ปังปังปังปังปังปังปังปัง!!
 

“เสียงปืนนั่นมัน— อลิซ—!?”

 

ในขณะที่อลิซเริ่มต้นเปิดฉากใช้ปืนกลที่ติดอยู่บนยูนิตเชสเชียร์ของเธอกราดยิงเข้าใส่คู่ต่อสู้นั้น ทางด้านนากาที่ได้ยินเสียงปืนที่ดังขึ้นมาอย่างต่อเนื่องอันเป็นเอกลักษณ์ของปืนกลเบาที่ทั้งอลิซและโมโกะใช้เป็นอาวุธเองก็สามารถทราบได้ในทันทีว่าทางด้านพวกเธอทั้งสองได้พบเจอกับปัญหาเข้าให้ซะแล้ว

 

แต่ว่าในชั่วพริบตาที่นากาได้ถูกเสียงปืนดึงดูดความสนใจไป เด็กสาวผมทองที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มของผู้บุกรุกก็ได้ใช้จังหวะนี้ในการเหวี่ยงไม้กระบองเหล็กติดไฟของเธอเข้าใส่นากาอย่างรวดเร็ว

 

“ยังจะมีเวลาไปห่วงคนอื่นอีกหรือไงคะพี่ชาย!!”

 

“หึ้ย!?”

 

เพล้ง!! ผลัก!!

 

“อั๊ก—!?”

 

ถึงแม้ว่านากาจะสามารถใช้โล่น้ำแข็งที่ติดอยู่บนถุงมือของเขาเข้ารับการโจมตีเอาไว้ได้ทัน แต่ว่าด้วยแรงเหวี่ยงที่รุนแรงจนไม่น่าเชื่อว่าจะถูกเหวี่ยงมาด้วยแขนเล็กๆ ของอีกฝ่ายและความร้อนของเปลวไฟที่ติดอยู่บนตัวกระบองเหล็กมันก็ได้ทำให้โล่น้ำแข็งของนากาแตกสลายกลายเป็นเสี่ยงๆ แถมยังส่งให้ตัวนากาเองปลิวกระเด็นออกไปไกลอีกด้วย

 

“ชิ…ยังหรอกหน่า!!”

 

แกร๊ก—แกร๊ก—

 

นากาที่ปลิวกระเด็นออกไปนั้นได้ปักดาบของเขาลงพื้นเพื่อใช้มันสร้างแรงต้านก่อนที่คริสตัลบนหลังถุงมือของเขาจะงอกโล่น้ำแข็งอันใหม่ออกมาอย่างรวดเร็วด้วยพลังวิซของพรีมูล่าที่ยังคงถูกส่งมาที่ถุงมือของเขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนั่นก็ทำให้เด็กสาวผมสีทองที่เห็นแบบนั้นพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

 

“หนูก็พอจะเข้าใจแล้วล่ะค่ะว่าทำไมหัวหน้าถึงสั่งว่าให้ระวังพวกกลุ่มของพวกพี่เอริกะเอาไว้น่ะ เพราะถึงฝีมือของพวกพี่ๆ จะไม่ได้เก่งไปกว่าทหารรับจ้างทั่วๆ ไปมากก็เถอะ แต่ว่าพวกพี่นี่มีของเล่นที่ดีกว่าพวกนั้นเยอะเลยนี่นา”

 

เด็กสาวผมสีทองเอ่ยปากพูดขึ้นมาพร้อมกับละสายตาไปจากโล่น้ำแข็งของนากาเพื่อมองไปยังทางด้านนิลิมที่สามารถสร้างแท่งน้ำแข็งขึ้นมาได้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยและพรีมูล่าที่ถือด้ามมีดสำหรับสร้างใบดาบน้ำแข็งเอาไว้ในมือและกำลังใช้มันพุ่งเข้าไปแทงหนึ่งในทหารที่พวกเธอกำลังต่อสู้ด้วยอยู่

 

“ย๊าาาาาา!!”

 

สวบ!!

 

“….!”

 

ป๊อก—ผลั๊ก

 

พรีมูล่าที่พุ่งเข้าไปใช้ดาบน้ำแข็งของเธอแทงใส่เข้าที่ไหล่ของนายทหารคนหนึ่งได้กระโดดถอยออกมาโดยทิ้งใบดาบน้ำแข็งของเธอเอาไว้ที่ไหล่ของคู่ต่อสู้พร้อมกับสร้างใบดาบน้ำแข็งอันใหม่ขึ้นมา ส่วนทางด้านนิลิมที่ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บที่แขนไปแล้วหนึ่งข้างแต่ก็ยังสามารถต่อสู้ได้อย่างคล่องแคล่วเองก็ได้พุ่งตัวเข้าไปเสียบแท่งน้ำแข็งปลายแหลมเข้าที่กลางลำตัวของคู่ต่อสู้ด้วยเช่นเดียวกัน

 

สวบ!!

 

“เอาล่ะ…ถ้างั้นก็เหลือแค่… อ่ะ—”

 

นิลิมที่เพิ่งจะใช้แท่งน้ำแข็งปลายแหลมเสียบเข้าใส่ทหารคนหนึ่งจนล้มลงไปนั้นได้เหลือบไปเห็นนายทหารถือหอกในชุดเครื่องแบบเปื้อนเลือดอีกคนหนึ่งกำลังเดินออกมาจากทางชายป่าเข้า ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอต้องรีบร้องสั่งพรีมูล่าออกมา

 

“เดี๋ยวเจ้านั่นแม่จัดการเอง หนูรีบไปช่วยพี่นากาจัดการเด็กคนนั้นเร็ว!”

