งอย่างนั้น ข้าก็ยังแปลกใจนะที่เจ้ามาเป็นนักผจญภัยแบบนี้”

“เดิมข้าก็ไม่คิดว่าจะลงเอยแบบนี้หรอกค่ะ ครอบครัวที่อุปการะเลี้ยงดูข้าก็ดีกับข้ามาก แต่ในใจข้านั้น ปรารถนาที่จะใช้วิชาดาบที่ได้ร่ำเรียนมาจากท่านอาจารย์ให้เป็นประโยชน์”

“ลิซานดร้า เจ้าจะยืนประกบติดท่านอาจารย์มากไปแล้ว”

“หา? ทำไมเจ้ามาว่าข้าแบบนั้นล่ะ เจ้าเองก็เกาะติดท่านอาจารย์เหมือนกันนี่”

“เห้ย เห้ย อย่าเพิ่งตีกันนนน..”

อลิเซียประกบขวา เซเลน่าประกบซ้าย

ข้าว่ามันต้องมีใครสักคนเรียกสถานการณ์นี้ว่า “อยู่ท่ามกลางหมู่ดอกไม้ สองมือประคองจับ” แต่ขอโทษนี่ไม่ใช่บุปผชาติงดงามอันใด นแต่เป็นสองสุดยอดนักล่าที่ข้ารู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นหนูตัวเล็กๆถูกต้อนติดมุมอยู่เนี่ย แรงกดดันที่แผ่ซ่านออกจากทั้งสองทำเอาข้าหายใจไม่ทั่วท้องเลย

กลายเป็นสถานการณ์เราสามคนที่เกาะกลุ่มกันอยู่แบบนี้

หลังออกจากร้านขายของฝาก ข้าอยากจะได้ดาบสักเล่มไว้ใช้ข้างกาย และนั่นเลยทำให้อลิเซียและเซเลน่าต่างแย่งกันเสนอแนะให้ข้าได้รู้จักกับช่างตีเหล็กเลื่องชื่อที่พวกเธอรู้จัก

สำหรับข้านั้น ข้ารู้สึกดีใจที่ได้เห็นเซเลน่าสบายดี หลังจากที่เราไม่ได้เจอกันนานเลย

อาชีพนักผจญภัยนั้น ไม่เหมือนกองอัศวินที่อยู่ประจำเมือง พวกเขาจะออกเดินทางร่อนเร่ไปทำภารกิจทั่วโลก และไม่อยู่ประจำที่ใดที่หนึ่งเป็นเวลานาน

ยิ่งนักผจญภัยขั้นสีนิลอย่างเซลเลน่านั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่สาหัสยิ่งกว่า

ดูเหมือนว่าเซเลน่าเพิ่งเดินทางกลับมาที่เมืองบาลเทรนหลังเสร็จสิ้นภารกิจในดินแดนที่ห่างไกล

เธอจึงมีเวลาว่างได้ในวันนี้ เพราะเหตุนั้นเอง ข้าจึงอยากให้เธอไปด้วย

แล้วข้าเองก็ไม่อยากจะเสียเวลาและไม่มีอารมณ์สนุกกับการโต้เถียงกันของทั้งสองว่าใครจะมาเป็นคนพาเที่ยวให้กับข้า

ข้าอยากรีบกลับหมู่บ้านบิดเดนก่อนหมดวันและตอนนี้เวลาช่วงกลางวันก็เหลือไม่มากแล้วด้วย

อย่างไรก็ตามขณะที่ข้าโล่งอกที่คุมสถานการณ์ได้แล้วนั้น ข้าก็ได้มองข้ามสิ่งหนึ่งไป

“….ท่านอาจารย์กำลังดึงดูดสายตาผู้คนให้มองมาทางท่านนะคะ แหม สมกับเป็นท่านอาจารย์จริงๆ”

เซเลน่ากล่าวแล้วสะบัดผมสีแดงเพลิงอันภาคภูมิใจของเธอ

เออ ใช่สิ ข้าเป็นคนเสนอเองว่าให้ไปด้วยกันทั้งหมดสามคน มาตอนนี้ข้ารู้สึกเสียใจที่ไม่คิดให้รอบคอบก่อนว่าผลมันจะออกมาแบบนี้

