บทที่ 88 ฆ่าให้หมด

สุดยอดชาวประมง

บทที่ 88 ฆ่าให้หมด

“ท่านผู้นี้ นี่เป็นความแค้นระหว่างฉันกับเขา โปรดอย่าแทรกมือเข้ามา”

ฉู่เหินที่กำลังเดินออกจากถ้ำ เมื่อได้ยินแบบนี้ เขาก็เลยพูดตอบกลับ “เวร นี่ทำบ้าอะไร นี่เธอกำลังจะฆ่าฉันนะ ยังไม่ให้ฉันลงมืออีกเหรอ พูดบ้าอะไรของเธอ”แต่เพียงครู่เดียวเขาก็เข้าใจแล้วว่านางงูพิษนี่คงจะเห็นฉู่เฟิงเป็นศิษย์พี่ของเขาเสียแล้ว

“นี่นางงูพิษ ฉันว่าเธอประสาทรึเปล่า นี่เธอกำลังจะฆ่าฉันนะ ยังบอกให้พี่ชายฉันยืนดูห้ามยื่นมือช่วย นี่เป็นอะไรที่น่าขันที่สุดที่ฉันเคยได้ยินมาเลยล่ะ” ฉู่เหินพูดออกมา

หลังจากได้ยินแบบนั้น หญิงสาวก็ไม่คิดว่าชายคนนี้จะมีพี่ชายที่ดูแข็งแกร่งแบบนี้ เพราะถ้าเธอรู้ก็คงจะไม่ไปหาเรื่องเขาหรอก

“ฉู่เฟิง ฆ่าทุกคนซะ” ฉู่เหินออกคำสั่ง

แม้ฉู่เฟิงจะเป็นหุ่นเชิด หากแต่มันก็มีทักษะการต่อสู้อยู่บ้าง แถมในตอนนี้มันยังมีร่างกายเหล็กอีก กล่าวได้ว่าพละกำลังของมันในตอนนี้มากมายมหาศาลเลยทีเดียว

เขาเห็นฉู่เฟิงพุ่งไป ทันใดนั้นก็ปรากฏดาบในมือ นี่จะต้องเป็นดาบเวทมนตร์แน่ ตอนที่เขาตาย ฉู่เหินอาจจะเก็บมาไม่หมดก็เป็นได้

ดาบในมือของฉู่เฟิงนั้นงดงามและแฝงไปด้วยพลัง ความเร็วของเขาทำให้หญิงสาวและพวกของเธอต้องเตรียมรับมือด้วยท่าทางตึงเครียด

เธอออกคำสั่งแก่พรรคพวกของเธอให้จัดการมันด้วยปืนพกกว่า 100 กระบอก

ถ้าเกิดว่าฉู่เฟิงเป็นมนุษย์ธรรมดา เขาก็น่าจะตายไปแล้ว แต่ตอนนี้เขาเป็นหุ่นเชิดที่มีผิวหนังแข็งแกร่ง ดังนั้นกระสุนพวกนี้จึงทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย

ทุกคนที่ยิงปืนออกมา ได้แต่ทำหน้ามึนงง ผิวของชายคนนี้จะแข็งแกร่งเกินไปไหม? ไม่น่าจะมีใครหยุดห่ากระสุนพวกนี้ได้สิ!

ทว่า ในวินาทีต่อมาพวกเขาก็ระลึกได้ว่าชายตรงหน้านี้ไม่ใช่มนุษย์ และคิดว่าน่าจะเป็นผีหรือไม่ก็พระเจ้าเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบวิ่งหนีกันไปทันที

ช่างน่าขันยิ่งนัก ที่แม้แต่ทุกคนเองก็รักตัวกลัวตายไม่เว้นแม้แต่หญิงสาวคนนี้ด้วย ล้อเล่นน่า ไม่มีที่ไหนที่จะมีคนสู้สัตว์ประหลาดนี่ได้หรอก วิ่งหนีกันไปเซ่!

ยังไงก็แล้วแต่ ในจังหวะที่ทุกคนกำลังวิ่งหนี ฉู่เฟิงก็พุ่งเข้าไปหาพวกที่วิ่งหนีออกไปด้วยความรวดเร็วพร้อมกับดาบในมือ หัวของใครหลายคนตกลงบนพื้น ไม่มีใครสามารถหนีจากฉู่เฟิงได้เลย

ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาทีเท่านั้น ยอดฝีมือระดับปรมาจารย์ราว ๆ 100 คนรวมไปถึงหญิงสาวนักดาบเองก็ถูกฆ่าโดยฉู่เฟิงจนหมดสิ้น แต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ยังไม่เจอเม่ยซานเหนียงเลย

ถึงแม้จะผ่านไปเพียงแค่ 10 นาที หากแต่ฉู่เหินเองก็รู้สึกราวกับว่าหัวของเขาจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยง ๆ นั่นเพราะร่างกายของเขาที่ได้รับบาดเจ็บมาก่อนหน้านี้ แถมยังใช้จิตวิญญาณแยกไปควบคุมหุ่นเชิดอีก ตอนนี้เขาไม่ตายก็ดีแค่ไหนแล้ว

