ตู้ม!! ตู้ม!!
 

แกร๊ก—!

 

ในขณะเดียวกันกับที่พวกรีซาน่ากำลังตามหาหน่วยยิงลูกระเบิดของศัตรูที่ยิงลูกระเบิดออกมาจากภายในป่ากันอยู่นั้น ทางด้านกลุ่มของเด็กนักเรียนที่ใช้พาร์ทส่วนบนสร้างโล่พลังวิซเพื่อปกป้องประตูเมืองเองก็กำลังประสบปัญหาขึ้นมาเมื่อคริสตัลตัวหลักที่ติดอยู่ตรงเข็มขัดที่เอวของพวกเขาได้ส่งเสียงแตกร้าวออกมาพร้อมๆ กับที่ตัวม่านพลังที่ช่วยปกป้องพวกเขาอยู่ได้กะพริบติดๆ ดับๆ จนหนึ่งในเด็กนักเรียนสองคนที่กำลังกางโล่อยู่ต้องรีบยื่นมือไปตบที่ตัวเข็มขัดของเขาที่มีคริสตัลสำหรับจ่ายพลังงานอยู่ด้านในสองสามทีเพื่อให้กำลังใจมัน

 

“ด—เดี๋ยว—ไม่ใช่ตอนนี้สิ–!?”

 

เพล้ง—เพล้ง!!

 

“ว๊าย—!? / เหวอ–!?”

 

แต่ว่าการกระทำของเด็กนักเรียนคนนั้นก็กลับเหมือนจะส่งผลตรงกันข้ามกันเมื่ออุปกรณ์จ่ายพลังงานตรงเข็มขัดของเด็กนักเรียนทั้งสองคนได้ส่งเสียงแตกร้าวอันเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคริสตัลวิซที่ถูกบรรจุเอาไว้ภายในได้แตกสลายไปแล้วเป็นที่เรียบร้อยก่อนที่ตัวแขนกลบนไหล่ของพวกเขาจะพับห้อยตกลงไปที่ข้างๆ ตัวพร้อมๆ กับที่ม่านพลังที่ถูกกางออกมาจากตรงปลายของมันได้สลายหายไปในพริบตา

 

“ตัวจ่ายพลังงานระเบิดไปแล้วค่ะ!! พวกเราจะเอายังไงกันต่อดีคะท่านประธาน!?”

 

“พวกเธอทั้งสองคนหลบเข้าไปด้านในกำแพงก่อน เดี๋ยวฉันกับคนที่เหลือจะจัดการเอง!”

 

“ครับ! / ค่ะ!”

 

คำสั่งของไดเอน่าได้ทำให้เด็กนักเรียนทั้งสองคนรีบวิ่งเข้าไปหลบด้านในห้องพักกันในทันที จนเป็นเหตุให้เด็กนักเรียนที่สวมใส่พาร์ทส่วนบนคนสุดท้ายได้แต่ต้องรีบเดินออกไปกางโล่วิซธาตุน้ำของเขาอยู่ที่ตรงกลางกำแพงเพื่อให้ม่านน้ำของเขาครอบคลุมเป็นบริเวณกว้างที่สุดแทน

 

ตู้มมม!!!

 

และในทันทีที่ม่านน้ำของเด็กนักเรียนคนสุดท้ายปรากฏขึ้นมาก็ได้มีเสียงระเบิดขนาดใหญ่ดังลั่นออกมาจากด้านในป่าทางทิศเหนือพร้อมๆ กับที่มีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมาให้ไดเอน่าเห็นจนทำให้เธอได้แต่ต้องพูดพึมพำออกมาด้วยความเป็นห่วง

 

“ระเบิดจากข้างในป่าหรอ… หวังว่าพวกคนที่เข้าไปด้านในป่าจะยังปลอดภัยดีนะ—”

 

ปึ้ง!!

 

“เดี๋ยวสิ— ศัตรูไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียวหรอกหรอ!?”

 

ในขณะที่ไดเอน่ากำลังเพ่งมองไปทางป่าทิศเหนือด้วยความเป็นห่วงอยู่นั้นก็ได้มีระเบิดอีกลูกหนึ่งถูกส่งออกมาจากภายในป่า ซึ่งนั่นก็ทำให้ไดเอน่าที่เห็นว่าม่านวิซธาตุน้ำของเด็กนักเรียนเพียงแค่คนเดียวนั้นกว้างไม่มากพอที่จะครอบคลุมทั่วทั้งประตูเมืองได้สร้างลูกบอลสุญญากาศออกมาเตรียมพร้อมเอาไว้ในทันที

 

“ตรงนั้นสินะ…!!”

