ตอนที่ 143 ความร้ายกาจของสตรี (1)
ในวังหลวง มั่วเซวี่ยนเฝ่ยมองไปที่กองทหารรักษาพระองค์ทั้งห้าสิบนายที่กำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเขาด้วยความประหม่า ไป๋อวิ๋นเซียนยืนอยู่ข้างๆ เขา ด้านหลังของนางมีขันทีและนางกำนัลที่ถือถาดซึ่งวางจอกสุรายาไว้ถาดละสิบจอก
“อวิ๋นเซียน เจ้าให้ข้าเรียกตัวพวกเขามาคิดจะทำอะไรอย่างนั้นหรือ” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยถามไป๋อวิ๋นเซียนออกไปด้วยความสงสัย
ไป๋อวิ๋นเซียนหรี่ตาลงอย่างอันตราย มองไปที่กองทหารรักษาพระองค์ทั้งห้าสิบนายที่กำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้านางพร้อมด้วยรอยยิ้มน่ากลัว
“แน่นอนว่าต้องเป็นเพราะข้ามีของดีจะมอบให้กับพวกเขา นี่คือสุรายาสูตรลับเฉพาะของสำนักชิงอวิ๋น มันมีสรรพคุณช่วยเร่งความเร็วในการบ่มเพาะพลังวิญญาณให้แก่ผู้ที่ดื่มมันเข้าไป ตอนนี้กองทัพรุ่ยหลินกำลังวิ่งพล่านไปทั่วเมืองหลวง กองทหารรักษาพระองค์จำเป็นต้องยกระดับของตัวเองถึงจะสามารถต่อกรและต้านทานกองทัพรุ่ยหลินได้”
มั่วเซวี่ยนเฝ่ยหันไปมองไป๋อวิ๋นเซียนอย่างครุ่นคิด เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป
ทหารจากกองทหารรักษาพระองค์ทั้งห้าสิบนาย เมื่อได้ยินคำพูดของไป๋อวิ๋นเซียนดวงตาของพวกเขาก็เบิกกว้าง ในแววตาของกลุ่มคนที่กำลังคุกเข่าอยู่ เผยความปีติยินดีออกมาอย่างปิดไม่มิด ไม่คิดเลยว่าทหารธรรมดาปลายแถวอย่างพวกตน จะมีวันได้ลิ้มลองสุรายาสูตรลับเฉพาะของสำนักชิงอวิ๋นที่ได้ชื่อว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งโอสถ ตอนที่พวกเขาถูกองค์ชายรองเรียกให้เข้าพบ หัวใจของพวกเขาต่างก็เต้นรัวด้วยความกระวนกระวาย เนื่องจากตลอดหลายวันมานี้กองทัพรุ่ยหลินปิดล้อมเมืองหลวงเอาไว้ไม่อนุญาตให้ผู้ใดเข้าออกแม้แต่คนเดียว กองทหารรักษาพระองค์ไร้กำลังจะขัดขวาง จึงได้แต่ซุกหัวอยู่ในกระดอง หลบซ่อนตัวอยู่แต่เบื้องหลังกำแพงวังอย่างเงียบๆ
ภายในวังหลวง ด้วยฮ่องเต้ทรงไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร นับจากคืนนั้นที่พระองค์ปะทะกับกองทัพรุ่ยหลินจากจวนหลินอ๋อง ก็ทรงเอาแต่กุมพระเศียรตลอดเวลาอย่างคนคิดไม่ตก กองทหารรักษาพระองค์เองก็ถูกความห้าวหาญของกองทัพรุ่ยหลินในคืนนั้นทำเอาหมดกำลังใจไร้เรี่ยวแรงจะสู้ต่อ พวกเขาไม่กล้ามีความคิดที่จะขัดแย้งกับกองทัพรุ่ยหลินที่ยิ่งใหญ่นั้นแม้แต่นิดเดียว
แต่เดิมพวกเขาคิดว่าที่องค์ชายรองเรียกพวกเขามาในวันนี้ เป็นเพราะมีภารกิจยิ่งใหญ่จะมอบให้พวกเขาไปทำ แต่ดูจากสถานการณ์ยามนี้แล้ว นี่มันขนมเปี๊ยะที่หล่นลงมาจากฟ้า[1] ชัดๆ!
ยาล้ำค่าของสำนักชิงอวิ๋นที่หลายคนใฝ่ฝัน พวกเขากลับมีโอกาสคว้ามันไว้ได้!
“พวกเจ้าทุกคนล้วนแต่เป็นยอดฝีมือชั้นนำที่ถูกคัดเลือกมาจากกองทหารรักษาพระองค์ มันเป็นหน้าที่ของพวกเจ้าที่จะต้องปกป้องอารักขาฮ่องเต้ สุรายาพวกนี้จะสามารถช่วยให้พวกเจ้าแข็งแกร่งขึ้นได้ในเวลาสั้นๆ” ไป๋อวิ๋นเซียนโบกมือไปข้างหน้า เพื่อให้บรรดานางกำนัลและขันทีประจำตำหนักส่งจอกสุราที่นางเตรียมไว้ให้กับเหล่าทหารตรงหน้า
เหล่าทหารจากกองทหารรักษาพระองค์ทั้งห้าสิบนาย ประคองจอกสุรายานั้นไว้อย่างระมัดระวัง ดวงตาทุกคู่จับจ้องไปที่จอกสุราใบเล็กในมือด้วยความกระหาย
ไป๋อวิ๋นเซียนซ่อนร่องรอยความร้ายกาจที่วาบผ่านดวงตาของตนเองไว้ พยายามปรับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสมเพชและมุ่งร้ายให้เป็นปรกติ
“ดื่มเถิดทหารกล้าทั้งหลาย หลังจากดื่มสุรายาจอกนี้ลงไปแล้ว พวกเจ้าก็จะมีพลังมากพอที่จะสามารถปกป้องฮ่องเต้ของพวกเจ้าได้!” ไป๋อวิ๋นเซียนพูดหว่านล้อมทุกคนด้วยรอยยิ้มอ่อนหวานทรงเสน่ห์
ทหารจากกองทหารรักษาพระองค์ทั้งห้าสิบนายแลกเปลี่ยนสายตากัน และยกจอกสุรายาที่อยู่ในมือขึ้นดื่มพร้อมกันในคราวเดียว สุรายาจอกนี้มีรสชาติขมฝาดแสบลิ้นยิ่งนัก ตอนที่มันไหลผ่านลำคอของพวกเขาลงไป คอของพวกเขาก็คล้ายกับถูกเผาไหม้ด้วยเปลวไฟร้อนระอุ เพียงไม่นางหลังจากที่สุรายาตกลงไปถึงท้อง พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นจากด้านใน จากนั้นร่างกายของพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ตอนนี้พวกเขารู้สึกได้เลยว่าพลังวิญญาณที่หมุนเวียนอยู่ภายในร่างกำลังปั่นป่วนเหมือนมันจะเพิ่มขึ้น ทำให้ทุกคนต่างพากันมีความสุขที่พลังของตนเองกำลังจะยกระดับขึ้น
“สกุลจวินอาศัยจังหวะที่มีโจรร้ายกำลังหลบซ่อนตัวอยู่ในเมืองหลวง ก่อความวุ่นวายให้กับชาวเมืองจนดินแดนอันแสนสงบสุขแห่งนี้เต็มไปด้วยความโกลาหล พวกเจ้าคือเหล่าทหารหาญที่ถูกเลือกมา เป็นผู้กล้าที่จะกอบกู้สถานการณ์และทำให้เมืองหลวงแห่งนี้กลับมาสงบสุขอีกครั้ง! ในคราวนี้องค์ชายรองจะมีรับสั่งให้พวกเจ้ากระจายกำลังออกไปทั่วเมืองหลวงเพื่อคอยจับตาดูกองทัพรุ่ยหลินไว้ จงจำไว้ว่าภารกิจในครั้งนี้เป็นความลับสุดยอด พวกเจ้าจะต้องซ่อนตัวไม่ให้ผู้ใดค้นพบได้เป็นอันขาด แต่ก่อนอื่นในคืนนี้องค์ชายรองและข้าได้จัดเตรียมที่พักในตำหนักแห่งนี้ไว้ให้กับพวกเจ้าเรียบร้อยแล้ว