การประชุมครอบครัวเสร็จสิ้น ครอบครัวของเย่หยุนซูก็เดินออกจากคฤหาสน์ตระกูลเย่
“หยุนซู ทำไมแกถึงได้ตอบตกลง นี่มันเป็นแผนร้ายชัด ๆ พวกมันต้องคิดไม่ซื่อแน่นอน!”
“แม่คะ แม่ไม่ต้องสนเรื่องของหนูหรอกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแผนร้ายหรือไม่ หนูก็ตอบตกลงไปแล้ว คุณปู่ท่านแก่แล้ว หนูอยากให้ท่านได้เห็นตระกูลเย่เติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ให้ท่านได้สมปรารถนา!”
ในเมื่อคุณปู่คาดหวังในตัวเธอมากขนาดนี้ เธอจะเป็นคนที่เอาแต่ห่วงหน้าพะวงหลังไม่ได้
เซียวหยางลูบหัวเย่หยุนซู ด้วยท่าทางเหมือนกับรักและเอ็นดูเป็นอย่างมาก
ถูกต้อง ตัวเองชื่นชมในตัวประธานหญิงคนนี้จริง ๆ มีความกล้าหาญและรู้จักมองการณ์ไกล
สาวสวยที่แสนเย็นชาอย่างเย่หยุนซูหน้าแดงระเรื่อ รีบหลบหลีกจากมือของเซียวหยาง
“ลูบหัวฉันทำไม?”
“ไม่มีอะไร แค่รู้สึกว่าเมื่อครู่นี้เธอดูฮึกเหิมมาก!”
เย่หยุนซูกลอกตาใส่เขา แล้วยืดคองามระหง “ชิ พูดเหมือนกับว่าเมื่อก่อนฉันไม่ฮึกเหิมอย่างงั้นแหละ”
จากนั้นเซียวหยางทำหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา “แต่ว่าเธอต้องเตรียมใจไว้ให้ดีด้วยนะ ไม่แน่ว่าพรุ่งนี้ตอนเธอไปรับตำแหน่งที่บริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ป พวกเขาอาจจะมีเรื่องใหญ่เซอร์ไพรส์เธอก็ได้”
เย่หยุนซูพยักหน้า แล้วมองดูเวลา “ฉันกลับไปที่บริษัทหยุนซูเพื่อนมอบหมายงานก่อนนะ พ่อคะแม่คะ กลับบ้านเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงหนู มีเรื่องอะไรหนูจะบอกพ่อกับแม่นะคะ”
พูดจบ ก็ขึ้นรถ เซียวหยางรับบทเป็นคนขับรถอีกครั้ง ดูแลปกป้องส่งเย่หยุนซูกลับถึงบริษัทหยุนซู
ขณะที่ขึ้นชั้นบน เย่หยุนซูได้เอ่ยว่า : “เซียวหยาง ต่อไปอย่าลูบหัวฉันโดยพลการอีก ลูบจนโง่ขึ้นมาจะทำยังไง?”
เซียวหยางขำพรืดออกมา “เธอวางใจเถอะน่า มือของฉันเปิดรับแสงสว่างมาแล้ว ยิ่งลูบยิ่งฉลาด”
“ฉลาดบ้าอะไรล่ะ ตอนบ่ายไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันให้นายลางานได้ครึ่งวัน ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไปนายกับฉันไปรายงานตัวที่บริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ปด้วยกัน”
“รับทราบ!”
กลับถึงบริษัท เซียวหยางไม่มีธุระอะไรก็เปิดโทรศัพท์มือถือดู Tiktok ต้องบอกว่าแอพลิเคชันนี้มีคลิปวิดีโอทุกรูปแบบเลยทีเดียว เพียงแต่ไม่รู้ทำไม คลิปวิดีโอที่แนะนำให้เซียวหยางมีแต่วิดีโอของสาวสวยทั้งนั้น
หรือจะรู้ว่าเซียวหยางชอบดูสาวสวย?
