ตอนที่ 149 พิษ (4)
ทหารนายนั้นเดินเข้ามาหยุดอยู่ข้างโต๊ะหินในศาลาริมสระบัวด้วยฝีเท้าหนักแน่น เขาไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ทันทีที่มาหยุดอยู่เบื้องหน้าจวินอู๋เสีย เขาก็เลิกแขนเสื้อขึ้นแล้วยื่นข้อมือไปตรงหน้าจวินอู๋เสียอย่างรู้หน้าที่
นางตรวจชีพจรเขาอยู่สักพักจากนั้นก็เรียกคนต่อไปให้เข้ามา
การตรวจชีพจรให้กับทหารคุ้มกันทั้งสิบคนของกองทัพรุ่ยหลินนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ใช้เวลาไม่นานนัก หลังจากการตรวจสิ้นสุดลง สีหน้าของจวินอู๋เสียก็เย็นเยียบคล้ายกับถูกฉาบด้วยชั้นน้ำแข็งหนา
“หลงฉี ไปเรียกลุงฝูมาให้ข้า ส่วนพวกเจ้าไปรอข้าที่ห้องปรุงยาประเดี๋ยวข้าตามไป” จวินอู๋เสียพูดและลุกขึ้นยืน
“เกิดอะไรขึ้นหรือ” ปฏิกิริยาของจวินอู๋เสียทำให้มั่วเฉี่ยนยวนรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
จวินอู๋เสียตอบกลับไปอย่างเย็นชาว่า “ก็แค่กลอุบายเด็กๆ นอกจากทำให้ร่างกายระเบิดแล้ว พวกเขาไม่มีลูกเล่นอื่นจะใช้เล่นแล้วหรืออย่างไร”
มั่วเฉี่ยนยวนถูกคำพูดของจวินอู๋เสียทำให้สับสนไปหมดแล้ว การระเบิดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในเมืองหลวงเวลานี้ยังไม่เลวร้ายพออีกหรือ ไฉนพอมันออกมาจากปากของจวินอู๋เสียถึงกลายเป็น ‘กลอุบายเด็กๆ’ ไปได้เล่า นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
ไม่นาน ลุงฝูก็เดินเข้ามาในลานเรือนพักของจวินอู๋เสียแล้วถามนางด้วยน้ำเสียงสุภาพว่า “คุณหนูมีอะไรจะสั่งข้าน้อยหรือขอรับ”
“จงใช้ชื่อของท่านปู่ข้าไปกว้านซื้อสมุนไพรจากร้านขายสมุนไพรและร้านขายยาทั้งหมดในเมืองหลวงแล้วนำมาส่งให้ข้าที่จวนหลินอ๋องเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงสั่งการของจวินอู๋เสียเวลานี้เห็นได้ชัดว่าตึงเครียดและไม่อนุญาตให้มีการปฏิเสธใดๆ ลุงฝูวิญญาณหลุดออกจากร่างไปครู่หนึ่งก่อนจะได้สติกลับคืนมา เขาไม่กล้าถามซอกแซกเจ้านาย แต่รีบวิ่งออกไปจากลานเรือนพักแล้วไปจัดการตามคำสั่งของจวินอู๋เสียอย่างเคร่งครัด
กลับเป็นมั่วเฉี่ยนยวนและหลงฉีที่อยู่ข้างๆ เปิดปากถามนางไปอย่างกล้าหาญว่า
“อู๋เสีย มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่! เจ้าจะต้องการสมุนไพรมากมายเพียงนั้นไปเพื่อการใด!” มั่วเฉี่ยนยวนระงับความสงสัยไว้ไม่อยู่แล้วจริงๆ ยิ่งเมื่อได้ฟังคำสั่งเมื่อสักครู่ของจวินอู๋เสีย เขาก็ยิ่งสับสนและเริ่มสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
ดวงตาเย็นชาไร้ก้นบึ้งของจวินอู๋เสียกวาดมองไปที่ทั้งคู่และพูดว่า “มีคนกำลังวางแผนจะทำลายล้างเมืองหลวงแห่งนี้”