 

ลูกระเบิดที่พุ่งตรงเข้ามาทางประตูเมืองนั้นได้พุ่งตรงไปยังบริเวณที่ม่านน้ำของเด็กนักเรียนอีกคนแผ่ออกไปไม่ถึงจริงๆ อย่างที่ไดเอน่าคาดเอาไว้ และนั่นก็ทำให้ไดเอน่าต้องรีบส่งลูกบอลสุญญากาศของเธอเข้าปะทะกับลูกระเบิดเพื่อหวังที่จะดีดมันให้กระเด็นออกไปในทันที

 

ซรุบ—

 

แต่ว่าผลงานของลูกบอลสุญญากาศนั้นก็กลับผิดไปจากที่ไดเอน่าคาดเอาไว้มากเมื่อตัวลูกบอลสุญญากาศของเธอได้ดูดลูกระเบิดไปขังเอาไว้ภายในโดยไม่ได้ดีดมันให้กระเด็นออกไปตามที่เธอคิดจนทำให้ไดเอน่าได้แต่ต้องกะพริบตาปริบๆ มองดูมันอยู่ชั่วขณะแล้วจึงลองสั่งให้ลูกบอลสุญญากาศของเธอยุบตัวลงเพื่อหวังที่ใช้แรงดันลมที่จะทะลักเข้าไปภายในบดขยี้ตัวลูกระเบิดให้มันระเบิดออกกลางอากาศแทน

 

ซู่มมมมมมม!!

 

“อ่ะ—”

 

แต่ทว่าผลที่ออกมาก็ไม่เป็นไปตามที่เธอคาดเอาไว้อีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าถึงแม้ว่าสายลมที่พุ่งเข้าไปแทนที่อาณาเขตสุญญากาศภายในลูกบอลของเธอจะดูรุนแรงมาก แต่มันก็ยังรุนแรงแค่ในระดับลมพัดกรรโชกเท่านั้นจนไม่สามารถทำลายลูกระเบิดทิ้งไปแบบที่เธอหวังเอาไว้ได้และนั่นก็ทำให้เธอได้ต้องรีบร้องเตือนเด็กนักเรียนอีกคนหนึ่งที่กำลังจับจ้องลูกระเบิดที่ลอยอยู่บนอากาศอยู่ด้วยความงงงวยว่าคุณประธานนักเรียนกำลังพยายามจะทำอะไรอยู่ในทันที

 

“รีบหลบเร็วเข้า!”

 

“ขอทางหน่อย…”

 

“—!?”

 

แต่แล้วในขณะที่ไดเอน่ากำลังจะลากตัวเด็กนักเรียนอีกคนให้กลับเข้าไปหลบอยู่ด้านในกำแพงอยู่นั้นก็ได้มีเสียงของเซซิลดังขึ้นมาจากทางขึ้นบันได และเมื่อไดเอน่าหันไปมองดูเธอก็ได้พบเข้ากับเซซิลที่กำลังจับดาบคาตานะที่ห้อยอยู่ข้างเอวด้วยท่าเตรียมพร้อมอีกทั้งถุงมือของเซซิลเองก็ยังมีแสงสีเขียวส่องสว่างจ้าออกมาเป็นสัญญาณว่าเธอกำลังคิดที่สร้างแรงลมขึ้นมาเพื่อดีดตัวเองขึ้นไปกลางอากาศเพื่อที่จะได้ฟันลูกระเบิดนั่นทิ้งไปจนทำให้ไดเอน่าจำเป็นต้องรีบร้องห้ามอีกฝ่ายเอาไว้ก่อน

 

“ด—เดี๋ยว—”

 

“เชื่อฉัน…”

 

ฟุ่บ—!!

