บทที่ 136 – มิวกับองค์กร
หลังจากข่าวนี้เผยแพร่ออกไป แน่นอนไม่ว่าจะเป็นข่าวไหนก็ต้องตามมาด้วยความโกลาหลเป็นแน่แท้..
ไม่ว่าจะเรื่องสิ่งมีชีวิตบนดวงจันทร์หรือจุดจบของจักรวาล ความจริงที่ว่าจุดจบของจักรวาลนั้นจะมาถึงในสักวันนั้นแม้มันจะยาวนานกว่าอายุขัยของมนุษย์หลายร้อย หลายล้านเท่า
มันไม่ได้จบลงแค่โลกจะสิ้นอายุขัยในอีกกี่ปีกี่ปี เพราะหากถึงเวลานั้นจริงบางทีเราคงเดินทางไปในอวกาศแล้ว
แต่ที่กำลังจะถึงจุดจบคือจักรวาล ไม่ว่าจะหนีไปที่ไหนทุกสิ่งทุกอย่างก็จะมลายหายไปอยู่ดี หรือก็คือมันไม่มีอนาคตสำหรับทุกสรรพสิ่งนั่นเอง
แต่ก็อย่างที่ว่านั่นแหละ ความห่างไกลของจุดสิ้นสุดของจักรวาลมันมากกว่าที่โลกจะสิ้นอายุขัยแน่ๆ พูดอีกนัยหนึ่งก็คือมนุษยชาติจะดำรงอยู่ถึงจุดนั้นไหมก็ไม่มีใครรู้แน่ชัด
ดังนั้นมันจึงมีทั้งคนที่ตื่นตูม หรือแม้แต่ไม่ตื่นตูมกันประปราย ซึ่งสาเหตุที่ทางฝั่งบอร์เดอร์ไลน์กับอเมริกาเลือกที่จะประกาศสิ่งนี้ออกไปให้ทั่วโลกรับรู้
นั่นก็เพื่อที่จะให้ทั่วโลกต่างตื่นตัวกันเอาไว้ ในตอนนี้ศัตรูหรือภัยของเราไม่ได้มีแค่ที่เรารู้จักกันแล้ว
แน่นอนเมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่เหมือนมีภัยใหม่ขึ้นมาแบบนี้ มนุษยชาติจะรู้สึกเหมือนถูกกดดันอยู่ตลอดเวลาและหาหนทางมีชีวิตรอดต่อไป
“แต่จะยังไงก็เถอะนะ ฉันว่าก็ไม่น่าจะประกาศเรื่องแบบนี้ออกมาอยู่ดีหรือเปล่า ขืนมีการจลาจลเปิดขึ้นจะเป็นยังไง”
มิวแสดงความเห็นในใจกับผู้กล้าเอริเนีย
“ไม่หรอกนายท่าน การจลาจลไม่น่าจะเกิดขึ้นแน่ๆ ?”
“ทำไมล่ะ?”