จู่ ๆ เซียวหยางก็เลื่อนเจอเบาะนั่งเม็ดโฟม ถ้าหากวางไว้ในห้องรับแขกที่บ้าน นั่งเอนอยู่บนเบาะนั่งเม็ดโฟม ก็จะเห็นร่างสวย ๆ ของเย่หยุนซูที่เดินไปมาอยู่ชั้นบนพอดี
หวั่นไหวไม่สู้เคลื่อนไหว เซียวหยางลุกพรวดขึ้นทันที แล้วขับรถไปยัง IKEA อิเกีย
เมื่อไม่นานมานี้ อิเกีย แบรนด์ดังระดับโลกได้มาเปิดสาขาที่เมืองหยินโจว ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ตอนที่เซียวหยางขับรถมาถึงทางเข้าของอิเกีย ต้องหาที่จอดรถอยู่นานกว่าจะเจอที่ว่าง
เซียวหยางเดินเล่นวนไปมาอยู่ในอิเกีย ตามหาเบาะนั่งเม็ดโฟมที่ตัวเองต้องการ และขณะนั้นเอง ก็เห็นรูปร่างที่คุ้นเคยร่างหนึ่ง
หุ่นอันเร่าร้อน สวมกระโปรงรัดรูปที่สั้นมาก เผยให้เห็นขาสองข้างที่เรียวสวยและขาวผ่อง กระโปรงสั้นจนถึงขาอ่อน ช่วงอกดูสง่าผ่าเผยมาก
หุ่นสวยสะพรึงแบบนี้ เข้ากันได้ดีกับใบหน้าที่สวยมีเสน่ห์สมวัย ร้อยทั้งร้อยใครเห็นเป็นเหลียวหลังมองทุกราย
สายตาแต่ละคนที่เหมือนหมาป่าจับจ้องไปที่เรือนร่างสาวงาม สาวงามดูเหมือนจะชินกับเรื่องแบบนี้แล้ว จึงไม่ได้สนใจอะไรนัก
ขณะนั้นเอง สาวงามได้ถูกใครบางคนตบไหล่สวย ๆ ของเธอ เธอคิดว่าเป็นคนเข้ามาจีบ จึงไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปมอง
“ขอโทษนะคะ ไม่รับแอดวีแชทค่ะ”
“ฉันไม่แอดวีแชท”
“QQ ก็ไม่ได้”
“ฉันไม่แอด QQ ด้วยเหมือนกัน”
“เบอร์โทรศัพท์ยิ่งให้ไม่ได้ คุณนี่……เอ๊ะ นายเองเหรอ”
เสิ่นอ้าวจุนได้ยินเสียงที่คุ้นหู จึงหันมามอง พบว่าเป็นเซียวหยางนั่นเอง
“บังเอิญจังเลยนะ ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี่ล่ะ?” เสิ่นอ้าวจุนมีสีหน้าเขินอายเล็กน้อย เมื่อครู่นี้เธอคิดว่าเป็นคนที่เข้ามาจีนเธอ
คราวก่อนเซียวหยางช่วยเธอแก้ปัญหาเรื่องที่พ่อเธอติดหนี้พนัน เธอยังไม่ได้ขอบคุณเขาเลย คิดไม่ถึงว่าจะมาพบกันที่นี่
ถ้าหากพูดว่าเซียวหยางช่วยเธอแก้ปัญหาเอาไว้เมื่อสองครั้งก่อน ทั้งเรื่องนักเลง และช่วยลูกสาวของเธอ เธอจึงเห็นเซียวหยางเป็นเพื่อน แต่คราวก่อนเรื่องที่ช่วยพ่อของเธอเอาไว้นั้น เสิ่นอ้าวจุนกับเซียวหยางไม่รู้สึกแปลกหน้าและไม่มีช่องว่างระหว่างกันอีกแล้ว
ทั้งสองคนดูเหมือนได้กลายเป็นเพื่อนกันโดยไม่ต้องเอ่ยพูด
“ฉันมาที่นี่เพื่อซื้อของนิดหน่อยน่ะ ฉันว่าเราสองคนนี่มีวาสนาต่อกันนะ แต่เธอไม่เชื่อ ดูสิขนาดมาอิเกียยังได้เจอกัน”
ทันใดนั้น เสิ่นอ้าวจุนก็บังเอิญเห็นโฆษณาของอิเกียพอดี : มาเป็นครอบครัวเดียวกันที่อิเกีย
ไม่รู้เพราะอะไร เสิ่นอ้าวจุนถึงได้รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองขึ้นมา “ฉันมาซื้อโต๊ะหนังสือกับเก้าอี้ให้เมิ่งนีน่ะ”
“มาซื้อโต๊ะเรียนหนังสือเหรอ งั้นเดี๋ยวพวกเราเดินดูด้วยกันก็ได้ ฉันสามารถช่วยเธอเลือกได้นะ กลับไปก็สามารถช่วยเธอประกอบของได้ด้วย”
ยังไงช่วงบ่ายก็ไม่มีธุระอะไรอยู่แล้ว ได้ถวายตัวรับใช้สาวสวย เป็นเรื่องที่เซียวหยางยินดีเป็นอย่างยิ่ง
“จริงเหรอ งั้นดีจังเลย ฉันยังคิดอยู่เลยว่าจะติดตั้งยังไงดี งั้นพวกเราไปเดินดูกันเถอะ กลับไปฉันจะเลี้ยงข้าวนายเอง”
“ได้เลย งั้นฉันจะแบกหน้าด้าน ๆ ไปขอข้าวบ้านเธอทานสักมื้อนะ” เมื่อคิดถึงตอนที่ได้ทานข้าวกับเสิ่นอ้าวจุนสองต่อสอง เซียวหยางก็ตั้งหน้าตั้งตารอคอยขึ้นมาเลยล่ะ
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินดูของในอิเกียด้วยกัน เดินไปพลางปรึกษากันไปพลาง โซฟานี้เป็นยังไงบ้าง โต๊ะกับเก้าอี้ชุดนั้นเป็นยังไง ในสายตาของคนอื่น ทั้งสองคนก็คือคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังมองดูของเพื่อตกแต่งบ้านใหม่
สิ่งที่ทำให้เซียวหยางยิ่งรู้สึกประหลาดใจก็คือ มุมมองของทั้งสองคนแทบจะเหมือนกันทุกอย่าง ทั้งในเรื่องการตกแต่งบ้านและการเลือกเฟอร์นิเจอร์ มุมมองในเรื่องความสวยงามของทั้งคู่เข้ากันได้ดีอย่างน่าประหลาดใจ
เมื่อซื้อโต๊ะหนังสือกับเก้าอี้เสร็จแล้ว พนักงานก็จัดการห่อสินค้าแล้วส่งไปให้ จากนั้นทั้งคู่ก็ขับรถกลับไป
สองปีมานี้ราคาบ้านในเมืองหยินโจวพุ่งสูงขึ้นราวกับจรวด บ้านเก่าของเสิ่นอ้าวจุนอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง ดังนั้นเสิ่นอ้าวจุนจึงได้เช่าบ้านสองห้องนอนหลังหนึ่งอยู่ละแวกร้านไซซีบาร์บีคิว
“สองวันมานี้พ่อของเธอยังไปเล่นการพนันอีกไหม?”