 

เซซิลที่ถูกไดเอน่าร้องห้ามไว้ได้พูดตัดบทคุณประธานนักเรียนไปแบบไม่ไยดีพร้อมกับใช้วิซของเธอสร้างสายลมกรรโชกไปทางด้านหน้าก่อนจะพุ่งตัวตามสายลมของตัวเองขึ้นไปบนอากาศในทันที

 

ฉึบ—

 

และในจังหวะที่เซซิลพุ่งสวนผ่านลูกระเบิดที่กำลังร่วงหล่นลงมานั้นเธอก็ได้ตวัดดาบคาตานะที่มีไฟลุกโชนอยู่บนใบดาบฟันเข้าใส่ตัวลูกระเบิดจนมันขาดครึ่งในพริบตาพร้อมกับรวบรวมพลังวิซธาตุลมของเธอเข้าใส่ถุงมืออีกครั้งเพื่อที่จะได้สร้างสายลมขึ้นมาช่วยชะลอความเร็วในการร่วงหล่นของตัวเอง

 

พรึบ—

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองตัวลูกระเบิดที่ถูกฟันจนขาดครึ่งด้วยคาตานะติดไฟของเซซิลก็ได้มีประกายไฟปะทุขึ้นมาจากตรงกลางก่อนที่มันจะระเบิดออกจนกลายเป็นลูกไฟขนาดย่อมๆ บนฟากฟ้า

 

ตู้ม!!

 

“—-!?”

 

เซซิลที่คาดไม่ถึงว่าอาวุธของศัตรูจะยังสามารถทำงานได้หลังจากที่มันถูกฟันจนขาดครึ่งไปแบบนั้นได้แต่ต้องเบิ่งตาด้วยความประหลาดใจ แต่เมื่อเธอได้ลองนึกดูดีๆ แล้วเธอก็ได้พบว่าในขณะที่เธอฟันมันจนขาดครึ่งไปเมื่อสักครู่นี้เธอเองก็สัมผัสไม่ได้ว่าตัวเองได้ตัดผ่านคริสตัลวิซที่ควรจะถูกบรรจุเอาไว้ภายในของมันเพื่อกระตุ้นให้มันทำงานซะด้วยซ้ำ

 

แต่ถึงอย่างนั้นก็นับว่าเป็นโชคดีของเซซิลที่อาวุธของศัตรูได้ระเบิดออกมาหลังจากที่เธอพุ่งผ่านมันไปแล้วจนทำให้เธอไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากนักในขณะที่มันระเบิดออก ถึงแม้ว่าหลังจากนี้เธอน่าจะร่วงหล่นกระแทกพื้นจนได้รับบาดเจ็บในอีกไม่ช้าเพราะว่าตัวเธอได้ถูกแรงระเบิดอัดเข้าใส่จนหมุนเคว้งอย่างไร้การควบคุมก็ตามที

 

ซู่มมมมมมม—-หมับ!!

 

“ใครสั่งใครสอนให้เธอเอาไฟเข้าไปใกล้ของที่ระเบิดได้กันหะ!!”

 

“ด—ไดเอน่า–!?”

 

แต่ในขณะที่เซซิลกำลังพยายามพลิกตัวไปมาเพื่อทรงตัวอยู่กลางอากาศอยู่นั้น ร่างของเธอก็ถูกโอบอุ้มเอาไว้โดยไดเอน่าที่สร้างสายลมขึ้นมาเพื่อดีดตัวขึ้นกลางอากาศด้วยวิธีการเดียวกับเธอ

 

ซึ่งไดเอน่าก็ได้ใช้พลังวิซของเธอที่สามารถใช้งานได้หลากหลายวิธีเนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้งานผ่านก้อนคริสตัลวิซในการสร้างแรงลมที่ผลักขึ้นมาจากทางด้านล่างเพื่อช่วยลดความเร็วในการร่วงหล่นลง

 

โคร๊ม!!

 

“โอ๊ยๆ … โทษทีนะเซซิล พอดีว่าฉันยังไม่เคยใช้วิธีนี้ตอนกำลังแบกคนอื่นอยู่น่ะก็เลยยังกะแรงลมได้ไม่ดีสักเท่าไหร่”

 

ตู้ม!!!

