บทที่ 106 เผยยวนร่างกายยังอ่อนแอ

ท่านป้ายืนพิงขอบประตูมองดูจี้จือฮวนที่กำลังต้มโจ๊ก

“เขาฟื้นแล้วหรือ คนไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?”

จี้จือฮวนเงยหน้าขึ้นพลางเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ไม่เป็นอะไรแล้วเจ้าค่ะ แค่อ่อนแรงนิดหน่อย แต่ต้องรอดูว่าการทำงานของร่างกายเป็นอย่างไร ดูแลสักระยะก็น่าจะกลับมาเป็นปกติแล้วเจ้าค่ะ”

อย่างไรเสียก็ดื่มยาหลิงเฉวียนไปมากขนาดนั้น แม้แต่เส้นเอ็นที่ขาดจนหมดก็ยังต่อกันติด

จี้จือฮวนตัดสินใจว่าวันนี้ต้องจัดงานฉลองที่บ้านกันหน่อย ไม่ว่าจะเป็นน้ำแกงหลิงเฉวียน ที่พอกหน้าหลิงเฉวียน อาบน้ำด้วยยาหลิงเฉวียน จัดมาให้หมด

ยาหลิงเฉวียน “…”

อาชิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดมกลิ่นหอมภายในหม้อและเอ่ยถามออกมา “ท่านแม่ วันนี้ให้ไข่ท่านพ่อสองฟองได้หรือไม่ขอรับ ของอาชิงยกให้ท่านพ่อ”

จี้จือฮวนอดไม่ได้ที่จะบีบแก้มของเจ้าเด็กน้อยคนนี้ไปหนึ่งที “อืม ช่วงนี้มีเนื้อขึ้นมาแล้ว ทั้งยังรู้จักกตัญญูต่อท่านพ่อด้วย เรื่องไข่ไม่ต้องเอาของเจ้าหรอก แม่ใจกว้างจะต้มเพิ่มให้อีกฟองก็แล้วกัน”

“ดีเลยขอรับ!” อาชิงวิ่งไปที่หน้าประตูด้วยความดีใจ ก่อนจะตะโกนบอกไก่ที่กำลังเดินเล่นอยู่ในลานบ้าน “ต้องออกไข่เยอะ ๆ นะ ไม่อย่างนั้นจะถูกจับไปกินแน่”

พวกไก่ที่กำลังเดินเล่นอย่างสบายอารมณ์เมื่อได้ยินดังนั้น ก็สะดุ้งขึ้นมาทันที!

เกือบลืมไปแล้วว่าคนครอบครัวนี้พูดจาไม่เข้าหูจริง ๆ เอะอะก็จะฆ่าไก่ที่ไม่ออกไข่!

เลิกพูดเถอะ ๆ ขืนได้ยินอีกต้องท้องผูกแน่

เนื่องจากอีกไม่นานก็จะได้ใช้ชีวิตเป็นคนรวยด้วยตัวคนเดียวแล้ว จี้จือฮวนจึงดีใจมาก นางหยิบเต้าหู้ยี้กุหลาบที่ทำเอาไว้ในช่องว่างมิติก่อนหน้านี้ออกมา โดยจัดคู่กับโจ๊กซี่โครงข้าวโพด และผักดองที่ท่านป้าหยางดองและเอามาให้ จากนั้นก็ให้อาอินยกไปให้เผยยวนก่อน

“ท่านพ่อ กินข้าวได้แล้วเจ้าค่ะ อาหารที่ท่านแม่ทำอร่อยมาก ท่านต้องลองชิมดูนะเจ้าคะ” อาอินวางถาดเอาไว้ที่หัวเตียง เผยยวนเลิกผ้าห่มออกและคิดจะลุกขึ้นเอง

สุดท้ายก็เห็นว่ามีชายกระโปรงแวบผ่านที่หน้าประตู เขาจึงรีบทิ้งตัวลงนอนอย่างอ่อนแรงทันทีและเอ่ยขึ้นมา “อืม อีกเดี๋ยวพ่อค่อยกิน”

ทว่าเด็กทั้งสองคนกลับไม่สังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้

“อาอิน หรือไม่เจ้าก็ป้อนเขาสิ” ท่านป้าชะโงกหน้าเข้ามาทางหน้าต่าง ในมือยังถือลูกท้อที่จี้จือฮวนเพิ่งล้างมา

อืม หอมจริง ๆ เนื้อกรอบฉ่ำ หอมหวานอร่อย ฮวนฮวนของพวกเราเก่งที่สุด จะมีใครสามารถปลูกท้อได้อร่อยเท่านี้อีกบ้าง?