“ว่าอย่างไรนะ!” สีหน้าของมั่วเฉี่ยนยวนขาวซีด เขาร้องออกมาด้วยความตกใจ
“การระเบิดเหล่านั้นไม่ได้เป็นเหตุบังเอิญ มีคนจงใจวางแผนเรื่องนี้ไว้โดยใช้ร่างของคนทั้งห้าสิบคนนั้นเป็นตัวพาหะเพื่อแพร่กระจายพิษ เจ้ายังจำเรื่องของหลินเย่ว์หยางได้หรือไม่ แม้สถานการณ์ค่อนข้างจะคล้ายคลึงกัน แต่ความเร็วในการระเบิดตัวของหลินเย่ว์หยางนั้นมากกว่า และฤทธิ์ของพิษที่ส่งผลต่อผู้ที่อยู่รอบตัวเขาหลังการระเบิดนั้นก็รุนแรงยิ่งกว่า อย่างไรก็ตามผลลัพธ์สุดท้ายที่ได้รับกลับไม่แตกต่างกันมากนัก พิษตัวใหม่ที่แพร่กระจายอยู่ในเมืองหลวงขณะนี้ อาจกล่าวได้ว่าเป็นตัวยาที่ผ่านการปรับปรุงให้มีฤทธิ์ที่เป็นพิษลดน้อยลง ยืดระยะเวลาในการที่จะทำให้ผู้ที่ถูกพิษเสียสติออกไปได้นานมากขึ้น และลดผลกระทบที่มีต่อผู้ที่ได้รับพิษจากพาหะให้น้อยลงจนแทบสังเกตไม่เห็น แต่กระนั้นความน่ากลัวของมันอยู่ตรงที่กว่าที่ผู้คนจะสังเกตได้ การระเบิดตัวระลอกที่สองก็เกิดขึ้นแล้ว และเมื่อถึงเวลานั้นก็จะมีผู้ที่สูญเสียมากยิ่งขึ้น และพิษที่กระจายไปทั่วอากาศก็จะไม่สามารถควบคุมไว้ได้อีกต่อไป” จวินอู๋เสียพูดโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ นางอธิบายเรื่องทั้งหมดอย่างสงบ แต่ทุกๆ ประโยคทุกๆ คำพูดที่ดังเข้าหูของผู้ฟัง กลับทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ
ตอนนี้อย่าว่าแต่มั่วเฉี่ยนยวนที่หน้าซีดเลย แม้แต่แม่ทัพเอกแห่งกองทัพรุ่ยหลินผู้กล้าหาญอย่างหลงฉีก็ยังใบหน้าไร้สีเลือด หน้าของเขาซีดขาวไปหมดแล้วในเวลานี้
เหตุการณ์ระเบิดทั้งห้าสิบครั้งในเมืองหลวง ผู้ที่ไปถึงที่เกิดเหตุก่อนเป็นอันดับแรกล้วนแต่เป็นทหารของกองทัพรุ่ยหลินทั้งสิ้น ถ้าหากว่าพิษนี้แพร่กระจายไปโดยอาศัยละอองโลหิตและอากาศเป็นตัวนำ เช่นนั้นแสดงว่ากองทัพรุ่ยหลินที่ออกปฏิบัติการในวันนี้ทั้งหมด ทุกคนล้วนถูกวางยาพิษทั้งหมดแล้ว!
“เป็นใครกัน! มันเป็นใครที่บังอาจทำเรื่องชั่วช้าเช่นนี้! นี่มันคิดจะฆ่าประชาชนบริสุทธิ์นับแสนคนที่อยู่ในเมืองหลวงให้ตกตายไปพร้อมกันเลยใช่หรือไม่!” มั่วเฉี่ยนยวนสั่นสะท้านด้วยความโกรธ ตามที่จวินอู๋เสียว่ามา พิษตัวนี้ไร้สีไร้กลิ่นไร้รูปลักษณ์ แถมยังสามารถติดพิษและแพร่กระจายพิษได้ง่ายอีกต่างหาก เพียงแค่มีประชาชนถูกพิษแค่คนเดียว คาดเดาได้เลยว่าต่อจากนั้นมันจะกลายเป็นโศกนาฏกรรมร้ายแรงเพียงใด วันนี้มีคนห้าสิบคนถูกพิษและระเบิดร่างกายออกมา อีกสองสามวันคงได้มีประชาชนไม่น้อยกว่าหมื่นคนที่ต้องตายเพราะร่างกายระเบิด!
