ตอนที่ 64

Silver Overlord

64 – โรมีโอกับจูเรียต

ตอนนี้สถานการณ์ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือลู่เป่ยซินมีคนที่นางชอบอยู่แล้วในใจ แต่นายผู้เฒ่าลู่ยังไม่รู้เรื่องนั้น นั่นคือเหตุผลที่เขาลากเอี้ยนลี่เฉียงมาที่นี่เพื่อจับคู่พวกเขาเข้าด้วยกัน

เอี้ยนลี่เฉียงจะไม่ปฏิเสธที่จะทำความรู้จักกับลู่เป่ยซินเพื่อสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตระกูลลู่

อย่างไรก็ตามเขาจะไม่ปล่อยให้ความปรารถนาครอบงำสมองของตัวเองและคิดว่าคุณหนูเล็กจากตระกูลลู่คนนี้กำลังรอการมาถึงของเขามาตลอดสิบเก้าปี …

เนื่องจากเป็นเช่นนี้เขาจึงคิดว่าการคุยอย่างเปิดอกจะดีกว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียเวลาของกันและกัน เขารู้สึกว่าลู่เป่ยซินส่งคนเรือออกไปในตอนนี้เพราะนางต้องการที่จะหงายไพ่ของตัวเองออกมาแล้ว

ลู่เป่ยซินรู้สึกมึนงงขณะที่นางจ้องไปที่เอี้ยนลี่เฉียง นางไม่ได้คาดหวังว่าเด็กคนนี้จะกล่าวคำที่นางต้องการจะพูดก่อนที่มันจะออกมาจากปากของนางด้วยซ้ำ

ย้อนกลับไปตอนนั้นนางรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อยเมื่อได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเอี้ยนลี่เฉียงช่วยชีวิตหลานชายตัวน้อยของนาง

นางคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระที่เอี้ยนลี่เฉียงอ้างว่าความรู้ของเขาถูกมอบให้โดยเทพเจ้าในความฝัน

เอี้ยนลี่เฉียงน่าจะโชคดีและได้รับความลับนี้มาจากที่อื่น อย่างไรก็ตามในขณะนี้ลู่เป่ยซินรู้สึกว่าสิ่งที่เอี้ยนลี่เฉียงอ้าง อาจเป็นความจริง …

เมื่อมองไปที่สายตาอันลึกซึ้งของเอี้ยนลี่เฉียงซึ่งดูเหมือนจะไม่เข้ากับอายุของเขา ลู่เป่ยซินรู้สึกราวกับว่าเด็กคนนี้ที่นั่งอยู่ตรงข้ามนางสามารถมองทะลุหัวใจของนางได้จริงๆ

มันทำให้นางรู้สึกว่าต้องระวังตัวเองให้มากกว่านี้ นางอดไม่ได้ที่จะหลีกเลี่ยงการจ้องมองไปที่ดวงตาของเขา

“ ไม่ว่ายังไงข้าก็ยังต้องขอบคุณที่เจ้าช่วยเส้าหลิน…” ลู่เป่ยซิน หายใจเข้าลึกๆแล้วยิ้มให้เอี้ยนลี่เฉียง

นี่เป็นข้อบ่งชี้ว่านางยอมรับคำพูดที่เอี้ยนลี่เฉียงเพิ่งพูดไป …

ลู่เส้าหลินเป็นหลานชายของนายผู้เฒ่าลู่ซึ่งเอี้ยนลี่เฉียงได้ช่วยไว้เมื่อครั้งที่แล้ว

“นั่นคือสิ่งที่ข้าควรทำอยู่แล้ว นอกจากนี้ข้ายังได้รับเงินจากตระกูลลู่มาไม่น้อย!” เอี้ยนลี่เฉียงตอบอย่างสงบ

ขณะที่เขาหลีกเลี่ยงการจ้องมองใบหน้าของลู่เป่ยซินรอยยิ้มที่ไร้พิษภัยและไร้เดียงสาปรากฏขึ้นอีกครั้งบนใบหน้าของเขาขณะที่เขาเปลี่ยนหัวข้อสนทนา

“ ข้าสงสัยว่าจะเป็นไรหรือไม่หากข้าจะขอเชิญคุณหนูลู่ท่องเที่ยวรอบๆทะเลสาบแห่งนี้?”

ความจริงที่ว่าทั้งคู่มีความเข้าใจซึ่งกันและกันในเรื่องที่สำคัญที่สุดทำให้ลู่เป่ยซินรู้สึกโล่งใจขึ้นมาทันที นางตบท้ายเรือเพื่อให้เกิดเสียงดัง

คนเรือที่เพิ่งดำลงไปในน้ำโผล่ขึ้นมาไม่ไกลจากพวกเขาพร้อมกับปิ่นสีทองที่ลู่เป่ยซินโยนลงไปในน้ำ เขาวางมือทั้งสองข้างไว้ที่ท้ายเรือ เรือโยกเบาๆขณะที่เขาดึงตัวเองขึ้นมา

“ คุณหนูนี่คือปิ่นของท่าน!”

“ให้เจ้าเป็นรางวัล!” ลู่เป่ยซินอารมณ์ดี “นายน้อยเอี้ยนปรารถนาที่จะเที่ยวรอบๆทะเลสาบดอกบัวให้ข้าเป็นคนนำทางเถอะ!”

“คุณหนูลู่เชิญ!”

คนเรือรับปิ่นทองอย่างยินดีก่อนที่เขาจะพายเรือไปส่งทั้งคู่ขึ้นฝั่งด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

กว่าหนึ่งชั่วยามผ่านไปขณะที่ทั้งคู่เดินไปรอบๆทะเลสาบและคุยเรื่องไร้สาระกันไปเรื่อย จนกระทั่งใกล้เวลาอาหารกลางวันเรือลำเล็กที่ส่งเอี้ยนลี่เฉียงออกไปก็ได้รับการซ่อมแซมและกำลังพายกลับมาหาเขาอีกครั้งเอี้ยนลี่เฉียงกลับไปที่เรือลำเล็กของตัวเองและแยกทางกับลู่เป่ยซิน…

เดทแรกของพวกเขาที่จัดโดยตระกูลลู่และเฉียนซูก็สิ้นสุดลงเช่นนี้

ขณะที่เอี้ยนลี่เฉียงเฝ้าดูร่างของลู่เป่ยซินจางหายไปเขาก็มีความคิดหนึ่งแล่นเข้ามาในสมอง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลู่เป่ยซินชอบคนอื่นอยู่แล้ว

แต่นางยังไม่ได้บอกนายผู้เฒ่าลู่ นางทำตัวเหมือนเด็กที่เชื่อฟังต่อหน้านายผู้เฒ่าลู่ด้วยความกลัวอย่างมากราวกับว่านางกังวลเกี่ยวกับบางสิ่ง

นายผู้เฒ่าลู่ไม่ได้รังเกียจเด็กที่น่าสงสารอย่างตัวเขาดังนั้นความกังวลในใจของลู่เป่ยซินจึงไม่เกี่ยวข้องกับภูมิหลังของคนที่นางชอบมันต้องมีเหตุผลอื่น

นางรู้ดีว่านายผู้เฒ่าลู่จะไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอนหากนางบอกเขาและเขาอาจจะโกรธมาก นางจึงซ่อนความจริงไว้และไม่กล้าบอกออกไป

มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวที่ผู้เฒ่าลู่จะแสดงความไม่ยอมรับอย่างมากต่อบุคคลที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน

ตัวตนของชายที่ลู่เป่ยซินชอบนั้นน่าจะมาจากตระกูลหรือกลุ่มที่มีความสัมพันธ์เลวร้ายกับตระกูลลู่และนายผู้เฒ่าลู่

ลู่เหวินปิงเคยเล่าอย่างคลุมเครือว่ามีเพียงตระกูลเดียวเท่านั้นในมณฑลหวงหลงที่กล้าตั้งตัวเป็นศัตรูกับตระกูลลู่ นั่นคือตระกูลหวัง

ตระกูลลู่และตระกูลหวังเป็นกลุ่มอิทธิพลในเขตหวงหลงอย่างไรก็ตามทั้งสองตระกูลนี้เข้ากันไม่ได้เปรียบเสมือนน้ำกับไฟ

ดังนั้นจึงเป็นไปได้สูงที่คนที่ลู่เป่ยซินชอบจะมาจากตระกูลหวัง!

เนื่องจากเป็นคนของตระกูลศัตรู บุคคลผู้นั้นที่สามารถดึงดูดผู้หญิงอย่างลู่เป่ยซินได้เขาเป็นบุคคลที่มีความโดดเด่นมากและอยู่ในวัยเดียวกับลู่เป่ยซิน

การที่เขามีโอกาสได้พบปะกับลู่เป่ยซินอยู่เป็นประจำย่อมแสดงว่าเขาศึกษาอยู่ที่สถาบันศิลปะการต่อสู้ในแคว้นผิงซี มันจะเป็นเรื่องง่ายที่เขาจะสามารถหาคนคนนี้ออกมา

ถ้าลู่เป่ยซินพบว่าเอี้ยนลี่เฉียงสามารถเดาความลับทั้งหมดในใจของนางผ่านการพบกันในครั้งแรก นางจะต้องเสียใจอย่างแน่นอนที่มาพบเขาในวันนี้

แม้ว่าโรมิโอและจูเลียตจะเป็นเรื่องราวที่สวยงาม แต่ความจริงก็คือไม่ใช่ว่าจูเลียตทุกคนจะได้พบกับโรมิโอ …

เขาควรบอกคนจากตระกูลลู่เกี่ยวกับเรื่องนี้หรือไม่ หากเขาบอกออกไปคงเป็นการกระทำที่เลวทรามต่ำช้าอย่างยิ่ง?

เอี้ยนลี่เฉียงลังเลเล็กน้อย …