 

ในขณะที่ไดเอน่ากำลังขอโทษขอโพยเซซิลที่ถึงกับกลิ้งไปกับพื้นตามแรงส่งหลังจากที่พวกเธอร่วงลงมาในหนึ่งในหลุมที่เกิดจากระเบิดของศัตรูเมื่อสักครู่นี้นั้นก็ได้มีเสียงระเบิดดังลั่นออกมาจากป่าทางเหนืออีกครั้งหนึ่งพร้อมๆ กับที่มีควันไฟพวยพุ่งออกมาห่างจากควันไฟจุดแรกไปไม่ไกลสักเท่าไหร่นัก

 

“ฟู่ว… ระเบิดไปอีกจุดนึงแล้ว แบบนี้ก็ดูท่าทางว่าหน่วยจู่โจมที่เข้าไปข้างในป่าน่าจะยังปลอดภัยดีสินะ”

 

“อื้ม…”

 

“เอาล่ะ ถ้างั้นพวกเราก็รีบกลับไปที—”

 

ตู้มมมมม!!!

 

แต่แล้วคำพูดของไดเอน่าได้ถูกกลบไปด้วยเสียงของระเบิดขนาดใหญ่ที่ดังขึ้นมาไม่ห่างไปจากหลุมระเบิดที่พวกเธอกำลังนั่งหลบอยู่มากนัก ซึ่งเมื่อไดเอน่าได้หันไปมองทางต้นเสียงเธอก็ถึงกับหน้าซีดไปในทันที เพราะว่าตรงจุดที่เกิดระเบิดขึ้นมานั้นก็คือกลางถนนที่ทอดยาวออกไปทางตะวันตกที่คอนแนลเพิ่งจะวิ่งมาบอกเธอว่าเจอกลุ่มคนน่าสงสัยเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้นั่นเอง

 

“ทุกคนมาหลบด้านหลังผมครับ!!”

 

ก่อนหน้านี้เพียงแค่ไม่กี่วินาที คอนแนลที่ได้ยินชายหนุ่มหูแมวผมสีม่วงพูดเป็นเชิงบอกลาพร้อมๆ กับที่อุปกรณ์จุดระเบิดด้วยคริสตัลวิซที่เขาห้อยไว้ตามร่างกายนับสิบอันได้ส่องแสงสว่างจ้าออกมานั้นได้รีบร้องเรียกให้ทุกคนมาหลบอยู่ทางด้านหลังโล่ของเขาในทันทีพร้อมกับรีบสร้างไอน้ำจำนวนมากขึ้นมาที่เบื้องหน้าเพื่อพยายามใช้แรงระเบิดของเขาต้านทานแรงระเบิดของชายหนุ่มหูแมวและลูกน้องที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้านี้

 

วี๊—-ฟุ๊บ—-ตู้มมมมมมมมมมมมมม!!

 

อุปกรณ์จุดระเบิดที่ชายหนุ่มหูแมวและหน่วยทหารทั้งสี่คนของเขาห้อยเอาไว้เต็มร่างกายได้ปะทุออกมาเป็นลูกไฟขนาดใหญ่ที่เผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างในระยะหลายสิบเมตรให้สูญสลายหายไปในชั่วพริบตา ในขณะที่ทางด้านพวกนากาที่ได้คอนแนลช่วยใช้โล่ระเบิดป้องกันแรงระเบิดเอาไว้เองก็ได้ปลิวกระเด็นออกห่างจากจุดเกิดระเบิดไปไกลหลายสิบเมตร

 

วิ๊ง——–

 

หลังจากที่แรงระเบิดได้สงบลงไป นากาที่ปลิวกระเด็นแถมยังหูอื้อจนแทบไม่ได้ยินเสียงอะไรก็ได้ยันตัวเองให้ลุกขึ้นมานั่งมองซ้ายมองขวาไปมาอย่างเหม่อลอยด้วยความสับสนเหมือนกับว่าสมองของเขาถูกแรงกระแทกจากแรงระเบิดจนตามสิ่งที่เกิดขึ้นกับสภาพแวดล้อมที่กลายเป็นหลุมขนาดใหญ่นับสิบเมตรไม่ทัน

 

ซึ่งนากาก็ได้นั่งมึนอยู่สักพักใหญ่ๆ ด้วยความสับสนจนกระทั่งภาพเหตุการณ์ต่างๆ เริ่มผุดกลับเข้ามาในหัวของเขา เขาจึงได้รีบหันไปหันมาเพื่อมองหาเพื่อนอัศวินที่ช่วยปกป้องพวกเขาอยู่เบื้องหน้าเมื่อสักครู่นี้ก่อนที่จะพบเข้ากับร่างของคอนแนลที่นอนกองอยู่กับพื้นห่างออกไปไม่ไกลสักเท่าไหร่นัก

 

“ค—คอนแนล!?”