ฉู่เหินรู้ว่าตัวเองไม่น่าจะยื้อสติไปได้นานกว่านี้แล้ว ดังนั้นเขาจึงเรียกฉู่เฟิงมาให้แบกพาเขาลงไปจากภูเขาลูกนี้ในทันที โดยได้แต่หวังเพียงว่าจะได้พบบ้านคนก่อนที่จะสลบไป ไม่อย่างงั้นเขาอาจตกอยู่อันตรายได้

ภูเขาสูงใหญ่และชัน ทว่าฉู่เฟิงก็สามารถวิ่งได้ไม่มีปัญหา ในที่สุดสายตาของเขาก็พบเข้ากับหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงได้สั่งให้ฉู่เฟิงแบกเขาแล้ววิ่งไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากที่ฉู่เหินออกไปไม่นานนัก ก็มีคนอีก 3 คนโผล่กลับมายังที่เดิม พวกเธอไม่ใช่ใครอื่น คือเม่ยซานเหนียงและพวกอีกสองคนนั่นเอง

ชายวัยกลางคนตาแดงก่ำ เขาเห็นพี่น้องของตัวเองถูกสังหารกับตา แต่ถ้าหากให้เกลียดชายคนนั้น พวกเขาคิดว่าตนควรจะเกลียดผู้หญิงตรงหน้าคนนี้มากกว่า ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงคนนี้ พวกเขาจะมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้ยังไง

ชายสองคนมองหน้ากันเอง ก่อนที่จะยื่นมือเข้าไปทุบเม่ยซานเหนียง หญิงสาวไม่ได้คิดว่าทั้งสองคนจะโจมตีเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่ได้ระวังตัวจนได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก แต่เม่ยซานเหนียงก็ไม่ใช่ว่าจะถูกรังแกได้ง่ายขนาดนั้น

ทันทีที่ร่างของเธอถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป เธอหันหน้ากลับมา ก่อนจะใช้เข็มพิษพุ่งใส่ทั้งสองคน

เพียงชั่วอึดใจ ทั้งสองก็เริ่มน้ำลายฟูมปากและดิ้นทุรนทุรายบนพื้นจนขาดใจตาย

เม่ยซานเหนียงหอบร่างที่บาดเจ็บอย่างหนักของตัวเองแล้วบินขึ้นเพื่อกลับไปยังสำนัก แต่ระหว่างที่เธอออกจากป่านั้น เธอกลับถูกเผยตัว และนั่นทำให้คนมากมายพบเธอเข้า หลังจากนี้แน่นอนว่ามันก็กลับไปที่จุดเริ่มต้น เธอถูกไล่ล่าอีกครั้ง

นั่นทำให้เธอไม่มีทางเลือก จึงได้กระโดดลงไปในทะเลสาบเพื่อที่จะฆ่าตัวตาย และเมื่อเห็นแบบนั้นพวกที่ไล่ตามมาจึงหยุดลงและเดินจากไป แล้วไม่นานนัก เม่ยซานเหนียงก็โผล่ขึ้นมาจากน้ำ

ไม่มีใครคาดคิดว่าเม่ยซานเหนียงจะเอาชีวิตรอดในใต้น้ำนั่นได้กว่าครึ่งชั่วโมงแบบนี้ เธอว่ายน้ำหนีไปยังที่อื่นต่อ

ครั้งนี้ทุกคนที่ไล่ตามเธอมาเริ่มเรียนรู้ ทุกคนสวมหน้ากากเหมือนกันหมดเพื่อป้องกันวิชาของหญิงสาว แน่นอนว่าเธอโทษทุกอย่างแล้วโยนความผิดทุกอย่างให้ฉู่เหิน

ไม่นานนักเม่ยซานเหนียงก็กลับมายังสำนักของเธอ แล้วเริ่มการฟื้นฟูตัวเองในทันที ส่วนฉู่เหินเองก็กลับไปที่หมู่บ้านแล้ว เขาตั้งใจจะกลับไปหาครอบครัวเสียก่อน แต่ทันทีที่เขามายังหมู่บ้าน ร่างกายของเขาก็รับไม่ไหวจนหมดสติไปเสียก่อน

ฉู่เฟิงถูกควบคุมโดยเขา ดังนั้นตอนที่ฉู่เหินหมดสติ ฉู่เฟิงเองก็ไม่สามารถทำอะไรต่อได้ ร่างเหล็กนั่นถูกดึงกลับเข้าไปแหวนในทันที

ในตอนนี้ก็มีคนสามคนกำลังเดินมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ พวกเขาพบเข้ากับฉู่เหินที่สลบอยู่

หมู่บ้านฮวายซาน มีจุดเด่นสำคัญคือต้นไม้ฮวายต้นใหญ่หน้าหมู่บ้าน ตามตำนานของคนเฒ่าคนแก่ที่นี่เล่าว่าต้นไม้นี้มีอายุเกือบเท่า 100 ปีแล้ว หลายคนบอกว่าวิญญาณในต้นไม้นี่คอยปกปักรักษาหมู่บ้านอยู่ ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้มีการบูชาต้นไม้นี้กันทุกต้นและกลางเดือน

แม้ว่าต้นไม้นี่จะปกปักรักษาหมู่บ้านไม่ให้พบเจอภัยพิบัติ แต่ด้วยเทคโนโลยีของโลกยุคใหม่ หมู่บ้านชนบทแบบนี้ก็ยากที่จะเข้าถึงมัน เพราะเหตุนี้ คนที่นี่ถึงยากจน

Next