“เอาแบบนี้นายท่านก็รู้ใช่ไหมโลกในตอนนี้มีของอะไรแปลกๆ ตั้งเยอะ ทั้งหอคอยและประตูไปอีกโลกหนึ่ง ซึ่งทุกอย่างที่พูดไปมันต้องทำให้เกิดการดูแลที่ไม่ทั่วถึงเป็นธรรมดา”
ผู้กล้าเอริเนียพูด
“ซึ่งเพราะแบบนั้นจะมีสักคนที่บังเอิญได้พลังพิเศษมา บังเอิญได้ของล้ำค่าแต่ไม่ปรากฏตัวอยู่ตามโลกก็ต้องมีประปรายถูกไหม ไม่งั้นคำอธิบายเราคงไม่ถูกเชื่อง่ายขนาดนั้นหรอกถูกไหม”
“และทันทีที่ข่าวนี้เผยออกไปจะมีคนอยู่สองกลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรกคือมองว่ามันห่างไกลจากตัวเองเกินไปไม่สนใจหรอก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนธรรมดาหรือคนที่ไม่ได้มีอำนาจทางสังคมอะไรอยู่แล้ว”
“เพราะพวกเขาเหล่านั้นแทนที่จะไปสนใจอนาคตอีกพันล้านปีข้างหน้าทำไม ในเมื่อวันพรุ่งนี้ยังเอาตัวไม่รอดเลย”
“แต่มันก็จะมีคนอีกกลุ่มเช่นกันที่มองเผื่ออนาคต ไม่ว่าจะเรื่องจักรวาลจะถึงจุดจบมนุษย์ต่างดาวในดวงจันทร์และห่างออกไปร้อยปีแสง”
“ไม่ว่าจะอย่างใดอย่างหนึ่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นประเด็นที่ทำให้คนกลุ่มที่ว่าอยู่นั้นสนใจขึ้นมา อาจจะอยากศึกษาหรือทำความรู้จักขึ้นมาล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ดีต่อโลกใบนี้ถูกไหมล่ะ”
“และหากคนกลุ่มที่ว่านั่นลุกออกมาจากเงาเพื่อตามหาอะไรที่ว่านั่นล่ะ”
“นายท่าน คนบนโลกนี้แสวงหาสิ่งเหนือจินตนาการมาตลอด มนุษย์ต่างดาวเอย ต้นกำเนิดจักรวาลเอย ขอแค่มีแรงกระตุ้นนิดหน่อยพวกเขาก็พร้อมจะศึกษาแล้ว”
“คนธรรมดาที่ไม่ได้สนใจอนาคตไกลกว่าตัวเองยังไงก็ไม่มีจลาจลกับเพื่อโอกาสมี่จะทำให้คนศึกษาค้นคว้าหาวิทยาการหรืออาจจะแม้แต่กระตุ้นคนกลายเป็นผู้ใช้อารยธรรมได้ด้วยซ้ำ”
“คือมันมีแต่ได้กับได้นั่นแหละนะ”
อาจจะเพราะช่วงเวลาที่ห่างไกลเกินไปด้วยหรือเปล่าไม่รู้ แต่พอคิดตามที่ผู้กล้าเอริเนียอธิบายมิวก็รู้สึกว่าพอจะเป็นไปได้จริงๆ
คนบนโลกบางคนยังไม่รู้จักสิ่งที่ตัวเองชอบหรือปรารถนาที่จะทำเลยด้วยซ้ำ แน่นอนคนที่ไม่อยากกลายเป็นผู้ใช้อารยธรรมก็มีเยอะแยะ
แต่หากมีสิ่งมากระตุ้น วงการผู้ใช้อารยธรรมก็จะเติบใหญ่ขึ้นด้วย
พอคิดมาถึงจุดนี้มิวก็ขมวดคิ้ว
“องค์กรบอร์เดอร์ไลน์อยากให้มีผู้ใช้อารยธรรมเยอะๆ เหรอ?”
คือถ้าหากเป็นตามที่ผู้กล้าเอริเนียพูด การกระทำขององค์กรบอร์เดอร์ไลน์เหมือนจะต้องการผู้ใช้อารยธรรมเพิ่ม?