พวกเจ้าจงกลับไปพักผ่อนกันก่อน แต่อย่าลืมว่าต้องมีสมาธิในการบ่มพลังให้มาก ยิ่งพวกเจ้าขยันบ่มเพาะมากเท่าไร พวกเจ้าก็จะยิ่งมีกำลังในการต่อกรกับกองทัพรุ่ยหลินได้สูสีมากยิ่งขึ้น และเมื่อภารกิจในครั้งนี้จบลง เกียรติยศอันยิ่งใหญ่และชื่อเสียงของพวกเจ้าก็จะขจรขจายไปทั่วหล้า” ไป๋อวิ๋นเซียนปลุกความฮึกเหิมในตัวของทหารทุกคนขึ้นมาจนใบหน้าของทหารทั้งห้าสิบนายแดงก่ำด้วยความตื่นเต้น
หลังจากได้รับสุรายาชั้นเลิศของสำนักชิงอวิ๋นมาแล้ว พวกเขายังได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจสำคัญจากทางราชวงศ์อีกต่างหาก ดูเหมือนว่าช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์กำลังโบกมือเรียกหาพวกเขาแล้ว
แทบไม่มีใครสงสัยคำพูดของไป๋อวิ๋นเซียนเลยสักคนเดียว พวกเขารู้แต่ว่าในเวลานี้พวกเขามีความสุขมาก และแทบทนรอไม่ไหววิ่งเข้าไปคุกเข่าโขกศีรษะต่อหน้าไป๋อวิ๋นเซียนขอบคุณสำหรับความเมตตาในครั้งนี้ของนาง
พวกเขาไม่ได้ตระหนักเลยสักนิดว่าหลังจากวันนี้ชีวิตของพวกเขาจะเป็นเช่นไร…
“เอาล่ะ ตอนนี้พวกเจ้ากลับไปพักผ่อนได้แล้ว และอย่าลืมจัดการปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดาเสีย จงจำไว้ว่าพวกเจ้าคือความหวังของรัฐชี สถานะของพวกเจ้าจะถูกเปิดเผยไม่ได้เป็นอันขาด ความปลอดภัยและความสงบสุขของเมืองหลวง ฝากไว้ในมือของพวกเจ้าทุกคนแล้ว” ใบหน้าที่งดงามของไป๋อวิ๋นเซียนยิ้มมองพวกเขาอย่างให้กำลังใจ รอยยิ้มที่งดงามราวกับนางเซียนเยื้องย่างลงมาจากสวรรค์สะกดทุกสายตาจนลุ่มหลง ก่อนที่ทุกคนจะตื่นจากภวังค์แล้วและละล่ำละลักจากไปเพราะไอสังหารที่แผ่ออกมารอบตัวมั่วเซวี่ยนเฝ่ยด้วยความหึงหวง
ตอนที่ 144 ความร้ายกาจของสตรี (2)
หลังจากที่ทหารจากกองทหารรักษาพระองค์ออกไปจนหมด ในห้องโถงของพระตำหนักเมื่อสักครู่ก็เหลือเพียงไป๋อวิ๋นเซียนและมั่วเซวี่ยนเฝ่ยสองคน
เมื่อไม่มีคนอื่นแล้ว มั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็แสดงสีหน้าเคร่งขรึมกังวลใจออกมา เขาถามนางไปว่า “อวิ๋นเซียน เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่ สุรายาเมื่อสักครู่นี้ที่เจ้าให้ทหารของกองทหารรักษาพระองค์ดื่มเข้าไป ไม่ใช่สุราตัวเดียวกันกับที่เจ้าเตรียมไว้ใช้เล่นงานกองทัพรุ่ยหลินหรอกหรือ แต่ทำไม…เจ้าถึงใช้มันกับทหารทางฝั่งเราแทนเล่า”
ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ไป๋อวิ๋นเซียนได้แอบหลอมตัวยาบางอย่างออกมาอย่างลับๆ แม้แต่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยที่เป็นคนรู้ใจของนาง และตัวติดกับนางแทบตลอดเวลา ก็ยังไม่รู้ว่าตัวยานั้นคืออะไรและมีฤทธิ์เช่นไร แต่เขารู้ว่ามันต้องเป็นยาที่เตรียมไว้ใช้กับกองทัพรุ่ยหลินแน่ๆ
ยามนี้เมื่อตัวยานี้ที่เขามั่นใจว่ามันถูกหลอมมาเพื่อใช้เล่นงานกองทัพรุ่ยหลินลงไปอยู่ในท้องของกองทหารรักษาพระองค์ เขาก็อดตั้งคำถามขึ้นมาไม่ได้
การที่นางนำมันไปใช้กับกองทหารรักษาพระองค์ หรือว่าจะมีแผนการบางอย่างแอบแฝงอยู่
ไป๋อวิ๋นเซียนยิ้มเย็น ดวงตาหงส์อ่อนหวานบัดนี้หรี่ลงอย่างอันตรายชนิดที่ไม่ว่าใครได้เห็นก็เป็นต้องหนาวสั่น ริมฝีปากแดงขดขึ้นเล็กน้อยราวกับแมงมุมพิษที่กำลังจ้องงับเหยื่ออันโอชะ นางจ้องไปที่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยแล้วพูดว่า “สุราพวกนี้ ข้าเตรียมไว้เพื่อเล่นงานกองทัพรุ่ยหลินจริงๆ ท่านไม่จำเป็นต้องกังวลไป”
“แต่…”
“ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น! ท่านยังไม่เข้าใจอีกหรือ! ท่านคิดว่ากองทัพรุ่ยหลินเป็นกลุ่มคนงี่เง่าหรืออย่างไรที่พอบอกให้ดื่มสุราพิษลงไปพวกเขาก็ยอมดื่มแต่โดยดี?” ไป๋อวิ๋นเซียนเหลือบมองมั่วเซวี่ยนเฝ่ยราวกับกำลังเยาะเย้ยสติปัญญาอันโง่เขลาของเขา
“เม็ดยาที่ข้าให้ท่านไปก่อนหน้านี้ ท่านยังจำผลของมันได้อยู่กระมัง สิ่งที่ข้าให้ทหารจากกองทหารรักษาพระองค์ดื่มเข้าไปก็ไม่ต่างกัน เพียงแต่ตัวยาชนิดนี้จะออกฤทธิ์ช้ากว่าเท่านั้น” นางกล่าวพลางเลียริมฝีปากสีแดงสดของนางเมื่อนึกถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น
มั่วเซวี่ยนเฝ่ยสะท้านไปทั้งร่าง เขายังจำได้ดีว่าเม็ดยาที่เขาใช้กับหลินเย่ว์หยางนั้นให้ผลลัพธ์เช่นไร แต่เขาไม่ได้คาดหวังว่าไป๋อวิ๋นเซียนจะนำมันมาใช้กับทหารของกองทหารรักษาพระองค์!
“อวิ๋นเซียน เจ้าวางแผนจะใช้พวกเขาเป็นผู้เสียสละอย่างนั้นหรือ ทำไมเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้ จะนางกำนัลขันทีคนใดในวังหลวงแห่งนี้ข้าก็หามาให้เจ้าได้ทั้งนั้น แต่กองทหารรักษาพระองค์…การเอาพวกเขามาใช้เช่นนี้ เราสละมากเกินไปหน่อยหรือไม่ พวกเรายังต้องใช้พวกเขาเพื่ออารักขาความปลอดภัยอยู่นะ!”