อีกทั้งอาหารที่ทำก็อร่อยด้วย กินแล้วรู้สึกสดชื่น สามารถเล่นไพ่นกกระจอกได้ทั้งวันโดยไม่เหนื่อย

ท่านป้ามองเผยยวนด้วยรอยยิ้ม ดูสิ แม้แต่สามีที่หามา แม้จะนอนเป็นผักก็ยังสามารถฟื้นขึ้นมาได้ หน้าตาก็เรียกได้ว่าหล่อเหลา ถึงเวลามีลูกน้อยออกมาให้นางช่วยเลี้ยงสักสองสามคนจะดีเพียงใดกัน

ท่านป้ามองเผยยวนด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม เผยยวนเองก็จ้องหน้านางเช่นกัน แต่จู่ ๆ ก็รู้สึกคุ้นเคยขึ้นมา

ส่วนคุ้นเคยตรงไหนนั้นเขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน รู้สึกเหมือนกับว่าก่อนหน้านี้เคยเจอคนที่มีใบหน้าเช่นนี้มาก่อน

“ท่านพ่อเจ้าคะ นี่คือท่านป้า ท่านแม่เก็บมาจากเขาด้านหลังเจ้าค่ะ” อาอินแนะนำท่านป้าให้กับเผยยวนทันที จากนั้นก็เอามือป้องปากแล้วเอ่ยขึ้นมาเสียงเบา “ท่านอย่าไปเล่นไพ่นกกระจอกกับนางเด็ดขาดเลยนะเจ้าคะ นางเก่งมากเลย”

เผยยวนเข้าใจได้ในทันที ก่อนจะพยักหน้าพร้อมยกยิ้มให้กับท่านป้าหนึ่งที

ท่านป้าถึงกับอุทานขึ้นมาในใจว่า งามมาก ดูสิ บุรุษที่หล่อเหลาเช่นนี้ สมควรแล้วที่จะเป็นของฮวนฮวนของพวกนาง

จี้จือฮวนเตรียมอาหารเช้าสำหรับเด็ก ๆ เสร็จแล้ว ก่อนจะยกเข้าไปกินที่ห้องโถง

“มากินข้าวกันเถอะ”

จี้จือฮวนทำจิ่วไช่เหอจื่อ* แป้งอบไส้ผักดอง และปาท่องโก๋ทอดอีกสี่ห้าตัว หอมจนเผยยวนยังต้องกลืนน้ำลาย

* จิ่วไช่เหอจื่อ (韭菜盒子) เป็นแป้งคล้ายโรตีห่อด้วยไส้กุยช่ายผัดผสมกับไข่ เต้าหู้ เห็ดหูหนู แล้วเอาลงจี่ในกระทะร้อน ๆ

“ท่านพ่อ ข้าจะป้อนให้ท่านเองขอรับ” อาชิงน้อยวิ่งมาที่ข้างกายของเผยยวน ก่อนจะปีนขึ้นไปบนเตียงของเขา จากนั้นก็หยิบผ้ากันเปื้อนที่ตัวเองใช้กินข้าวออกมาใส่ให้เผยยวน

ทุกคนล้วนเห็นจนชินชาแล้ว เพราะก่อนหน้านี้การป้อนอาหารให้เผยยวนนั้นทำได้ค่อนข้างลำบาก การสวมผ้ากันเปื้อนจึงสะดวกขึ้น

“ท่านพ่อต้องเป็นเด็กดีนะขอรับ อาชิงจะเป่าให้!” อาชิงใช้ช้อนตักโจ๊กขึ้นมาหนึ่งคำ ก่อนยื่นไปที่ริมฝีปากของเผยยวน

ช่างเถอะ ลูกชายตัวเอง ถ้าเขาไม่รักแล้วใครจะรัก?

