย่แจ๋หยิ่ง

“ท่านอ๋อง ไหนบอกว่ามีธุระจะคุยกับข้าไง?”

ถึงแม้จะเดินๆหยุดๆ ก็รู้สึกสบายใจ

แต่ว่า!

ก่อนที่เย่แจ๋หยิ่งยังไม่ได้พูดธุระออกมา นางก็รู้สึกไม่สบายใจ

ในเมื่อ ไม่มีธุระด่วนอะไร เย่แจ๋หยิ่งคงไม่มาเดินเล่นกับนาง จากนิสัยเย่แจ๋หยิ่ง คงไม่เอาเรื่องเล็กๆน้อยๆมาล้อเล่นกับนาง

ในที่สุด!

สิ่งที่นางวิตกก็เกิดขึ้น

เย่แจ๋หยิ่งขยับตัวเข้ามา วางมือบนไหล่นางอย่างแรง

“พระชายา ดูท่าทางเหมือนตื่นเต้นอะไร!”

ตื่นเต้น?

นางไม่ได้ตื่นเต้น?

“ท่านไม่บอก ข้ายังไม่รู้สึกเลย”

ตอนแรกไม่ได้ตื่นเต้น แต่โดนเขาจ้องมองใกล้ๆอย่างนี้ อีกอย่างสายตาเขาคมลึกขนาดนี้ ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นอย่างอธิบาย

ไม่ถูก

“เมื่อไม่กี่วันมานี้ อยู่นอกเมืองหลวง ตรงที่ข้าได้ทิ้งเจ้าไว้ตรงนั้นตอนนี้พบศพของนักฆ่ายิงจวนจำนวนมาก หนึ่งในนั้นเป็น

ยิงจวนยายเมิ่ง

จากการชันสูตรศพ

เวลาตายของพวกเขาใกล้เคียงกับวันนั้น

ข้ารู้ จุดมุ่งหมายของคนพวกนั้นคือเจ้า เจ้าปลอดภัยไม่เป็นอะไร แต่พวกเขาตายจนหมด นี่เพราะอะไร?”

ถึงแม้เขาจะเห็นกับตา

แต่ว่า!

เขาอยากดู นางจะให้เรื่องนี้ผ่านไปยังไง?

“อันนั้น……”

ในที่สุดเขาก็สงสัยนาง

หลานเยาเยาหาข้ออ้างเรียบร้อย พึ่งพูดออกมาก็โดนเย่แจ๋หยิ่งตัดบท

ทันใดนั้นเขาก็บีบคางของนาง พูดด้วยเสียงเย็นชา

“ทางที่ดีเจ้าอย่าโกหกข้า มิเช่นนั้นผลที่ตามมาเจ้าจะรับผิดชอบไม่ไหว”

เอ่อ……

อาวุธไฮเทคในอนาคต สิ่งที่ล่องหน พูดมาใครจะเชื่อ?

ถึงเขาจะสงสัยนางแล้วทำไม?

ไม่มีหลักฐานจริง เขาก็ทำอะไรนางไม่ได้?

“คนพวกนั้นข้าไม่ได้ฆ่า!”

“ไม่เชื่อ!”

“ข้าผู้หญิงตัวคนเดียวสามารถฆ่าพวกเขาได้เหรอ? ท่านก็รู้ ตอนที่อยู่ในป่า ข้าเกือบตายในมือของยิงจวนยายเมิ่ง หรือว่า

พวกเขาฆ่าคนเยอะเกิน กรรมตามสนอง?”

“เจ้าคิดว่าข้าเป็นเด็กอายุสามขวบเหรอ?” เย่แจ๋หยิ่งพูดด้วยเสียงเย็นชา

หลานเยาเยาบัดมือไปมาอย่างจนปัญญา!

“ถ้าอย่างนั้นก็ดี ข้าบอกว่าข้าเป็นนางฟ้า มีอาวุธที่ร้ายกาจ โยนระเบิดให้พวกเขาจนตายหมด เจ้าเชื่อไหม?”

ถึงแม้นี่จะใกล้ความจริง

แต่เย่แจ๋หยิ่งไม่รู้ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บมีอยู่จริง นางพูดอย่างนี้ เหมือนกับเป็นการพูดมั่วซั่ว

ใครจะไปรู้……

“เชื่อ!”

หลานเยาเยาตกตะลึง

นี่ก็เชื่อเหรอ?

“เฮ้ย ข้าว่าเย่แจ๋หยิ่ง ขอเพียงข้ายอมรับว่าข้าเป็นคนฆ่า ไม่ว่าเหตุผลอะไร เจ้าก็จะเชื่อเหรอ?”

“แน่นอน!”

แน่นอนกับผีนะซิ!

เขาแน่ใจว่าฆาตกรคือนาง!

ใครจะคิด เย่แจ๋หยิ่งยังพูดไม่จบ เขาก็เริ่มพูดอีกครั้ง

“เมื่อเจ้าขจัดสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ทั้งหมดออกไป ไม่ว่าสิ่งที่เหลือคืออะไร ถึงแม้มันจะเป็นไปไม่ได้แต่มันก็เป็นความจริง”

ทันทีที่คำพูดนี้ออกมา!

หลานเยาเยาก็ตกตะลึง

เป็นคำพูดคลาสสิกของเชอร์ล็อกโฮล์มส์! เย่แจ๋หยิ่งก็รู้ หรือว่าเขาก็ข้ามภพมา?

จากนั้น!

หลานเยาเยาเกือบร้องไห้ด้วยความดีใจ

รีบไปกอดเขาไว้ แล้วจับหน้าเขามองให้ชัดเจน ในปากก็พูดด้วยความประหลาดใจ

“หมู่บ้านโลก ปักกิ่ง 2028”

เย่แจ๋หยิ่งอดไม่ได้ที่จะสงสัย หลานเยาเยากำลังพูดอะไร?

เมือง? เวลา? หรือส่งสัญญาณอะไร?

จากนั้น สายตาของเขาก็หมองหม่น พูดเสียงเบาๆ “โอ้วมายก๊อด ฟัก แม่งเอ้ย”