ตอนที่ 13 เผชิญหน้า

สายตาพวกมันล้วนจับจ้องมองไปที่รถหรูของไอรีนจับจ้องชนิดที่ว่าไม่มีปล่อยผ่านหรือละสายตาเลยแม้แต้น้อย

ในใจพวกมันหวังเพียงให้หล่อนก้าวเท้าลงมา

…‘เมื่อไหร่จะลงมา?’

“…”

แน่นอนว่าทุกสิ่งอย่างดำเนินไปตามแผนการหมดเรียบร้อยหลงเหลือเพียงให้หล่อนก้าวเท้าลงมาจากรถเท่านั้น

หนึ่งในลูกน้องกล่าวถาม

“พี่แน่ใจนะว่าเป็นคันนี้?”

“แน่ใจสิ”

“ทะเบียนตรงตามที่บอก”

“แต่ถ้าไม่เชื่อแกก็ไปถามจากพวกมันเอาละกัน”

“…”

“งั้นผมไปถามให้—”

ยังไม่ทันได้สานต่อบทสนทนาประตูรถด้านคนขับก็ถูกเปิดออกด้วยเรียวแขนสีขาวเนียนเป็นที่สุด

แววตาพวกมันหื่นกระหายจับจ้องมองไม่ละสายตา

“นั่นไงประตูเปิดออกมาแล้วโน้น”

“ของจริงโว้ย!”

“ฉันบอกแล้วว่าเป็นของดี”

“…เตรียมตัวให้พร้อม”

หัวหน้าผมแดงยิ้มหัวเราะพลางแสยะมุมปากในที่สุดเหยื่อตัวน้อยก็ออกจากที่ซ่อนเสียที

เหลือเพียงแค่จับกลับมาเท่านั้นในตอนนี้

“ครับ!”

“…” และแล้วช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง

บรรยากาศตอนนี้เรียกได้ว่าเร่าร้อนมากไปด้วยอารมณ์เร่าร้อนจนกระทั่งไม่มีใครยืนติดที่ของตัวเอง

ยิ่งพบเห็นเรียวขาขาวยั่วยวนขั้นสุดก้าวเท้าออกมา

พวกมันยิ่งหื่นกระหายมากเป็นเท่าตัว

“พระเจ้าช่วย…”

ดวงตานับสิบคู่เบิกกว้างขั้นสุดพวกมันต่างตื่นตะลึงตื่นตระหนกตกใจกับฉากตรงหน้า

แม้จะได้รับคำบอกกล่าวมาก่อน

แต่พอมาเห็นของจริงเข้าให้มันช่างเป็นอะไรที่แตกต่างเหลือเกินแตกต่างจนไม่อาจหาคำกล่าวใดมาบรรยาย

“…” ไอรีนยังคงนิ่งเงียบ

ก่อนก้าวเท้าเดินหน้าต่อไม่มีลังเลให้เห็นทั้งตำแหน่งที่ก้าวเข้ามายังเป็นเบื้องหน้าผู้ชายร่วม 10 คน

สายตาพวกมันทุกตัวล้วนโดนสะกดให้จับจ้องมอง

“สวยมาก”

“ดารารึเปล่า?”

“เหมือนกับที่มันบอกเลย”

ไอรีนไม่มีเหลือบมองให้ความสนใจ

“…” หล่อนยังคงก้าวเท้าเดินหน้าต่อจนกระทั่งมาหยุดตรงหน้าชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่

แววตาราบเรียบไม่มีตื่นตระหนกทั้งยังห้าวหาญและมาดมั่นไม่มีหวั่นไหว

ตรงจุดนี่ยิ่งเสริมเพิ่มเติมให้หญิงสาวเด่นสง่าไปอีกหลายต่อหลายเท่าตัวกระทั่งหัวหน้าตัวใหญ่ยังลอบสูดลมหายใจ

ถูกดึงดูดโดยไม่รู้ตัว

…‘สวยมาก’

“…”

“หัวหน้า?”

เสียงลูกน้องปลุกสติมันกลับคืนมาแน่นอนว่าไม่ใช่มันคนเดียวที่เหม่อลอยไม่ได้สติยังมีอีกหลายคน

ไอ้หัวหน้าหัวแดงรีบเผยรอยยิ้มมั่นใจ

ก่อนเริ่มเปิดประเด็นพูดคุย

“พึ่งจะเคยเห็นคนสวยแบบคุณครั้งแรก”

“ไม่ทราบว่าชื่ออะไรครับ?”

