บทที่ 126 ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

คิงดราก้อน

ได้ยินอย่างนี้ หลิวฉ่ายเสียก็ชูคอขึ้นมาทันที ทำท่าทางภาคภูมิใจมาก

เย่หยุนซูนั่งเข่าชิดกัน เหมือนกับนักเรียนที่ได้รับคำชมเชยยังไงยังงั้น

พูดตามตรงว่า หลายปีที่ผ่านมาเย่หยุนซูไม่เคยได้รับการยอมรับจากคนในตระกูลเย่ แม้ว่าจะทำผลงานออกมาได้ดี แต่ก็ถูกคนอื่นแย่งเอาหน้าไป

ตัวเองไม่เคยได้รับความดีความชอบ แต่งานหนักงานยากกลับโยนมาให้เธออย่างไม่ขาดสาย

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้รับการยอมรับต่อหน้าสมาชิกในตระกูลเย่ทุกคน เธออดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองเซียวหยาง

เธอเข้าใจดี ว่าถ้าไม่ใช่เพราะผู้ชายคนนี้ ไม่แน่เธออาจถูกนักฆ่าฆ่าตายไปแล้ว แม้ว่ารอดพ้นจากการถูกตามฆ่ามาได้ แต่โครงการความร่วมมือกับโรงพยาบาลก็คงเจรจาไม่สำเร็จ

ฉะนั้นความสำเร็จที่มีในวันนี้ ได้มาเพราะเซียวหยาง

แต่เซียวหยางกลับยังคงนั่งไขว่ห้าง ท่าทางไม่ยี่หระอะไรทั้งนั้น

เย่วั่นเหนียนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วพูดต่อว่า : “เนื่องด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของเย่หยุนซูในช่วงนี้ ฉันตัดสินใจให้เย่หยุนซูเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของบริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ป”

เมื่อพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนฮือฮากันขึ้นมาทันที สมาชิกทั้งเล็กทั้งใหญ่ในตระกูลเย่ต่างพากันกระซิบกระซาบ

“คุณปู่เย่มอบตำแหน่งนี้ให้กับเย่หยุนซูเลยเหรอ คุณปู่เย่คิดอะไรอยู่เนี่ย?”

“นั่นน่ะสิ ขนาดของบริษัทหยุนซูจะเทียบกับบริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ปได้ยังไง การบริหารดูแลบริษัทเล็ก ๆ กับบริษัทมหาชนจำกัดที่มีขนาดใหญ่มันไม่เหมือนกันนะ”

“ฉันยังคิดว่าคุณปู่เย่จะเข้ามาควบคุมดูแลด้วยตัวเอง คิดไม่ถึงเลยว่าจะให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นผู้จัดการใหญ่!”

“เหอะ คอยดูเถอะ แต่ไหนแต่ไรมาเย่หยุนซูเป็นคนเที่ยงตรงไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น ถ้าเธอดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ วันเวลาแสนสบายของพวกเราคงจบสิ้นแน่”

ในบริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ป มีลูกหลานดำรงตำแหน่งสำคัญอยู่ไม่น้อยเลย เรื่องลับลมคมในภายในบริษัทไม่ต้องพูดก็รู้กันดีอยู่แก่ใจ ส่วนเย่ถันหมิงเพื่อเอาชนะใจคน จึงทำเป็นหลับหูหลับตาไปบ้าง

ถ้าหากเย่หยุนซูผูกขาดอำนาจแต่เพียงผู้เดียว ถึงเวลานั้นพวกเขาคงซวยกันหมด

ฉะนั้นไม่รอให้เย่ถันหมิงสองพ่อลูกนั้นพูดอะไร ก็มีคนลุกพรวดออกมา

“คุณปู่ รบกวนไตร่ตรองให้ดีเถอะครับ เย่หยุนซูอายุยังน้อย ไม่มีประสบการณ์ในการบริหารดูแลบริษัทมหาชนจำกัด ให้เธอมาเป็นผู้จัดการใหญ่ บริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ปจะตกอยู่ในความเสี่ยงนะครับ!”

“จริงด้วย คุณปู่เย่ ถ้าหากเย่ถันหมิงสองพ่อลูกทำผิด งั้นคุณปู่ก็มาบริหารดูแลเองสิ พวกเราเชื่อมั่นและนับถือ แต่ถ้าหากให้เธอมาบริหารดูแลบริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ป ผมคนหนึ่งล่ะที่ไม่ยอม!”

“ให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาบริหารดูแลบริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ป ถ้าหากให้ตระกูลใหญ่ในเมืองหยินโจวรู้เข้า ไม่พากันหัวเราะจนฟันหักเลยหรือไง? หรือว่าบริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ปของพวกเราไม่มีคนอื่นแล้ว?”