 

“ค—ค่ะ!!”

 

พรีมูล่าที่ได้ยินคำสั่งของคุณแม่ของเธอได้ขานตอบกลับไปพร้อมกับหันปืนยาวเล็งเข้าใส่เด็กสาวผมสีทองในทันที ซึ่งนั่นก็ทำให้นากาที่ได้ยินเสียงของพรีมูล่าเหลือบไปมองทางด้านน้องสาวของเขาเล็กน้อยก่อนที่เขาจะเหวี่ยงดาบเข้าปะทะกับไม้กระบองเหล็กติดไฟของเด็กสาวผมสีทองอีกครั้งหนึ่งแล้วจึงพุ่งตัวถอยไปทางด้านหลังเพื่อเปิดโอกาสให้พรีมูล่ายิงกระสุนน้ำแข็งเข้าใส่คู่ต่อสู้

 

เคร๊ง—

 

“คิดจะหนีไปไหนหะ!!”

 

เด็กสาวผมสีทองที่เหมือนจะกำลังสนุกอยู่กับการต่อสู้ได้ร้องออกมาเสียงดังด้วยความหงุดหงิดเมื่อคู่ต่อสู้ของเธอได้ปลีกตัวถอยกลับไปอีกครั้งหนึ่งแล้วเหมือนกับว่าไม่เห็นเธออยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อยก่อนที่เธอจะรีบพุ่งตัวตามเข้าไปโจมตีใส่นากาอีกครั้งหนึ่งโดยไม่ทันสังเกตเห็นพรีมูล่าที่กำลังเล็งปืนตรงมาทางเธออยู่

 

ปั้ง! เพล้ง!!

 

“ว๊าย!?”

 

ในชั่วพริบตาที่เด็กสาวผมสีทองเผยช่องว่างออกมานั้น พรีมูล่าก็ได้ลั่นไกส่งกระสุนน้ำแข็งของเธอเข้าใส่ที่ข้อเท้าของเด็กสาวผมสีทองอย่างแม่นยำจนทำให้เด็กสาวผมสีทองได้แต่หลุดเสียงร้องด้วยความตกใจออกมา

 

แต่ถึงอย่างนั้นกระสุนน้ำแข็งของพรีมูล่าก็กลับถูกวิซที่ห่อหุ้มร่างกายของเด็กสาวผมสีทองเอาไว้ต้านทานพลังวิซธาตุน้ำแข็งของเธอจนทำให้ตัวกระสุนน้ำแข็งของพรีมูล่าละลายลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นก็ทำให้พรีมูล่าต้องรีบใช้วิซของเธอในการเปลี่ยนแอ่งน้ำเล็กๆ ที่หลงเหลืออยู่หลังจากที่ตัวกระสุนละลายลงไปให้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งที่เกาะกุมข้อเท้าของเด็กสาวผมสีทองเข้าให้แทน

 

แกร๊ก…

 

“ยิงซ้ำเลยพรีมูล่า!!”

 

“อื้อ!”

 

นากาที่เห็นว่าเด็กสาวผมสีทองได้ถูกน้ำแข็งของพรีมูล่าเกาะกุมข้อเท้าเอาไว้ได้รีบร้องสั่งน้องสาวของเขาในทันที ซึ่งนั่นก็ทำให้พรีมูล่าที่เชื่อฟังคำสั่งของพี่ชายของเธอไม่ลังเลที่จะลั่นไกส่งกระสุนอีกนัดหนึ่งเข้าที่กลางหน้าผากของเด็กสาวผมสีทองในทันที

 

ปั้ง!!

 

ฟุ๊บ—หมับ—

 

แต่ทว่าในชั่วพริบตาก่อนที่กระสุนน้ำแข็งของพรีมูล่าจะปะทะเข้าที่กลางหัวของเด็กสาวผมสีทองนั้นก็ได้มีร่างเล็กๆ ในชุดผ้าคลุมพุ่งลงมาจากฟากฟ้าพร้อมกับยื่นมือออกมาคว้าเอากระสุนน้ำแข็งของพรีมูล่าเอาไว้ได้อย่างทันท่วงที

 

“เธอยังต้องเรียนรู้อีกมากนะซัมเมอร์…”

 

“ห—หัวหน้า!?”

 

ซัมเมอร์ที่ได้พบว่าตัวเองถูกเด็กสาวในชุดผ้าคลุมโผล่มาช่วยเหลือเอาไว้อีกครั้งหนึ่งได้หลุดเสียงร้องออกมาด้วยความตกใจ แต่ว่าเด็กสาวในชุดผ้าคลุมก็กลับไม่สนใจเสียงเรียกของซัมเมอร์เลยแม้แต่น้อยพร้อมกับบีบกระสุนน้ำแข็งของพรีมูล่าจนมันแตกสลายกลายเป็นเสี่ยงๆ

 

กร๊อบ—เพล้ง!!