แต่คิดไปคิดมาการที่มีผู้ใช้อารยธรรมเพิ่มยังไงก็ดีกับโลกจริงๆ .. แต่มันจำเป็นต้องพยายามเพิ่มขนาดนี้เลยเหรอ…
มิวไม่ได้ฉลาดขนาดนั้น ทำให้เธอเลิกคิดประเด็นดังกล่าวก่อนจะคุยกับเทริโน่ต่อ เทริโน่ที่เงียบลงก็เพราะจะให้มิวฟังข่าวเพราะเขารู้แต่แรกแล้ว
หลังข่าวจบไปเทริโน่ก็พูดขึ้นทันทีว่า
“อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้าจากความแข็งแกร่งของคุณมิวเอง .. ทางเรายังอยากจะขอยื่นข้อเสนอให้คุณเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรเรา”
“ขอปฏิเสธ”
มิวปฏิเสธแทบทันที ก็แน่สิ.. มิวมีความลับมากมายเกินไป ต่อให้โลกที่มิวอยู่ตอนนี้จะเหมือนโลกเดิมมิวทุกอย่างจนน่าสงสัยไปหมดก็จริง
แต่มันไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่ามิวไม่ใช่คนของโลกนี้หรือยุคนี้.. ขืนโป๊ะแตกขึ้นมาเธอไม่เป็นศัตรูกับมนุษยชาติเลยเหรอ
ขนาดชาวดวงจันทร์ยังโดนคนบนโลกหมายตาแล้วเนี่ย การอยู่ใกล้ชิดมากเกินไปอาจเผยให้เห็นความลับได้
อีกอย่างภาพจำที่เธอมีต่อองค์กรนี้นั้น… ความทรงจำของรินนะแว้บคืนกลับมาแทบจะทันที
เทริโน่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะแห้งๆ เหมือนเขาจะพอเดาคำตอบได้แต่แรกอยู่แล้ว หลังจากนั้นมิวกับเทริโน่ก็คุยเกี่ยวกับเรื่องกิลด์ที่ตกลงกันไว้กับคาเอะ..
คุยกันอยู่กันเกือบๆ ชั่วโมง เอริเนียน้อยจนง่วงผล็อยหลับไป..ก็ได้ข้อสรุปกันว่า…แม้มิวจะไม่เข้าร่วมองค์กรบอร์เดอร์
และจะไม่ใช่ผู้ใช้อารยธรรมระดับองค์หญิงหรือองค์ชาย เธอต้องเข้าร่วมแบ่งปันข้อมูลในสภาองค์หญิงองค์ชายด้วย
หรือก็คือมิวในตอนนี้มีตำแหน่งเทียบเท่ากับองค์หญิงและองค์ชาย แม้จะไร้ซึ่ง ‘เนม’ ก็ตามที
“จะดีเหรอ ที่มาให้ตำแหน่งระดับนั้นง่ายขนาดนี้?”
มิวถามซ้ำ แค่ฟังชื่อตำแหน่งก็ดูเป็นที่สนใจเสี่ยงต่อการตกเป็นเป้าสายตาแล้ว มิวไม่ค่อยชอบตำแหน่งที่อาจจะทำให้ตัวตนตัวเองโป๊ะแตกเท่าไหร่
จึงพยายามหาทางหลบออกจากตำแหน่งนี้.. แม้ตอนแรกจะตกลงเป็นมาสคอตของกิลด์ผู้ใช้อารยธรรมให้กับคาเอะ แต่มิวก็รู้ดีว่ามันเทียบไม่ได้กับตำแหน่งเทียบเท่าองค์ชายนี่เลย
ทว่าใจหนึ่งก็อยากได้เพราะขอแค่มีตำแหน่งนี้ปัญหาเรื่องเงินหมดไปแน่ๆ มิวในตอนนี้มีปัญหาเรื่องเงินมาก เพราะตอนขึ้นหอคอยเธอไม่ได้อะไรเลย
นอกจากรางวัลทำเควส พวกแร่หรือชิ้นส่วนมอนสเตอร์ไม่ได้มาสักชิ้น ก็คือเข้าหอคอยไปก่อนหน้านี้ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง
“ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ อันที่จริงเรื่องของคุณมิวคนที่เสนอมานั้นก็คือผู้สร้างบอร์เดอร์ไลน์เลยครับ”
“คนที่ว่าลึกลับนั่นน่ะเหรอ? เขารู้จักฉันได้ไง?”
