บทที่ 99 บริจาค
บทที่ 99 บริจาค
โรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจินหลิง
สำนักงานการจัดการความช่วยเหลือทางการแพทย์
รองผู้อำนวยการ ล่ายอวี้หยิง กลับไปที่สำนักงานด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล เธอนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์และลงชื่อเข้าใช้บัญชีสาธารณะของกองทุนการกุศล เมื่อเธอเห็นจำนวนเงินที่เหลืออยู่ในบัญชี เธอรู้สึกหมดหนทาง
480,620 หยวน!
นี่คือเงินที่เหลืออยู่ทั้งหมดในบัญชีของกองทุนการกุศลของโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้อัตตราตัวเลขการเกิดอุบัติเหตุทางยานยนต์สูงมาก แม้ว่าจะมีกองทุนกู้ภัยทางถนนที่จะจ่ายสำหรับการดำเนินการของผู้บาดเจ็บบางส่วนแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ที่สำคัญที่สุดคือครอบครัวของผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายต่างก็หวังพึ่งพากองทุนการกุศลของโรงพยาบาลนี้ ยินดีรับการสืบสวนจากทีมสืบสวนเพื่อพิสูจน์ว่าครอบครัวของพวกเขายากจนจริง ๆ ไม่มีรถ ไม่มีบ้าน มีเงินแค่พอประทังชีวิตเดือนต่อเดือนเท่านั้น ไม่มีปัญญาจ่ายค่ารักษา
เธอเพิ่งไปที่ห้องทำงานของผู้อำนวยการเพื่อส่งคำขอการจัดสรรเงินเพิ่มให้กับกองทุนบรรเทาทุกข์เพื่อการกุศลซึ่งผู้อำนวยการก็เห็นด้วย แต่หลังจากนี้เธอจำเป็นต้องส่งรายงานคำขอนี้ไปยังผู้บริหารระดับสูงอีกและปฏิบัติตามขั้นตอน ขั้นตอนทั้งหมดที่ต้องส่งต่อกันไปประมาณว่าคงเกินครึ่งเดือนกว่าจะรับเงินได้
ก๊อกก๊อก…..
ประตูสำนักงานถูกเคาะ
ล่ายอวี้หยิงเงยหน้าขึ้นและพบว่าเหลียนซานเข้ามาพร้อมกับชายหนุ่มและหญิงสาวอีกหนึ่ง ชายหนุ่มสวมเสื้อกาวน์สีขาวคนนี้ช่างดูคุ้นเคย เขาอาจจะเป็นหมอในโรงพยาบาลนี้ก็ได้
“หมอเหลียน มีอะไรเหรอ?” ล่ายอวี้หยิงลุกขึ้นถาม
“รองผู้อำนวยการล่าย นี่คือหมอโจว โจวอี้ และนี่คือคุณซี ซีชิงอิ่ง พวกเขาต้องการบริจาคเงินบางส่วนให้กับกองทุนบรรเทาทุกข์ของโรงพยาบาล” เหลียนซานกล่าวด้วยรอยยิ้ม
บริจาคเงิน?
เมื่อล่ายอวี้หยิงได้ยินคำพูดนี้เธอก็มีความกระตือรือร้นในทันที
เธอรู้สึกว่าพวกเขาเหล่านี้อาจไม่สามารถบริจาคเงินได้มากเท่าไหร่ แต่ความมีเมตตาของพวกเขาก็น่ายกย่อง
เดี๋ยวนะ…
หมอโจว? โจวอี้?
ที่ปรึกษาพิเศษในแผนกผู้ป่วยนอกที่โด่งดังในโรงพยาบาลนี้ใช่หรือไม่?