 

“…วิซธาตุน้ำแข็ง…งั้นหรอ…”

 

ร่างในชุดผ้าคลุมได้เอ่ยปากพูดขึ้นมาเบาๆ ก่อนที่เธอจะหันใบหน้าที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ความมืดแปลกประหลาดภายใต้ผ้าคลุมไปทางนิลิมที่กำลังรับมือกับกลุ่มทหารจำนวนหนึ่งที่เข้ามาเสริมอยู่พร้อมกับเอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

 

“ฉันก็สงสัยว่าทำไมซัมเมอร์ถึงได้ใช้เวลาจัดการกับหมู่บ้านเล็กๆ นี่นานขนาดนี้… ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเธอเองงั้นหรอนิลิม…”

 

เสียงพูดเบาๆ ที่ทุกคนสามารถได้ยินกันได้อย่างชัดเจนนั้นได้ทำให้นิลิมเบิ่งตากว้างและหันกลับมามองทางด้านต้นเสียงในทันที และเมื่อนิลิมได้พบเข้ากับร่างเล็กๆ ที่ปกปิดตัวเองอยู่ภายใต้ชุดผ้าคลุมสีดำเข้านั้นเธอก็ได้แต่ต้องรีบร้องสั่งลูกๆ ทั้งสองคนของเธอออกมาอย่างร้อนรน

 

“นั่นมัน— พวกเธอรีบหนีไปเร็ว!!”

 

“ซัมเมอร์…”

 

“หนูยังไหวอยู่ค่ะ! หัวหน้าไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงไปหรอก!!”

 

ถึงแม้ว่าสองพี่น้องจะได้ยินคำสั่งของคุณแม่ของพวกเขาเข้าไปแล้ว แต่ว่าพวกเขาก็ไม่ได้มีเวลาให้ทำตามคำสั่งเลยแม้แต่น้อย เมื่อเด็กสาวในชุดผ้าคลุมได้เอ่ยปากเรียกชื่อของเด็กสาวผมสีทองออกมาจนทำให้เด็กสาวที่ชื่อว่าซัมเมอร์รีบใช้ไม้กระบองเหล็กติดไฟทุบน้ำแข็งที่เกาะกุมข้อเท้าของเธอออกก่อนจะพุ่งเข้ามาโจมตีนากาอีกครั้งหนึ่ง

 

เคล๊ง!!

 

“หึ้ย—!?”

 

“พี่นากา!?”

 

เสียงร้องของนากานั้นได้ทำให้พรีมูล่ารีบหันกลับไปมองทางด้านเขาด้วยความตกใจ และเมื่อพรีมูล่าได้พบว่านากากำลังปะทะอาวุธอยู่กับเด็กสาวที่ชื่อว่าซัมเมอร์นั้นเธอก็ได้รีบยกปืนขึ้นมาเล็งไปทางด้านนั้นเพื่อช่วยเหลือเขาในทันที

 

ฟุ๊บ—

 

“ว๊าย—!?”

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองพรีมูล่าก็ต้องรีบสะบัดด้ามปืนของเธอเข้าใส่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมที่อยู่ๆ ก็ปรากฏร่างขึ้นมาที่ข้างตัวของเธอด้วยความตกใจ ซึ่งนั่นก็ทำให้ด้ามปืนของเธอปะทะเข้ากับใบดาบคาตานะที่พุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วจนดูเหมือนกับเส้นแสงสีเงินเข้าจังๆ

 

เก๊ง!!

 

“ม—เมื่อกี้นี้มันอะไรอ่ะ—”

 

พรีมูล่าที่สัมผัสได้ถึงแรงกระแทกที่เกิดขึ้นที่ด้ามปืนของเธอนั้นได้แต่หันซ้ายหันขวาด้วยความตกใจ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็กลับไปพบกับใครเลยแม้แต่น้อย เนื่องจากว่าร่างของเด็กสาวในชุดผ้าคลุมที่ปรากฏขึ้นมาข้างๆ ตัวของเธอเมื่อสักครู่นี้นั้นได้หายไปจากที่เดิมแล้ว

 

“พรีมูล่าข้างหลัง!!”

 

ปังปังปังปังปัง!!

 

“….!”

 

“เหวอ—!?”

 

ในขณะที่พรีมูล่ากำลังหันซ้ายหันขวาอยู่ด้วยความประหลาดใจนั้น อยู่ๆ ก็ได้มีเสียงร้องของอลิซดังขึ้นมาพร้อมๆ กับเสียงปืนชุดหนึ่งที่ถูกกราดยิงไปบริเวณด้านหลังของพรีมูล่าจนทำให้ร่างของเด็กสาวในชุดผ้าคลุมที่กำลังยืนง้างดาบอยู่ทางด้านหลังเด็กสาวผมชมพูต้องรีบพุ่งตัวเว้นระยะห่างออกไปพร้อมกับพูดพึมพำออกมาด้วยความประหลาดใจ

 

“ผู้หญิงคนนั้น…มองทันด้วยงั้นหรอ…?”

 

“พวกลูกรีบหนีไปเร็ว!! เดี๋ยวแม่ถ่วงเวลาเอาไว้ให้เอง!!”

 

ในขณะเดียวกัน ทางด้านนิลิมที่สังเกตเห็นว่าเด็กสาวในชุดผ้าคลุมเหมือนว่าจะเล็งเป้าไปที่พรีมูล่าผู้เป็นลูกสาวของเธอเองก็ได้ร้องตะโกนออกมาเสียงดังพร้อมกับแทงแท่งน้ำแข็งในแขนเสื้อของเธอเข้าใส่นายทหารที่เป็นคู่ต่อสู้ของเธอจนล้มลงไปกองกับพื้นก่อนที่เธอจะรีบพุ่งเข้าไปโจมตีใส่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมเพื่อดึงความสนใจของอีกฝ่ายมาก่อน

 

ฟุ๊บ— แกร๊ก—

 

“—!?”