 

นากาที่เห็นเพื่อนของตนนอนคว่ำหน้าอยู่กับที่ได้รีบยันตัวเองลุกขึ้นมาและวิ่งโซซัดโซเซเข้าไปดูอาการของคอนแนลในทันที ซึ่งเขาก็ได้พบว่าคอนแนลนั้นเพียงแค่หมดสติไปโดยไม่ได้มีบาดแผลอะไรร้ายแรงมากนัก

 

“เฮ้อ… ไม่ได้เป็นอะไรมากสินะ—”

 

หมับ!

 

ในขณะที่นากากำลังถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกอยู่นั้น คอเสื้อของเขาก็ถูกกระชากอย่างรุนแรงก่อนที่ร่างของเขาจะถูกจับหันเข้าไปหาเนลที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ด้วยความโกรธเกรี้ยว

 

“นายคิดบ้าอะไรของนายอยู่กันหะ!? ถ้าเกิดเมื่อกี้นี้คอนแนลวิ่งเข้ามาป้องกันให้พวกเราได้ไม่ทันล่ะก็มีหวังพวกเราได้ตายตามคนพวกนั้นไปกันหมดแล้วนะ!! แล้วถ้าเกิดนายไม่ห้ามฉันเอาไว้ตั้งแต่แรกหรือว่ายอมวิ่งหนีตามที่ฉันบอกดีๆ คอนแนลก็ไม่ต้องมาบาดเจ็บแบบนี้ไม่ใช่หรือไง!? นี่ไม่เคยมีใครสอนนายเลยหรือไงว่าเวลาที่มีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจะต้องทำตัวยังไงน่ะหะ!?”

 

“ฉ…ฉัน…”

 

นากาที่ถูกเนลตวาดใส่นั้นได้พยายามที่จะพูดแก้ตัวออกไปแต่ว่าเขาก็ไม่สามารถหาข้อแก้ต่างอะไรให้ตัวเองได้ เพราะว่าเรื่องมันก็เป็นอย่างที่เนลพูดขึ้นมาว่าถ้าเกิดเขาตัดใจยอมปล่อยให้เนลยิงชายหนุ่มหูแมวที่เขาไม่ทราบชื่อทิ้งไปหรือว่ารีบวิ่งหนีไปตั้งแต่ทีแรกที่เห็นระเบิดพวกนั้นพวกเขาก็คงจะไม่ได้รับบาดเจ็บกันอย่างนี้จริงๆ เพราะว่าในตอนที่เนลวิ่งหนีไปก่อนใครเมื่อสักครู่นี้ก่อนจะรีบวิ่งกลับมาลากตัวเขาให้ตามไปด้วยชายหนุ่มหูแมวก็ไม่มีท่าทีว่าจะวิ่งตามไปเพื่อให้เนลตกอยู่ในรัศมีระเบิดไปด้วยเลยแม้แต่น้อย

 

“ฉ…ฉันขอโทษ…”

 

“…..”

 

เนลที่เห็นว่านากาเหมือนจะเข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อได้ปล่อยมือของเขาออกจากคอเสื้อของนากาและพยายามทำใจตัวเองให้เย็นลงบ้างเพราะเขาเองก็เพิ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่าต่อให้นากาจะมีฝีมือเก่งกาจขนาดที่ว่าสามารถสอบเข้าโรงเรียนรีมินัสมาแบบพิเศษได้ก็ตาม

 

แต่ว่าเดิมทีแล้วเด็กหนุ่มผมดำเบื้องหน้าของเขาก็เป็นเพียงแค่ชาวบ้านธรรมดาจากหมู่บ้านริมขอบแผนที่ไม่ใช่เหล่าลูกขุนนางหรือว่าคนจากตระกูลอัศวินที่ถูกสั่งสอนวิธีการต่อสู้และวิธีการรักษาชีวิตของตนเองมาตั้งแต่ยังเด็กแบบพวกเขา

 

“คำขอโทษนั่นนายเก็บเอาไว้ไปบอกคอนแนลเถอะ… ส่วนตอนนี้พวกเรารีบพาคอนแนลกลับไปรักษากันก่อนดีกว่า…”

 

“อืม…”

 

นากาที่ได้ยินแบบนั้นได้แต่ต้องรีบเดินไปหยิบดาบและโล่ของคอนแนลที่ปลิวกระเด็นไปกันคนละทางขึ้นมาถือเอาไว้และเดินตามหลังเนลที่ใช้แขนข้างที่มีแผลไหม้ลากยาวเป็นทางในการช่วยพยุงคอนแนลขึ้นมาด้วยความรู้สึกผิด

 

 

“นากา! เนล! คอนแนล! พวกเธอไม่เป็นอะไรกันมากใช่มั้ย!?”

