บทที่ 82 โอกาสยังมีอีกมาก

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 82 โอกาสยังมีอีกมาก

บทที่ 82 โอกาสยังมีอีกมาก

เฉินซีซียังไม่ยอมแพ้ “นั่นคือพรีเซนเตอร์ของ DORA เลยนะ แถมผู้ชนะคือฉูรั่วฮวนอีก ถ้าฉันแพ้ให้กับคนอื่น ฉันคงไม่เสียใจเท่านี้หรอก”

ในไม่ช้า ซูโย่วอี๋ก็ได้รับข้อความจากสมาชิกในทีม เรื่องผลโหวต จากนั้นเธอก็ส่งข้อความเพื่อปลอบใจสมาชิกในทีม

เวลาหกโมงเย็น การโหวตสิ้นสุดลงและกลุ่มของฉู่รั่วฮวนก็เป็นผู้ชนะ

ครั้งนี้ไม่ต้องมีทีมงานแจ้งให้ทราบ เพราะทุกคนรู้ผลแล้ว

เมื่อพวกเธอกลับไปที่เกาะ ก็เห็นสมาชิกในทีมที่อารมณ์ไม่ดี และเดินตามหลังซูโย่วอี๋ไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรสักคำ

ส่วนฉูรั่วฮวนกลับดูอิ่มเอมใจ

ด้านอวี๋ชิงจ้าวเดินแซงหน้าพวกเธอไปโดยไม่มองและชนเข้ากับฉูรั่วฮวนจนซวนเซ

“นี่!”

“ขอโทษที แต่เธอไม่ควรยืนขวางทางเดินนะ มันขวางทางคนอื่น”

อวี๋ชิงจ้าวพูดอย่างเย็นชาและใบหน้าของเธอก็ไม่แสดงออกถึงอารมณ์มากนัก ซึ่งซูโย่วอี๋ไม่สามารถบอกได้ว่าเธออารมณ์ดีหรือไม่

หลังจากที่อวี๋ชิงจ้างนั่งลงข้างหลังเธอ ซูโย่วอี๋หันกลับมาและถามด้วยเสียงแผ่วเบา “ธุระเรียบร้อยดีไหม?”

ดวงตาของอวี๋ชิงจ้าวมืดมน “อืม”

หลังจากไปที่เกาะแล้ว พวกเธอก็รอให้สมาชิกในทีมมารวมตัวกัน

“มันไม่สำคัญว่าเราจะแพ้ ไม่ใช่ว่าเราจะแพ้ไม่ได้สักหน่อย เราต้องยอมรับมันแม้ว่าเราจะแพ้ก็ตาม”

“พวกเราจะพัฒนาขึ้น เมื่อยอมรับได้ว่าคนอื่นทำได้ดีกว่า”

“ฉันแค่คิดว่าเราทำได้ดี”

“เราไม่ได้เลวร้ายไปกว่าพวกเธอเลยนะ”

ซูโย่วอี๋ยิ้ม “งั้นก็ขอให้มั่นใจ ว่าเราทำดีที่สุดแล้ว คนอื่นอาจไม่เห็น ขอแค่เรามั่นใจในตัวเอง ในสายตาของฉัน พวกเธอเก่งที่สุด”

“ในเมื่อเราเล่นกับประเด็นค่านิยม มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะเกิดข้อโต้แย้ง มันเป็นความผิดของฉันเอง ที่ไม่คิดอย่างรอบคอบในการกำหนดธีมโฆษณา ฉันจะเรียนรู้จากมัน และเอาไปปรับปรุงในครั้งต่อไป”

ได้ยินอย่างนั้นสมาชิกในทีมต่างก็โทษตัวเอง แต่พวกเธอไม่ต้องการหาใครมารับผิดชอบความล้มเหลวในครั้งนี้ เมื่อเห็นว่าหัวหน้าทีมโทษตัวเอง พวกเธอทั้งหมดจึงรีบปลอบใจซูโย่วอี๋

“ลีดเดอร์ นี่ก็เป็นการตัดสินใจของเราเหมือนกัน”

“ใช่ คุณทำได้ดีมากแล้ว”

“ไม่คุยเรื่องโฆษณาแล้ว”

“ใช่ นี่เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการถ่ายทำแล้ว จะมามัวเศร้าไม่ได้”

เฉินซีซียิ้ม “ใช่ ฉันไม่ใช่คนหม่นหมองขนาดนั้น”

อวี๋ชิงจ้าวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่พูดอะไร แต่เมื่อมองไปยังสาว ๆ ที่ให้กำลังใจกันและกันตรงหน้า เธอรู้สึกดีขึ้นอย่างอธิบายไม่ถูก

เมื่อมองไปที่สมาชิกในทีมที่ติดตามเธอไปตลอดทาง ซูโย่วอี๋ก็กล่าวว่า “อย่าทำหน้าบูดตอนประกาศผลการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ล่ะ ถึงเราจะได้ที่สอง เราก็เก่งมากแล้ว เข้าใจไหม?”