 

แต่ว่าทันใดนั้นเองร่างของเด็กสาวในชุดผ้าคลุมก็ได้จางหายไปอย่างกะทันหันก่อนจะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งที่ทางฝั่งตรงข้ามของอลิซโดยมีนิลิมคั่นอยู่ที่ตรงกลางราวกับว่าเธอกำลังทดสอบอยู่ว่าอลิซจะสามารถมองตามการเคลื่อนไหวของเธอได้ทันจริงๆ อยู่หรือเปล่า ซึ่งนั่นก็ทำให้อลิซที่รีบสะบัดปืนที่ติดอยู่กับยูนิตไปทางนั้นต้องรีบยั้งปืนของเธอที่กำลังจะลั่นไกออกไปเอาไว้ก่อนในทันที

 

“คุณแม่!!”

 

ปั้ง!!

 

ในระหว่างที่อลิซและเด็กสาวในชุดผ้าคลุมกำลังจ้องมองกันอยู่อย่างเงียบๆ อยู่นั้น ทางด้านพรีมูล่าที่พบว่าเด็กสาวในชุดผ้าคลุมได้โผล่ไปที่ข้างๆ กายของคุณแม่ของเธอพร้อมกับดาบคาตานะในมือก็ได้ร้องออกมาเสียงดังพร้อมกับรีบลั่นไกปืนยาวในมือเพื่อยิงกระสุนน้ำแข็งเข้าใส่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมด้วยความรีบร้อน

 

“…….”

 

ฟุ่บ—

 

“—!!”

 

ร่างของเด็กสาวในชุดผ้าคลุมที่เห็นว่ามีกระสุนน้ำแข็งกำลังพุ่งตรงเข้ามาทางเธอนั้นได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกครั้งหนึ่งก่อนที่เธอจะปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งที่ข้างๆ ตัวพรีมูล่าโดยใช้ร่างของเด็กสาวผมชมพูขวางเอาไว้ระหว่างตัวเธอเองกับอลิซที่หันขวับมองมาทางเธออีกครั้งหนึ่งพร้อมกับปืนกลเบาทั้งสองกระบอกที่ติดอยู่กับยูนิตบนไหล่

 

“มองตามทันจริงๆ ด้วยสินะ… แต่ถ้าเป็นแบบนี้เธอจะทำยังไงล่ะ…”

 

เด็กสาวในชุดผ้าคลุมเอ่ยปากพูดขึ้นมาเบาๆ ราวกับว่าเธอกำลังเอ่ยปากพูดถามอลิซที่ยืนอยู่ห่างออกไปไกลพร้อมกับยกดาบคาตานะของเธอขึ้นมาระนาบกับพื้นเพื่อเตรียมที่จะใช้มันแทงเข้าใส่ร่างของพรีมูล่าที่ยืนอยู่เบื้องหน้า

 

“ว๊าย—!?”

 

เก๊ง!!

 

“พรีมูล่า!?”

 

ในขณะที่นากากำลังถูกเด็กสาวผมสีทองที่ชื่อว่าซัมเมอร์ลุกไล่อย่างหนักหน่วงอยู่นั้นก็ได้มีเสียงร้องด้วยความตกใจของพรีมูล่าดังขึ้นมาให้เขาได้ยินก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงของอาวุธกระทบกันที่ดังขึ้นมาอย่างรุนแรงจากจุดที่พรีมูล่าอยู่ ทำให้นากาต้องรีบผละตัวออกจากคู่ต่อสู้ของเขาเพื่อเข้าไปช่วยเหลือน้องสาวของตนในทันที

 

ซึ่งการกระทำของนากานั้นก็ได้เปิดโอกาสให้ซัมเมอร์เหวี่ยงไม้กระบองเหล็กติดไฟเข้าใส่แผ่นหลังของนากาที่เปิดโล่งเต็มแรง

 

“พี่ชายคิดจะไปไหนหะ!?”

 

ปังปังปังปังปังปัง!!

 

“—!!”

 

แต่ว่าก่อนที่กระบองเหล็กติดไฟของซัมเมอร์จะได้ถูกฟาดเข้าใส่ร่างกายของนากา เด็กสาวผู้เป็นเจ้าของกระบองเหล็กก็กลับต้องรั้งอาวุธของเธอกลับมาป้องกันตัวเองจากห่าฝนกระสุนปืนที่ถูกสาดเข้ามาจากทางด้านเด็กสาวผมสีขาวเข้าซะก่อน

 

“ไปเลยนากา!!”

 

อลิซที่สาดกระสุนจำนวนหนึ่งเพื่อสกัดซัมเมอร์เอาไว้ได้ร้องตะโกนออกมาเสียงดังก่อนที่เธอจะสาดกระสุนออกมาอีกชุดหนึ่งเพื่อถ่วงเวลาของซัมเมอร์เอาไว้ไม่ให้อีกฝ่ายวิ่งเข้าไปโจมตีนากาต่อไปได้

 

ส่วนทางด้านนิลิมเองที่เห็นว่าพรีมูล่ากำลังตกอยู่ในอันตรายก็กลับไม่สามารถปลีกตัวเข้าไปช่วยเหลือลูกสาวของเธอได้เมื่อเธอได้ถูกทหารที่เป็นลูกน้องของซัมเมอร์อีกกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมาจากชายป่าและโถมตัวเข้ามาโจมตีเธออย่างต่อเนื่องจนได้แต่ต้องปล่อยให้นากาเป็นคนวิ่งไปช่วยเหลือพรีมูล่าแทน

 