“เอ่อ…คือข้ายังไม่ชินกับการถูกจ้องมองมาแบบนี้เลยนะ”

“ท่านอาจารย์คะ ท่านจะต้องทำความคุ้นเคยกับเรื่องแบบนี้ไว้นะคะ จากนี้ไปท่านจะเป็นที่สนใจของผู้คนรอบข้างในไม่ช้า”

“ข้าไม่ได้อยากเห็นด้วยกับนางหรอกนะ แต่ที่ไซตรัสพูดมาก็ถูก เมื่อผู้คนร่ำลือกันถึงทักษะการสอนวิชาดาบของท่านอาจารย์ อีกไม่นานท่านคงได้เป็นคนดังของเมืองนี้แน่ค่ะ”

“อะหะ ฮ่าๆๆ…”

ที่สองคนนี้ชงมาให้เนี่ย …..ใช่เหรอวะ? ทักษะการสอนอะไรวะ?

เกรงว่าคุณลุงคนนี้จะไม่สามารถเป็นได้ดั่งที่หวังไว้น่ะสิ มันจะขำกลิ้งเอานะ..

เอาเถอะ ยังไงเสีย พูดอะไรไปสองคนนี้ก็คงไม่ฟังว่าข้ามันก็แค่ตาลุงบ้านนอกธรรมดาๆคนหนึ่งเท่านั้นเอง

แล้วนี่พอข้าหันมองรอบๆ หันไปทางไหนก็เจอแต่สายตา/ดวงตา/ลูกกะตามันจดจ้องมาที่ข้ากันหมดเลยโว้ย

หัวหน้ากองอัศวินริเบลิโอ้ นักผจญภัยระดับสีนิลเดินเคียงข้า ผู้ซึ่งดูยังไงก็เป็นตาลุงบ้านๆคนหนึ่ง ไม่มีทางซะหรอกที่คนอย่างข้าจะไปดึงดูดสายตาแบบนั้นได้

แล้วข้าก็ได้ยินเสียงซุบซิบแว่วมาว่า “โห นั่นท่านหัวหน้ากองอัศวินใช่มั้ยนั่น…?” “ว้าว นั่นดาบพิฆาตมังกร ลิซานดร้านี่นา!” “แล้วไอ้ลุงตรงกลางนั่นใครวะ…?”

ลิซานดร้านั้นน่าทึ่งมาก เธอมีสมญานามซะด้วย ฟังดูเท่ชะมัดเลย

เธอเป็นผู้ใช้ดาบคู่ หืม….ข้านึกไม่ออกเลยนะ ว่าจะใช้ดาบสองเล่มควบคู่กันอย่างไร

ข้ามั่นใจว่าไม่เคยสอนวิธีใช้ดาบคู่ให้เธอนะ….นี่เธอเก่งขึ้นโดยไม่ต้องมีคำแนะนำจากข้ารึนี่?

อืมมมม…ไม่ล่ะ ไม่ ไม่ใช่อะไรสำคัญที่ต้องเก็บมาคิดเลย

“นี่คือร้านตีเหล็กที่จัดทำอาวุธและชุดเกราะให้กับพวกเราเหล่าอัศวินค่ะ งานที่ได้มีคุณภาพดีทีเดียว

“โอ้ ดีเลย ไหนขอลองดูหน่อยซิ”

ขณะที่ข้ากำลังอึนๆมึนๆกับการถูกจับจ้องไม่วางตาจากผู้คนรอบข้างนั้น ดูเหมือนว่าในที่สุดเราก็มาถึงร้านตีเหล็กที่อลิเซียแนะนำจนได้

ข้าก็มัวแต่พะวงจนจำทางกลับไม่ได้แล้วเนี่ย เออ ช่างมันเถอะ…

“โอ้ นั่นท่านหญิงไซตรัสใช่มั้ยนั่น ยินดีต้อนรับ!”