ผู้คนนับหมื่นคนระเบิดตัวเองตายภายในวันเดียว…วิธีการฆ่าเช่นนี้…มันช่างชวนให้หนาวเหน็บไปถึงกระดูกจริงๆ!
จวินอู๋เสียหลุบเปลือกตาลง ซ่อนแววตาที่เย็นเยียบไร้ก้นบึ้งไม่ให้ผู้ใดสังเกตเห็น
“เป้าหมายของพวกนั้นไม่ใช่พวกชาวเมืองหรอก แต่เป็นกองทัพรุ่ยหลินต่างหากที่เป็นเป้าหมายที่แท้จริงของพวกมัน หมาจนตรอกมักกัดไม่เลือก เพียงเพื่อแก้แค้นพวกมันทำได้ทุกวิถีทางจริงๆ ถึงขนาดไม่สนใจชีวิตของประชาชนตาดำๆ ไม่ยี่หระหากจะต้องเปลี่ยนเมืองหลวงแห่งนี้ให้กลายเป็นเมืองร้าง เหอะ! เพราะรู้ว่าคิดจะแตะต้องกองทัพรุ่ยหลินของข้าไม่ง่ายกระมัง ถึงได้ใช้วิธีการดึงเมืองหลวงให้ร่วมจมปลักโคลนไปด้วย เช่นนี้แล้วต่อให้กองทัพรุ่ยหลินแข็งแกร่งปานใดและพอจะป้องกันตัวเองได้ สุดท้ายก็หลีกเลี่ยงความเสียหายไม่พ้นอยู่ดี”
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าวิธีการนี้ช่างเฉียบแหลมและน่าชื่นชมมากทีเดียว แต่น่าเสียดายที่ศัตรูของพวกนั้นคือนาง!
ตอนที่ 150 อวดดีต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญ (1)
จวินอู๋เสียไม่ได้มีปฏิกิริยาใดๆ ต่อวิธีการที่โหดร้ายและชั่วช้าเช่นนี้มากนัก
แต่หมัดของมั่วเฉี่ยนยวนกลับกำแน่นจนเส้นเลือดปูดโปนด้วยความโกรธแล้ว “เป็นพวกเขาหรือ! พวกเขาบ้าไปแล้วหรืออย่างไร! นั่นมันประชาชนบริสุทธิ์นะ เจ้าพวกน่ารังเกียจนั่น ต่อหน้าแสร้งทำเป็นคนดีมีเมตตา เนื้อแท้กับโสโครกต่ำช้ายิ่งกว่าเดรัจฉานอีก”
จวินอู๋เสียเหลือบมองไปที่มั่วเฉี่ยนยวนที่กำลังโกรธด้วยแววตาเยือกเย็น สายตาที่เหมือนผิวน้ำนิ่งก่อนเกิดพายุโหมกระหน่ำกะพริบและกล่าวว่า “ฮ่องเต้กับมั่วเซวี่ยนเฝ่ยไม่มีปัญญาก่อเรื่องใหญ่โตเช่นนี้หรอก ไป๋อวิ๋นเซียนต่างหากที่ลงมือ”
ยอดเยี่ยม เช่นนี้นางก็พิสูจน์ได้แล้วว่าพิษบนร่างของหลินเย่ว์หยางน่าจะเป็นไป๋อวิ๋นเซียนที่เป็นคนปรุงมันขึ้นมา ส่วนที่ว่านางได้มอบยาพิษนี้ให้กับใคร และใครคนนั้นก็ได้นำมันไปใช้กับหลินเย่ว์หยางเพื่อนำมาเล่นงานท่านปู่ของนางต่อ ไป๋อวิ๋นเซียนมีฝีมือแค่นี้ ยังกล้าทำตัวเป็นจำอวดแสดงความสามารถต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญอย่างนาง ช่างไม่เจียมกะลาหัวตัวเองจริงๆ!