 

ในขณะที่นากาและเนลกำลังช่วยกันหิ้วแขนของคอนแนลที่ยังคงไม่ได้สติเดินไปตามถนนเพื่อกลับเข้าสู่ตัวเมืองรีมินัสอยู่นั้น พวกเขาได้ยินเสียงของไดเอน่าที่หลบภัยอยู่ในหลุมระเบิดร้องเรียกขึ้นมา ก่อนที่ทั้งไดเอน่าและเซซิลจะพากันรีบวิ่งเข้ามาช่วยพวกเขาดูอาการของคอนแนลกันในทันที

 

“เหมือนว่าคอนแนลคุงคงจะแค่หมดสติไปงั้นสินะ… ถ้างั้นพวกเธอรีบพาคอนแนลคุงเขากลับเข้าไปพักที่ด้านในกำแพงก่อนเถอะ”

 

“ครับประธาน… ไปกันเถอะนากา”

 

เนลที่ได้ยินคำสั่งของไดเอน่าได้พูดตอบเธอกลับไปแล้วจึงหันไปพยักหน้าให้กับนากาเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเขาใจเย็นลงมากแล้วก่อนที่พวกเขาจะพากันเดินไปยังกำแพงเมืองที่มีนักเรียนคนหนึ่งถือกระเป๋าพยาบาลยืนรออยู่

 

ซึ่งเด็กนักเรียนคนนั้นที่เหมือนจะเป็นหน่วยพยาบาลก็ได้รีบร้องเรียกให้เด็กนักเรียนอีกคนหนึ่งหยิบเอาเปลสีขาวออกมาจากภายในห้องพักก่อนที่พวกเขาจะสั่งให้นากาและเนลค่อยๆ วางร่างของคอนแนลลงไปบนเปลแล้วจึงพากันหิ้วคอนแนลหายเข้าไปในห้องพักกัน

 

และเมื่อไดเอน่าเห็นว่าคนเจ็บได้ถูกพาตัวไปรักษาแล้วเธอจึงได้ร้องเรียกเด็กนักเรียนคนอื่นๆ ให้มารวมตัวกันเพื่อสั่งงานอีกครั้งหนึ่ง

 

“เอาล่ะ เธอคนนั้นน่ะเดี๋ยวอยู่รอปิดประตูหลังจากที่พวกหน่วยจู่โจมกลับมาแล้วก็แล้วกันนะ แล้วถ้าเกิดว่ามีใครได้รับบาดเจ็บกลับมาก็พาพวกเขาไปให้หน่วยพยาบาลรักษาที่ด้านในห้องพักกันได้เลย ส่วนคนที่ใส่ยูนิตเอาไว้ก็ได้เวลาถอดออกกันแล้วจ้ะ อันไหนที่พังแล้วก็เอาไปกองรวมกันเอาไว้ก่อนเดี๋ยวฉันจะส่งพวกมันไปให้คุณเอริกะซ่อมแซมเอง”

 

“ครับ!! / ค่ะ!!”

 

“ท่านประธานคะ ดูเหมือนว่าตัววิทยุมันจะสามารถจับสัญญาณการสื่อสารจากทางด้านโรงเรียนได้น่ะค่ะ ท่านประธานสนใจจะลองเข้ามาฟังมั้ยคะ?”

 

“เข้าใจแล้ว ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ”

 

ไดเอน่าพยักหน้าตอบเด็กนักเรียนหญิงจากหน่วยวิทยุที่ชะโงกหน้าออกมาจากทางด้านบนกำแพงหลังจากที่เธอนำเอาวิทยุออกไปตั้งด้านนอกตามที่ถูกสั่งเอาไว้กลับไปก่อนที่ไดเอน่าจะรีบเดินหายเข้าไปในห้องพักทหารยามในทันทีโดยมีนากาที่กำลังอยู่ไม่สุขเพราะยังไม่กล้าสู้หน้าเนลและคอนแนลเดินตามหลังเธอไปด้วย