“สวัสดี ข้าอยากจะขอดูดาบในร้านเจ้าสักหน่อย”

“ได้แน่นอนอยู่แล้ว! เชิญเข้ามาก่อนเลย”

ผู้ชายสูงวัยท่าทางกำยำและเป็นมิตร ดูแล้วน่าจะเป็นเจ้าของร้าน ลอบมองมาจากหลังร้านก่อนเอ่ยทักทาย

—หลังร้านนั่นน่าจะเป็นพื้นที่ปฏิบัติงานของร้านนี้สินะ

“โอ้ จริงสิ เมื่อไม่นานมานี้ เพิ่งจะมีแร่เหล็กอย่างดีส่งมาที่ร้านแน่ะ”

“เข้าใจล่ะ นั่นน่ะน่าจะเพื่อทำอุปกรณ์ให้กับพวกเราสินะ….”

ที่บอกว่าอาวุธและชุดเกราะของกองอัศวินนิยมสั่งจากร้านนี้ดูเหมือนจะไม่ได้กล่าวเกินจริง

อลิเซียกำลังทักทายเจ้าของร้านอย่างเป็นกันเอง นอกจากนั้น เขาเองก็ไม่ได้มองข้าแปลกๆเหมือนคนอื่น

ยังกับว่าเค้าคุ้นเคยกับการมาเยือนของลูกค้ารายใหญ่เป็นประจำอยู่แล้ว

ขอบคุณพระเจ้า ถ้ายังถูกจ้องมองโดยตาลุงเจ้าของร้านอีกคนล่ะก็ ข้าคงปวดใจแย่…

“หืมมมม….งานดีนะเนี่ย”

ข้าหยิบดาบเล่มหนึ่งที่ตั้งโชว์ไว้ในร้านขึ้นมาดู

ตัวดาบมีน้ำหนัก แต่มีสมดุลที่ดีและกระชับเหมาะมือ

ด้านใบมีดถูกลับจนคมกริบเหมือนใบมีดโกน อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานและเคลือบดาบกันสนิมไว้แล้ว

งานดีสมกับที่อลิเซียภูมิใจเสนอจริงๆ

“ท่านอาจารย์ยังใช้ดาบยาวอยู่หรือคะ?”

เซเลน่าที่มองข้าอยู่ห่างๆ กล่าว

“ใช่ มันเหมาะสำหรับเป็นอาวุธของมือใหม่ เชิงดาบที่ใช้ก็ตรงไปตรงมา ใช้งานง่าย”

ข้าชูดาบยาวขึ้นในระดับสายตา

ที่กล่าวมานั่นก็ไม่เชิงว่าจะเป็นความจริงทั้งหมด

ครั้งหนึ่งข้าเองก็อยากจะใช้ดาบสองมือหรือดาบคู่แบบที่เซเลน่าใช้

แต่พอได้ลองแล้ว สุดท้ายข้าก็เลือกดาบยาวธรรมดาแบบนี้แหละ

น้ำหนัก ความสมดุลและความยาวของใบมีดอยู่ในระดับกลางๆทุกด้าน

กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าข้าเชี่ยวชาญดาบยาวแล้ว ข้าก็สามารถใช้ดาบอื่นๆได้เชี่ยวชาญพอสมควรเลย

“โอ้ เจ้าอยากลองทดสอบดูมั้ยล่ะ?”

ดูเหมือนว่าเจ้าของร้านเพิ่งจะคุยกับอลิเซียเสร็จจึงทักมาทางข้า

อืม ทดลองฟันดูน่ะเหรอ?

เมื่อได้เจอดาบดีๆสักเล่ม ก็คงอยากจะลองทดสอบความคมกันบ้างล่ะนะ เจ้าของร้านนี่ช่างเข้าใจความรู้สึกของนักดาบจริงๆ แถมยังเลือกช่วงเวลาที่จะแนะนำลูกค้าได้ประจวบเหมาะอีก หัวการค้าใช้ได้เลย

“ข้าลองได้เหรอ? งั้นก็ ไม่ขอปฏิเสธล่ะนะ”

“ได้สิ หลังร้านมีพื้นที่ว่างอยู่ ข้าจะพาไปเอง”

แน่ล่ะว่าข้าอยากจะลองใช้ดู แล้วเขาก็ชวนให้ข้าลองเองด้วย ข้าเลยตอบตกลงแบบไม่ต้องใช้สมองคิดเลย

