ตอนที่ 119 เพียงครึ่งทางก็จากไป

ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก

ตอนที่ 119 เพียงครึ่งทางก็จากไป

ตอนที่ 119 เพียงครึ่งทางก็จากไป

ฉินมู่หลานมองสร้อยข้อมือที่อยู่ตรงหน้าพลางยิ้มและเอ่ย “สวยมากเลย”

เมื่อเห็นฉินมู่หลานชื่นชอบ เสิ่นหรูฮวนจ้องมองเธอด้วยดวงตาส่องประกายพร้อมกับเอ่ย “มู่หลาน งั้นฉันจะช่วยใส่ให้เธอ”

“ก็ได้”

ฉินมู่หลานยิ้มพลางพยักหน้า หลังจากสวมสร้อยข้อมือแล้วก็ดูงดงามเป็นอย่างมาก

เจิ้งเต๋อข่ายอยู่ด้านหลังและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เขาเห็นว่าเสิ่นหรูฮวนซื้อสร้อยข้อมือให้กับฉินมู่หลาน แต่กลับไม่ได้ซื้อให้ซูอวี้เจี๋ย ดังนั้นใบหน้าของเขาจึงพลันน่าเกลียดเป็นอย่างมาก สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ย “หรูฮวน น้องสาวของผมก็เป็นเด็กผู้หญิง ตอนคุณ…..ซื้อ ทำไมไม่นึกถึงหล่อนบ้าง”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เสิ่นหรูฮวนพลันนิ่งงัน ภายในใจรู้สึกไม่มีความสุขเท่าไรนัก

หล่อนซื้อสร้อยข้อมือให้กับฉินมู่หลานเพราะว่าพวกเธอคือเพื่อนสนิทกัน แต่วันนี้หล่อนเพิ่งพบกับซูอวี้เจี๋ยเป็นครั้งแรก หรือตนเองควรซื้ออะไรให้หล่อนงั้นเหรอ

ซูอวี้เจี๋ยย่อมได้ยินคำพูดของเจิ้งเต๋อข่าย จึงแอบชำเลืองมองเสิ่นหรูฮวน จากนั้นรีบดึงแขนเสื้อของเจิ้งเต๋อข่ายพร้อมกับเอ่ย “พี่คะ พี่อย่าพูดแบบนี้ ฉันกับสหายเสิ่นเพิ่งเจอกันครั้งแรก จะให้หล่อนซื้อของให้กับฉันได้อย่างไร”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ

เจิ้งเต๋อข่ายสงบอารมณ์ลงเล็กน้อย แต่ยังรู้สึกว่าเสิ่นหรูฮวนทำไม่ถูกต้อง เขาบอกว่าแล้วซูอวี้เจี๋ยคือลูกพี่ลูกน้องของตนเอง แต่หล่อนกลับไม่ต้องการสนิทสนมกับอีกฝ่ย นี่ดูเหมือนเป็นการดูถูกญาติของตนหรือเปล่า

เสิ่นหรูฮวนขมวดคิ้วจ้องมองเจิ้งเต๋อข่ายและซูอวี้เจี๋ย ฉับพลันก็รู้สึกว่าเจิ้งเต๋อข่ายในวันนี้แตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่เคยพบเจอ ก่อนหน้านี้เมื่อเจิ้งเต๋อข่ายพบกับตนเอง เขามักจะระมัดระวังและคอยเอาใจอยู่เสมอ แต่วันนี้กลับกล้าหาญเป็นอย่างมาก ส่วนลูกพี่ลูกน้องของเขาก็มีท่าทางที่ทำให้ผู้คนรู้สึกไม่ชอบ หล่อนมักจะแสดงท่าทางอ่อนแอไม่สามารถดูแลตัวเองได้เหมือนกับว่าพวกเธอกำลังรังแกหล่อนอยู่อย่างไรอย่างนั้น

