ตอนที่ 107 คิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับโลลิที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง ส่วนหลัง

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

107 คิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับโครงการที่มีชื่อเสียงของเมืองหลวง ส่วนหลัง

 

“――เข้าใจล่ะ”

 

พี่ชายฟังจนจบโดยไม่พูดอะไร และพยักหน้า

 

“ผมไม่รู้ว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน แต่อย่างน้อยก็ลองคิดดูกันก่อน”

 

สมกับเป็นพี่ชาย เขาเป็นสุภาพบุรุษแม้ว่าจะตัวเล็กก็ตาม

 

 

 

ริโนกิสที่ถูกส่งออกไปนั้นสามารถจับตัวพี่ชายที่กำลังจะไปโรงฝึกดาบเอาไว้ได้สำเร็จ

เธอกลับมาที่ห้องของฉันพร้อมพี่ชาย และลินเนตต์ สาวใช้ของพี่ชายซึ่งถูกทิ้งไว้ที่หอพัก 

 

「ก่อนอื่นช่วยฟังกันก่อนนะคะ」 และเมื่อฉันเริ่มอธิบายสถานการณ์ปัจจุบันโดยย่อ เขาก็ยกเลิกการฝึกดาบที่โรงฝึกในวันนี้ และเต็มใจยอมรับคำขอร้อง ยอมอยู่ช่วยกัน

 

“ขอโทษด้วยนะคะ โอนี่ซามะ มีแผนอะไรบ้างไหมคะ?”

 

“ไม่ต้องกังวลไป”

 

พี่ชายยอชาที่ริโนกิสชงมาให้ขึ้นจรดปาก ถึงจะเป็นครอบครัวเดียวกันแต่เมื่อเรียกมาโดยไม่บอกก่อนก็ต้องใช้ใบชาราคาแพงเช่นกัน

 

“หากไม่นับความจริงที่ว่าน้องสาวเป็นผู้เรียกมา พี่เองก็คิดว่าต้องมีส่วนร่วมในการพูดคุยเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเมจิกวิชั่นในระดับหนึ่งเหมือนกัน ท้ายที่สุดยังไงพี่ก็เป็นลูกชายคนโตของตระกูลลิสตัน

อันที่จริง พี่ต้องขอโทษด้วยซ้ำที่พลักความรับผิดชอบให้น้อง ดังนั้นหากมีปัญหาก็อย่าลังเลที่เรียกพี่เลย”

 

อื~ม……

 

พี่ชาย ยังไงดี กะแล้วว่าน่ารักจัง

ไม่ต้องรีบโตก็ได้นะ ฉันรู้สึกเหมือนเขาเป็นประเภทที่ชอบผืนให้พูดอะไรเกินกำลังตัวเอง

 

ม๊า ถ้าจะพูดแบบนั้น ทั้งฮิลเดโทร่า ทั้งเรเลียเรด ต่างก็ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันคิดว่าออกจะยัดเยียดเกินไปด้วยซ้ำ

ทว่าท้ายที่สุด การเป็นลูกหลานของราชวงศ์กับขุนนางก็ไม่มีทางถูกอนุญาตให้เป็นเด็กได้นานนักหรอก

 

แม้ว่าลูกหลานของสามัญชนที่อยู่รอบ ๆ สามารถวิ่งเล่นอย่างไร้เดียงสาได้ทุกวัน ส่งเสียงดังแปลก ๆ ที่ฟังไม่เข้าใจ และเล่นเกมสนุก ๆ ที่ไม่รู้ว่าสนุกอะไร 

ฉันรู้สึกว่านั้นเป็นตัวตนที่ถูกต้องที่เด็ก ๆ ควรจะเป็น แต่……ไม่สิ ม๊า ก็แล้วแต่คนล่ะนะ

 

“ขอโทษด้วยนะคะ นีล・ลิสตัน ทั้งที่เป็นเรื่องของเราแท้ ๆ “

 

“อย่าได้กังวลไปเลยครับ ผมเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความเกี่ยวข้องกับแผนการเผยแพร่เมจิกวิชั่น

……ยังไงก็ตาม คุณหนูเรเลียเรดไม่มาเข้าร่วมด้วยหรือครับ?”