ข้าจึงเดินตามหลังเจ้าของร้าน ไปที่หลังร้าน

“อ๊ะ…ข้าไม่ได้เห็นเชิงดาบของท่านอาจารย์มานานโขเลย…”

“ข้าเองก็ไม่ได้เห็นมานานแล้วเช่นกัน…”

อลิเซียและเซเลน่าก็ตามข้ามาติดๆ

ขอเถอะนะ…อย่าเลย ข้าไม่อยากให้หัวหน้ากองอัศวินของริเบลิโอ้กับนักผจญภัยขั้นสีนิลมาประเมินฝีมือข้าหรอกนะ…

“ทางนี้ เชิญเลย”

“ขอบคุณ….เอาล่ะนะ…”

ที่หลังร้าน มีพื้นที่เปิดโล่ง ที่มีเสาที่พันไว้ด้วยม้วนฟางสำหรับทดสอบดาบ ตั้งเรียงรายอยู่ ดูท่าที่นี่จะเป็นลานทดสอบความคมของดาบที่ทำเสร็จแล้วก็เป็นได้

ข้าตั้งสมาธิ ขณะจรดดาบขึ้นตั้งตรง หันหน้าเข้าหาเสาฟางม้วนนั้น

ใจสงบเฉียบคมได้เพียงไร ดาบที่ใช้ก็มีความคมกล้าตามไปด้วย

ผสานจิตให้เฉียบคมขึ้นดั่งคมดาบจนถึงขีดจำกัด

หลอมรวมจิตวิญญาณ ขจัดความฟุ้งซ่านให้หมดไป จนตระหนักถึงระนาบสมบูรณ์

“-ชึบ!”

ประกาบแสงแว็บหนึ่งปรากฏ

ความเฉียบคมอันตระหนักถึงได้นั้น ไหลผ่านจากมือลงสู่ปลายนิ้วส่งไปถึงใบมีด

ชั่วพริบตาปานขนนกสะบัดพริ้ว

เฉกเช่นเดียวกับมีดร้อนระอุผ่าลงบนชิ้นเนย

ครึ่งบนของแท่นฟางม้วนก็ค่อยๆเคลื่อนหลุดออกและตกลงสู่พื้น

-ดีๆ ให้มันได้อย่างนี้สิ!

ที่สุดแล้ว ดาบคุณภาพดีมันก็ให้ผลที่แตกต่างออกไปแบบนี้แหละ

ข้าคิดว่าจะซื้อดาบเล่มนี้ไว้ใช้งาน น้ำหนักพอดีมือ ถึงจะได้ลองฟันไปแค่ครั้งเดียวแต่ข้าก็ชอบมัน

“….เป็นดั่งที่ข้าคาดหวังจากท่านอาจารย์”

“….ช่างน่าทึ่ง ข้าเองยังคาดไม่ถึงว่าจะออกมาดีขนาดนี้….”

อ้าว ข้าลืมไปเลยว่าสองคนนี้กำลังยืนดูข้าอยู่ ข้ามัวแต่กำหนดจิตให้ตั้งมั่นจนลืมรอบด้านไปหมด

เอาเถอะ ตอนนี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

“ไม่หรอก ไม่เลย ถ้าดาบไม่ดีพอ ข้าก็ทำแบบนี้ไม่ได้หรอก”

ถึงยังไง สองคนนี้ก็อวยข้าเกินไป นี่มันก็แค่ฟันเสาฟางม้วนธรรมดาเท่านั้นเอง

ข้ามั่นใจว่าทั้งสองดูออก การฟันเสาฟางม้วนแบบนี้มันอาจจะยากสำหรับพวกมือใหม่อยู่บ้าง

แต่กับคนที่มีพรสวรรค์ทางด้านนี้สักเล็กน้อย ก็สามารถทำแบบข้าได้

แล้วเป็นโชคดีของข้าด้วยว่าเป็นพวกที่มีความสามารถมากกว่าพรสวรรค์นิดหน่อย

ถึงจะไม่มากมายอะไร แต่ข้าก็ต้องขอขอบคุณพ่อข้าที่ช่วยสอนสั่งมา

“การฟันเสาฟางม้วนขาด มันก็เป็นแบบนั้นแหละค่ะ แต่รอยตัดที่เรียบหมดจดแบบนี้มัน…..”