เผยยวนอ้าปากขึ้น อาชิงจึงยัดเข้าไปทันทีจนเผยยวนเกือบสำลัก

“เป็นอย่างไรขอรับ อร่อยมากใช่หรือไม่ขอรับ!” อาชิงยิ้มยิงฟันออกมา พลางมองเผยยวนด้วยความตื่นเต้นดีใจ

ซี่โครงหมูต้มจนนุ่มคลุกเคล้ากับโจ๊กข้น ๆ ทั้งยังไม่มีความมันของเนื้อหมู และมีข้าวโพดเป็นส่วนประกอบด้วย เมื่อกินแล้วจึงให้ความรู้สึกหวานและสดชื่น

เป็นรสชาติที่คุ้นเคย ช่วงที่ผ่านมาอาหารที่เขากินคงเป็นอาหารฝีมือของจี้จือฮวนกระมัง

“อร่อย”

อาชิงดีใจเป็นอย่างมาก เขาโยกหัวไปมาพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “อาหารที่ท่านแม่ทำ อร่อยที่สุดในใต้หล้าเลยขอรับ!”

จี้จือฮวนฟังแล้วก็รู้สึกขัดเขินเล็กน้อย ราชาแห่งการอวยผู้นี้นี่จริง ๆ เลย

“มาข้าป้อนเอง เจ้าไปดื่มนมก่อน” จี้จือฮวนเห็นอาชิงป้อนข้าวเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าต้องป้อนไปจนถึงตอนไหน

เผยยวนดวงตาเป็นประกาย เมื่อจี้จือฮวนนั่งลง กลิ่นหอมเย็นที่คุ้นเคยก็โชยออกมาจากตัวของนาง ทำให้เผยยวนเหมือนได้ย้อนกลับไปในทุกวันและคืนที่นางคอยดูแลเขาก่อนหน้านี้

เขายอมรับว่าแม้เขาจะเพิ่งรู้จักนาง แต่ความรู้สึกที่พึ่งพาอาศัยนางนั้น ดูเหมือนจะฝังรากลึกลงไปในใจของเขาเสียแล้ว

“ร่างกายของเจ้ายังอ่อนแอต้องกินอาหารเหลวไปก่อน อีกเดี๋ยวลองลงจากเตียงดู หากเดินได้ก็จะดีมาก ถ้าไม่ได้ข้าค่อยฟื้นฟูร่างกายให้เจ้าอีกที”

เผยยวนหัวใจกระตุกขึ้นมา ร่างกายอ่อนแออย่างนั้นหรือ?

เขาอ้าปากรับช้อนที่นางส่งมาด้วยท่าทางสงบ แล้วกินโจ๊กลงไป

ไกลออกไป เด็กทั้งสามคนและท่านป้ากำลังมองดูสองสามีภรรยาพร้อมรอยยิ้มที่เกลื่อนใบหน้า ก่อนจะเริ่มกินข้าวคำโต

ท่านป้ากินข้าวเสร็จก็รู้สึกคันไม้คันมือขึ้นมา เตรียมตัวจะไปหาคนเล่นไพ่นกกระจอกในหมู่บ้าน ชนะให้เยอะ ๆ หน่อย จะได้เอามาซื้อเนื้อให้อายวนกินมาก ๆ!

จี้จือฮวนให้เผยยวนลองลุกขึ้นเอง ความจริงแล้วตอนที่เผยยวนเลิกผ้าห่มออกก็รู้สึกว่าน่าจะสามารถเดินได้แล้ว ไม่เพียงเดินได้แต่ยังคล่องแคล่วอีกด้วย

แต่เขากลัวว่าจี้จือฮวนจะไล่เขาไป ดังนั้นเขาจึงลอบมองสีหน้านางอย่างระมัดระวัง จากนั้นก็ทำทีเอียงตัวและล้มไปด้านหนึ่ง

