บทที่ 97 คนของผมก็กล้าแตะ

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่ 97 คนของผมก็กล้าแตะ

ประตูของบ้านหรูหราค่อยๆปิดลง มองเจียงหยุนเอ๋อที่ถูกอุ้มห้อยหัว เจียงเย่เฉิงก็ขมวดคิ้ว

ท่าทางแบบนี้…..เจียงหยุนเอ๋อจะต้องรู้สึกไม่สบายตัวแน่ๆ

บางทีอาจเพราะเจียงหยุนเอ๋อถูกขายไปทั้งแบบนี้ หลังจากที่ทำลงไปแล้วเจียงเย่เฉิงถึงได้รู้สึกผิด อีกอย่าง…..เจียงหยุนเอ๋อเองก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา

เจียงเย่เฉิงเดินไปด้านหน้าอยากจะขอต่อรองกับเซียวอี้เฟิง“คุณชายเซียว ขอไม่ลำบากคนของคุณแล้วกันครับ ให้ผมอุ้มเธอเข้าไปเถอะ”

เซียวอี้เฟิงเพิ่งจะเซฟเบอร์โทรศัพท์ของเจียงหนิงเอ๋อเอาไว้ในสมุดบันทึกเสร็จ ได้ยิน ก็แค่เหลือบมองเจียงเย่เฉิงเท่านั้น “ตามสบาย”

ยังไงเสีย เขาเองก็ไม่ได้สนใจอะไรในตัวของเจียงหยุนเอ๋อ ถ้าไม่ใช่เพราะว่าลุงคนนั้นของเขาอยู่ในสภาพแบบนี้ มีที่ไหนที่จะต้องมาลำบากหาภรรยาแบบนี้?

ในเวลานี้เอง รถของลี่จุนถิงก็มาถึง เห็นประตูเหล็กถูกปิดไว้ เขาที่เป็นคนใจร้ายก็ชนเข้าไปอย่างจัง

เสียง “ปั้ง” ดังสนั่น ทำให้คนที่อยู่บริเวณนั้นตกใจกันเสียยกใหญ่

ถึงแม้ว่าก่อนที่เขาจะมาถึงที่นี่ซู่จี้งยี้จะเตือนเข้าแล้วว่าที่บริเวณนี้เป็นที่ของตระกูลเซียว มีปัญหากับตระกูลเซียวไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ

แต่ว่าลี่จุนถิงก็ไม่ได้ใส่ใจเลยแม้แต่น้อย ก็แค่ตระกูลเซียวเอง เขาไม่ได้สนใจอยู่แล้ว

บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างตัวของเซียวอี้เฟิงได้ยินเสียงนี้ ก็รีบแยกกันไปดูในทันที แล้วล้อมรถของลี่จุนถิงเอาไว้

ประตูรั้วที่ถูกรถของลี่จุนถิงชนจนผิดรูปก็ค่อยๆเปิดออก เซียวอี้เฟิงยืนอยู่ที่เดิม หัวคิ้วก็กระตุกขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เขาขมวดคิ้วแล้วมองมาทางลี่จุนถิง ในใจก็กำลังคาดเดาว่าคนที่มาเป็นใคร

คนที่อารมณ์ร้อนได้มากขนาดนี้ก็ไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร แต่ว่าจากที่เซียวอี้เฟิงดูแล้วไม่ว่าคนคน นี้จะมีสถานะอะไร แต่กล้ามาทำให้พวกเขาโมโห ก็ชักจะไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเต็มทน

แต่ในขณะที่สายตาของเขากำลังสนใจอยู่ที่ลี่จุนถิง สายตาขอลี่จุนถิงกลับมองมาที่รถของเจียงเย่เฉิง หลังจากที่เห็นทะเบียนรถ เขาก็มั่นใจขึ้นมาในทันทีว่าเจียงหยุนเอ๋อจะต้องอยู่ที่นี่ สายตาก็ย้ายมาอยู่ที่กลุ่มคนแล้วเริ่มมองหา

แค่แป๊บเดียว เขาก็มองเห็นเจียงหยุนเอ๋อที่ถูกเจียงเย่เฉิงอุ้มอยู่ สีหน้าก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาในทันที

ลี่จุนถิงเปิดประตูรถแล้วลงมา บอดี้การ์ดก็ประกาศกร้าวในทันที “หยุด ห้ามเข้ามาใกล้!”