ในสายตาของจวินอู๋เสีย พิษที่ไป๋อวิ๋นเซียหลอมขึ้นมาไม่นับว่าเป็นอะไรทั้งนั้น
“สำนักชิงอวิ๋นกล้าทำเรื่องที่โหดเหี้ยมเช่นนี้ออกมาได้อย่างไร” มั่วเฉี่ยนยวนตกตะลึง
จวินอู๋เสียพูดสวนไปอย่างไม่แปลกใจสักนิด “ยากับพิษแต่เดิมก็เป็นครอบครัวเดียวกัน มีต้นกำเนิดมาจากที่เดียวกัน”
ยิ่งคนผู้นั้นมีความเชี่ยวชาญด้านการรักษามากเท่าไร ความสามารถในการใช้พิษก็จะยิ่งร้ายกาจตามไปด้วย!
“คุณหนูใหญ่ เช่นนั้นเหล่าพี่น้องในค่ายทหาร…” หลงฉีเม้มปากลงแน่น เขาไม่มีกะจิตกะใจไปสนใจเรื่องความสกปรกของราชวงศ์นั่นอีกแล้ว เขาเป็นห่วงเพียงแค่พี่น้องในกองทัพรุ่ยหลินของเขาจะเป็นอันตรายหรือไม่
“คนพวกนั้นถูกวางยาพิษแล้ว หากไม่รีบเร่งทำการถอนพิษ ไม่เกินสามวันพวกนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน” จวินอู๋เสียบอกอย่างไม่ปิดบัง
หลงฉีหน้าซีดเผือด เขากระแทกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง อ้อนวอนหญิงสาวไปว่า “คุณหนูใหญ่ได้โปรดช่วยเหลือพวกเขาด้วยขอรับ!”
“แล้วเจ้าคิดว่า ที่ข้าบอกให้พวกเขาไปรอข้าที่ห้องปรุงยาเพื่อจุดประสงค์ใดกัน” จวินอู๋เสียมองหลงฉีอย่างเย็นชา นางคิดว่าพฤติกรรมที่นางแสดงออกมันชัดเจนอยู่แล้วนะ
หลงฉีชะงักไป หลังจากได้สติ เขาก็โขกศีรษะลงกับพื้นกล่าวขอบคุณติดต่อกันหลายคำ
นับตั้งแต่ได้เป็นประจักษ์พยานในการพิสูจน์ฝีมือทางการแพทย์ของจวินอู๋เสีย ในสายตาหลงฉี ก็ไม่มีหมอคนใดในเมืองหลวงแห่งนี้อีกที่จะสามารถทัดเทียมกับจวินอู๋เสียได้
หลงฉีชื่อนางอย่างหมดใจว่าคุณหนูใหญ่ของเขาจะต้องถอนพิษให้กับเหล่าพี่น้องของเขาได้อย่างแน่นอน
“อู๋เสีย เจ้ามั่นใจแค่ไหนกับพิษชนิดนี้” มั่วเฉี่ยนยวนถามอย่างระมัดระวัง เขาไม่เคยเห็นพิษที่ทำให้คนระเบิดตัวเองมาก่อนจริงๆ ยิ่งไปกว่านั้นยาพิษนี้ยังมีต้นกำเนิดมาจากสำนักชิงอวิ๋นนั่นอีก มันจะต้องเป็นพิษที่ร้ายกาจมากแน่ๆ
จวินอู๋เสียปรายตามองมั่วเฉี่ยนยวนอย่างเสียดสี คล้ายกับจะบอกเขาว่าคำถามงี่เง่าเช่นนี้ก็ยังอุตส่าห์คิดออกมาได้
“ของเด็กเล่น นี่แหละคือคำตอบของข้า เจ้าคิดว่าอย่างไรล่ะ!”