ไป๋อวิ๋นเซียนตวัดตาจ้องมองมั่วเซวี่ยนเฝ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “ท่านจะไปรู้อะไร! สุรายาที่ข้าปรุงขึ้นมาจำเป็นต้องใช้พลังวิญญาณขับเคลื่อนถึงจะสามารถขยายวงกว้างออกไปได้เรื่อยๆ หากท่านใช้นางกำนัลและขันทีธรรมดาๆ ท่านคิดว่าพวกเขามีพลังวิญญาณเท่าไหร่กันเชียว มันไม่มากพอตามที่ข้าต้องการ เมื่อคนเหล่านั้นกระจายตัวกันไปทุกหนทุกแห่งในเมืองหลวง พิษชนิดนี้ก็จะแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงในระยะเวลาที่สั้นที่สุด!”
นางกำนัลและขันทีเป็นร้อย ก็เทียบไม่ได้กับพลังวิญญาณของทหารจากกองทหารรักษาพระองค์! คนที่แย่ที่สุดอย่างต่ำก็มีพลังวิญญาณอยู่ในขั้นสีส้มแล้ว ยิ่งระดับพลังวิญญาณของพวกเขาสูงมากเท่าไร ความหนาแน่นของพิษที่ระเหยไปในอากาศก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นและผลกระทบของพิษก็จะมากตามไปด้วย!
“อะไรนะ! นี่เจ้าต้องการให้พิษนั่นแพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงอย่างนั้นหรือ!” มั่วเซวี่ยนเฝ่ยตกตะลึงไปอย่างสมบูรณ์ เขาเซถอยหลังไปสองสามก้าวแทบประคองตัวไว้ไม่อยู่ นี่ไป๋อวิ๋นเซียนคิดจะล้างเมืองหลวงหรืออย่างไร!
นางต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ!
หรือนางไม่รู้ว่าในเมืองหลวงแห่งนี้มีประชากรอาศัยอยู่มากมายแค่ไหน!
“ไม่อย่างนั้นเล่า ท่านคิดว่านอกจากวิธีนี้แล้วยังจะมีวิธีการไหนทำให้ทหารของกองทัพรุ่ยหลินนับแสนนายที่กระจายกันอยู่ทั่วเมืองหลวงติดพิษได้อีก!
แน่นอนว่าต้องกระจายพิษออกไปให้กว้างมากที่สุดเท่าที่จะทำได้! สุรายาที่ข้าปรุงขึ้นมาใหม่นี้ จะทำให้พลังวิญญาณในร่างกายของผู้ที่ถูกพิษถูกกระตุ้นอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเมื่อพลังวิญญาณขยายไปถึงจุดสูงสุดและร่างกายไม่อาจรองรับพลังวิญญาณเข้ามาในร่างได้อีก กายเนื้อของผู้ที่ถูกพิษถึงจะค่อยๆ พองตัวขึ้นและระเบิดออกมา ยาพิษชนิดนี้จะกระจายกันเป็นทอดๆ ตราบเท่าที่ยังคงมีผู้คนสูดกลิ่นของยาพิษนี้เข้าไป การตายก็จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและพิษก็จะถูกส่งไปถึงทหารกองทัพรุ่ยหลินในที่สุด ใครก็หนีไปจากยาพิษของข้าไม่ได้ทั้งนั้น!” ดวงตาของไป๋อวิ๋นเซียนทอประกายอย่างบ้าคลั่ง รูปลักษณ์ที่ร้ายกาจนั้นไม่สอดคล้องกับภาพลักษณ์อันสูงส่งของนางอย่างสมบูรณ์ การบิดเบือนที่รุนแรงนี้ ทำให้ใบหน้าของนางดูคล้ายกับผีร้ายที่คลานออกมาจากขุมนรกก็ไม่ปาน ไม่อาจมองหาความสวยงามได้อีกต่อไป!
—————
[1] ขนมเปี๊ยะหล่นลงมาจากฟ้า อุปมาว่า ได้สิ่งที่อยากได้โดยไม่ต้องออกแรง