 

ดูเหมือนว่าภาพที่พวกเราทั้งสามคนทำงานร่วมกันจะกลายเป็นภาพติดตาไปแล้ว และพี่ชายก็นำชื่อของเรเลียเรดขึ้นมาเป็นหัวข้อสำหรับการสนทนา

 

ที่โต๊ะมีฉัน ฮิลเดโทร่า และพี่ชายนั่งอยู่ที่โต๊ะ มีริโนกิสและลินเนตต์ยืนอยู่ข้างหลัง

 

“เรเลียตอนนี้กำลังยุ่งอยู่ล่ะ”

 

――ไม่ได้มีแค่ว่าระยะหลังมานี้เธอดูจะมีความสุขสุด ๆ จนทิ้งฉันกับฮิลเดโทร่าไป แน่นอนว่าเธอดูมีความสุขจริง แต่

 

“ดูเหมือนว่าเธอกำลังพยายามขยายขอบเขตให้กว้างขึ้นไป โดยการค้นคว้าละคร หนังสือ นิทานพื้นบ้าน เทพนิยาย และหนังสือภาพที่เป็นที่นิยมภายในสถาบัน รวมถึงนักเรียนชั้นมัธยมต้นและมัธยมปลายด้วย อยู่ในระหว่างการค้นหาหัวข้อสำหรับการแสดงนิทานภาพเรื่องต่อไปอย่างจริงจังค่ะ”

 

พวกเราเป็นทั้งเพื่อนและคู่แข่งกัน

ฉันให้ความช่วยเหลือเมื่อจำเป็นต้องช่วย แต่เมื่อไม่จำเป็น ฉันก็ต้องให้ความสำคัญกับตัวเองก่อน

 

ในตอนนี้ ฉันคิดว่าปัญหาของฮิลเดโทร่าไม่ได้อยู่ที่「เมื่อจำเป็น」แต่อยู่ในลำดับก่อนหน้านั้น นั่นเป็นเหตุผลที่เรเลียเรดพยายามอย่างหนักเพื่อตัวเธอเอง

 

――นอกจากนั้น ยังเชื่อมโยงไปยังแผนการสำหรับเผยแพร่เมจิกวิชั่นอีกด้วย ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลให้ไปรบกวน

 

“งั้นเหรอ เช่นนั้นพวกเราก็มาคิดหัวข้อต่าง ๆ กันดีกว่าน่ะ”

 

ดีจริง ๆ ที่ขอพี่ชาย

 

 

 

“…………”

 

“…………”

 

“…………”

 

ตอนแรกพวกเราก็ลองแลกเปลี่ยนข้อเสนอกันดู แต่…… เมื่อการพูดคุยกลายเป็นไปในทิศทางที่ว่า นั่นไม่ได้ นี่ไม่ได้ คนนั้นไม่ได้ คนนี้ไม่ได้ พวกเราก็หมดคำจะพูดทันที

 

“……เป็นเรื่องยากจังนะ เข้าใจแล้วว่าทำไมทั้งคุณพ่อทั้งคุณแม่ถึงได้ปวดหัวกันตลอด แต่ก็เป็นปัญหาที่สมควรกังวลจริง ๆ”

 

อ้า มโนธรรมสินะ

ฉันไม่เคยรู้มาก่อน เพราะพวกเขาไม่แสดงท่าทางแบบนั้นต่อหน้าฉัน แต่ว่าแล้ว คนเหล่านั้นก็กังวลเกี่ยวกับการวางแผนเหมือนกันสินะ

 

“อย่างที่คิด เพียงแค่คิดดูจะไม่เห็นภาพที่ชัดเจนพอ? จะออกไปหาดูกันไหมครับ?”