“…” มั่วเฉี่ยนยวนพูดไม่ออก เขาตระหนักได้แล้วว่าคำถามเมื่อสักครู่ของตนนั้นไร้สมองเพียงใด เห็นได้ชัดว่าจวินอู๋เสียไม่เคยเห็นสำนักชิงอวิ๋นอยู่ในสายตา แม้แต่เหตุการณ์เม็ดยาน้ำค้างหยกเมื่อคราวก่อน ไป๋อวิ๋นเซียนถูกจวินอู๋เสียตบหน้าจนร้อนผ่าว ก็ยังไม่เห็นว่าจวินอู๋เสียจะไว้หน้าสำนักชิงอวิ๋นสักนิด มั่วเฉี่ยนยวนลูบจมูกของเขาด้วยความละอายใจที่ถามคำถามนั้นออกไป
“เช่นนั้นตามที่เจ้ากล่าวมาว่าพิษตัวนี้แพร่กระจายออกไปได้รวดเร็วมาก มีวิธีการใดหรือไม่ที่จะลดจำนวนผู้เคราะห์ร้ายให้น้อยลง เพราะจากที่ข้าดูตอนนี้ เกรงว่าคงมีผู้ที่ได้รับพิษรอบแรกจำนวนไม่น้อยแล้ว” มั่วเฉี่ยนยวนไม่กล้าเอาชีวิตของประชาชนมาเล่น ในเมื่อจวินอู๋เสียยืนยันกับเขาแล้วว่านางสามารถหลอมยาถอนพิษออกมาได้ เช่นนั้นก่อนที่ยาถอนพิษจะสำเร็จ ก่อนอื่นต้องทำการจำกัดวงของผู้ที่ถูกพิษไม่ให้ขยายตัวมากไปกว่านี้
“เจ้าวางใจเถอะ จริงอยู่ที่ว่าพิษนี้แพร่กระจายได้รวดเร็ว แต่ระยะเวลาที่มันอยู่รอดในอากาศก็สั้นมากเช่นกัน อย่างมากสุดไม่เกินหนึ่งในห้าของก้านธูปพิษที่ลอยอยู่ในอากาศจะสลายไปและไม่เป็นอันตรายใดๆ อีก” ถ้ามันสามารถคงอยู่ได้นานขนาดนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องเสียสละคนถึงห้าสิบคนเพื่อใช้เป็นพาหะหรอก
“ข้าจะเร่งหลอมยาถอนพิษให้เสร็จโดยเร็วที่สุด ตราบใดที่มีสมุนไพรเพียงพอ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้ไม่พอให้ข้าต้องใช้สมองด้วยซ้ำ” กล้าสะบัดเพลงดาบต่อหน้าเพชฌฆาต ไป๋อวิ๋นเซียนช่างหาเรื่องให้ตัวเองอับอายขายหน้าแท้ๆ
“เข้าใจแล้วขอรับ เช่นนั้นข้าน้อยจะระดมผู้ใต้บังคับบัญชาให้ไปรวบรวมสมุนไพรทั้งหมดในเมืองหลวงมาส่งให้คุณหนูเดี๋ยวนี้!” หลงฉีเอ่ยปากอย่างหนักแน่น เมื่อรู้แล้วว่าพิษเหล่านี้มุ่งเป้ามาที่กองทัพรุ่ยหลินของพวกเขา เขาจะปล่อยให้อีกฝ่ายได้ใจทำสำเร็จได้อย่างไร!
“เรื่องสมุนไพรข้ามอบให้ลุงฝูจัดการไปแล้ว ข้ามีเรื่องบางอย่างอยากจะมอบหมายให้เจ้าทำ” จวินอู๋เสียมองไปที่หลงฉี ดวงตาของนางเต็มไปด้วยเจตนาฆ่าที่แฝงเร้นซ่อนเงียบมานาน
ในเมื่อมีคนอยู่สงบไม่ได้ รีบร้อนวิ่งมารนหาที่ตาย นางก็จะสนองให้ นางไม่รังเกียจหรอกหากจะส่งพวกเขาไปลงนรกพร้อมๆ กัน!