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เสิ่นหรูฮวนพลันขมวดคิ้วและกล่าว “ใช่แล้ว พวกเราเพิ่งเจอกันครั้งแรก ให้คนอื่นซื้อของให้หล่อนคงไม่ดีเท่าไรหรอกนะ หล่อนคือลูกพี่ลูกน้องของคุณ ไม่ใช่ลูกพี่ลูกน้องของฉัน”

“คุณ……หลังจากพวกเราแต่งงานกันแล้ว ไม่ใช่ว่าเธอก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของคุณหรอกเหรอ”

เสิ่นหรูฮวน “……”

ฉินมู่หลานอยู่ด้านข้างและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด อดไม่ได้ที่จะสงสัยวิสัยทัศน์ของคู่สามีภรรยาเสิ่นเจิ้นหนิง การที่เจิ้งเต๋อข่ายไม่เอ่ยถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับซูอวี้เจี๋ย ทำใพฤติกรรมนี้ค่อนข้างมีปัญหาเล็กน้อย

“หรูฮวน พวกเราไปดูด้านหน้ากันเถอะ”

ฉินมู่หลานดึงเสิ่นหรูฮวนเดินไปยังด้านหน้าและไม่คิดจะสนใจเจิ้งเต๋อข่ายกับซูอวี้เจี๋ย

เซี่ยเจ๋อหลี่ย่อมเดินตามไปในทันใดและคอยสังเกตสถานการณ์รอบตัวของฉินมู่หลาน

เมื่อเห็นทั้งสามคนเดินไปด้านหน้า สีหน้าของเจิ้งเต๋อข่ายพลันมืดมน

ซูอวี้เจี๋ยรีบหันศีรษะมองเจิ้งเต๋อข่ายและเอ่ย “พี่ข่าย ดูเหมือนว่าสหายเสิ่นจะโกรธแล้วล่ะ คุณรีบตามไปดูเถอะ”

“ผมไม่ไป”

เจิ้งเต๋อข่ายเอ่ยปฏิเสธโดยไม่คิด

“แต่ว่า……ตระกูลเสิ่นมีอำนาจขนาดนั้น ครอบครัวของพวกคุณทั้งสองคนกำลังจะปรองดองกัน คุณทำให้สหายเสิ่นโกรธไม่ได้นะ”

อย่างไรก็ตาม เจิ้งเต๋อข่ายกลับหัวเราะเย้ยหยันและกล่าว “เสิ่นหรูฮวนโกรธแล้วอย่างไร นอกจากจะแต่งกับผมแล้วหล่อนยังจะแต่งกับใครได้อีก ฮึ……คิดจริงๆเหรอว่าผมมีความสุขมากที่ได้แต่งงานกับหล่อน”

“พี่ข่าย ตระกูลเสิ่นร่ำรวยและมีอำนาจขนาดนั้น คุณยังไม่มีความสุขอีกเหรอ”โนเวลพีดีเอฟ

“คุณจะรู้อะไร เสิ่นหรูฮวนหล่อน……”

เมื่อเอ่ยถึงประโยคสุดท้าย เจิ้งเต๋อข่ายพลันหยุดพูดอย่างรวดเร็ว จากนั้นพาซูอวี้เจี๋ยไปซื้อสร้อยข้อมือเส้นหนึ่ง “อวี้เจี๋ย ในเมื่อเสิ่นหรูฮวนไม่ซื้อ งั้นผมซื้อให้คุณก็แล้วกัน”

ซูอวี้เจี๋ยมองดูสร้อยข้อมือที่ส่องสว่างพร่างพราวอยู่บนข้อมือของตนด้วยแววตาครุ่นคิดลึกซึ้ง