“สวัสดีค่ะ หมอโจว และคุณซี ขอบคุณสำหรับการอุทิศตนเสียสละ ในนามของโรงพยาบาลและผู้ป่วยจากครอบครัวที่ยากจน ฉันขอขอบคุณ” ล่ายอวี้หยิงจับมือกับพวกเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม
“ผู้อำนวยการล่าย ไม่ต้องเกรงใจ!” โจวอี้จงใจไม่เอ่ยคำว่า ‘รอง’ อย่างมีเลศนัย
ล่ายอวี้หยิงดูเหมือนจะไม่ได้ตระหนักถึงมัน เธอยิ้มและถามว่า “คุณจะบริจาคเท่าไหร่ ฉันจะออกใบรับรองให้เป็นการส่วนตัว”
โจวอี้ยกมือขึ้นเพื่อขัดจังหวะและถามกลับอย่างจริงจังว่า “ผู้อำนวยการล่าย ผมอยากจะถามคุณแค่คำถามเดียว ถ้าคุณตอบตามความจริงได้ ผมจะบริจาคเงินทันที และคุณไม่จำเป็นต้องให้ใบรับรองใด ๆ กับผม ”
“ว่ามาเลย!” ดวงตาของล่ายอวี้หยิงเป็นประกายแปลก ๆ
“เงินที่เราบริจาคไปสามารถใช้อย่างเปิดเผยและโปร่งใสกับผู้ป่วยที่ยากจนใช่ไหม” โจวอี้ถาม
“คุณสามารถวางใจได้ว่ารายจ่ายของกองทุนบรรเทาทุกข์การกุศลของโรงพยาบาลแต่ละรายการจะมีรายละเอียดแสดงอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนจะอนุมัติออกไปมันต้องผ่านการตรวจสอบโดยแผนกตรวจสอบของโรงพยาบาลด้วย ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลจะเผยแพร่รายละเอียดค่าใช้จ่ายบนแพลตฟอร์มสาธารณะทุก ๆ เดือนให้ประชาชนทุกคนสามารถตรวจสอบได้” ล่ายอวี้หยิงกล่าวในเชิงบวกว่า “ฉันรับรองกับคุณได้ว่าทุกหยวนที่บริจาคโดยผู้บริจาคจะถูกนำไปใช้สำหรับผู้ป่วยจากครอบครัวที่ยากจน และจะไม่มีใครเอาเงินไปใช้ทางอื่นได้”
โจวอี้มองการแสดงออกที่จริงจังของอีกฝ่ายและพยักหน้าเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็มองไปที่ซีชิงอิ่งและถามว่า “คุณจะบริจาคเท่าไหร่?”
“หนึ่งล้าน!” ซีชิงอิ่งกล่าว
หนึ่งล้าน?
ล่ายอวี้หยิงตกตะลึงและพูดอย่างตื่นเต้น “คุณซี ขอบคุณมาก! ขอบคุณมากจริง ๆ! พูดตามตรงกองทุนการกุศลและกู้ภัยของโรงพยาบาลขาดแคลนเงินอย่างมาก ด้วยเงินบริจาคล้านหยวนของคุณ มันเป็นการช่วยเหลือผู้คนได้มากมายอย่างแน่นอน”
“ด้วยความยินดี” ซีชิงอิ่งพยักหน้าเบา ๆ
ล่ายอวี้หยิงหันไปมองโจวอี้
เธอคิดว่าซีชิงอิ่งได้บริจาคเงินไปแล้วหนึ่งล้านหยวน แม้ว่าเงินบริจาคของหมอโจวจะน้อยกว่าหนึ่งล้านหยวน แต่เขาควรจะบริจาคได้มากกว่าหนึ่งแสนหรือสองแสนหยวนหรือไม่?
“หมอโจว……” ล่ายอวี้หยิงพูดขึ้นเบา ๆ
“ผมจะบริจาคร้อยล้านหยวน” โจวอี้พูดอย่างใจเย็น
“ห…หา…เท่าไหร่นะ?” ล่ายอวี้หยิงตกตะลึง เธอรู้สึกราวกับว่ากำลังฝันไป
“คุณได้ยินถูก ผมบริจาคเงินร้อยล้านหยวน บอกหมายเลขบัญชีธนาคารมาได้เลย ผมสามารถโอนเงินได้ทันที” โจวอี้กล่าว
ร้อยล้าน?
ล่ายอวี้หยิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย เธอคิดว่าโจวอี้กำลังล้อเล่นกับเธอ
แม้แต่เหลียนซานยังตกตะลึงและคิดว่าเธอได้ยินผิดไป?
มีเพียงซีชิงอิ่งเท่านั้นที่สามารถสงบสติอารมณ์ได้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยประกายงดงาม เธอเคารพและบูชาโจวอี้ในใจ และความชื่นชอบที่เธอมีต่อโจวอี้ก็เพิ่มมากขึ้น
หลังจากได้รับหมายเลขบัญชีของกองทุนบรรเทาทุกข์เพื่อการกุศลของโรงพยาบาลจากล่ายอวี้หยิง โจวอี้ก็โอนเงินร้อยล้านหยวนผ่านแอปฯโทรศัพท์มือถือทันที
เวลานี้โจวอี้ยังมีเงินเหลืออยู่ในบัญชีธนาคารมากกว่า 67.8 ล้านหยวน
“หมอโจว ใบรับรอง..”