จี้จือฮวนขมวดคิ้ว

หัวใจของเผยยวนแทบเต้นไม่เป็นจังหวะ คงไม่ใช่ดูออกแล้วกระมัง

“ดูท่ายังต้องฟื้นฟูร่างกายอีกสักหน่อย ข้าจะไปหาเจิ้งต้าเฉียงสั่งทำเก้าอี้รถเข็นและไม้ค้ำให้เจ้า เจ้าออกไปอาบแดดข้างนอกก่อน อ้อ จ้านอิ่งอยู่ในคอกม้า ข้าคิดว่าเจ้าคงจะมีความสุขมากที่ได้เห็นมัน”

ก่อนที่เผยยวนจะเข้าใจว่าเก้าอี้รถเข็นคืออะไร ก็ได้ยินข่าวดีนี้ขึ้นมาเสียก่อน

“จ้านอิ่ง?”

“อืม” จี้จือฮวนสะพายตะกร้าขึ้นหลัง “ข้าจะไปหาของป่าบนภูเขาพอดี เจ้าพักผ่อนให้มาก ๆ เถอะ อีกเดี๋ยวจะมีคนมาบ้าน พวกเขาล้วนเป็นคนงานที่มาสร้างบ้านให้เรา”

จี้จือฮวนสั่งเสร็จก็ออกไปคนเดียว เนื่องจากเผยยวนฟื้นแล้ว อาอินที่มักจะไปเป็นเพื่อนนางตลอดก็ไม่อยากห่างจากท่านพ่อ จึงขออยู่บ้านเพื่อคอยป้อนอาหารให้เผยยวน

เผยยวนมองทางที่จี้จือฮวนจากไปด้วยความเป็นกังวล “นางขึ้นเขาไปคนเดียว หากเจอสัตว์ป่าดุร้ายเข้าจะทำเช่นไร?”

อาอินที่กำลังบีบอุ้งเท้าของเสือน้อยเมี้ยวเมี้ยวเล่น เมื่อได้ยินดังนั้นก็มองเผยยวนด้วยท่าทางแปลก ๆ แล้วเอ่ยขึ้นมา “เช่นนั้นคนที่น่าเป็นห่วงก็คือสัตว์ป่าแล้วล่ะเจ้าค่ะ”

เผยยวน “…”

???

หลังจากที่เผยยวนมองไปรอบ ๆ เรือนแล้ว เขาก็ลุกไปที่คอกม้า

จี้จือฮวนไม่เพียงให้คนเปลี่ยนบ้านที่ทรุดโทรมบนเนินเขาที่ห่างไกลหลังนี้ให้กลายเป็นบ้านสวนที่แสนสบาย นอกจากความเป็นระเบียบเรียบร้อยทั้งภายในและภายนอกแล้ว แม้แต่คอกม้าของจ้านอิ่งก็ยังปูด้วยกระเบื้องอีกด้วย

ทนแดด ทนฝน ทั้งยังแข็งแรง

จ้านอิ่งกำลังรอที่จะออกไปเดินเล่นกับอาชิง เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เห็นเจ้านายมายืนอยู่ตรงหน้าของมัน

จ้านอิ่งคิดว่ามันคงมองผิดไป ทว่าหลังจากมองดี ๆ แล้ว ก็ได้ส่งเสียงร้องออกมาด้วยความดีใจ

เผยยวนเองก็ตื่นเต้นมากเช่นกัน เขารีบเดินไปตรงหน้าของจ้านอิ่งและลูบที่แผงคอของมันทันที

จากเมืองหลวงมาถึงที่นี่คงลำบากไม่น้อยใช่หรือไม่?

สภาพของจ้านอิ่งตอนนี้ไม่ได้ดูดีเหมือนเมื่อก่อน มันผอมลงและมีรอยแผลเป็นมากมายบนร่างกาย แม้ว่าจี้จือฮวนจะช่วยรักษาให้บ้างแล้ว แต่ก็ยังสามารถเห็นถึงความแตกต่างได้อย่างชัดเจน

เผยยวนเอาหน้าผากของตัวเองชนกับหัวของจ้านอิ่ง “สหายข้า พักผ่อนให้เต็มที่ แล้วข้าจะพาเจ้ากลับไปล้างแค้น”