“…”

“ก่อนจะถามชื่อฉัน”

“ช่วยเก็บสายตาหน่อยค่ะ” ไอรีนขมวดคิ้วแน่น

สายตาเจ้าหัวหน้าผมแดงในตอนนี้เข้าขั้นหยาบโลนกวาดมองทุกสัดส่วนไม่มีคำว่ายับยั้งช่างใจเลยแม้แต่น้อย

กล่าวสำหรับมันแล้วยิ่งมองยิ่งถูกใจ

“…”

“ขอโทษด้วยครับ”

“พอดีผมพึ่งจะเคยเจอผู้หญิงแบบคุณ”

“เหรอคะ?”

“แต่ฉันเจอผู้ชายแบบคุณนับไม่ถ้วนเจอจนอดคิดไม่ได้ว่าฉันจะต้องพบเจอวันเวลาแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน?”

แววตาหล่อนแดกดันขั้นสุดไม่มีความรู้สึกแง่บวกให้เลยแม้แต่น้อยออกจะมองในแง่ลบเสียมากกว่า

หัวหน้าผมแดงยิ้ม

“ไม่แปลกครับ”

“ก็ในเมื่อคุณสวยขนาดนี้”

ในหัวสมองมันตอนนี้เริ่มบังเกิดแนวคิดผิดแปลกขึ้นมาแทนที่จะส่งให้นายน้อยจัดการสู้เก็บไว้เองไม่ดีกว่าเหรอ

สองแนวคิดตีกันมั่ววุ่นวายไปหมด

“…” ไอรีนไม่รอช้า

ตัดเขาประเด็นทันที

“…จำไม่เห็นได้ว่าเคยไปหาเรื่องมาก่อน”

“ฉันว่าระหว่างพวกเราน่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย”

“ไม่น่าถึงขั้นลงไม้ลงมือ”

หัวหน้าผมแดงที่ได้ยินพยักหน้าเห็นด้วยก่อนกล่าวตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“เอาเข้าจริงมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตเหมือนกับที่คุณบอก”

“แต่จะให้ปล่อยผ่านเลยก็ไม่ได้หรอกจริงไหม?”

สายตาเริ่มแปรเปลี่ยนจากหื่นกระหายกลายเป็นโหดเหี้ยมอำมหิตไม่ใช่เพียงสายตากระทั่งบรรยากาศยังเปลี่ยน

เจ้าหัวหน้าผมแดงเหลือบหันไปมองด้านหลังมองเจ้าสองหนุ่มที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่นและเลือด

รอยยิ้มมันแสยะมุมกว้าง

“น้องของเราบอกว่าเธอเป็นคนเล่นงานพวกเขา”

“…น้อง?”

“ไงเราเจอกันอีกแล้วนะน้องสาว~”

“บอกแล้วพวกเราต้องได้เจอกันอีก”

“นึกว่าใครที่ไหน”

“สุดท้ายก็เป็นอันธพาลพวกนี้นี่เอง”

ไอรีนมองเหยียดหยามขั้นสุดแค่คนขี้ขลาดกลุ่มหนึ่งที่โดนหล่อนเล่นงานจนร้องขอชีวิต

ตอนนี้กลับกล้ามาหยิ่งผยองต่อหน้าหล่อน

…‘เป็นอะไรที่โง่บรม’

“…”

“…อันธพาล?”

“เธอเรียกพวกเราว่าอันธพาลเหรอ?”

มันเลิกคิ้วกวนประสาทต่อไม่ปล่อยให้ขาดตอนทั้งยังโบกมือด้วยท่วงท่าหาตีนไม่ขาดสาย

คล้ายกลัวหญิงสาวไม่เดือดดาลกับการกระทำของมัน

“เข้าใจผิดแล้ว~”

“ฉันกับเพื่อนเพียงแค่อยากชวนเธอไปเล่นสนุกเองนะ”

“ไม่เห็นต้องเรียกว่าอันธพาลเลย”

สถานการณ์ตอนนี้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าใครเป็นต่อใครเป็นรองอาจจะบอกได้ว่านี่ไม่ใช่การนัดเคลียร์ใจตั้งแต่แรกมันคือการหาเรื่องยัดเยียดความผิด