“ใช่ คุณปู่ ต้องคิดให้รอบคอบนะ”

……

ลูกหลานในตระกูลเย่แต่ละคนพากันยืนขึ้น บางคนสงสัยในตัวเย่หยุนซู บางคนเป็นเดือดเป็นร้อนแทนเย่ถันหมิงสองพ่อลูกก แต่ไม่มีใครสนับสนุนเย่หยุนซูเลยแม้แต่คนเดียว

เซียวหยางนั่งไขว่ห้าง ไม่พูดแทรกขึ้นมา แต่ทว่ากลับยิ้มออกมาเพียงเล็กน้อย ถ้าหากเรื่องแค่นี้คุณปู่เย่ยังจัดการไม่ได้ล่ะก็ ตระกูลเย่คงเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาจริง ๆ แล้วล่ะ

หลิวฉ่ายเสียร้อนใจจนหน้าแดงคอขึ้นเอ็น ร้องเรียกเสียงต่ำออกมา : “เย่หรูซาน คุณพูดอะไรหน่อยสิ นี่มันเกี่ยวกับชีวิตลูกสาวคุณทั้งชีวิตเลยนะ!”

เย่หรูซานสะบัดมือของหลิวฉ่ายเสียออก “ฉันจะพูดอะไรได้ล่ะ ลูกสาวสุดที่รักมีคุณสมบัติและประสบการณ์ไม่เพียงพอจริง ๆ นี่นา ถ้าจะพูดเธอก็ไปพูดเองสิ ถ้าหากฉันยืนขึ้น เท่ากับว่าเป็นศัตรูกับทั้งตระกูลเย่เลยนะ ถ้าเกิดลูกสาวเราพ่ายแพ้ขึ้นมา ครอบครัวเรายิ่งลำบากไปกันใหญ่”

“คุณ……คุณนี่มันไร้ประโยชน์จริง ๆ สมควรแล้วที่ชีวิตนี้ทำอะไรไม่สำเร็จสักเรื่อง!”

หลิวฉ่ายเสียมองเซียวหยาง แล้วโมโหรวมกันหลายเรื่อง “แต่ละคน สันดานเหมือนกันไม่มีผิด”

“พอได้แล้ว!”

เย่วั่นเหนียนตบโต๊ะอย่างแรง สีหน้าดูโมโหมาก

“หุบปากให้หมดนะ! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ว่าพวกแกคิดอะไรกันอยู่ ต้นไม้ใหญ่ของตระกูลเย่ ใกล้ถูกพวกแกช่วยมอดเจาะแทะจนไม่เหลือแล้ว ยังมีหน้ามาพูดอีก”

“ฉันถามพวกแกหน่อยสิ ว่าถ้าไม่มีตระกูลเย่ พวกแกมีใครทำได้เหมือนหยุนซูบ้าง สร้างบริษัทให้ใหญ่โตแบบนั้นได้เหรอ?”

“ถ้าไม่มีตระกูลเย่ พวกแกจะมีรถหรูมีคฤหาสน์ มีชีวิตสุขสบายเหนือคนอื่นแบบนี้หรือไง?”

“ฉันตัดสินใจไปแล้ว ตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เย่หยุนซูจะดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ของบริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ป บริหารดูแลบริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ป!”

ทันใดนั้น เย่ถันหมิงก็ลุกพรวดพราดขึ้นมา แล้วเอ่ยพูด : “คุณปู่ครับ ในเมื่อคุณปู่พูดออกมาอย่างนี้แล้ว พวกเราก็สนับสนุนการตัดสินใจของคุณปู่ครับ ยังไงซะก็ทำเพื่อตระกูลเย่”

“หยุนซู ยินดีกับเธอด้วยนะ ตระกูลเย่มอบให้เธอดูแลแล้ว พวกเรารู้สึกโล่งใจมาก เธอต้องทำให้บริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ปยิ่งใหญ่นะ อย่าทำให้พวกเราผิดหวังล่ะ” เย่ถันหมิงหันไปพูดกับเย่หยุนซูด้วยสีหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม

ขณะนั้นเอง ทุกคนต่างพากันงุนงง แม้แต่เย่วั่นเหนียนก็อึ้งไปไม่น้อย

เขาคิดว่าเย่ถันหมิงกับเย่หรูไห่ตัดใจทิ้งอำนาจใหญ่โตไม่ลง แล้วจะโวยวายในห้องประชุม

แต่ใครจะไปคิดว่าจะราบรื่นขนาดนี้

เย่หยุนซูขมวดคิ้ว เธอไม่เชื่อเด็ดขาดว่าเย่ถันหมิงจะหวังดีอย่างนี้ เธอรู้จักพี่ชายคนนี้เป็นอย่างดี ปกติชอบเหยียบย่ำเธออยู่เสมอ ยิ่งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปยิ่งไม่ต้องพูดถึง นั่นเป็นสิ่งที่ใฝ่ฝันมาโดยตลอด

“แต่ว่า……” และทันใดนั้น เย่ถันหมิงก็พูดต่อ :

“คุณปู่ครับ ถ้าหากเย่หยุนซูไม่สามารถทำให้บริษัทเติบโตยิ่งใหญ่ได้ ควรทำยังไงดีล่ะครับ?”

เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด เย่หยุนซูรู้อยู่แล้ว ว่าไอ้หมอนี่ไม่ได้หวังดีอะไรหรอก

“แล้วแกคิดจะทำยังไง?”

เย่ถันหมิงแสยะยิ้มออกมา แล้วเอ่ยพูด : “ถ้าหากภายในครึ่งปี เธอไม่สามารถทำให้บริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ปกลับมามีกำไรได้ ก็แสดงว่าเธอมีความสามารถไม่พอ หลังจากนั้น เธอต้องกลับไปบริหารบริษัทหยุนซูของเธอแต่โดยดี ห้ามเข้ามายุ่งเกี่ยวในบริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ปอีกตลอดไป เห็นด้วยไหมครับ?”

หลิวฉ่ายเสียได้ยินดังนั้น ก็ลุกพรวดขึ้นทันที

“เย่ถันหมิง แกพูดบ้าอะไรของแกน่ะ ครึ่งปี? ระยะเวลาสั้น ๆ ขนาดนี้จะให้บริษัทกลับมามีกำไรได้ยังไง ไม่ไปปล้นธนาคารเลยล่ะ!”

เย่วั่นเหนียนเองก็เอ่ยพูด : “ถันหมิง ข้อเรียกร้องของแกเกินไปหน่อยนะ หยุนซูของพวกเราไม่มีทางตอบตกลงหรอก”

“ตกลงสิ ทำไมจะไม่ตกลงล่ะ?”

เซียวหยางเลิกคิ้วพลางเอ่ยพูด : “ครึ่งปี ทำให้บริษัทกลับมามีกำไร มันยากมากเหรอ?”

พรึบ พรึบ พรึบ!

สายตาของคนในตระกูลเย่ทุกคนต่างจับจ้องมาที่เซียวหยาง สมองของไอ้หมอนี่ถูกลาถีบแล้วหรือไง?

ตอนนี้เขาคิดว่าหาเงินมันง่ายมากเลยงั้นเหรอ อีกอย่างเป็นแค่เขยที่แต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมา เขามีสิทธิ์พูดอะไรด้วยเหรอ?

“เซียวหยาง แกหุบปากนะ ไม่รู้เรื่องอะไรก็อย่าพูดมั่ว!” หลิวฉ่ายเสียโวยวายเสียงดัง

“แม่ครับ ผมไม่ได้พูดมั่ว ผมเชื่อมั่นในความสามารถของหยุนซู”

“เธอเป็นลูกสาวของคุณนะครับ คุณไม่เชื่อมั่นแม้แต่ลูกสาวของคุณน่ะเหรอ?”

“ฉัน……ฉันเชื่อบ้าอะไรล่ะ แกมันแค่ไอโง่คนหนึ่ง แกดูไม่ออกหรือไง?”

หลิวฉ่ายเสียพูดจาหยาบคายออกมา นี่มันเป็นแผนของเย่ถันหมิงชัด ๆ ถ้าหากทำไม่ได้ ต่อไปเย่หยุนซูก็จะเสียสิทธิ์ในการแย่งตำแหน่งหางเสือของตระกูลเย่!

โอกาสดี ๆ อย่างนี้ เพียงชั่วพริบตาได้กลายเป็นปัญหายากขึ้นมา เรื่องแบบนี้ถ้าหากตอบตกลงล่ะก็ คงเป็นไอหน้าโง่จริง ๆ นั่นแหละ!

“ได้ ฉันตกลง!”

อะไรนะ?

หลิวฉ่ายเสียเกือบจะกัดลิ้นจนขาด เธอหันไปมองเย่หยุนซูทันที

“ลูกรัก แกอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ ทำไมถึงได้ตอบตกลงล่ะ เย่ถันหมิงสองพ่อลูกนั่นเห็นได้ชัดว่า……”

“แม่คะ หนูตัดสินใจแล้ว บริษัท เย่ซื่อ กรุ๊ปต้องได้รับการปฏิรูปอย่างเด็ดขาด ในเมื่อต้องทำอย่างเด็ดขาด ก็ไม่จำเป็นต้องค่อย ๆ ทำให้เสียเวลาแล้ว ฉะนั้นใช้เวลาไม่ถึงครึ่งปี หนูคิดว่าคนบางคนคงได้เห็นผลลัพธ์”

เย่ถันหมิงเบ้ปาก แล้วหัวเราะเหอะเหอะ “ดี! งั้นฉันจะตั้งตารอ น้องสาว เธออย่าทำให้ฉันผิดหวังเชียวนะ!”

“วางใจเถอะ พี่ชาย ฉันไม่เคยทำให้คนอื่นผิดหวังมาก่อน” เย่หยุนซูมองเขา แล้วพูดอย่างตาต่อตา ฟันต่อฟัน