เดิมทีเจิ้งเต๋อข่ายให้ความสำคัญกับการแต่งงานครั้งนี้เป็นอย่างมากและต้องการแต่งงานกับเสิ่นหรูฮวนโดยเร็ว แต่ตอนนี้ราวกับว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ดูท่าทางตอนนี้ของเจิ้งเต๋อข่ายน่าจะยังต้องการแต่งงานกับเสิ่นหรูฮวนอยู่ แต่กลับไม่ได้กระตือรือร้นเท่าตอนแรก ไม่รู้ว่าช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น

อีกด้านหนึ่ง ฉินมู่หลานจับมือเสิ่นหรูฮวนพลางเอ่ยถามถึงธรรมเนียมการขึ้นปีใหม่ของเมืองหลวง

เดิมทีเสิ่นหรูฮวนรู้สึกไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรนัก แต่ในไม่ช้าก็กลับมามีความสุขอีกครั้ง พูดกับฉินมู่หลานเกี่ยวกับความครึกครื้นของวันขึ้นปีใหม่ภายในเมืองหลวงและยังเล่าเรื่องน่าสนใจมากมายเกี่ยวกับอดีตของหล่อน

เมื่อฉินมู่หลานเห็นรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเสิ่นหรูฮวน เธอเองก็พลอยยิ้มตามเช่นกัน จากนั้นเธอหันมองด้านหลังและพบว่าเจิ้งเต๋อข่ายกับซูอวี้เจี๋ยไม่ได้เดินตามมา

“หรูฮวน คู่หมั้นของเธอและลูกพี่ลูกน้องของเขาไม่ได้ตามมา”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นหรูฮวนเองก็มองไปด้านหลังเช่นกัน

ขณะนี้หล่อนไม่สามารถอธิบายความรู้สึกของตนเองได้ แต่ยังคงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย “ช่างเถอะ เดิมทีวันนี้ฉันเองก็วางแผนจะมาเดินเที่ยวกับพวกเธอ ไม่ได้คิดจะแนะนำเขาให้พวกเธอรู้จัก เป็นแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น ในเมื่อพวกเขาอยากจะเดินเที่ยวเล่นกันเองก็ปล่อยไปเถอะ”

“หรูฮวน ตอนนี้พวกเธอยังไม่ได้แต่งงานกัน เขาก็แสดงท่าทางเช่นนี้แล้ว หลังจากแต่งงานกันไปจะไม่เลวร้ายกว่านี้ใช่ไหม ดังนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เธอบอกคุณลุงกับคุณป้าสักหน่อยเถอะ”

หรูฮวนพยักหน้าและเอ่ย “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”

เมื่อเห็นเสิ่นหรูฮวนรับฟัง ฉินมู่หลานเองก็วางใจแล้ว

ทั้งสามคนเดินเล่นกันอยู่ครู่ใหญ่ จนกระทั่งถึงเวลากินอาหาร พวกเขาก็ไปกินเป็ดย่าง

เป็ดย่างสีแดงสด เนื้อติดมันแต่ไม่เลี่ยน กรอบนอกนุ่มใน ฉินมู่หลานกำลังม้วนเป็ดย่างด้วยแผ่นแป้งและใส่แตงกวากับกระเทียม เธอกินไปเจ็ดถึงแปดชิ้นจากนั้นก็วางมือลง

เซี่ยเจ๋อหลี่กำลังช่วยฉินมู่หลานห่อแป้ง เมื่อเห็นเธอหยุดนิ่ง เขาก็เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “มู่หลาน คุณยังกินอยู่ไหม?”