เพื่อนำไปสู้การปราบปรามขั้นสุด

…‘เธอคิดผิดแล้วที่ตามพวกเรามา’

“…”

สายเจ้าสองหนุ่มเปล่งประกายโหดเหี้ยมทั้งยังหื่นกระหายไม่มีที่สิ้นสุดไม่มีกักเก็บไม่มีซ่อนเลศนิสัยสันดานแท้จริง

กลุ่มชายฉกรรจ์ร่วม 10 คน เริ่มต้นแผนการชั่วช้าสามานย์พวกมันตั้งวงปิดล้อมทุกเส้นทางหลบหนีไม่ปล่อยให้หล่อนก้าวเท้าถอยหลังหายไปจากสายตาพวกมัน

ไอรีนหรี่ตามอง

“คิดจะทำอะไร?”

“เธอเล่นงานน้องชายฉัน”

“ฉันในฐานะหัวหน้ากลุ่มต้องมอบความเป็นธรรมให้กับเขา”

“อยากได้คำขอโทษ?”

ไอรีนแค่นเสียงเย้ยหยันด้วยน้ำหน้ารวมถึงมัดสมองอย่างพวกมันไม่มีทางอยากได้คำขอโทษจากปากหล่อนแน่นอน

ต่อให้หล่อนหลับตาไม่ต้องครุ่นคิดให้เหนื่อยเปล่าก็รู้ว่าพวกมันต้องการอะไรมีแค่ไม่กี่อย่างหรอกถ้าไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินเรื่องกระทืบเล่นงานถึงตายก็เป็นเรื่องของระบายอารมณ์

หัวหน้าผมแดงมันยิ้มแสยะมุมกว้าง

“เห็นแก่สาวสวย”

“หากเธอไปเที่ยวเล่นกับพวกเราสักคืนสองคืน”

“เรื่องราวทั้งหมดถือว่าหายกัน”

“แล้วถ้าฉันไม่ไปละ”

“งั้นคงตัองใช้วิธีอื่นเข้าเจรจา” ไอ้หัวแดงยิ้มเยาะเบาบาง

สัญญาณถูกส่งผ่านให้เรียบร้อยเหล่าลูกน้องทั้งหลายต่างหยิบเอาอาวุธของตัวเองขึ้นมาประทับบนฝ่ามือ

บ่งบอกเจตนาชัดเจนว่าไม่ต้องการให้หล่อนปฏิเสธ

“…” ไอรีนกวาดสายตามองเล็กน้อย

“สรุปคือไม่ยอมจบใช่ไหม?”

“จะยอมจบหรือไม่ยอมจบทั้งหมดล้วนขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเธอโดยเฉพาะ”

“หรือก็คือไม่ยอมจบ”

“ฉันเข้าใจถูกใช่ไหม?”

“…” ปราศจากคำตอบตอบกลับมา

ต่อให้ไม่มีเปิดปากพูดคุยไม่มีปากเสียงสถานการณ์ตรงหน้าก็บ่งบอกให้เห็นชัดเจน

ถึงเจตนาแท้จริงของอีกฝ่าย

“ต่อให้เข้าใจแล้วจะได้อะไร?”

“ยอมเถอะน้องสาวอย่าให้ถึงมือพวกพี่เลย”

“อย่าดื้อสิ~”

“…” ไอรีนถอนหายใจเหนื่อยหน่าย

ก่อนเผยรอยยิ้มเต็มใบหน้าพร้อมก้าวเท้าออกนำเตรียมเผชิญหน้ากับทุกสถานการณ์

ทั้งยังไม่ลืมบอกกล่าวตักเตือนล่วงหน้า

“…ในเมื่อพูดคุยด้วยเหตุผลไม่รูัเรื่อง”

“คงไม่ว่าอะไรใช่ไหมหากฉันอยากใช้กำลังแก้ปัญหาแทน”

สิ้นคำกล่าวของหล่อน

“…”

บรรยากาศจากเสียงพูดคุยสนุกสนานนิ่งเงียบไปในทันทีพวกมันเลือกมองหน้ากันและกันมองแววตาตื่นตะลึงตกใจกับคำพูดอีกฝ่าย

ก่อนเสียงหัวเราะจะระเบิดดังลั่นไปทั่วบริเวณ

“ฮ่าฮ่าฮ่า”

“ใช้กำลังแก้ปัญหา?”

“อย่ามาทำให้ขำ”