 

……อุมุ

 

พูดตามตรงฉันรู้สึกว่าคราวนี้ก็จะจบลงด้วยการไปเล่นกันเหมือนเดิม แต่แบบนั้นก็อาจจะมีประโยชน์มากกว่าการนั่งพูดคุยอย่างเงียบ ๆ ต่อไป

 

อีกอย่าง รอบนี้อาจจะเจออะไรเข้าจริง ๆ ก็ได้

การวางแผนบางครั้งก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงแค่คิดในหัว

 

“นั่นสินะคะ ไปกันเถอะค่ะ”

 

“จะออกไปกันใช่ไหม? เช่นนั้นผม――”

 

ฉันรีบพูดขัดพี่ชายที่น่าจะกำลังจะบอกขอกลับไปที่โรงฝึกดาบ

 

“วันนี้ โอนี่ซามะจะไปด้วยกันกับพวกเราใช่ไหมคะ?”

 

“หืม? ไม่สิ แต่ชื่อเสียงของฮิลเดโทร่าซามะจะเสียหายได้หากมีเด็กผู้ชายอยู่ด้วยจริงไหม”

 

ฮิลเดโทร่าหัวเราะคิกคักกับคำกล่าวอ้างของพี่ชาย

 

“ไม่ใช่แค่เราสองคนสักหน่อยค่ะ ยังมีเนียอยู่ด้วย ไม่เป็นไรหรอกนะคะ”

 

――พี่ชายพยายามต่อต้านอย่างไร้ประโยชน์ ดูเหมือน「ถ้าไปก็จบทันที」ที่ฉันสอนไปในวันหยุดฤดูร้อนจะฝังเข้าไปในใจเขาเป็นอย่างดี

 

แน่นอน การต่อต้านที่ไร้ประโยชน์ก็คือการต่อต้านที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นฉันจึงพาเขาไปด้วย

 

 

 

แม้ว่าพี่ชายของฉันจะลังเลที่จะออกไปข้างนอก แต่ดูเหมือนว่ามีอะไรให้ดูมากมายเมื่อออกไปที่เมืองรอบปราสาท

 

ระหว่างที่เดิน เมื่อฮิลเดโทร่าถามว่าเราควรไปที่ไหนกันดี พี่ชายก็เอ่ยชื่อร้านขายของจิปาถะระดับไฮเอนด์บนถนนสายหลัก

 

“ใกล้จะถึงวันเกิดของคุณพ่อแล้วด้วย”

 

แล้วพี่ชายก็พูดข้อเท็จจริงที่กระแทกเข้ามาอย่างน่าตกใจ

 

“เอ๊ะ จริงเหรอคะ?”

 

แย่จริง ฉันไม่รู้เรื่องนั้นเลย

เมื่อฉันหันกลับไปมองที่ริโนกิสโดยไม่ตั้งใจ เธอก็ส่ายหัว ดูเหมือนจะไม่รู้เช่นกัน

 

“จริงด้วย เนียน่าจะไม่รู้ เพราะพวกท่านเป็นคนที่งานยุ่งมาก ๆ การให้ความสำคัญกับตัวเองเลยกลายเป็นเรื่องรองล่ะนะ พี่เดาว่าพวกท่านเองก็คงไม่กล้าบอกเนียด้วย ไหน ๆ แล้ว ของคุณแม่อยู่ช่วงปลายฤดูหนาวน่ะ”

 

……ม๊ ก็จริงอยู่ว่าทั้งสามีและภรรยาต่างก็เป็นคนที่ยุ่งวุ่นวายมาก

 

แต่พวกเขาก็ฉลองวันเกิดของเนีย・ลิสตันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ในเวลาเดียวกัน พี่ชายก็ได้รับทั้งจดหมายและของขวัญในวันเกิดเช่นกัน

 

พวกเขามีความรักอย่างลึกซึ้งต่อลูก ๆ

ม๊า ก็ถ้าไม่อย่างนั้น ก็คงไม่ยอมเททรัพย์สินเงินทองเป็นสายน้ำจนตระกูลย่ำแย่เพื่อชีวิตของลูกสาวหรอก

 

“ถ้าอย่างนั้น ปีนี้เนียก็ลองให้ขอขวัญวันเกิดดูหน่อยดีไหม”

 

อืม ก็ควรจะเป็นแบบนั้น

การได้รู้ในจังหวะเหมาะแบบนี้ ฉันเดาว่ามีพลังงานบางอย่างกำลังทำงานและขอให้ฉันทำแบบนั้น

 

“โอนี่ซามะจะให้อะไรเหรอคะ?”

