บทที่ 121 อดีต

บทที่ 121 อดีต

ห้านาทีผ่านไป อู๋ฝานที่ปรับสภาพจิตใจได้แล้ว จึงปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนอีกครั้งด้วยสีหน้าจริงจัง

แม้ว่าเคยได้พบเจอกันมาก่อนแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยามเมื่อเด็กสาวพบเห็นหุ่นอันสมบูรณ์แบบของอู๋ฝาน พวกเธอก็ยังอดไม่ได้ที่จะต้องจับจ้อง บางคนมีสายตาอันกล้าหาญ กระทั่งว่าหิวกระหาย ทำเอาอู๋ฝานที่แม้รับสภาพทางจิตใจเอาไว้แล้ว ยังเกือบต้องเผ่นหนีกลับไปอีกครั้ง

“แค่กแค่ก ยืนตรง เตรียมเริ่มคาบเรียนกันได้แล้วครับ” อู๋ฝานพยายามพูดออกมาด้วยท่าทีจริงจัง

กลุ่มเด็กสาวตั้งใจ ยืนนิ่งด้วยความเชื่อฟัง เพียงแต่สีหน้ายังคงยิ้มแย้มอย่างชัดเจน ตรงส่วนนี้อู๋ฝานไม่อาจบีบบังคับอะไรได้

ภายหลังทุกคนวอร์มอัพกันเรียบร้อยแล้ว จึงถึงเวลาลงน้ำ อู๋ฝานในวันนี้เองก็ลงน้ำเช่นกัน เพราะเขาต้องสาธิตการเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง รวมถึงการยืดกล้ามเนื้อและปรับลมหายใจระหว่างการว่ายน้ำ การอธิบายอย่างเป็นมืออาชีพของตัวเขา ถึงขั้นทำเสียงหัวเราะหยอกเย้าแต่เดิมของเหล่าเด็กสาวกลับกลายเป็นต้องฟังอย่างตั้งใจ

แน่นอนว่าบางคนได้เห็นการเคลื่อนไหวของอู๋ฝานทั้งแม่นยำและมีมาตรฐาน ท่าทางการว่ายน้ำรับชมไปแล้วยังดูหล่อเหลา จึงทำพวกเธอยิ่งมองอู๋ฝานอย่างเปิดเผยมากยิ่งขึ้น

“อาจารย์อู๋ หลังจบคาบเรียนพอจะมีเวลาไหมคะ?” ไม่นานหลังอู๋ฝานขึ้นจากสระน้ำ ถังอวี่เฟยจึงเผยแย้มยิ้มเดินเข้าหา

“มีอะไรเหรอครับ?” อู๋ฝานมองด้วยความระมัดระวัง

“ไปช็อปปิ้งกันค่ะ” ถังอวี่เฟยยังคงยิ้มแย้มตอบรับ “เมื่อวานนี้ที่ไปช็อปปิ้งกับอาจารย์อู๋ ฉันรู้สึกสนุกมากเลยค่ะ ดังนั้นเลยอยากจะเชิญอาจารย์อู๋ไปช็อปปิ้งด้วยกันวันนี้อีกครั้งหนึ่ง”

อู๋ฝานเร่งร้อนหันมองรอบด้าน พบว่าแม้มีคนอื่นมองมาทางนี้ แต่ก็ยังอยู่ค่อนข้างห่าง ดังนั้นจึงไม่น่าได้ยินคำพูดของถังอวี่เฟย เป็นเหตุให้เขาต้องลอบถอนหายใจโล่งอก

หากว่ามีข่าวลือชู้สาวเช่นว่าตัวเขาไปช็อปปิ้งกับนักศึกษาหญิง มันคงได้เป็นประเด็นนินทาอันร้อนแรงอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไม่ว่างครับ” อู๋ฝานปฏิเสธอย่างชัดเจน “ช่วงบ่ายวันนี้ผมยังมีเรื่องต้องทำ”

“เรื่องอะไรกันคะ? ให้ฉันไปด้วยได้หรือเปล่า?” ถังอวี่เฟยเอ่ยถาม

“ไม่ดีกว่าครับ” อู๋ฝานยังคงปฏิเสธ

“ขี้เหนียว” ถังอวี่เฟยกลอกตามองอู๋ฝาน “หรือว่ามีนัดไปไหนกับเพื่อนร่วมชั้นคนนั้นเหรอคะ?”

