ตอนที่ 63

Silver Overlord

63 – ทำความรู้จัก

หญิงสาวที่นั่งอยู่ในเรือลำเล็กอายุประมาณยี่สิบปี นางมีใบหน้าที่น่ารักมากและคล้ายคลึงกับแองเจล่าเบบี้เล็กน้อย นางมีรูปร่างที่อวบอิ่มและเต็มไปด้วยความสดใส

แม้ว่าหญิงสาวคนนี้นั่งบนเรือโดยให้ขาของนางชิดกันราวกับว่านางเป็นหญิงสาวที่ได้รับการอบรมอย่างดีจากครอบครัวที่ร่ำรวย

แต่เอี้ยนลี่เฉียงยังคงสามารถสร้างโครงร่างที่ชัดเจนของขาเรียวยาวแต่ทรงพลังของนางที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดสีเขียวได้

หญิงสาวคนนี้มีผิวที่ผุดผ่อง ใบหน้าที่ขาวนวลเนียนเป็นประกายคล้ายกับหยกเนื้อดี ผิวของนางโปร่งแสงเหมือนหยกและยังแต่งแต้มด้วยสีชมพูที่เต็มไปด้วยพลัง

นอกจากนี้นางยังมีดวงตาที่สดใสมีความเฉลียวฉลาดถูกฉายออกมา

หญิงสาวคนนี้มีลักษณะแตกต่างจากหญิงสาวที่บอบบางอย่างแองเจล่าเบบี้ จากประสบการณ์ของเอี้ยนลี่เฉียงเขาสามารถบอกได้ว่าหญิงสาวคนนี้เป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้เช่นกัน

แม้ว่านางจะดูเงียบสงบเหมือนหญิงสาวจากครอบครัวที่ร่ำรวยธรรมดาทั่วไป แต่พลังงานแก่นแท้และจิตวิญญาณที่หญิงสาวคนนี้ปลดปล่อยออกมานั้นหาที่เปรียบไม่ได้

ในขณะนี้จิตใจของเอี้ยนลี่เฉียงมีปฏิกิริยาตอบสนองแม้ว่าบางครั้งเขาจะไม่ค่อยทันคนก็ตาม เป็นไปได้มากว่าเฉียนซูได้นัด กับผู้หญิงคนนี้ระหว่างการเดินทางไปทะเลสาบดอกบัวให้มาพบเขา

แม้กระทั่งเฉียนซูยังลงทุนอย่างพิถีพิถันขนาดนี้ และสำหรับหลายๆคนในตระกูลลู่ที่ทำทุกอย่างเพียงเพื่อสร้างโอกาสให้พวกเขามาพบกัน

หญิงสาวคนนี้ต้องมีสถานะที่ไม่ธรรมดาที่ในตระกูลลู่อย่างแน่นอน

สมองของเอี้ยนลี่เฉียงหมุนอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงชั่วครู่เขาก็สามารถจดจำบุคคลหนึ่งในกลุ่มของตระกูลลู่ที่ลู่เหวินปิงเคยแนะนำให้รู้จักก่อนหน้านี้

นั่นคือคุณหนูเก้าแห่งคฤหาสน์ตระกูลลู่ ลูกสาวสุดที่รักของนายผู้เฒ่าลู่, ลู่เป่ยซิน

ลู่เป่ยซินเป็นลูกสาวคนเล็กที่นายผู้เฒ่าลู่ให้กำเนิดในวัยชราและด้วยเหตุนี้เขาจึงเอาอกเอาใจนางเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ลู่เหวินปิงกล่าวว่าลู่เป่ยซินเรียนอยู่ที่สถาบันศิลปะการต่อสู้ในแคว้นผิงซีแล้วทำไมนางถึงกลับมาที่ คฤหาสน์ตระกูลลู่และปรากฏตัวต่อหน้าเขาทั้งยังมีสายตาแปลกๆอย่างนี้?

วิธีที่ผู้หญิงคนนี้มองดูเอี้ยนลี่เฉียง ทำให้เขานึกถึงสาวสวยสองคนที่เพื่อนของเขาแนะนำให้เขารู้จักในชีวิตที่ผ่านมา

พวกเธอก็ใช้สายตาในการตรวจสอบเขาเช่นเดียวกับที่ลู่เพ่ยซินทำในขณะนี้

เป็นไปได้ไหมที่นายผู้เฒ่าลู่วางแผนสร้างละครเรื่องนี้เพราะต้องการให้เขาเป็นลูกเขยของตระกูลลู่?

จิตใจของเอี้ยนลี่เฉียงรู้สึกกระอักกระอ่วนเล็กน้อย แม้ว่าแนวความคิดนี้จะค่อนข้างเกินความเชื่อของเขา แต่นี่เป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดสำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน

ถ้าไม่ใช่เพราะความเห็นชอบของนายผู้เฒ่าลู่จะมีใครในมณฑลหวงหลงจะกล้าแนะนำคู่ชีวิตให้กับลูกสาวคนเล็กของเขาโดยที่เขาไม่รู้

เอี้ยนลี่เฉียงไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ในขณะนี้หญิงสาวคนนั้นที่จ้องมองมาที่เอี้ยนลี่เฉียงก่อนจะเอื้อมมือขึ้นและดึงปิ่นสีทองออก นางโยนปิ่นนั้นทิ้งลงไปในทะเลสาบโดยไม่ได้รู้สึกเสียดายแม้แต่น้อย