ตอนที่กำลังขึ้นชั้นบน จู่ ๆ เซียวหยางก็นึกถึงเสิ่นเอ้อเหอขึ้น
“ไม่ได้เล่นพนันแล้ว ตอนที่ฉันไปเยี่ยมเขาเมื่อวาน เจอเขากำลังเต้นรำกลางแจ้งอยู่กับพวกคุณป้ากลุ่มหนึ่ง มัวแต่เล่นหูเล่นตากับคุณป้าพวกนั้น น่าโมโหจริง ๆ”
เซียวหยางรู้สึกตลก คบกับคุณป้าเต้นรำพวกนั้น ก็ยังดีกว่าไปเล่นการพนันนะ
เมื่อมาถึงในห้อง เซียวหยางก็กวาดตามองรอบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น น้อยครั้งที่เขาจะมาห้องส่วนตัวของผู้หญิงคนอื่น จึงค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น
ไม่ต่างจากห้องของเย่หยุนซูสักเท่าไหร่ บ้านของเสิ่นอ้าวจุนสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย ออกแบบได้อย่างเรียบง่าย
เซียวหยางนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก มีกลิ่นหอมจาง ๆ ติดอยู่ในจมูก กลิ่นหอมแบบนี้ทำให้คนรู้สึกถึงความสงบเรียบง่าย
“ดื่มน้ำผลไม้คั้นสดก่อนนะ อีกเดี๋ยวต้องรบกวนนายช่วยติดตั้งโต๊ะหนังสือกับเก้าอี้ให้เมิ่งนีด้วยนะ” เสิ่นอ้าวจุนยื่นน้ำแอปเปิ้ลแก้วหนึ่งมาให้
“เรื่องเล็กน้อยน่า เมื่อก่อนฉันเคยเป็นช่างไม้ด้วยนะ” เซียวหยางพูดพลางหัวเราะแหะแหะ
ทั้งสองคนพูดคุยกันเรื่อยเปื่อย พูดเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย ไม่มีหัวข้ออะไรเป็นพิเศษ ไม่รู้ทำไม เวลาที่ทั้งสองคนพูดคุยกันจะรู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ไม่มีใครจงใจพูดถึงเรื่องที่อ่อนไหวต่อความรู้สึก
ผ่านไปไม่นาน โต๊ะหนังสือกับเก้าอี้ก็มาส่ง เซียวหยางไม่ได้ให้พนักงานติดตั้งเข้ามาช่วย เขาเอาโต๊ะและเก้าอี้วางไว้ในห้องของเด็ก แล้วลงมือติดตั้งด้วยตัวเอง
เสิ่นอ้าวจุนได้เปลี่ยนมาใส่ชุดอยู่บ้าน เป็นชุดที่ค่อนข้างบางโปร่งแสง มีลมพัดมาเพียงเล็กน้อย ขอบชุดอยู่บ้านบาง ๆ ก็ถูกพัดเป็นริ้ว ๆ ปลิวไสวเบา ๆ เหมือนสายน้ำในฤดูใบไม้ผลิ
ฉากนี้ เป็นเหมือนภาพลวงตาของพระเอกกับนางเอก
“หยิบประแจให้ฉันหน่อย”
“เอาคีมให้ฉันด้วย”
“สกรูที่อยู่ตรงนั้น หยิบมาให้ฉันสี่อัน”
เซียวหยางต้องการอะไร เพียงแค่เอ่ยปาก เสิ่นอ้าวจุนก็จะรีบหยิบของมาให้ทันที ร่วมมือกันเป็นอย่างดีเหมือนรู้ใจกัน
และในขณะนั้นเอง เสิ่นอ้าวจุนโน้มร่างสวย ๆ ของเธอ เข้ามาใกล้เซียวหยาง
เซียวหยางรู้สึกเพียงว่ามีไอร้อนที่หอมกลิ่นอโรม่าปะทะเข้ากับใบหน้าของตัวเอง เมื่อหันไปมอง ริมฝีปากของเซียวหยางก็เฉียดผ่านจุดที่อ่อนนุ่ม…..