“ไม่จำเป็นต้องออกหลักฐานใด ๆ ตราบใดที่โรงพยาบาลใช้เงินที่เราบริจาคช่วยเหลือผู้ป่วยจากครอบครัวที่ยากจน” โจวอี้กล่าวอย่างหนักแน่น
“เข้าใจแล้ว ฉันจะรายงานให้ผู้อำนวยโรงพยาบาลทราบในภายหลัง” ล่ายอวี้หยิงมองไปที่ตัวเลขจำนวนเงินในบัญชีสาธารณะของกองทุนบรรเทาทุกข์เพื่อการกุศลของโรงพยาบาลและพูดด้วยอารมณ์ตื้นตัน
“ผมมีเรื่องจะขอร้อง”
“หมอโจวพูดมาได้เลย!”
“เก็บเป็นความลับ เก็บความลับการบริจาคของผมไว้” โจวอี้กล่าว
“แต่…”
“ผู้อำนวยการล่าย ผมต้องการทำงานในโรงพยาบาลนี้อย่างสบายใจ ผมไม่ต้องการถูกวิพากษ์วิจารณ์ และไม่ต้องการถูกคนอื่นมองว่าผมแปลกแยกจากพวกเขา” โจวอี้กล่าว
ล่ายอวี้หยิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวและพูดว่า “ฉันสัญญา”
“ขอบคุณครับ!”
จากนั้นโจวอี้ก็ออกไปจากห้องสำนักงานพร้อมกับเหลียนซานและซีชิงอิ่งทันที
ล่ายอวี้หยิงมองตามแผ่นหลังของโจวอี้ ก่อนจะดูตัวเลขจำนวนเงินในบัญชีอีกรอบและลองหยิกแขนของเธอเอง ความเจ็บปวดทำให้รู้ว่าเธอไม่ได้ฝันไป
หมอโจว
ภูมิหลังของเขาเป็นใครกันแน่?
เขายังเด็กมากแต่กลับไม่ต้องการชื่อเสียงเมื่อบริจาคเงิน หัวใจของเขาน่าเชิดชูจริง ๆ
ล่ายอวี้หยิงสูดหายใจเข้าลึกพิมพ์และเอกสารอย่างรวดเร็ว ก่อนจะปิดคอมพิวเตอร์ และรีบไปที่สำนักงานผู้อำนวยการ
สำนักงานผู้อำนวยการ
เมิ่งเหว่ยกำลังจัดเรียงเอกสาร แต่เมื่อเขาเห็นล่ายอวี้หยิงรีบเข้ามาอีกครั้งหลังจากออกไปได้ไม่นาน ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “รองผู้อำนวยการล่าย ผมสัญญากับคุณทุกอย่างแล้ว ทำไมคุณถึงมาที่นี่อีก ผมรู้ว่าคุณกังวล แต่ไม่ว่าคุณจะกังวลแค่ไหนคุณก็ต้องทำตามขั้นตอน!”
“ผู้อำนวยการ คุณเข้าใจฉันผิด ฉันมาเพื่อรายงานบางเรื่องกับคุณเท่านั้น” ล่ายอวี้หยิง กล่าวอย่างจริงจัง
“รายงานอะไร?” เมิ่งเหว่ยดูงุนงง
“กรุณาดูข้อมูลที่ฉันเพิ่งพิมพ์ไป” ล่ายอวี้หยิงวางเอกสารรายงานที่เธอเพิ่งทำเสร็จต่อหน้าเมิ่งเหว่ย
เมิ่งเหว่ยหยิบมันขึ้นมาและอ่านมัน แน่นอนสิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือตัวเลขเงินฝากในบัญชีธนาคารของกองทุนสงเคราะห์เพื่อการกุศล
มากกว่าร้อยล้าน?
เกิดอะไรขึ้น!?
เมิ่งเหว่ยเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย
“ผู้อำนวยการ คุณดูไม่ผิด ในบัญชีของกองทุนการกุศลของโรงพยาบาลของเรา ตอนนี้มีเงินจำนวน 101,480,620 หยวน!” ล่ายอวี้หยิงกล่าวด้วยสีหน้าที่ซับซ้อน
“เรื่องมันเป็นยังไงมายังไงกันแน่!” เมิ่งเหว่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้น
“ก่อนหน้านี้หลังจากฉันกลับไปที่สำนักงาน ดร.เหลียนซานมาหาฉันพร้อมกับคนสองคน คนหนึ่งคือหมอโจว โจวอี้ อีกคนคือคุณซีชิงอิ่ง คุณซีได้บริจาคเงินล้านหยวนให้กับกองทุนช่วยเหลือเพื่อการกุศล ในขณะที่หมอจวได้บริจาคเงินมาร้อยล้านหยวน!”