“ ลู่ชุนข้าทำปิ่นตกลงไปเจ้าช่วยตามไปเก็บมาให้หน่อย…?”หญิงสาวคนนั้นกล่าวอย่างเฉยชา

คนเรือวางไม้พายในมือโดยไม่พูดอะไร เรือโยกเบาๆขณะที่คนเรือพุ่งลงไปในน้ำพร้อมกับเสียงป๋อมแป๋ม

เขาเป็นนักว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมในตอนที่เขากระโดดลงไปในน้ำ น้ำแทบจะไม่กระจายออกมาเลย

ทันใดนั้นมีเพียงเอี้ยนลี่เฉียงและหญิงสาวคนนี้ที่ถูกทิ้งไว้บนเรือลำเล็ก

รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากของหญิงสาว นางไม่ปิดบังสายตาเย็นชาในขณะที่มองเอี้ยนลี่เฉียง

“ อะแฮ่ม…อะแฮ่ม…คารวะคุณหนูลู่!” ในฐานะผู้ชายเอี้ยนลี่เฉียงจึงริเริ่มที่จะทักทายนางก่อน

“เจ้ารู้จักข้า?” ลู่เป่ยซินผงะเล็กน้อยก่อนที่ร่องรอยของความโกรธจะปรากฏบนใบหน้าของนาง “พวกเขาบอกเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว?”

“โปรดอย่าเข้าใจผิดคุณหนูลู่มันเป็นเพียงการคาดเดาของข้าเท่านั้น!”

ลู่เป่ยซินทำให้เอี้ยนลี่เฉียงดูไม่มั่นใจดูเหมือนไม่ไว้วางใจในคำพูดของเขา “ เจ้าเดาได้ เดาได้เรื่องไหน?”

“พ่อแม่จะห่วงลูกเสมอ!” เอี้ยนลี่เฉียงถอนหายใจ

“ต่อให้ข้าไม่ค่อยฉลาดมากนัก แต่เรื่องดำเนินมาถึงขนาดนี้แล้วทุกสิ่งทุกอย่างมันก็ค่อนข้างชัดเจน?”

“เจ้าดูฉลาดไม่น้อย!” ในที่สุดสายตาของลู่เป่ยซินก็อ่อนโยนลง

“ แล้วเจ้าจะทำยังไงกับเรื่องนี้?”

เอี้ยนลี่เฉียงกางแขนออก “ มั่นใจได้เลยคุณหนูลู่จะไม่เป็นไรตราบใดที่เจ้าสามารถอธิบายให้นายผู้เฒ่าลู่ฟังได้ ข้าอายุเพียงสิบสี่ปี

มันยังเร็วเกินไปสำหรับข้าที่จะพูดเรื่องการแต่งงานดังนั้นสิ่งนี้จะสามารถซื้อเวลาให้เจ้าได้มากกว่าขึ้นเล็กน้อย ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าข้าคิดว่าคุณหนูลู่ยังคงมีโอกาสที่จะควบคุมสถานการณ์ของตัวเองอีกครั้ง

หากใครก็ตามในตระกูลของท่านถามข้า ข้าจะบอกว่าข้าเข้ากันได้ดีกับคุณหนูลู่และคุณหนูลู่เป็นปัญญาชนหญิงที่มีความสง่างามและข้าก็นับถือเจ้าในฐานะพี่สาว เอาอย่างนี้เป็นไง? “

ลู่เป่ยซินเพิ่งอายุสิบเก้าและอยู่ในช่วงวัยที่สดใสที่สุดในชีวิตของนาง ไม่เพียงแค่นั้นแต่ปัจจุบันนางอาศัยอยู่ในเมืองหลวงของแคว้นและมีโอกาสพบปะกับเพศตรงข้ามมากมาย

เอี้ยนลี่เฉียงจะไม่เชื่ออย่างแน่นอนถ้าลู่เป่ยซินไม่มีใครในใจหรือแอบรักใครสักคน ไม่ว่าในกรณีใดแม้ว่าลู่เป่ยซินจะไม่มีใครในใจของนางหรือคนที่นางแอบชอบ

หรือแม้ว่านางจะไม่มีประสบการณ์ด้านความรักเลยก็ตาม เอี้ยนลี่เฉียงก็ยังคงรู้สึกว่า ลู่เป่ยซินกับเขานั้นไม่เหมาะสมกันอย่างยิ่งด้วยอายุที่ต่างกันพอสมควร

ผู้หญิงมักจะโตเร็วไม่ว่าจะเป็นลักษณะทางกายภาพหรืออารมณ์ ผู้หญิงในวัยลู่เป่ยซินอาจชื่นชมชายหนุ่มที่หล่อเหลาได้ง่ายๆ

อาจเป็นใครก็ได้อย่างเหลียงเฉาเหว่ย หรือผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่อย่างอู๋ซิ่วปอที่ดูเหมือนคุณลุงที่มีสไตล์

แต่จะไม่ใช่คนที่อายุน้อยกว่านางมากเหมือนเด็กอายุสิบสี่ปีที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมด้วยซ้ำ ทั้งหมดนี้ถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าโดยทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินและระดับฮอร์โมนของผู้หญิง