“เอ่อ… หัวหน้าครับ เด็กพวกนี้ถูกเสี่ยวเฉิงจับมาเมื่อคืน นี่คือรายงานของเมื่อคืนครับ” เจ้าหน้าที่พลันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เขาเองก็เพิ่งจะเริ่มงานได้ไม่นาน แถมยังต้องพยายามทำความเข้าใจกับทุกอย่างอีกด้วย ในตอนนั้นเอง เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกนอกเหนือจากการส่งมอบรายงานของเสี่ยวเฉิงให้กับหัวหน้า

หัวหน้าพลันเหลือบมองไปที่ห้องขังและกล่าวคำพูด “เปิดประตู แล้วก็ปล่อยพวกเขาออกไป”

ตามที่เสี่ยวเฉิงรายงาน เขาเขียนไว้ว่าวัยรุ่นเหล่านี้ทั้งดูหมิ่นและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกเขาจะต้องถูกควบคุมตัวเอาไว้ตลอดทั้งคืน มันน่าจะเพียงพอแล้วที่จะสั่งสอนเด็กพวกนี้ให้หลาบจำ

จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็พลันกล่าวคำพูดออกมา “คือว่า… เสี่ยวเฉิงเอากุญแจไปด้วยครับ”

หัวหน้าตำรวจแทบจะพูดอะไรไม่ออก ทันทีที่มองไปยังกลุ่มพวกลูกเศรษฐีในห้องขังที่กำลังหลับสนิท เขาก็เผยหน้ามุ่ยออกมา “งั้นก็โทรเรียกเขาให้มาเปิดประตู”

ในทางกลับกัน พระเอกอย่างเสี่ยวเฉิงเองกำลังนอนกรนเป็นหมูอยู่เหมือนกัน ทันทีที่ถูกเจ้าหน้าที่โทรไปปลุก เสี่ยวเฉิงก็พลันลุกขึ้นและมองเวลาอย่างหงุดหงิด ตอนนั้นเพิ่งจะเที่ยงวัน

หลังจากยืดเส้นยืดสายและอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินออกมาจากห้อง ทว่า เสี่ยวเฉิงก็พลันเหลือบไปเห็นแอร์โฮสเตสสาวกำลังเดินออกมาจากอีกห้องพร้อมผมยุ่งๆ ของเธอ เธออยู่ในชุดคลุมขนสัตว์แบบหลวมและเปิดไหล่ ดูเหมือนว่าเธอจะกำลังบิดขี้เกียจ แต่เสี่ยวเฉิงก็พลันคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าหลงใหลไม่น้อย

ปฏิกิริยาแรกของแอร์โฮสเตสคนนั้นที่เห็นเสี่ยวเฉิงคือการเบิกตากว้าง เธอยังคงสะลึมสะลืออยู่จนลืมคิดไปว่าตัวเองนั้นอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับผู้ชายอีกคน และก่อนที่เธอจะอ้าปากกล่าวคำพูดขึ้น หรานจิงที่เพิ่งจะกลับมาจากทานอาหารกลางวันก็พลันเปิดประตูเข้ามา

ทันใดนั้นเอง ทั้งสามก็สบตากัน และหลังจากผ่านไปประมาณสามวินาที ผู้หญิงทั้งสองก็พูดออกมาพร้อมกัน “ฉันกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกันนะ อย่าเข้าใจผิด!”

หลังจากนั้น ทั้งสองก็เงียบไปชั่วครู่และกล่าวคำพูดพร้อมกันอีกครั้ง “เธอเป็นแฟนเขาใช่ไหมเนี่ย?!”

หญิงสาวทั้งสองพลันตกตะลึง

หรานจิงครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “แต่อย่างว่า… คนอย่างเสี่ยวเฉิงจะหาแฟนได้ยังไงกันล่ะ?”