 

ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองคนปีนบันไดขึ้นไปถึงทางด้านบนกำแพงแล้วพวกเขาก็ได้พบกับเด็กนักเรียนจากหน่วยวิทยุกำลังล้อมวงฟังเสียงของเอริกะที่ดังออกมาจากตัววิทยุกันอยู่

 

“—ามร่วมมือนักเรียนอย่าเพิ่งออกมาจากจุดหลบภัยที่ทางโรงเรียนจัดเตรียมเอาไว้ให้ ตอนนี้ทางเมืองได้จัดการควบคุมความสงบเรียบร้อยเอาไว้ได้แล้ว เพราะฉะนั้นพวกเธอไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอกนะจ๊ะ—”

 

“คุณเอริกะคะ!! เมื่อกี้นี้คุณนิลิมที่ประจำการอยู่ที่หมู่บ้านโมริกะเพิ่งจะแจ้งมาว่าเจอกองกำลังทหารแบบเดียวกับเมื่อสักครู่นี้กำลังเดินทางไปที่หมู่บ้านโมริโกะ— แก้ข่าวค่ะ พวกทีเอร่าจังกับทหารรับจ้างคนอื่นๆ ก็แจ้งข่าวมาว่าพวกเขาพบกองกำลังทหารกำลังเดินทางไปที่หมู่บ้านต่างๆ แทบจะทั่วทั้งทวีปเลยค่ะ!”

 

เสียงของเอริกะที่กำลังฟังดูเหมือนว่ากำลังอยู่ในระหว่างการพูดตามประโยคที่ถูกจดเอาไว้นั้นได้ถูกแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงร้อนรนของเอริซาเบธ ซึ่งนั่นก็ทำให้เอริกะต้องรีบหันไปพูดตอบกลับไปในทันที

 

“หา— หลังจากที่ทางเมืองเพิ่งจะกระจายกองกำลังทหารไปเฝ้าจุดต่างๆ ของเมืองเนี่ยนะ!? เธอรีบติดต่อคุณเสนาธิการให้เขาเปลี่ยนแผนเดี๋ยวนี้เลย!!”

 

“อ่ะ— คุณเอริกะคะ! อุปกรณ์สื่อสารค่ะอุปกรณ์สื่อสาร!!”

 

“ว๊าย!? ตายแล้ว—!!”

 

โคร๊มคร๊าม—ปิ๊บ

 

ในทันทีที่เอริกะได้ยินคำเตือนของเอริซาเบธนั้นก็ได้เกิดเสียงโครมครามดังลั่นออกมาจากปลายสายของเครื่องสื่อสารที่ทุกคนล้อมวงฟังกันอยู่ก่อนที่สัญญาณวิทยุที่ถูกแพร่กระจายไปทั่วทั้งเมืองจะดับลงไปจนทำให้เด็กนักเรียนหญิงของหน่วยสื่อสารได้แต่ต้องลองยื่นมือไปหมุนหน้าปัดของตัววิทยุไปมาอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่เธอจะหันไปพูดรายงานผลกับไดเอน่าไป

 

“ดูเหมือนว่าคุณเอริกะจะตัดสายการสื่อสารไปแล้วล่ะค่ะ…”

 

“ท่าทางว่าทางด้านคุณเอริกะก็คงจะยุ่งจนมือพันกันเหมือนกันสินะเนี่ย… ถ้ายังไงเดี๋ยวพวกเราไปรวมตัวกันที่ด้านล่างกันก่อนก็แล้วกันจะได้ปรึกษากันว่าจะเอายังไงกันต่อดี”

 

“ค่ะ”

 

เหล่าเด็กนักเรียนหน่วยสื่อสารพยักหน้าตอบไดเอน่ากลับไปก่อนที่พวกเธอจะทยอยเดินลงไปจากทางด้านบนกำแพงเพื่อกลับไปรวมกลุ่มกับคนอื่นๆ

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองไดเอน่าก็ได้แต่ต้องชะงักเล็กน้อยเมื่อเธอได้พบว่านากาที่เดินตามเธอขึ้นมาฟังประกาศจากเอริกะด้วยกันนั้นยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

 

“นากาคุง?”

 

“ม…เมื่อกี้นี้เอริกะเขาบอกว่ามีอะไรกำลังมุ่งหน้าไปที่หมู่บ้านโมริโกะนะ…”