ในตอนที่สถาบันบาบิโลนถูกสร้างขึ้นโดยผุ้กล้าผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 11 คนนั้น พวกเขาได้สร้างแหวน 11 วงและสร้างการแข่งขันพร้อมกับมัน แหวนทั้ง 11 วงนี้จะถูกแบ่งออกไปและเก็บไว้ในสถานที่ๆ ได้รับการคุ้มครองที่แตกต่างกัน ผู้ที่ได้รับแหวนจะได้รับสิทธิพิเศษและสิทธิประโยชน์มากมาย

โดยสรุปคือผู้ที่ได้รับแหวนนั้นคือนักเรียนระดับชั้นนำซึ่งจะได้รับสิทธิ์ในการสร้างกลุ่มของตนเองอย่างเป็นทางการและมีอำนาจสูงกว่านักเรียนคนอื่นๆ แต่มันยังมีการแข่งขันลับๆ อีกอย่างหนึ่งอีก นั่นคือจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์ได้รับแหวนหนึ่งวง กฎใหม่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้กล้าผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 11 คน

เมื่อมีคผู้ครอบครองแหวนครอบทั้ง 11 วงภายในรุ่นนั้นแล้วหล่ะก็ การแข่งขันจะถูกสร้างขึ้น โดยที่ผู้ชนะที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้ายพร้อมแหวนทั้งหมดจะได้ชื่อว่าเป็นราชา/ราชินีแห่งบาบิโลน คนๆ นั้นจะถือว่าเป็นผู้ปกครองที่ไร้พ่ายในรุ่นของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย

แต่แค่นั้นจะเพียงพอสำหรับอัจฉริยะเหล่านี้ต้องต่อสู้เพื่อชัยชนะแล้วงั้นเหรอ? ไม่เลย ผู้ชนะจะได้รับสมบัติสมบัติพิเศษที่เก็บไว้ในห้องลับโดยผู้กล้าผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 11 คน สมบัติซึ่งผู้ที่ชนะแหวนทั้ง 11 วงเท่านั้นที่จะรับได้

แม้เวลาจะผ่านไปหลายพันปีหลังจากการสร้างพวกมันเป็นครั้งแรกที่แหวนทั้ง 11 วงมีเจ้าของ แต่ถึงแม้แหวนทั้ง 11 วงจะถูกนำออกไปแล้ว ก็ไม่มีการแข่งขันใดๆ เกิดขึ้น เพราะเหตุใดนั้น…

“อึก…ถ้าไม่ใช่เพราะไอ้เจ้าหัวแข็งงี่เง่านั่นไม่ยอมรับแหวนหล่ะก็ การแข่งขันคงได้เริ่มขึ้นไปแล้ว!”

แองเจลิน่าเปล่งเสียงออกมาด้วยความหงุดหงิด สาวๆ ที่เหลือเองก็มีสีหน้าแข็งกระด้างเช่นกัน ดูเหมือนพวกเธอจะเห็นด้วยกับคำพูดของแองเจลิน่า ปัจจุบันมีเด็กสาว 6 คนและเด็กหนุ่ม 5 คนที่ถือครองแหวนอยู่ แต่มีอยู่คนหนึ่งที่ปฏิเสธที่จะรับแหวน

สาวๆ เหล่านี้บางคนเลยทำได้เพียงส่ายหัวด้วยความหงุดหงิด ขณะที่พวกเธอจดจ่ออยู่กับหน้าจอก็ผ่านมา 1 ชั่วโมงแล้วตั้งแต่ที่ออเธอร์ตัวปลอมมาถึงห้องสุดท้ายและในตอนนี้เขาก็หลับไปแล้ว แต่แล้วเมื่อมีเสียงดังขึ้นก็ทำให้เขาต้องเปิดตาขึ้นมา

เขาเห็นประตูที่เปิดออกก่อนจะมีชายคนหนึ่งที่เดินเข้ามา เขามีรอยข่วนเล็กน้อยและมีเลือดบนร่างกาย เขาเดินกะโผลกกะเผลกผ่านประตูเข้ามาและในไม่ช้าข้อความก็แวบมาที่เขา เขาดื่มยาอย่างรวดเร็วด้วยยาที่มอบให้เขาเพื่อรักษา