ซึ่งนั่นก็ทำให้นากาที่เห็นแบบนั้นได้ตัดสินใจที่จะออกแรงทุบโล่น้ำแข็งที่ติดอยู่กับถุงมือของเขาให้แตกกระจายออกพร้อมกับเปลี่ยนสภาพมันให้กลายเป็นถุงมือติดมีดโซ่ที่ชื่อว่าลาส เซอร์ไวเวอร์อีกครั้งหนึ่งก่อนจะยิงใบมีดสีดำไปทางเด็กสาวในชุดผ้าคลุมอย่างรวดเร็ว

 

ปั้ง—เกร๊งงงงงง—ฟุ๊บ

 

แต่ทว่าใบมีดติดโซ่ของนากาก็กลับพลาดเป้าไปเพียงแค่ฉิวเฉียดจากการที่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมเพียงแค่ขยับเท้าเล็กน้อยจนทำให้นากาที่เห็นแบบนั้นตัดสินใจที่จะสั่งให้ใบมีดสีดำของเขาปักเข้ากับอากาศเบื้องหน้าเพื่อใช้มันในการดึงตัวเองพุ่งเข้าไปโจมตีต่ออีกครั้ง

 

แกร๊ก—ครึกๆๆๆ

 

“ยังหรอกหน่า!!”

 

“เด็กดี…”

 

แต่ถึงอย่างนั้นเด็กสาวในชุดผ้าคลุมก็กลับไม่ได้มีท่าทีว่าจะสนใจนากาที่กำลังพุ่งเข้ามาโจมตีเธอเลยแม้แต่น้อยพร้อมกับเดินเข้าไปประชิดตัวพรีมูล่าอย่างช้าๆ และยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาลูบหัวของพรีมูล่าเบาๆ ด้วยท่าทีเอ็นดูจนทำให้พรีมูล่าถึงกับสะดุ้งไปเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ

 

“หยุดนะ—รีบหนีไปพรีมูล่า!!”

 

ทันใดนั้นเองนากาที่กำลังใช้มีดติดโซ่ในการดึงตัวเองเข้าไปโจมตีใส่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมก็ได้แต่ต้องร้องตะโกนออกมาด้วยความร้อนรนเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าเด็กสาวในชุดผ้าคลุมได้ยกดาบคาตานะในมืออีกข้างขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

 

ซึ่งนั่นก็ทำให้นากาที่คำนวณแล้วว่าตัวเองคงจะพุ่งเข้าไปไม่ทันแน่ๆ ได้ตัดสินใจที่จะกระชากมีดติดโซ่ของตัวเองออกมาจากมวลอากาศที่แตกร้าวจนและปล่อยให้ตัวเองไถลไปกับพื้นก่อนจะสะบัดแขนของเขาเพื่อให้ตัวใบมีดพุ่งกลับเข้ามาโจมตีใส่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมเพื่อหยุดยั้งสิ่งที่เธอคิดจะทำอยู่แทน

 

หมับ

 

แต่ว่าสิ่งที่นากาทำลงไปนั้นก็กลับไม่สามารถหยุดยั้งเด็กสาวในชุดผ้าคลุมได้เมื่ออีกฝ่ายได้สะบัดมือข้างที่ลูบหัวของพรีมูล่าอยู่ไปคว้ามีดติดโซ่ของนากาเอาไว้กลางอากาศโดยไม่จำเป็นต้องหันไปมองมันเลยซะด้วยซ้ำอีกทั้งมืออีกข้างของเธอที่ถือดาบคาตานะเอาไว้ก็ได้ขยับพุ่งตรงไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว

 

สวบ—

 

“อ—!!”

 

พรีมูล่าที่ไม่สามารถมองตามการเคลื่อนไหวอันรวดเร็วของทั้งสองคนได้ทันได้หลุดเสียงร้องออกมาเล็กน้อยเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นที่กลางอกของเธอ และเมื่อพรีมูล่าก้มลงไปมองเธอก็ได้พบกับดาบคาตานะของเด็กสาวในชุดผ้าคลุมที่เสียบแทงทะลุกลางอกของเธอไปจนแทบจะมิดทั้งด้ามก่อนที่ร่างกายของเธอเซไปทางด้านหลังและค่อยๆ ล้มไปกับพื้น

 

“พี่นากา…หนี…ไป….”

 

“ไม่ไม่ไม่ไม่!!!”

 

นากาที่ได้ยินคำพูดของพรีมูล่าได้รีบยันตัวเองขึ้นมาจากพื้นและพุ่งตัวเข้าไปหาน้องสาวของเขาในทันทีโดยไม่สนใจคำสั่งของเธอในขณะที่ทางด้านอลิซที่ได้ยินเสียงร้องของนากาเองก็ได้ชะงักไปเล็กน้อยจนทำให้ฝนกระสุนที่เธอยิงกดดันเข้าใส่ซัมเมอร์หยุดลงไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะร้องออกมาด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่อีกฝั่งหนึ่งของการต่อสู้

 

“พรีมูล่า—!!?”

 

อลิซที่เห็นพรีมูล่าล้มลงไปกับพื้นนั้นได้รีบหันกลับและใช้ไอพ่นจากพาร์ทส่วนล่างพุ่งเข้าไปเชื่อช่วยเหลือในทันที แต่ว่าก่อนที่อลิซจะขยับตัวไปไหนไกลเธอก็กลับถูกซัมเมอร์พุ่งตัวเข้ามาฟาดกระบองเหล็กติดไฟเข้าใส่ในระยะประชิดเข้าซะก่อน

 

เคล๊ง!!

 

“จะรีบไปไหนหรอพี่สาว!? เป็นคนยิงชวนหนูมาหาเองก็อยู่เล่นด้วยกันก่อนสิ!!”