ไม่ใช่มิวไม่รู้จัก แต่มิวรู้จักเคยอ่านเจอมาก่อนหน้านี้ผู้ก่อตั้งองค์กรบอร์เดอร์ไลน์หนึ่งในคนที่ลึกลับที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
“คุณมิวคงไม่ลืมหรอกนะว่าในกระดานจัดอันดับคุณครองอันดับหนึ่งแซงองค์หญิงไร้เสียงที่แข็งแกร่งและยังรับการโจมตีของเธอคนนั้นได้ด้วย”
“ข่าวนั่น.. ผ่านมาสองสามเดือนแล้วยัง…”
“นั่นหมายความถึงว่าการรับการโจมตีขององค์หญิงคนหนึ่งได้มันต้องเป็นคนแข็งแกร่งขนาดนั้นไงล่ะครับ”
มิวที่คุยไปคุยมาก็ได้แต่ยอมตกลง
“เข้าใจแล้ว แต่มีข้อแม้อย่างหนึ่ง…อย่าเอาชื่อฉันไปประกาศสาธารณะมากเกินไป พอดีฉันเป็นพวกอินโทรเวิร์ตน่ะ”
แน่นอนมิวแค่อ้าง.. ถ้าไม่อ้างแบบนี้มันจะดูเหมือนเธอไม่อยากเด่นอยากดัง หากเธอไม่อยากเด่นอยากดังก็ต้องสงสัยว่าทำไมถ้าไม่ใช่มีความลับก็ต้องไม่ชอบ
ดังนั้นมิวก็เลยแสดงตัวว่าตัวเองไม่ชอบ ไม่ใช่เพราะมีความลับ.. แต่ความจริงแล้วมิวก็ไม่ได้เป็นอินโทรเวิร์ตนะ
เธอสนิทกับคนอื่นง่ายจะตาย แต่แค่ไม่ได้อยากจะเด่นแล้วมีโอกาสทำให้ความลับตัวเองแตกเฉยๆ
หลังจากตกลงกันได้ลงตัว แม้การเป็นเทียบเท่าองค์หญิง สุดท้ายแล้วมันก็แค่เทียบเท่า เพราะมิวมีอิสระกว่ามาก
องค์หญิงองค์ชายมีกฎจุกจิกอยู่พอสมควร แต่สำหรับมิวสิ่งที่ต้องทำมีแค่ถ้าได้เข้าหอคอยต้องแบ่งปันข้อมูลมาซะให้หมด
แน่นอนเรื่องนี้มิวเอสก็พึ่งรู้ว่าขอแค่ทำงานร่วมกับองค์ดรนี้ ต่อให้ไม่เป็นส่วนหนึ่งองค์กรนี้ก็ให้เงินรายเดือนยังกับทำงาน
บอกเลยว่าปัญหาเรื่องเงินของมิวแทบจะหายไป
แต่ไม่ได้แปลง่าสัญญาระหว่างเธอกับคาเอะจะหายไป เพราะคาเอะในตอนนี้เป็นเหมือนตัวเชื่อมความสัมพันธ์ของมิวกับองค์กรเลย
ดังนั้นข้อตกลงของทั้งสองจึงดำเนินต่อไปเพื่อผลประโยชน์ของมิวและองค์กรเองด้วย
ทว่า…มิวอาจจะยังไม่รู้
ต่อให้ทางองค์กรบอร์เดอร์ไลน์ไม่เอาเรื่องของมิวไปประกาศ..
แต่.. คนทั่วโลกในตอนนี้เวลานี้
ล้วนพูดหัวข้อเกี่ยวกับมิวกันทุกคน
หญิงสาวลึกลับไร้เนมรับการโจมตีองค์หญิงไร้เสียงได้และแซงองค์หญิงไร้เสียงได้ในกระดานจัดอันดับเดียวกัน!
อินเทอร์เน็ตลุกเป็นไฟ คลิปวิดีโอพูดถึงกระหน่ำ นักข่าวต่างพากันตื่นตัวยืนเรียงรายรอหน้าโรงพยาบาลเหมือนกับดาราเข้าโรงพยาบาล!