“ใช่” สมาชิกในทีมทุกคนหัวเราะ “เราเป็นทีมสาวสดใส”

ระหว่างทางกลับไปยังหอพักเฉินซีซีแอบยกนิ้วให้เธอ “พี่สาว พี่เหมือนพวกลัทธิล้างสมองมากขึ้นเรื่อย ๆ เลยนะ”

……

ในย่านคฤหาสน์สุดหรู เฟิ่งหวง

หลังจากงานหมั้น เฉินเฉินและเหอมี่มี่ได้ย้ายเข้ามาอยู่ที่นี่อย่างเป็นทางการ

ตอนนี้เฉินเฉินนอนอยู่บนเตียงในขณะที่เหอมี่มี่กำลังอาบน้ำ

เขายุ่งกับงานแต่งงานมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว และตอนนี้ก็รู้สึกเหนื่อยมากและอึดอัดเล็กน้อยกับความจู้จี้จุกจิกของเหอมี่มี่

ตอนที่เขาแต่งงานกับซูโย่วอี๋ เธอมักจะให้ความสำคัญกับเขาเสมอและทำทุกอย่างให้เขา

ไม่รู้ว่าครอบครัวของมี่มี่มีฐานะดีเกินไป หรือเพราะเธอมีอารมณ์แบบสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งอยู่แล้ว ทำให้การจัดงานหมั้นค่อนข้างจู้จี้จุกจิกในความเยอะของเธอ

ทั้งงานเลี้ยง ชุดแต่งงาน และเครื่องประดับราคาแพง แม้แต่การ์ดเชิญแขกก็ต้องออกแบบอย่างพิถีพิถัน แค่งานหมั้นอย่างเดียวก็หมดไปสามแสนแล้ว

ตอนแต่งงานกับซูโย่วอี๋ใช้เงินไปเท่าไหร่กัน?

ไม่ถึงแสน

นอกจากนี้ พ่อแม่ของอีกฝ่ายก็ไม่สะดวกที่จะพูดคุยด้วย และแสดงออกอย่างชัดเจนว่าดูถูกเขา แม้แต่แม่ของเฉินเฉินเองก็ยังเย็นชา

เฉินเฉินไม่ได้พูดอะไรในเวลานั้น แต่เขารู้สึกไม่มีความสุข

ในใจของเขาคิดว่าไม่ว่าครอบครัวฝั่งภรรยาจะร่ำรวยมาจากไหน ถ้าแต่งงานเข้าตระกูลเฉิน ก็ต้องดูแลสามีและลูกอย่างดี และเอาใจใส่เขาให้ดีที่สุด แทนที่จะพึ่งพาครอบครัวเพื่อต่อต้านเขา

เนื่องจากเป็นงานหมั้นหมาย พันธมิตรทางธุรกิจและเพื่อนหลายคนได้ส่งข้อความแสดงความยินดีมาให้อย่างล้นหลาม เฉินเฉินไล่ตอบพวกเขาทีละคน และไปเห็นข้อความจากพนักงานต้อนรับที่ส่งมา

มันเป็นลิงก์ ตามปกติเฉินเฉินจะไม่อ่านข้อความที่น่าเบื่อเหล่านี้ แต่วันนี้ไม่รู้เพราะอะไร เขาคลิกดูมันทันที

ไม่นานหน้าการลงคะแนนก็ปรากฏขึ้นมา

เฉินเฉินขมวดคิ้วและตำหนิตัวเองว่ากดมาดูทำไมถ้าเป็นไวรัสจะทำยังไง

พอกำลังจะปิดหน้านั้นก็เผลอไปกดโดนโฆษณาเข้า

ไม่กี่วินาทีต่อมา ใบหน้าอันสวยงามของซูโย่วอี๋ก็ปรากฏให้เห็น

เฉินเฉินไม่กล้ากะพริบตาเพราะกลัวว่าเขาอาจจะตาฝาดไป

ผู้หญิงคนนี้คือใคร?

ผู้หญิงที่เต้นอยู่คนนั้นคือใคร?

ผู้หญิงที่มีรอยยิ้มสดใสคือใคร?

จนกระทั่งโฆษณาจบ เฉินเฉินก็เริ่มรู้สึกตัวและเปิดคำบรรยายของโฆษณาขึ้นมาดู

ผู้สร้าง: ซูโย่วอี๋

มันคือเธอ!