อู๋ฝานทราบดีว่าเธอหมายถึงเจ้าเซียวถิง มันถึงกับทำเขาตอบไม่ออกไปชั่วขณะ “คิดอะไรกันครับ ผมกับเธอคนนั้นเป็นได้ก็เพียงแค่เพื่อนร่วมชั้น”

“งั้นบอกเล่าเรื่องสมัยเรียนมหาวิทยาลัยให้ฉันฟังหน่อยค่ะ ฉันอยากรู้พอสมควรเลย” แท้จริงแล้ว จากท่าทีที่เจ้าเซียวถิงมีต่ออู๋ฝานเมื่อวานนี้ ถังอวี่เฟยก็พอจะเดาได้ว่าอู๋ฝานกับเจ้าเซียวถิงไม่มีทางสนิทอะไรกันแม้สมัยยังเรียน เรียกได้ว่าไม่ลงรอยต่อกันเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นเธอจึงไม่คิดสงสัยในคำอธิบายของอู๋ฝาน

เพียงแต่ ถังอวี่เฟยค่อนข้างสงสัยมากกว่า ว่าที่มหาวิทยาลัยระหว่างอู๋ฝานกับเจ้าเซียวถิงเคยเกิดเรื่องราวใด หากบอกตามตรง เธอสงสัยชีวิตที่อู๋ฝานเคยผ่านพ้นมา เธอคิดอยากได้ทราบว่าอู๋ฝานเคยเป็นคนเช่นไรมาก่อนจะมาเป็นตัวตนในปัจจุบัน

“ก็แค่อดีตน่ะครับ อย่าไปสนใจเลย” อู๋ฝานปฏิเสธ

“ถ้าหากยังไม่พูด ฉันจะบอกเพื่อนทุกคนในคาบว่าฉันกับคุณเดินเที่ยวกันเมื่อวานอยู่นานเลยทีเดียว” ถังอวี่เฟยพูดข่มขู่

พบเห็นรอยยิ้มแห่งชัยชนะของถังอวี่เฟย อู๋ฝานจึงรู้สึกโกรธจนต้องกัดฟัน ทว่าตัวเขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องบอกเล่าเรื่องราวระหว่างตนเองกับเจ้าเซียวถิงสมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย

แท้จริงแล้ว อู๋ฝานและเจ้าเซียวถิงไม่ได้บาดหมางอะไรกัน เพียงแต่ ก็ไม่ใช่ว่ามีสัมพันธ์ใกล้ชิดเช่นกัน ทั้งสองไม่คุ้นเคยต่อกันเลยด้วยซ้ำ ส่วนสาเหตุว่าทำไมเจ้าเซียวถิงจึงทำกับอู๋ฝานเช่นนั้น ก็เพราะรูมเมทของเธอ

เจ้าเสวี่ยอี๋ เพื่อนร่วมชั้นมหาวิทยาลัยของอู๋ฝาน ก็เป็นตัวตนระดับดอกไม้ของชั้นเรียน ทั้งยังเป็นดอกไม้ประจำแผนก เป็นที่นิยมในมหาวิทยาลัยที่อู๋ฝานเรียนอยู่ แม้ว่าพวกเธอไม่อาจเทียบกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์หรือถังอวี่เฟยในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้ตามหลังห่างมากนัก

ทั้งเจ้าเซียวถิงและเจ้าเสวี่ยอี๋เป็นทั้งเพื่อนร่วมชั้นเรียนและรูมเมท เรียกได้ว่ามีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน

เรื่องไม่น่ายินดีระหว่างอู๋ฝานและเจ้าเสวี่ยอี๋ มันเกิดขึ้นจาก “บทสนทนายามค่ำคืน” ในหอพักของอู๋ฝาน

ในตอนนั้น ภายหลังแสงไฟในหอพักดับลง ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเข้านอนกันโดยทันที แต่มีการ “พูดคุยยามค่ำ” เกิดขึ้น ตามปกติแล้ว หัวหน้าที่ผู้ชายในหอพักมักจะพูดถึง หากไม่ใช่เกมก็ต้องเป็นเรื่องของผู้หญิง

ในคืนนั้น ไม่ทราบว่าใครที่เป็นคนเริ่มหัวข้อสนทนา ได้เอ่ยถามทุกคนว่าชอบผู้หญิงแบบไหน ขณะที่อู๋ฝานตอบไปเรื่อย ว่าชอบผู้หญิงอย่างเช่นเจ้าเสวี่ยอี๋

แต่ใครกันคาดคิด ว่าประโยคนั้นจะถูกเผยแพร่ออกไปในอีกวันด้วยเพราะสาเหตุใดก็ไม่อาจทราบ มันจึงทำอู๋ฝานกลายเป็นที่ขบขันของชั้นเรียน ส่วนรูมเมทและเพื่อนสนิทของเจ้าเสวี่ยอี๋อย่างเจ้าเซียวถิง ก็ชี้หน้าด่าทออู๋ฝานโดยตรง บอกว่าตัวเขาเป็นคางคกริอาจกินเนื้อหงส์ และตัวเขาไม่มีอะไรดีเทียบเจ้าเสวี่ยอี๋ได้ ดังนั้นควรกลืนความคิดเฝ้าฝันนั้นลงท้องไปเสีย