 

“ไอ้เด็กเวรนี่—!!”

 

เก๊ง!!

 

อลิซที่เผลอปล่อยให้ซัมเมอร์เข้าประชิดตัวได้นั้นได้แต่ต้องรีบฟาดดาบสีขาวในมือของเธอเข้าปะทะกับกระบองเหล็กอีกฝ่ายด้วยความหงุดหงิด ในขณะที่ทางด้านนากานั้นก็ได้พุ่งตัวเข้าไปใกล้เด็กสาวในชุดผ้าคลุมพร้อมกับสะบัดดาบเปื้อนเลือดในมือของเขาเข้าใส่อีกฝ่ายเต็มแรง

 

“แก!!”

 

ฟุ๊บ—

 

“—–!?”

 

แต่ทว่าการโจมตีสุดแรงด้วยความของนากาก็กลับไม่สามารถสร้างบาดแผลให้กับเด็กสาวในชุดผ้าคลุมได้เลยแม้แต่น้อยเมื่อร่างกายของอีกฝ่ายได้เลือนหายไปอย่างกะทันหันในช่วงจังหวะที่ดาบของนากากำลังจะสัมผัสเข้ากับผ้าคลุมของเธอและปรากฏกายขึ้นอีกครั้งที่ด้านหลังของนากาพร้อมกับดาบคาตานะในมือ

 

ฟ๊าวววว!! ตึ้ง!!

 

“…..!?”

 

แต่ในขณะที่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมกำลังจะตวัดดาบคาตานะในมือเข้าใส่นากานั้น ร่างกายของเธอก็กลับเลือนหายไปอีกครั้งหนึ่งก่อนจะปรากฏขึ้นมาในบริเวณที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เมื่อจู่ๆ ก็ได้มีแท่งน้ำแข็งขนาดยักษ์ถูกส่งพุ่งตรงเข้ามา ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของนิลิมที่ดังขึ้นมาด้วยความโกรธเกรี้ยว

 

“แก—!! แกคิดว่าการที่พวกแกเป็นฝ่ายที่เคยสูญเสียแล้วจะทำอะไรกับใครก็ได้หรือยังไงกันหะ!!?”

 

นิลิมที่ถูกความโกรธแค้นเข้าครอบงำได้ตวาดออกมาด้วยความเดือดดาลพร้อมกับสะบัดแขนทั้งสองข้างของเธอที่มีผิวสีขาวซีดออกมาจากภายใต้แขนเสื้อเพื่อสร้างแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ออกมาครอบคลุมแขนทั้งสองข้างของเธอเอาไว้โดยไม่สนใจว่าแขนข้างหนึ่งของเธอจะหักงอจนผิดรูปเนื่องจากการต่อสู้กับซัมเมอร์ในตอนแรกเลยแม้แต่น้อย

 

“พวกแกทำลายความสงบสุขที่พวกฉันพยายามจะสร้าง… พวกแกฆ่าคนไปมากมายเพื่อเป้าหมายของตัวเอง… แล้วแกยัง… แล้วแกยัง… พรีมูล่าลูกสาวของฉัน….!!!”

 

ฟวับ! ฟวับ! เคล๊ง!!

 

นิลิมที่ร้องตะโกนออกมาจนเสียงแหบแห้งได้พุ่งตัวเข้าไปเหวี่ยงแท่งน้ำแข็งเข้าใส่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมอย่างรวดเร็ว แต่ว่าในครั้งนี้ร่างกายของเด็กสาวในชุดผ้าคลุมกลับไม่ได้เลือนหายไปเหมือนกับครั้งก่อนๆ และใช้ดาบคาตานะในมือของเธอเข้าปะทะกับแท่งน้ำแข็งของนิลิมราวกับว่าเธอต้องการที่จะมองดูหญิงสาวผู้สูญเสียใกล้ๆ

 

แกร๊ก—แกร๊ก—

 

ในขณะที่นิลิมกำลังเข้าไปฟาดฟันกับเด็กสาวในชุดผ้าคลุมในระยะประชิดนั้น ผิวกายขาวซีดบริเวณท่อนแขนของเธอก็ค่อยๆ แพร่กระจายลามไปตามท่อนแขนของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งพื้นหญ้าบริเวณใกล้ๆ กับจุดที่เธอกำลังต่อสู้อยู่เองก็ค่อยๆ จับตัวเป็นน้ำแข็งจากไอเย็นที่ร่างกายของเธอแผ่ออกมาและหยดน้ำแข็งเม็ดเล็กๆ ที่ร่วงหล่นออกมาจากใบหน้าของเธออย่างไม่ขาดสาย

 

“พวกแกฆ่าคนไปมากขนาดนั้น ทำลายความสงบสุขของผู้คนไปมากขนาดนี้แล้วยังจะมีหน้ามาบอกว่าที่ทำไปทั้งหมดนั่นก็เพื่อโลกใบนี้อีกหรือไง!!”

 

แกร๊ก แกร๊ก

 

ในทันทีที่สิ้นเสียงตวาดของนิลิมบนแผ่นหลังของเธอก็ได้ปรากฏแท่งน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นมาเรียงกันจนมีลักษณะคล้ายกับปีกของนกขนาดใหญ่ ซึ่งนิลิมที่ดูเหมือนว่าจะถูกความโกรธเกรี้ยวเข้าครอบงำก็ได้ใช้ปีกน้ำแข็งของเธอฟาดเข้าใส่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมอย่างรุนแรง

 

โคร๊ม—

 

“…….”