แต่ทว่า เมื่อหรานจิงตระหนักได้ว่าผู้หญิงตรงหน้านั้นสวยและแต่งตัวเปิดเผยมากแค่ไหน เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องมีอะไรบางอย่างหรือไม่ก็เป็นพี่เลี้ยงของเสี่ยวเฉิงแน่ ทันใดนั้น หรานจิงก็เผยสายตาที่แสดงความรังเกียจต่อแอร์โฮสเตสสาวตรงหน้าทันที

ทว่า แอร์โฮสเตสสาวสวยคนนี้ก็สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของหรานจิงได้ทันทีเพราะทั้งคู่ต่างก็เป็นผู้หญิง จากนั้น เธอก็รู้สึกโกรธขึ้นมา “ทำไมต้องมองฉันแบบนั้นด้วยล่ะ?”

หรานจิงไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเพียงแค่แสดงท่าทีรังเกียจต่อเสี่ยวเฉิงเท่านั้น

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่นายยังโสดอยู่ คงจะชอบที่เธอแต่งตัวแบบนั้นสินะ” ทันทีที่พูดจบ เธอก็เดินเข้าไปในครัว

ดูเหมือนหรานจิงจะคิดไปแล้วว่าถ้าแอร์โฮสเตสสาวสวยคนนี้ไม่ได้เป็นอะไรกับเสี่ยวเฉิง เธอก็จะต้องเป็นเหมือนพี่เลี้ยงของเขาแน่

แอร์โฮสเตสสาวคนนั้นโกรธจัดทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น “เธอหมายความว่ายังไงกันแน่? คิดว่าฉันเป็นแบบเธองั้นเหรอ?”

ทันใดนั้น หรานจิงก็พลันกล่าวคำพูดติดตลกออกมา “พระอาทิตย์ขึ้นแล้วนะ เธอน่าจะไปทำงานได้แล้ว”

ทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น แอร์โฮสเตสสาวก็แทบจะวิ่งเข้าไปตบหน้าหรานจิง ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเฉิงก็รีบวิ่งไปกั้นกลางระหว่างทั้งสองและเผยยิ้มอย่างขมขื่นออกมา “ทำไมพวกผู้หญิงถึงได้คิดเร็ว ทำอะไรเร็วกันขนาดนี้เนี่ย? ตั้งสติกันหน่อยสิ”

จากนั้น เสี่ยวเฉิงก็มองไปยังหรานจิง “เธอเข้าใจผิดแล้ว ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นเพื่อนร่วมห้อง เป็นคนเช่าห้องเหมือนกับเธอนั้นแหละ”

ทันใดนั้น หรานจิงก็พลันกระพริบตาอยู่สองสามครั้ง แอร์โฮสเตสสาวคนนั้นพลันยืนกอดอกแน่นทันที

“อ่า งั้นก็ขอโทษที ฉันเข้าใจผิดเอง” หรานจิงเผยยิ้มและกล่าวขอโทษในที่สุด

ไม่ช้า แอร์โฮสเตสสาวคนนั้นก็กล่าวคำพูดขึ้น “แล้วเธอเคยเห็นพี่เลี้ยงที่สวยขนาดนี้ไหมล่ะ? คิดเหรอว่าเขาจะสามารถเลี้ยงดูฉันได้?”

เสี่ยวเฉิงพูดอะไรไม่ออกทันทีที่ได้ยินเช่นนั้น… ดูเหมือนว่าเธอจะต้องมีปัญหาทางจิตเป็นแน่ เธอเพิ่งจะกล่าวคำพูดออกมาราวกับว่าตัวเองเป็นโสเภณี…

ในตอนนั้นเอง เสี่ยวเฉิงก็พลันกระแอมในลำคอ “แล้วสมมุติถ้าเธอถูกตีเป็นราคา คิดว่าตัวเองจะมีค่าเท่าไหร่กันล่ะ?”

วินาทีที่เสี่ยวเฉิงพูดจบ แอร์โฮสเตสสาวคนนั้นก็หันไปหยิบส้นสูงข้างกายและเหวี่ยงใส่เสี่ยวเฉิงทันที “ฉันจะฆ่านาย! อีกอย่าง เรื่องของเรายังเคลียร์ไม่จบเลยนะ!”