เป็นเวลาเพียงหนึ่งเดือน แต่เธอกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับเขาโดยสิ้นเชิง

พูดตามตรง ถ้าเธอไม่ได้เป็นแบบนี้

เขาคงไม่วิ่งไล่ตามเธออย่างไร้ยางอายเมื่อครั้งที่เธอยังเด็ก

ชั่วขณะหนึ่ง จิตใจของเฉินเฉินสับสนมาก

เขาไม่กล้าเข้าไปดู

“เฉินเฉิน”

เหอมี่มี่ออกมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัวรอบอกของเธอ

“ช่วยเช็ดผมให้หน่อยได้ไหมคะ?”

เฉินเฉินมองหน้ามี่มี่ ที่เขาเคยคิดว่าเธอดูเหมือนซูโย่วอี๋ แต่ตอนนี้ ยิ่งเขามองเธอ ทำไมเธอกลับเหมือนซูโย่วอี๋น้อยลงเรื่อย ๆ กัน?

เฉินเฉินปิดโทรศัพท์ลงแล้วพูดว่า “ผมจะไปห้องน้ำ คุณจัดการตัวเองไปก่อนนะ”

เธอยืนนิ่งและมองไปที่แผ่นหลังของเฉินเฉินด้วยความไม่พอใจ

เช้าวันจันทร์

ทางรายการได้ประกาศอันดับของโฆษณาน้ำหอมของแต่ละทีม

เมื่อทราบผล ผู้เข้าแข่งขันต่างมองไปที่ซูโย่วอี๋และอวี๋ชิงจ้าว โดยไม่รู้ตัว และพบว่าใบหน้าของพวกเธอดูสงบนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่ในเมื่อผลออกมาเป็นแบบนี้ พวกเธอควรจะเสียใจไม่ใช่หรือไง

[ทีมงานไม่เห็นเหรอ เสื้อผ้าของซูโย่วอี๋ใหญ่เกินไป เปลี่ยนไซซ์เสื้อผ้าของเธอทีสิ]

[คนหนัก 60 กิโลกรัม ใส่เสื้อผ้าคนหนัก 90 กิโลกรัม (ฉันไม่ได้หัวเราะ)]

[ถึงจะหลวมแต่ก็สวย โย่วโย่วใส่อะไรก็สวย]

[เมื่อวันศุกร์ทำไมพี่สาวจ้าวถึงไม่มาที่นี่ล่ะ]

[ฉันก็ไม่รู้ มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า]

[โย่วโยาวไม่ต้องเสียใจ เราอยู่ที่นี่แล้ว!]

ฮันเอินจีพอใจกับผลงานของฉูรั่วฮวนในครั้งนี้มาก และดีใจยิ่งขึ้นไปอีกที่เธอเอาชนะซูโย่วอี๋ได้ “พรุ่งนี้ทีมกฎหมายและตัวแทนของ Dora จะมาเซ็นสัญญาการเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมกับคุณ ขอแสดงความยินดีที่คุณได้รับเลือกจาก Dora”

ฉูรั่วฮวน เฉียวเซิง และคนอื่น ๆ มีความสุขมากที่ได้ยินอย่างนั้น

เธอชำเลืองมองซูโย่วอี๋ที่อยู่ข้าง ๆ อย่างภาคภูมิใจแล้วพูดว่า “อย่างที่ฉันพูด คราวนี้เป็นตาของฉัน”

ซูโย่วอี๋พูดด้วยรอยยิ้ม “ไม่สำคัญว่าฉันจะแพ้หรือชนะ โอกาสยังมีอีกมาก”

จากนั้นบนหน้าจอก็แสดงการจัดอันดับความนิยมของสัปดาห์ที่แล้ว

อันดับหนึ่งคือ ซูโย่วอี๋ ด้วยคะแนน 6,823,349 คะแนน!

เมื่อมองไปที่การจัดอันดับ รอยยิ้มบนใบหน้าของฉูรั่วฮวนก็หายไปในทันที

ยกเว้นเรื่องนั้น อันดับของฉูรั่วฮวนตกจากอันดับสามไปอยู่ที่อันดับห้า และอันดับของเฉินซีซี ขึ้นมาอยู่อันดับสี่?

ล้อกันเล่นหรือไง

เธอชนะการทำโฆษณาน้ำหอมในครั้งนี้นะ

เธอใช้โอกาสจากการที่กล้องหันไปทางอื่นและมองไปที่ซูโย่วอี๋ “ทำไมเธอถึงทำตัวน่ารำคาญอยู่เสมอเลยนะ”