 

ถึงแม้ว่าพลังทำลายของปีกน้ำแข็งของนิลิมที่ฟาดเข้าใส่อย่างรุนแรงนั้นจะทำให้พื้นดินถึงกับสั่นสะเทือนก็ตามที แต่ว่าเด็กสาวในชุดผ้าคลุมก็กลับทำเพียงแค่ยกดาบคาตานะในมือของเธอเข้ารับมันอย่างไม่สะทกสะท้านพร้อมกับจ้องมองตรงไปยังใบหน้าของนิลิมก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมา

 

“เด็กคนนั้นสำคัญถึงขนาดทำให้เธอยอมรับร่างนั้นเลยงั้นหรอกราเซียส…?”

 

“หุบปาก!! คนอย่างแกไม่มีสิทธิที่จะเรียกฉันด้วยชื่อนั้น!!”

 

คำพูดของเด็กสาวในชุดผ้าคลุมได้ทำให้นิลิมตวาดออกมาเสียงดังก่อนที่เธอจะใช้ท่อนแขนที่กลายสภาพเป็นแท่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ไปแล้วฟาดเข้าใส่เด็กสาวในชุดผ้าคลุมอีกครั้งหนึ่ง

 

“ถ้างั้นก็แสดงให้ฉันเห็นหน่อยสิ… พลังที่พวกเธอคิดจะใช้มันในการยืนหยัดต่อไปภายในโลกที่เน่าเฟะใบนี้น่ะ…”

 

เคล๊ง!!

 

เด็กสาวในชุดผ้าคลุมเอ่ยปากพูดตอบนิลิมกลับไปด้วยน้ำเสียงอันแผ่วเบาของเธอพร้อมกับใช้ดาบคาตานะในมือปัดแท่งน้ำแข็งของนิลิมออกไปทางด้านข้างก่อนที่เธอจะพุ่งเข้าไปปะทะกับหญิงสาวผู้ใช้พลังน้ำแข็งในระยะประชิดอย่างต่อเนื่องโดยมีละอองน้ำแข็งและไอความเย็นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณราวกับว่าหญิงสาวผมชมพูต้องการที่จะแช่แข็งทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนี้เอาไว้เพื่อหยุดยั้งช่วงเวลาที่เธอกำลังจะสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไม่ให้มันดำเนินต่อไป

 

ในขณะเดียวกันทางด้านนากาที่ได้แต่จ้องมองการต่อสู้ของผู้ที่เก่งกาจกว่าเขามากโดยไม่มีโอกาสได้เข้าไปแทรกแซงเลยนั้นก็ได้ตัดสินใจที่จะวิ่งเข้าไปช่วยพยุงน้องสาวของเขาที่ถูกดาบคาตานะแทงเข้าที่กลางอกขึ้นมากอดเอาไว้พร้อมกับพยายามเขย่าตัวของพรีมูล่าให้ฟื้นคืนกลับขึ้นมา

 

“พรีมูล่า!! ตื่นสิพรีมูล่า!!”

 

“พ…พี่นากา…”

 

“—!!”

 

เสียงตอบกลับอันแผ่วเบาของพรีมูล่าได้ทำให้นากาเบิ่งตากว้างก่อนที่เขาจะลงมือฉีกเสื้อของน้องสาวของเขาออกเล็กน้อยเพื่อสำรวจดูรอยแผลที่เขาคิดว่ามันน่าจะแทงทะลุตัดขั้วหัวใจของพรีมูล่าแน่ๆ ด้วยความร้อนรนและได้พบว่าในขณะนี้บริเวณปากแผลของพรีมูล่าได้มีเกล็ดน้ำแข็งสีแดงปกคลุมเอาไว้จนทำให้เลือดของเธอไม่ได้ไหลทะลักออกมา ซึ่งนั่นก็คงจะเป็นฝีมือของนิลิมที่ถึงแม้ว่าจะดูเหมือนกำลังขาดสติและกำลังพยายามแช่แข็งทุกสิ่งทุกอย่างในบริเวณนี้แต่ก็ยังคงพยายามที่จะยื้อชีวิตของลูกสาวคนสำคัญของเธอเอาไว้นั่นเอง

 

“หนาว…จังเลยอ่ะ…พี่นากา… หนู…กำลังจะตาย…งั้นหรอ…”

 

พรีมูล่าได้เอ่ยปากพูดขึ้นมาอีกครั้งพร้อมกับพยายามขยับแขนของเธอที่หมดสิ้นเรี่ยวแรงขึ้นมาเพื่อโอบกอดพี่ชายของเธอเอาไว้เพื่อคลายความหนาวเหน็บที่เธอสัมผัสได้ แต่ว่าเธอก็กลับไม่สามารถออกแรงยกแขนขึ้นมาได้เลยแม้แต่น้อยจนได้แต่ต้องพยายามซุกหัวของเธอเข้าไปในอ้อมแขนของนากาแทน

 

“อย่าพูดแบบนั้นสิ! ที่เธอรู้สึกหนาวมันเป็นเพราะวิซของคุณแม่เขาต่างหากล่ะ!!”

 

“แหะ… โกหก…ไม่ดีนะ…”

 

“—!?”