ลี่จุนถิงหรี่ตาลงเล็กน้อย มีรังสีอันตรายแผ่นออกมาจากตัวเขา เขาก้าวเดินไปข้างหน้า “พวกแกกล้าทำฉันละก็ลองดู”

บอดี้การ์ดจำนวนไม่กี่คนกลัวจนยืนนิ่งอยู่กับที่ หันหน้าไปมองเซียวอี้เฟิง แต่ก็ไม่ได้รับสัญญาณอะไรจากเซียวอี้เฟิงเลยแม้แต่น้อย ในตอนนั้นก็เลยไม่กล้าที่จะทำอะไรวู่วาม

ลี่จุนถิงเดินเข้ามาถึงตรงสวนอย่างช้าๆ ในตอนที่เห็นใบหน้าของเขาอย่างชัดเจน เซียวอี้เฟิงก็เลิกคิ้วอย่างประหลาดใจ จริงๆแล้วตระกูลเซียวกับตระกูลลี่ติดต่อกันไม่บ่อย ลมอะไรถึงได้หอบลี่จุนถิงมาถึงที่นี่ได้?

ถึงแม้ว่าจะแปลกใจ แต่ว่าสีหน้าท่าทางก็ยังต้องควบคุมเอาไวให้ดี แล้วรีบพูดใส่หน้าลี่จุนถิง “โอ้ะ คุณชายของตระกูลลี่มาทำอะไรที่นี่ล่ะครับ ขอโทษที่ไม่ได้ออกไปต้อนรับด้วยตัวเอง ช่างน่าขายหน้าจริงๆ”

แต่ลี่จุนถิงกลับไม่ได้เสียเวลาเพื่อจะต่อความยาวสาวความยืดกับเขา แค่มองเขาด้วยสายตาเย็นชาเท่านั้น เอ่ยขึ้น “วางเธอลง”

พอถึงตอนนี้ในที่สุดเซียวอี้เฟิงก็รู้ว่า ณ ตอนนี้จุดประสงค์ของลี่จุนถิงคืออะไร ก็แค่…..ทำไมเขาถึงคิดไม่ถึงกันว่าลี่จุนถิงจะมีความสัมพันธ์อยู่กับผู้หญิงคนนี้

ถึงแม้ว่ายังจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ว่าก็ยกยิ้มขึ้นแล้วเดินไปข้างๆลี่จุนถิง คิดอยากจะยื่นมือออกไปค้ำบ่าของเขา “คิดไม่ถึงว่าคุณชายใหญ่ของตระกูลลี่ เพื่อผู้หญิงคนเดียว ถึงกับชนประตูบ้านของตระกูลเซียวเพื่อจะเข้ามา”

คำพูดนี้ของเซียวอี้เฟิงถ้าฟังเผินๆอาจจะไม่มีอะไร น้ำเสียงก็ดูมีมารยาท แต่ว่าพอเข้าในหูของลี่จุนถิงกลับมีแต่ความโมโหอยู่เต็มอก

ทั้งทางที่มา เขาเอาแต่เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของเจียงหยุนเอ๋อ รีบมาขนาดนี้ไม่ใช่เพื่อที่จะมาฟังคำถากถางของเซียวอี้เฟิง

ลี่จุนถิงรู้สึกได้ถึงน้ำหนักที่อยู่บนบ่า สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเกรี้ยวกราดขึ้นเรื่อยๆ อยู่ๆเขาก็ยื่นมือออกมาจับมือของเซียวอี้เฟิงเอาไว้ แค่แรงสะบัดไม่มากก็สามารถทำให้เขาล้มจนลงไปกองอยู่บนพื้นได้

“คุณชายใหญ่!” พวกบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่รอบๆเห็นภาพตรงหน้าก็ตกใจจนยืนนิ่ง ลังเลว่าจะเข้าไปช่วยเซียวอี้เฟิงดีไหม แต่ว่า……สถานะของลี่จุนถิงก็ยังวางอยู่ให้เห็น พวกเขาเองก็กล้าทำเรื่องที่มันเกินเลย

สุดท้าย ก็มีบอดี้การ์ดคนนึงจากทั้งหมดไปช่วยพยุงให้เซียวอี้เฟิงลุกขึ้น ส่วนคนอื่นๆก็ไม่กล้าทำอะไร ทั้งหมดยืนอยู่ด้านหลังของเซียวอี้เฟิงมองไปยังลี่จุนถิงที่ยืนอยู่ไม่ไกล