ฉินมู่หลานส่ายศีรษะพร้อมกับกล่าว “อิ่มแล้วค่ะ ไม่กินแล้ว คุณรีบกินของตัวเองเถอะ”

เซี่ยเจ๋อหลี่คอยดูแลเธอ ตนเองก็ไสค่อยได้กินเท่าไรนัก

มมม

“โอเค”

เซี่ยเจ๋อหลี่เห็นว่าฉินมู่หลานกินอิ่มแล้ว ตนเองก็รีบกินอย่างรวดเร็ว

เสิ่นหรูฮวนคอยเฝ้ามองปฏิสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสองคนและรู้สึกอิจฉา ขณะเดียวกันก็นึกถึงเรื่องที่บังเอิญพบกับเจิ้งเต๋อข่ายในวันนี้ เปรียบเทียบกับเซี่ยเจ๋อหลี่แล้ว เจิ้งเต๋อข่ายก็ดูไม่หล่อแถมยังไม่เอาใจใส่เลยด้วยซ้ำ ไม่สามารถเทียบได้เลยจริงๆ

เมื่อครุ่นคิดได้เช่นนี้ ทอดถอนหายใจอย่างอดไม่ได้

“เป็นอะไรไปหรูฮวน”

เสิ่นหรูฮวนส่ายศีรษะในทันใดและเอ่ย “ไม่มีอะไรหรอก ฉันรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของเธอกับพี่ใหญ่เซี่ยนั้นดีจริงๆ”

“ในอนาคตเธอเองก็จะได้พบความสัมพันธ์แบบนี้เหมือนกัน”

เสิ่นหรูฮวนสวยขนาดนี้ นิสัยดีอีกด้วย ฉินมู่หลานรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ดีจริงๆ

หลังจากทั้งสามคนกินอาหารเสร็จ ฉินมู่หลานก็วางแผนจะกลับ

เมื่อฉินมู่หลานและเซี่ยเจ๋อหลี่กลับไปแล้ว เสิ่นหรูฮวนเองก็กลับบ้านเช่นกัน

ถงทิงผิงรีบเอ่ยปากเมื่อเห็นลูกสาวกลับมาแล้ว “หรูฮวน มู่หลานและพวกเขามาเมืองหลวงจริงเหรอ?” ก่อนหน้านี้ได้ยินลูกสาวกล่าวไว้ และคิดว่าลูกสาวของตนอาจจะจำผิด ใกล้จะขึ้นปีใหม่แล้วฉินมู่หลานกับพวกเขาจะมาเมืองหลวงได้อย่างไรกัน

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เสิ่นหรูฮวนก็ยิ้มและเอ่ย “แม่ ฉินมู่หลานและสามีของหล่อนมาเมืองหลวงจริงๆ ตอนนี้พวกเขาพักอยู่ที่บ้านตระกูลเจี่ยง”

“ตระกูลเจี่ยงเหรอ? ตระกูลเจี่ยงแห่งเขตตงเฉิงเหรอ?”

เสิ่นหรูฮวนพยักหน้าพร้อมกับเอ่ย “ใช่แล้ว มู่หลานเป็นคุณหนูของตระกูลพวกเขา”

“อะไรนะ……”

ถงทิงผิงคิดว่าตัวเองฟังผิดไป กระทั่งลูกสาวกล่าวว่าเจี่ยงสือเหิงเป็นพ่อบุญธรรมของฉินมู่หลาน หล่อนจึงพลันเข้าใจ แต่อย่างไรก็ยังคงสงสัยว่าฉินมู่หลานรู้จักเจี่ยงสือเหิงได้อย่างไร แต่ยังไม่ทันจะเอ่ยถาม เสิ่นหรูฮวนก็เอ่ยเรื่องที่บังเอิญพบกับเจิ้งเต๋อข่ายในวันนี้ขึ้นมาก่อน

“แม่คะ วันนี้ตอนที่พวกหนูกำลังเดินซื้อของกันอยู่ บังเอิญพบกับเจิ้งเต๋อข่ายและลูกพี่ลูกน้องหญิงของเขาด้วยล่ะค่ะ”

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

คุณหนูเสิ่นเริ่มเอะใจแล้ว ซื้อสร้อยข้อมือให้เพื่อนตัวเองแต่โดนคู่หมั้นเฉ่ง ควรรู้สึกยังไงคะ

ไหหม่า(海馬)