 

“ก็มีเลือกไว้หลายอย่างน่ะ แต่คิดว่าอาจจะเป็นเครื่องประดับที่เข้ากับชุดก็น่าจะดี แต่ว่าทั้งคุณพ่อคุณแม่ต่างก็ชอบใช้ของที่ผลิตในดินแดนลิสตัน พี่เลยกังวลอยู่เหมือนกัน”

 

โห๊

 

“ฮิลเด้ล่ะ เคยให้อะไรกับพระราชาบ้างไหม?”

 

ปกติเรื่องพ่อของเธอเป็นหัวข้อต้องห้าม

ทว่า ฉันคิดว่าดูผิดธรรมชาติที่จะไม่ถามถึงเรื่องนี้ในปัจจุบัน ดังนั้นฉันจึงพยายามพูดออกไป

 

ฉันหวังว่าจะได้คำตอบราว ๆ ว่า「ไม่มีหรอกค่ะ」ด้วยสีหน้าเย็นชา――

 

“――ชิ”

 

ห่างไกลจากสีหน้าเย็นชา ฮิลเดโทร่าขมวดคิ้วจนเป็นเกลียวแสดงให้เห็นความเกลียดชังของเธอ เป็นสีดำมืดที่หาได้ยากสำหรับเด็กผู้หญิงที่ร่าเริงและแสดงความฉลาดอยู่เสมอ

 

“แค่เพียงครั้งเดียวค่ะ เราถูกปฏิเสธโดยบอกว่า ข้าไม่ต้องการ จึงไม่มีอีกเลยนับแต่นั้น”

 

……ฉันได้รับคำตอบที่หนักหน่วงกว่าที่คาดไว้มาก

 

ฉันรู้สึกว่ายิ่งพูดเท่าไหร่ก็ยิ่งใช่พระราชาคนนั้น

 

ฉันหมายถึง เรื่องรวของพ่อที่ฮิลเดโทร่าเล่ามามีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่ควรฟัง

 

คงต้องหยุดถามถึงเรื่องพระราชาโดยไม่รอบคอบซะแล้ว

พี่ชายถึงกับมีสีหน้าเศร้าหมองเช่นกัน

 

 

 

บรรยากาศแย่ลงชั่วขณะ แต่เพื่อดึงความเป็นตัวของตัวเองเลยเข้าดูร้านค้าจิปาถะสองสามแห่ง

 

“จะว่าไปแล้ว ฉันได้ยินมาว่ามีขนมบางอย่างที่เหมือนขนมปังทอดที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ตอนนี้……ชื่ออะไรน๊า”

 

“เรารู้คะ! โดนัทใช่ไหมคะ!?”

 

ฉันหิวนิดหน่อย เลยพูดเรื่องของกินบางอย่างที่อยากกินออกมา และไม่รู้ทำไม ฮิลเดโทร่าถึงรู้จักราวกับเชี่ยวชาญเรื่องของสามัญชน

 

ในท้ายที่สุด วันนี้ก็จบลงเพียงแค่เฝ้าดูฮิลเดโทร่าที่หัวเราะเช่นเดิม

 

 

 

 

 

……นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด

 

“เนีย พี่อยากให้ฟังหน่อยได้ไหม ก่อนที่จะไปบอกให้ฮิลเดโทร่าซามะ แบบนี้คิดว่ายังไง?”

 

ระหว่างทางที่ฉันเดินดูร้านค้าจิปาถะไปเรื่อย ๆ และกินโดนัทไปด้วย พร้อมกับฮิลเดโทร่าที่ส่งเสียงมีความสุข จู่ ๆ พี่ชายก็ได้รับแรงบันดาลใจที่คาดไม่ถึง

 

ความคิดนี้จะกลายเป็นผลงานชิ้นเอกของสถานีออกอากาศของเมืองหลางในเวลาต่อมา แต่――

 

 

 

ทว่าผลลัพท์ กลับส่งผลให้มีเหตุการณ์ใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น และฉันถูกเนรเทศออกนอกประเทศโดยพฤตินัย

นั่นเป็นเรื่องของอนาคต