“ไซตรัสพูดถูก ข้าไม่เคยเห็นรอยตัดที่สมบูรณ์แบบแบบนี้มาก่อน”

“ไม่หรอก ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก พวกเจ้าก็ชมข้าเกินไปแล้ว”

เจอลูกศิษย์อวยแบบนี้ มันเขินนะเว้ย

ถึงข้าจะลับจิตให้เฉียบคมจนผลมันออกมาดีแบบนี้

แต่เอาจริงๆแล้ว ข้าก็ไม่ได้คิดว่ามันจะยอดเยี่ยมอะไรขนาดนั้นอย่างที่ทั้งสองคนกล่าวมาหรอกนะ

“เอ่อ…นี่ นายช่าง เห็นท่าฟันเมื่อกี้มั้ย?”

พอข้าไม่เออออไปกับคำชมของเธอ อลิเซียจึงหันไปถามเจ้าของร้านตีเหล็ก

เออ เขาก็มายืนดูข้าด้วยนี่หว่า

แล้วนี่เจ้าของร้านก็อ้าปากหวอมาได้สักพักแล้ว

แล้วไอ้ที่มองตาค้างนั่นคืออะไรมิทราบ

นี่เขายังโอเคอยู่มั้ย ข้าชักเป็นห่วงแล้วสิ

“เอ่อ….ท่านคือปรมาจารย์ดาบผู้โด่งดังรึเปล่าครับ?”

นั่นคือสิ่งที่เค้าเอ่ยออกมาหลังจากนิ่งอึ้งไปนาน

ไม่โว้ย ไม่ใช่ ไม่อะไรทั้งนั้นแหละ ข้าก็แค่ตาลุงบ้านนอกคนหนึ่งเท่านั้นเอง!

——–ความเห็นส่วนตัวจากผู้แปล——

คนที่อ่านมังงะมาก่อนจะรู้สึกว่าตาลุงในนิยายนี่ไม่ได้เทพเท่าในมังงะ

ก็ต้องยอมรับว่าตาลุงในมังงะนี่ ออกมาโคตรเทพจริงๆ ขนาดดาบไม่ลับคมยังฟันเสาขาดได้

แต่ทั้งนี้ หากเคยดูคลิปที่ใช้ดาบซามูไรฟันเสาฟางม้วนมาก่อน จะเข้าใจว่าการฟันให้เสาขาดกระเด็นนั้นมันไม่แปลกอะไร แต่การฟันแบบให้เสาขาดแล้วเคลื่อนหลุดร่วงลงมานี้ผมยังไม่เคยเห็นเลยนะ

นั่นเพราะเมื่อออกแรงฟัน ทิศทางของแรงจะกระจายตัวออกรอบแรงตัดด้วยแรงต้านกลับจากเสาไม้ ดังนั้นมันจะเกิดแรงกระชากให้เสาท่อนบนที่ถูกฟันกระเด็นหลุดออกจากตัวเสาและรอยตัดจะมีรอยกระชากให้เห็น แต่อย่างในนิยายนั้น ทิศทางของแรงกระทำอยู่ในระนาบเดียวกันทั้งหมด มันฉับไวและเฉียบคมมากจนแทบไม่เหลือแรงต้านจากตัวเสา รอยตัดจึงเรียบคมแล้วเสาฟางที่ถูกตัดจึงเคลื่อนหลุดออกตามแรงโน้มถ่วงให้ตกลงสู่พื้น

คือตาลุงในนิยายก็เทพจริงอยู่นะ แต่เพราะในโลกมังงะอื่นๆ ตัวเอกส่วนใหญ่ก็ทำได้แบบนี้แหละ มันคงธรรมดาไปมั้ง ในมังงะเลยทำให้เทพยิ่งขึ้นไปอีก ดาบไม่คมก็ตัดเสาขาดได้วะ อะไรประมาณนี้