ไม่นานหลังนั้นก็มีผู้เข้าร่วมคนใหม่ๆ ปรากฏตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง บางครั้งก็เป็นมนุษย์, ปีศาจ, วาฬ, มนุษย์สัตว์และอื่นๆ จนภายในห้องเริ่มเต็มอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาครู่หนึ่งก่อนที่คนประมาณ 150 คนจะปรากฏกันครบ 

ออเธอร์ตัวปลอมยังคงพิงกำแพงขณะที่สายตาของเขาจับจ้องไปยังเด็กชายคนหนึ่งที่อยู่อีกฟากหนึ่ง เขามีผมสีดำและดวงตาสีแดง เขาดูตื่นเต้นในระหว่างที่มองไปรอบๆ ห้องด้วยสายตามุ่งมั่น 

เขาคนนั้นคือเลโอนาร์โดนั่นเองที่กำลังยิ้มขณะมองไปรอบๆ ห้องเพื่อสำรวจคู่แข่งทุกคน

‘นั่นคือเขางั้นเหรอ?’

ดวงตาของออเธอร์ตัวปลอมเป็นประกายในตอนที่เขามองไปยังเลโอนาร์โด เขาไม่ได้ทำอะไรมากและทำเพียงมองอีกฝ่ายแค่ชั่วครู่ก่อนที่จะถอนสายตากลับมา ไม่กี่วินาทีหลังจากที่ผู้เข้าร่วมคนสุดท้ายมาถึง ข้อความใหม่ก็ปรากฏขึ้นในห้อง

[ ขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ผ่านเข้าสู่รอบที่ 3! ตอนนี้รอบที่ 4 กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว ]

[ โลกนี้ไม่ใช่ที่ๆ ง่ายสำหรับผู้อ่อนแอ มีเพียงผู้ที่มีความต้องการ, ความตั้งใจอันยิ่งใหญ่, ความแข็งแกร่ง, ความกล้าหาญและการมองการณ์ไกลอย่างมากในการก้าวไปสู่จุดสูงสุดเท่านั้นที่จะอยู่รอด ถ้าคุณไม่มีเจตจำนงเหล่านี้ คุณก็จะอยู่อย่างคนธรรมดาไปทั้งชีวิต! ]

[ ความไร้เดียงสา, ความเมตตาที่มากเกินไปและความอ่อนแอ สิ่งเหล่านั้นแหละที่จะนำคุณไปสู่ความตาย ดังนั้นลุกขึ้นมาในรอบนี้และแสดงให้โลกเห็นว่าคุณมีพลังที่ไม่ธรรมดา รอบที่สี่ ‘เจตจำนงของโลก’ เริ่มต้นขึ้นแล้ว! ]

ทันทีที่เสียงเงียบลงภายในห้องก็เริ่มสั่นไหว นักเรียนทุกคนรีบมองไปรอบๆ ห้องด้วยความมึนงง ไม่นานบริเวณด้านบนของห้องก็เปิดออกเผยให้เห็นแสงจ้า แสงนั่นจางหายไปหลังจากนั้นไม่กี่นาทีพร้อมกับที่ปรากฏฉากที่ 5 โดยมีบันไดเชื่อมลงมาสู่พื้น

บันไดเป็นสีขาวล้วนและภายในไม่กี่วินาทีพวกมันก็เชื่อมต่อกับพื้นต่อหน้าทุกคน นักเรียนทุกคนขยับไปด้านหลังขณะที่พวกเขาจับจ้องขึ้นไปบนบันได และในไม่ช้าก็มีเสียงเดิมดังขึ้นอีกครั้ง

[ ในรอบที่แล้วคุณแต่ละคนแสดงความสามารถในการปรับตัว, ความแข็งแกร่ง, ความเฉลียวฉลาด ให้พวกเราเห็นแล้ว ตอนนี้ในรอบนี้คุณจะต้องแสดงพลังใจของคุณที่จะก้าวไปข้างหน้าไม่ว่าจะพบกับปัญหาใดๆ ก็ตาม ]