 

คำพูดของพรีมูล่าและร่างกายของเธอที่ทิ้งน้ำหนักลงไปบนอ้อมแขนของนากามากขึ้นราวกับว่าเธอหมดสิ้นซึ่งเรี่ยวแรงที่จะพยุงตัวเองเอาไว้ได้แต่ทำให้นากาเบิ่งตากว้างด้วยความตื่นตระหนกก่อนที่เขาจะอุ้มตัวเธอขึ้นมาและรีบวิ่งตรงไปทางเข้าหมู่บ้านอันเป็นที่ตั้งของคลินิกของอารอนในทันที

 

“ไม่… ไม่… พี่จะพาเธอไปให้อารอนรักษาให้เดี๋ยวนี้แหล่ะ!! อดทนหน่อยนะพรีมูล่า!! เดี๋ยวพี่วิ่งไปแค่แป๊บเดียวก็จะถึงคลินิกของอารอนแล้ว!!”

 

“ฮะ…ฮะ… ตอนนี้….พี่อารอน…อยู่ในหมู่บ้าน….ซะที่ไหน…กันล่ะ…”

 

“—-!”

 

คำพูดของพรีมูล่าได้ทำให้นากาชะงักเท้าของตนไปในทันทีเมื่อเขานึกขึ้นมาได้ว่าถึงแม้ว่าในตอนนี้พวกเขาจะอยู่ในหมู่บ้านโมริโกะที่เคยสงบสุข แต่ว่าพวกเขากลับมาที่นี่เพียงลำพังโดยไร้ซึ่งอารอนผู้ที่เปรียบเสมือนกับพี่ใหญ่ในครอบครัวของพวกเขา

 

“นี่…พี่นากา…คิดว่า… ชาติหน้า..มีอยู่จริง…หรือเปล่า…?”

 

“ย—อย่าถามอะไรแบบนั้นสิพรีมูล่า!”

 

“ถ้าเกิดว่า… ชาติหน้ามีจริง… หนูขอ…เกิด…เป็นน้องพี่…อีกครั้ง…จะได้หรือเปล่า…”

 

“ขอร้องล่ะพรีมูล่า… หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ… เดี๋ยวเธอก็จะหายดีแล้วเพราะงั้นเรื่องชาติหน้าอะไรนั่นน่ะช่างมันไปก่อนเถอะ!!”

 

นากาที่เห็นว่าพรีมูล่ายังคงไม่ยอมหยุดพูดราวกับว่าเธอต้องการที่จะคงความดื้อของตนเองเอาไว้จนถึงวินาทีสุดท้ายได้ซุกหน้าลงไปกอดพรีมูล่าเอาไว้พร้อมกับเอ่ยปากพูดขึ้นมา ซึ่งนั่นก็ทำให้พรีมูล่าพยายามที่จะเค้นเรี่ยวแรงของเธอเพื่อยกมือขึ้นมาลูบหัวของนากาอย่างแผ่วเบาเหมือนกับที่เขาทำให้เธอเป็นประจำ

 

“พี่นากา…อย่าร้องไห้สิ… หนูชอบตอน…ที่พี่นากา…ยิ้ม…มากกว่านะ…”

 

“พรีมูล่า…”

 

“ยิ้ม…ให้หนูดู…หน่อยสิ…พี่นากา…”

 

“ฮึก…อื้อ…ได้สิ…”

 

นากาที่ได้ยินคำขอของพรีมูล่าได้ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาทิ้งไปก่อนจะส่งรอยยิ้มที่ดูฝืนทำเต็มที่กลับไปให้น้องสาวของเขาจนทำให้เธอหลุดเสียงหัวเราะเบาๆ ออกมา

 

“ฮิ…. หน้าตา…ดูไม่ได้…เลยอ่ะ……..”

 

“พรีมูล่า…?”

 

“……..”

 

“พรีมูล่าตื่นสิ… นี่… พรีมูล่า…”

 

นากาที่เห็นว่าพรีมูล่าได้เงียบเสียงลงไปได้พยายามที่จะเขย่าร่างของน้องสาวของเขาเพื่อปลุกเธอขึ้นมา แต่ถึงอย่างนั้นร่างของพรีมูล่าที่ยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้านั้นก็ยังคงนอนแน่นิ่งโดยไร้ซึ่งการตอบสนองจนทำให้นากาได้แต่ต้องซุกหน้าของเขาเข้ากับร่างของพรีมูล่าอีกครั้งและปล่อยให้น้ำตาของตนไหลรินออกมา

 

“ฮึก… พี่ขอโทษ…”

 

“ฉันคงจะบอกได้แค่ว่าถ้าเป็นไปได้ช่วงนี้นายอย่าไปทางทิศตะวันตกนั่นน่าจะดีกว่านะ… เพื่อตัวนายเองแล้วก็คนรอบตัวที่นายรักน่ะ…”

 

ในขณะที่นากากำลังโอบกอดร่างของพรีมูล่าเอาไว้และปล่อยให้น้ำตาของตนหลั่งไหลออกมาอยู่นั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของพาเทียซ์ที่คอยพูดย้ำเตือนเขาเสมอเกี่ยวกับอันตรายทางทิศตะวันตกแทบจะทุกครั้งที่พวกเขาได้พบหน้ากันในโลกแห่งจิตใต้สำนึกขึ้นมาได้

 

แต่ว่าที่ผ่านมาตัวนากาเองก็ไม่ค่อยจะให้ความสำคัญกับมันสักเท่าไหร่นักเพราะคิดว่ายังไงพวกเขาก็คงจะไม่ได้เดินทางไปทางทิศตะวันตกหรือว่ากลับมาที่หมู่บ้านในเร็วๆ นี้สักเท่าไหร่อยู่แล้วจนทำให้นากาได้แต่ต้องกัดฟันแน่นกับความประมาทของตนเองและกัดฟันพูดพึมพำออกมา

 

“พี่ขอโทษ…”