ตระกูลเจียงทั้งสามคนก็คิดไม่ถึงว่าลี่จุนถิงจะมาถึงเร็วขนาดนี้ แถมยังไม่ไว้หน้าเซียวอี้เฟิงเลยแม้แต่น้อย เห็นว่าเซียวอี้เฟิงโดนเขาปฏิบัติด้วยอย่างนี้ เจียงเย่เฉิงก็คิดว่าตัวเองก็คงไม่มีทางรอดไปได้

อย่างที่คิดไว้ ลี่จุนถิงกับรังสีกดดันที่แผ่ออกมาจากตัวเขากำลังเดินมายังทั้งสามคน ฝู้ชูเหมยกับเจียงหนิงเอ๋อโดนการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของเขาทำให้ตกใจจนสิ้นสติ แยกกันถอยหลังไปคนละไม่กี่ก้าว เหลือเพียงแค่เจียงเย่เฉิงที่อุ้มเจียงหยุนเอ๋อเอาไว้ ยืนอย่างงงๆอยู่ตรงนั้น

ถ้าเกิดว่าส่งตัวคนไปแล้ว หลังจากนี้ลี่จุนถิงจะมาขอตัวคืนก็ไม่มีวิธีแล้ว ใครจะรู้……เขากลับมาได้จังหวะพอดี!

ณ ตอนนี้และเวลานี้ ลี่จุนถิงก็เดินมาถึงตรงหน้าของเจียงเย่เฉิง สีหน้าอึมครึมมองเขา แล้วเอ่ยขึ้น “คนของผมคุณยังจะกล้าแตะ ชีวิตสงบสุขเกินไปอย่างนั้นเหรอ?”

เจียงเย่เฉิงตัวสั่นเล็กน้อย แล้วก็ก้าวถอยหลังไปโดยอัตโนมัติ

สายตาของลี่จุนถิงทำให้คนรู้สึกเสียวสันหลัง เขากวาดตามองไปยังทั้งสามคน แล้วก็แย่งตัวเจียงหยุนเอ๋อคืนมาจากเจียงเย่เฉิง

รู้สึกได้ว่าเจียงหยุนเอ๋อไม่มีสัมผัสรับรู้เลยแม้แต่น้อย ล้มลงมาอยู่ในอกเขาแบบง่ายๆ สีหน้าของลี่จุนถิงก็เปลี่ยนเป็นน่ากลัวมากขึ้นเรื่อยๆ

ไอ้เวรตะไล……ถ้าเกิดมาช้ากว่านี้อีกแค่ก้าวเดียว หรือว่าถ้าไม่ได้พบเจอเรื่องนี้เข้า อย่างนั้นเจียงหยุนเอ๋อจะทำยังไง?

มองลี่จุนถิงอุ้มตัวเจียงหยุนเอ๋อไป เจียงเย่เฉิงไม่ได้แค่ไม่กล้าขัดขวาง แถมยังถูกลี่จุนถิงยกขาขึ้นมาถีบอย่างแรงครั้งหนึ่งจนกลิ้งลงไปนอนกับพื้น

“โอ๊ย……” เจียงเย่เฉิงก็ถือได้ว่าอายุมากพอสมควรแล้ว ยังไงก็ทนไม่ไหวกับความเจ็บปวดแบบนี้ นอนอยู่บนพื้นแล้วร้องออกมาอย่างเจ็บปวดแล้วกุมท้องตัวเองเอาไว้

“เย่เฉิง!” ฝู้ชูเหมยร้องออกมา รีบรุดไปที่ข้างตัวของเจียงเย่เฉิงเพื่อจะดูว่าอาการของเขาเป็นยังไงบ้าง

ลี่จุนถิงมองพวกเขาด้วยสายตาเย็นชา ถึงแม้ว่าตอนนี้อยากจะสั่งสอนพวกเขา แต่ว่าเขาก็ยังคิดว่าพาตัวเจียงหยุนเอ๋อไปในที่ที่ปลอดภัยก่อนสำคัญกว่า

ในตอนนี้ เซียวอี้เฟิงที่โดนเขาสะบัดจนล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้นก็ลุกขึ้นมา กดไหล่ตัวเองเอาไว้ มองลี่จุนถิงมีสีหน้าโกรธเกรี้ยว “ลี่จุนถิง นี่มึงหมายความว่ายังไง? ตรงมาที่ตระกูลเซียวเพื่อที่จะข่มขู่กันหรือยังไง?”