[ บันไดทั้ง 5 ขั้นสุดท้ายข้างหน้าพวกคุณนั้นมาพร้อมกับแรงกดดันจากระดับจักรพรรดิ ยิ่งคุณเดินสูงเท่าไร แรงกดดันที่คุณได้รับก็จะยิ่งทำให้เส้นทางที่คุณเดินยากขึ้นเท่านั้น เฉพาะ 50 อันดับแรกที่ไปถึงบันไดได้ก่อนเท่านั้นที่จะได้ผ่านไปยังรอบสุดท้าย ]

[ ทรัพยากรและโอกาสในโลกนี้นั้นหาได้ยากนัก มีแต่คนที่ยินดีจะเหยียบย่ำผู้อื่นเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหวด้วยเจตจำนงที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ เฉพาะผู้ที่สามารถเคลื่อนไหวเพื่อคว้าโอกาสให้ตนเองเท่านั้นที่จะก้าวไปสู่จุดสูงสุด มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่ถูกเลือกให้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดและมองผู้อื่นจากเบื้องบน ]

[ จงปีนขึ้นไป! ไปให้ถึงจุดสูงสุดและมองลงมายังพวกที่อยุ่ด้านล่างของคุณ! ]

แต่ละคำที่เปล่งออกมานั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงที่กัดกินเข้าไปในหัวใจของเหล่านักเรียนที่ยืนอยู่ภายในห้อง หัวใจของพวกเขาเริ่มเต้นเร็วขึ้นพร้อมกับเลือดของพวกเขาที่เริ่มเดือดพล่าน ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นและความปรารถนาในตอนที่พวกเขามองไปยังบันไดตรงหน้า ทันทีที่เสียงเงียบลงนักเรียนทุกคนก็เริ่มวิ่งขึ้นบันไดกัน

บันไดมีขนาดใหญ่มากราวๆ 3,000 ขั้น ในไม่ช้านักเรียนก็ปีนขึ้นไปข้างบนกัน ตอนแรกที่พวกเขาเหยียบมัน พวกเขาถูกกดดันเล็กน้อย แต่ระหว่างที่พวกเขาเดินต่อไป แรงกดดันก็ยิ่งลงมาบนพวกเขามากยิ่งขึ้น

‘นี่มัน…โคตรง่าย?’

ออเธอร์ตัวปลอมคิดกับตัวเองในขณะที่เขากำลังเดินขึ้นบันได เนื่องจากพลังพิเศษจากสายเลือด แรงกดดันเช่นนี้จึงใช้ไม่ได้กับเขา ‘ออร่า’ ของเขาจะปรับตัวเองให้เข้ากับแรงกดดันเหล่านั้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้นสำหรับเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นก้าวแรกหรือก้าวสุดท้าย ต่างก็รู้สึกเหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ

‘อืมมมม นี่มันอีกระดับของการโกงแล้ว…’

โดยไม่รู้สึกอะไรออเธอร์ตัวปลอมยิ้มขณะที่เขาเดินขึ้นบันไดอย่างใจเย็นและช้าๆ ในขณะที่เขาเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ นักเรียนส่วนใหญ่ก็เดินไปข้างหน้าแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้กังวลอะไร นี่เป็นเพียงบันได 2-3 ขั้นแรกเท่านั้น เมื่อถึงจุดสิ้นสุดแล้วการจะก้าวขึ้นไปแต่ละขั้นนั้นจะยากมาก

เมื่อเขาเดินขึ้นมาจนครบ 500 ขั้นแล้ว เขาก็ยังไม่รู้สึกอะไร แต่แล้วอยู่ๆ ออเธอร์ตัวปลอมรู้สึกว่าจิตใจของตัวเองกำลังแตกสลาย ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวเท่านั้น คนอื่นๆ ก็รู้สึกเช่นเดียวกัน มันเป็นการโจมตีทางจิตใจ บางคนที่ไม่ได้เตรียมตัวก็โดนเต็มแรงจนแทบจะทำให้พวกเขาเป็นลม

นี่คือจุดเริ่มต้นของการต่อสู้ที่แท้จริง ไม่ใช่แค่ความกดดันเท่านั้นที่เป็นศัตรูของนักเรียน แต่ยังมีอุปสรรคอื่นๆ ซึ่งซ่อนเร้นอยู่อีกที่พวกเขาต้องเผชิญ นี่คือที่ๆ พวกระดับสูงและพวกค่าเฉลี่ยถูกแยกออกจากกัน

 

 

 

-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy 
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต