บทที่ 112 มีแต่คนรุมรักฮวนฮวน

“ข้าเอามาให้เจ้าพอดี เจ้าลองชิมดู” จี้จือฮวนแสร้งทำเป็นหยิบของในตะกร้า ก่อนจะหยิบไอศกรีมที่ทำเสร็จแล้วออกมาจากช่องว่างมิติ

ฮวาเซียงเซียงมองไอศกรีมสีเหลืองอ่อน พร้อมกับอ้าปากค้างด้วยความสงสัย

พูดตามตรง หากไม่ใช่เพราะจี้จือฮวนป้อนให้นางกิน นางคงปฏิเสธอย่างแน่นอน สิ่งนี้เหมือนกับไข่ไก่ที่ถูกตอกแล้วและวางเอาไว้บนหิมะอย่างไรอย่างนั้น รู้สึกว่ามันต้องคาวมากอย่างแน่นอน

แต่เมื่อเข้าปากแล้ว ระ ระ…รส รสชาตินี้จะอร่อยเกินไปแล้วกระมัง

เดิมทีโถงของภัตตาคารก็มักจะมีคนเข้าคนออกตลอดเวลา ยิ่งช่วงเวลานี้มีน้ำแกงหมาล่าออกใหม่ จึงได้ตั้งหม้อต้มเอาไว้ที่หน้าประตู ดังนั้นทุกคนต่างก็ร้อนจนแทบจะทนไม่ไหว ฮวาเซียงเซียงที่แค่พูดคุยกับนางก็ยังเช็ดเหงื่อไปแล้วหลายต่อหลายครั้ง

ทว่าของสิ่งนี้กลับเย็นชื่นใจเหมือนกับน้ำแข็ง แต่อ่อนนุ่มกว่าและละลายทันทีที่เข้าปาก กลิ่นหอมของนมที่เข้มข้นมาพร้อมกับกลิ่นหอมของสะระแหน่ ฮวาเซียงเซียงไม่รอให้จี้จือฮวนป้อนแล้ว นางตักขึ้นมากินเองทันที

“ด้านในเป็นอะไร?”

“มีถั่วลิสงบด เจินจื่อ* ยังมีลูกเกดด้วย เป็นอย่างไรบ้าง?” จี้จือฮวนเอ่ยถาม

* เจินจื่อ (榛子) หมายถึงเฮเซลนัต

ฮวาเซียงเซียงตื่นเต้นจนอดใจไม่ไหว “ไอศกรีมนี่ก็เยี่ยมมากเหมือนกัน ตอนแรกข้ายังคิดว่าเจ้าจะล้วงเอาปีศาจออกมาเสียอีก ร้านนี้ข้าสามารถทำร่วมกับเจ้าได้หรือไม่?”

จี้จือฮวนเลิกคิ้วขึ้น “เดิมข้าก็ไม่คิดจะทำเองอยู่แล้ว เพราะข้าขี้เกียจ จะให้ข้ามาขายของในตำบลทุกวันข้าไม่มีแรงหรอก”

เมื่อก่อนเวลาไม่ออกไปทำภารกิจ นางก็มักจะอยู่บ้านหรือหาที่เที่ยวคนเดียว เมื่อเที่ยวจนพอใจแล้วค่อยกลับไปทำงาน

ฮวาเซียงเซียงได้ฟังก็มีความหวังขึ้นมา รีบล้วงเอากระดาษออกมาทันที “สัญญาครั้งนี้จะเขียนว่าอย่างไร เจ้าว่ามาได้เลย!”

นางชินกับวิธีทำการค้าของจี้จือฮวนนานแล้ว

จี้จือฮวนคิดไปคิดมาก็เอ่ยขึ้น “การทำไอศกรีมกับน้ำแข็งแท่งไม่ได้ยากมาก ถึงเวลาก็จะมีคนเอาน้ำแข็งมาส่งให้ วางใจได้”

เมื่อนึกถึงนกเหยี่ยวล่าเหยื่อที่เลี้ยงไว้ที่บ้านแค่ไม่กี่วันก็ตัวอ้วนกลม จี้จือฮวนก็เริ่มสงสัย มันยังจะบินได้อีกหรือไม่?

“น้ำแข็ง นั่นเป็นสิ่งที่ต้องเป็นคนร่ำรวยจึงจะสามารถซื้อได้ จะว่าไปแล้วเจ้าเคยคิดที่จะไปขายน้ำแข็งที่เมืองหลวงบ้างหรือไม่?” ทันใดนั้นฮวาเซียงเซียงก็คิดถึงประเด็นสำคัญขึ้นมาได้ ก่อนจะขยับลูกคิดออก

“ทางนั้นมีคนขายอยู่แล้ว แต่ว่าน้ำแข็งแท่งกับไอศกรีม พวกเราเป็นเจ้าแรก ส่วนทางนั้นก็ต้องรอพวกเราทำออกมาก่อน ทางนั้นจึงจะมีสูตรไปขาย”

ฮวาเซียงเซียงเอ่ยอย่างครุ่นคิด “น้องสาว เจ้าคิดวิธีหาเงินเช่นนี้ออก เหตุใดถึงเพิ่งมาบอกข้าตอนนี้เล่า”

“ก็เพิ่งคิดได้ไม่นานนี้ เจ้าเป็นคนที่สองที่รู้ หากเจ้าคิดว่าวิธีนี้ใช้ได้ ข้าก็จะติดต่อกับเขา ส่วนเจ้าก็เตรียมร้านให้เรียบร้อย เงินแบ่งตามเดิม เรื่องการค้าให้เจ้าช่วยดู ส่วนข้าจะคิดสูตรให้”

“ไม่มีปัญหา ด้วยรสชาติเช่นนี้ ข้ารับรองว่าต้องขายดีอย่างแน่นอน”

ตอนที่เจิ้งต้าเฉียงเอาไม้ค้ำมาส่งให้เผยยวน พวกเหล่าเติ้งก็มาทำงานพอดี เมื่อเห็นเผยยวนนั่งอยู่ใต้ร่มไม้ให้อาหารไก่นิ่ง ๆ พวกเขาต่างก็เข้ามาทักทาย

ทุกคนขอบคุณเขาเป็นอย่างมากที่วันนั้นเข้ามาช่วยเอาไว้ ไม่อย่างนั้นพวกเขาต้องตายกันหมดแน่

“สามีอาฮวนให้อาหารไก่อยู่หรือ ไก่บ้านพวกเจ้าไม่รู้ว่าโตเร็วเช่นนี้ได้อย่างไร น่าจะเป็นเพราะได้อาหารดี”

ถึงได้อ้วนกว่าไก่ของคนอื่น

ใบหน้าของเผยยวนแฝงไว้ด้วยความภาคภูมิใจ “อืม ฮวนฮวนเลี้ยงต้องโตเร็วอยู่แล้ว”

อาชิงที่เพิ่งทำความสะอาดขี้เป็ดเสร็จก็ถึงกับสะดุ้งขึ้นมา และมองไปที่ท่านพ่อของเขาที่กำลังพูดจาเหลวไหลด้วยความไม่อยากเชื่อ

อาชิงเป็นคนให้อาหารเองต่างหาก!!

เจิ้งต้าเฉียงหยิบไม้ค้ำออกมาแล้วก็พูดขึ้น “เมื่อวานอาฮวนบอกข้าว่า เจ้าเพิ่งจะหายจากการป่วยหนัก เดินเหินยังไม่ค่อยถนัด ข้าเลยทำไม้ค้ำให้เจ้าทั้งคืน เจ้าลองดูสิว่าใช้ได้หรือไม่ ข้าทำพอดีกับความสูงของเจ้าด้วยนะ”

ตอนที่เผยยวนสลบไปนั้น ร่างกายจึงผอมลงกว่าเมื่อก่อนมาก ยิ่งทำให้เขาดูสูงขึ้น

เผยยวนมองไปที่ไม้ค้ำยันด้วยท่าทางลังเล ก่อนจะรับเอามาลองอย่างเงียบ ๆ

“พอดีเลย ฝีมืองานไม้ของต้าเฉียงดีที่สุดในหมู่บ้านละแวกนี้แล้ว สามีอาฮวนต่อไปมีอะไรจะให้ทำก็บอกเขาได้เลย”

เหล่าเติ้งเอ่ยด้วยรอยยิ้ม

เผยยวนพยักหน้ารับ “ขอบคุณมาก”

“ไอ้หยา ขอบคุณอะไรกัน ข้าเห็นพวกเจ้าเป็นเหมือนคนในครอบครัว วันหน้าเจ้าก็ถือเป็นพี่น้องข้า เรื่องอื่นข้าไม่กล้ารับปาก แต่เรื่องงานฝีมือเช่นนี้ ในหมู่บ้านตระกูลเฉินข้าเป็นที่หนึ่งเลยนะจะบอกให้” เจิ้งต้าเฉียงเป็นคนซื่อ ใบหน้าที่คล้ำแดดเผยรอยยิ้มออกมา แค่ดูก็รู้ว่าจริงใจมากเพียงใด

เผยยวนคิดถึงพี่น้องในกองทัพ ตอนนั้นบุกตะลุยโจมตีข้าศึก มีหลายครั้งที่ตกอยู่ในช่วงวิกฤต

พวกเขาก็มองตนเหมือนอย่างที่เจิ้งต้าเฉียงมอง พร้อมเอ่ยกับตนด้วยรอยยิ้มซื่อ ๆ “ท่านแม่ทัพ ข้าคิดถึงบ้าน ข้าคิดถึงแม่”

เผยยวนดวงตาเป็นประกายเล็กน้อย “อืม เป็นพี่น้องกัน”

เจิ้งต้าเฉียงรู้สึกว่าสามีอาฮวนผู้นี้ เหมือนไม่ใช่ผู้ชายบ้านนอก ผิวของเขาขาวมาก หน้าตาก็หล่อเหลาจริง ๆ เช่นเดียวกับอาฉือ เขาจึงไม่กล้าที่จะเข้าใกล้เท่าใดนัก

และก็ไม่รู้ว่าจะบรรยายออกมาเช่นไร

โชคดีที่ไม่นานเผยยวนก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน “เช่นนั้นเจ้าสานตะแกรงย่างเป็นหรือไม่?”

“ตะแกรงย่าง อ้อ ที่เอาไว้อบแห้ง ด้านล่างตั้งเตาเอาไว้แบบนั้นหรือ?” เจิ้งต้าเฉียงเอ่ยถาม

“น่าจะใช่กระมัง ข้าได้ยินฮวนฮวนบอกว่าพรุ่งนี้จะให้เจ้าสอน ตอนนี้นางไม่อยู่บ้าน หรือไม่เจ้าช่วยสอนข้าหน่อย” เผยยวนเองก็ไม่อยากอยู่บ้านเฉย ๆ

ตอนนี้ทุกคนต่างก็คิดว่าร่างกายเขายังอ่อนแอ ดังนั้นจึงไม่ให้เขาทำงาน

“มีอะไรยากกัน เจ้ารอก่อนนะ ข้าจะไปเอาไม้ไผ่มา” เจิ้งต้าเฉียงพูดจบก็วิ่งลงเนินเขาไป แต่ไม่นานก็กลับมา

หมู่บ้านตระกูลเฉินอย่างอื่นอาจมีไม่มาก แต่ไผ่ที่ขึ้นตามธรรมชาตินั้นกลับมีเยอะมาก ทุกบ้านต่างก็สานของเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็น

ของที่จี้จือฮวนทำทั้งใหญ่ทั้งแปลกใหม่ เผยยวนไม่เคยเรียนมาก่อน ตอนแรกจึงถูกเสี้ยนตำมือไปหลายครั้ง

เจิ้งต้าเฉียงเห็นเขาตั้งใจทำ ก็พยักหน้าน้อย ๆ เพราะก่อนหน้านี้เขายังกังวลอยู่ว่าหากคนผู้นี้ฟื้นขึ้นมาจะปฏิบัติไม่ดีต่ออาฮวน แต่ตอนนี้ดูแล้วขอเพียงตั้งใจ ชีวิตพวกเขาต้องดีขึ้นแน่นอน

“รอให้ร่างกายเจ้าหายดีแล้ว น้องอาฮวนก็ไม่ต้องเหนื่อยเช่นนั้นแล้ว นางเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวต้องออกไปขายของ ทั้งยังต้องเลี้ยงเด็กอีกสามคน” เจิ้งต้าเฉียงเอ่ยถึงตรงนี้ ก็เอ่ยต่ออย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ขึ้นมา “เจ้าอย่าโทษที่เมื่อก่อนนางทำไม่ดีต่อเด็ก ๆ เลยนะ เพราะตอนนี้นางสำนึกผิดแล้ว ทั้งยังไม่รังเกียจที่เจ้ามีลูกติดถึงสามคนอีก เจ้าต้องทำดีกับนางให้มาก ๆ ล่ะ”

เผยยวนรับคำอย่างหนักแน่น “ไม่หรอก ข้าจะดีกับนางอย่างแน่นอน”

อาอินที่เพิ่งล้างผักของคืนนี้เสร็จ ตอนที่เดินผ่านจึงทำทีแกว่งหมัดไปมา “พี่ต้าเฉียงวางใจเถอะ หากท่านพ่อข้าทำไม่ดีกับท่านแม่ ข้าจะอัดเขาให้เละก่อนเลย”

เผยยวนอึ้งไปเล็กน้อย เจ้าเด็กน้อยผู้นี้ตอนนี้กลายเป็นแม่เสือไปแล้วหรือ?

“อาอินเองเมื่อก่อนนางก็โมโหน้องอาฮวนมากกว่าใคร” เจิ้งต้าเฉียงรู้สึกขำขึ้นมา

“ท่านบอกเองว่านั่นเป็นเมื่อก่อน ท่านแม่ข้าตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ข้าเองก็ไม่ใช่คนไม่รู้คุณคน อ้อ ข้าต้องไปจับปูที่แม่น้ำก่อน คืนนี้อยู่กินปูผัดกับพวกเราก่อนนะเจ้าคะ ข้าเรียนวิธีทำมาจากท่านแม่แล้ว” สาวน้อยสะบัดหน้าหนีด้วยความภาคภูมิใจ ก่อนจะหยิบตะกร้าไม้ไผ่ใบเล็กวิ่งไปทางริมแม่น้ำอย่างรวดเร็ว

เผยจี้ฉือฝึกเขียนหนังสืออยู่ในห้อง อาชิงเล่นของเล่นอยู่ในลานบ้าน เจิ้งต้าเฉียงรู้สึกว่าตอนนี้ช่างดีจริง ๆ วันหน้าครอบครัวเผยจะต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

“จะว่าไปแล้ว น้องอาฮวนก็ลำบากไม่น้อย เมื่อเช้าตอนไปขายของ เฉินเย่าจงนั่นก็มาทำให้นางอารมณ์เสียอีก ครั้งหน้าถ้าข้าเจอจะต้องสั่งสอนเขาสักหน่อย”

เผยยวนเงยหน้าขึ้น “เฉินเย่าจง ใครหรือ?”

“อ่อ เจ้ายังไม่รู้อย่างนั้นหรือ ข้าจะเล่าให้เจ้าฟัง”