ในเวลานั้น ทั้งรูปลักษณ์ของอู๋ฝาน รวมถึงการวางตัวก็ไม่ได้ดีเลิศเลออะไร สถานะทางครอบครัวก็ปานกลาง ขณะที่เจ้าเสวี่ยอี๋มีผลการเรียนดีเยี่ยม เป็นสาวงามเลอโฉม ระหว่างคนทั้งสองไม่มีอะไรที่เหมาะสมต่อกันแม้แต่น้อย โดยเฉพาะเวลานั้น ที่มีผู้คนมากมายไล่ตามจีบเจ้าเสวี่ยอี๋ มีทั้งผู้ที่ร่ำรวยด้วยเงินทอง มากด้วยพรสวรรค์ และรูปลักษณ์ที่หล่อเหลา อู๋ฝานที่ไม่มีข้อดีด้านใดแม้สักด้านหากเทียบเปรียบกับพวกเขาเหล่านั้น ดังนั้นจึงไม่ใช่มีเพียงแต่เจ้าเซียวถิง แต่ทุกคนต่างก็เห็นพ้องว่าอู๋ฝานไม่คู่ควรใดทั้งสิ้นกับเจ้าเสวี่ยอี๋

ส่วนตัวของเจ้าเสวี่ยอี๋เองนั้น แม้เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาโดยตรง แต่นับจากที่เกิดเหตุการณ์ก็ไม่เคยพูดคุยกับอู๋ฝานอีกเลยแม้ครึ่งคำ

ทั้งที่ก่อนจะเกิดเรื่องราวขึ้น คนทั้งสองก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์อะไรต่อกันเลยด้วยซ้ำ

อย่างไรแล้ว คนทั้งสองในเวลานั้นก็ไม่อาจถูกจัดอยู่หมวดเดียวกันได้

เรื่องราวนี้เป็นปมในใจของอู๋ฝานมาโดยตลอด แม้อู๋ฝานไม่ใช่เพียงคนเดียวในบรรดาเพื่อนร่วมชั้นที่ชื่นชอบเจ้าเสวี่ยอี๋ แต่ใครใช้ให้เขาปากพล่อยพูดออกมาเอง? อีกทั้ง สภาพของตัวเขาก็ไม่ได้ดีเด่นอะไร ดังนั้นจึงกลายเป็นเป้าให้คนอื่นเหยียดหยามดูถูก กระทั่งว่าตัวเขาเดินเข้าใกล้เจ้าเสวี่ยอี๋แม้เพียงเล็กน้อย เจ้าเซียวถิงยังเกิดคิดว่าอู๋ฝานจะพยายามตามจีบเจ้าเสวี่ยอี๋ จนต้องตะโกนบอกคำเตือนและไล่ไปให้พ้นอยู่บ่อยครั้ง

ในความเป็นจริง เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันทั้งสิ้น ในเวลานั้น อู๋ฝานเพียงพูดออกไปว่าชอบผู้หญิงที่เป็นเหมือนเจ้าเสวี่ยอี๋ เป็นหญิงงามที่เข้าถึงได้ง่าย ไม่ว่าใครต่างก็หลงรัก แต่ไม่ใช่หมายความถึงชอบคนที่พูดถึง อู๋ฝานไม่ได้นึกชอบในตัวเจ้าเสวี่ยอี๋ แต่ภายหลังเรื่องราวกระจายออกไป ความเป็นไปย่อมเปลี่ยนแปลง ทำให้เขากลายเป็นที่หัวเราะขบขันของผู้คนหมู่มาก

“เท่านี้เหรอคะ?” ถังอวี่เฟยเอ่ยถาม

“เท่านี้ครับ” อู๋ฝานยักไหล่ตอบรับด้วยท่าทีผ่อนคลาย เห็นได้ชัดว่าเรื่องราวในอดีตไม่มีผลกับตัวเขาในปัจจุบันแล้ว แม้ว่ายังจำได้ แต่ก็ไม่ใช่คิดเก็บมาใส่ใจ

“เจ้าเสวี่ยอี๋คนนั้นรูปลักษณ์เป็นยังไงคะ? เทียบกับฉันได้ไหม? คุณชอบเธอจริงไหม?” ถังอวี่เฟยเอ่ยถาม

“แค่กแค่ก” อู๋ฝานกระแอมไอด้วยความเขินอาย “ผมไม่ได้พูดว่าชอบเธอแม้สักคำ ตอนนั้น ผมก็เพียงบอกภาพลักษณ์ที่ชอบ แต่ตอนหลังเกิดเรื่อง ข้อความมันก็ถูกเปลี่ยนแปลงไป”

“คุณยังไม่ได้ตอบคำถามทั้งหมดที่ฉันถามนะคะ ระหว่างฉันกับเธอคนนั้นใครสวยกว่ากัน?” ถังอวี่เฟยยังคงรุกถาม และไม่ยินยอมที่จะปล่อยอู๋ฝานเฉไฉไป