บทที่ 93 เสี่ยวถาง มือของคุณนั้นไวต่อความรู้สึกมาก

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ดังนั้น การลงโทษของเขาคือการตีก้น?

หลานเสี่ยวถางกระพริบตาปริบๆ พยายามกลั้นน้ำตาไว้จากความกลัวกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้

พูดอีกอย่างก็คือ เธอนี่ช่างขายหน้าจริงๆนะ แค่การถูกตีก้นก็ตกใจกลัวจนร้องไห้.……

“ป๊าบ!” มีเสียงดังขึ้นอีกครั้ง

หลานเสี่ยวถางได้ยินเสียงอย่างชัดเจน จากนั้นเธอจึงรู้สึกตัวว่ากางเกงของตัวเองนั้นถูกถอดออกไปแล้วนะ——

เขาถอดกางเกงของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

เพราะเธอมัวแต่รู้สึกตื่นเต้นและประหม่า ดังนั้นเธอจึงไม่รู้สึกตัวว่าตัวเองนั้นโดนถอดกางเกงไปตอนไหน

และเมื่อมองย้อนกลับไป ดูเหมือนว่าตั้งแต่ตอนที่เขายกมือขึ้นจนถึงตอนที่ตีก้นเธอ การเคลื่อนไหวของสือมูเฉินนั้นรื่นไหลและไม่สะดุด

เพียงแต่ว่า เธอ หลานเสี่ยวถางตั้งแต่โตมาจนถึงอายุปาเข้าไป 25 ปีแล้ว เมื่อสมัยที่เธออยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเวลาเธอทำอะไรผิดเธอก็จะโดนคณบดีทำโทษโดยการตีก้น ต่อมา เธอก็ไม่เคยได้รับการลงโทษทางร่างกายเช่นนี้อีกเลยจริงๆ……

“ป๊าบ!” การทำโทษครั้งที่สามก็สิ้นสุดลง

หลานเสี่ยวถางพบว่าแม้ว่าสือมูเฉินจะตีเสียงดังมาก แต่ว่า เวลานั้นมันก็แค่ปวดแสบปวดร้อนเล็กน้อยเท่านั้นเอง จากนั้นก็ไม่รู้สึกเจ็บเลยสักนิด

ยิ่งไปกว่านั้น การถูกถอดกางเกงแล้วถูกตีก้นนั้น ดูเหมือนจะ……

เมื่อหลานเสี่ยวถางนึกถึงนี่ แก้มของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

เธอรีบสวมกางเกงอย่างรวดเร็ว จากนั้นเงยหน้าขึ้นมองสือมูเฉิน รอคำพูดประโยคต่อไปของเขาอยู่

เขามองลงมาที่เธอ และสังเกตเห็นเธอน้ำตาคลอเบ้า ดังนั้นเขาจึงยกมือขึ้นเพื่อเชยคางของหลานเสี่ยวถาง

หลานเสี่ยวถางเพิ่งได้รับการลงโทษไปแล้ว แต่เธอก็ยังรู้สึกกลัวเล็กน้อย ดังนั้น เธอจึงเดินก้าวถอยหลังกรูดโดยสัญชาตญาณ

เพียงแต่ว่า ในวินาทีถัดมา มืออีกข้างของสือมูเฉินก็จับเอวเธอไว้ ไม่ยอมให้เธอเดินหนีอีก

เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่: “เสี่ยวถาง แค่นี้ร้องไห้แล้วเหรอ? นี่ผมทำให้คุณตกใจกลัวจนร้องไห้เลยเหรอ?”

หลานเสี่ยวถางหลบสายตาอย่างเขินอาย

วินาทีถัดมา เธอก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลกระทบบนเปลือกตาของเธอ ทันใดนั้นเธอก็ตกตะลึง และหัวใจของเธอก็เต้นอย่างไม่เป็นจังหวะ

จูบของสือมูเฉินเป็นเหมือนแมลงปอบินไปเกาะบนใบบัวส่งผลให้ผิวด้านหน้าของใบบัวมีลักษณะขรุขระเมื่อหยดน้ำตกลงมากระทบใบบัว มีแนวหินเรียงรายกันในที่ทะเลสาบจิ้งอู๋สวยงามอย่างมาก

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ยืดตัวขึ้นและหรี่ตามองลงมาที่เธอ: “ผมเป็นผู้ชายนะ ผมจะลงมือทุบตีและรังแกคุณได้อย่างไรกัน? นี่คุณเห็นสามีของคุณเป็นคนอย่างนั้นหรอ?”

หลานเสี่ยวถางกัดริมฝีปากของตัวเอง: “ฉันผิดไปแล้วค่ะ ……”

“ทำไมคุณถึงยอมรับผิดอยู่เสมอด้วยล่ะ ?”สือมูเฉินกล่าว “ไม่กล้าต่อต้านผม ?และไม่กล้าตั้งคำถามถามผม?”

หลานเสี่ยวถางส่ายหัว: “สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมดนั้นล้วนพูดถูกต้องค่ะ”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ดีแล้ว ต่อไปนี้คุณจงจำใส่ใจไว้ให้ดีๆนะ ?”สือมูเฉินกล่าวพร้อมกับยักคิ้วใส่เธอ

หลานเสี่ยวถางกล่าวทันทีว่า: “ค่ะ ฉันจำได้ทั้งหมดแล้วค่ะ”

“เอาล่ะ ดูจากท่าทางที่คุณสำนึกผิดแล้วจริงๆ ผมจะมอบรางวัลให้คุณ!” ในขณะที่สือมูเฉินพูดอยู่นั้น เขาคว้าเอวของหลานเสี่ยวถางไว้แน่น และประทับจูบเธออย่างเร้าร้อน

หลานเสี่ยวถางเข้าใจในเวลานี้แล้วล่ะว่า รางวัลที่เขาจะมอบให้นั้นมีเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ——

ในเวลานี้ เธอถูกเขาจูบจนไม่มีเรี่ยวแรงไปทั้งตัว และตัวของเธอนั้นก็ไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา เขาค่อยๆผลักเธอออกเล็กน้อยเพื่อดูปฎิกิริยาและสีหน้าแดงจัดของเธอ น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำและมีเสน่ห์มาก: “จริงๆแล้วผมพึ่งสังเกตเห็นมือของคุณนั้นไวต่อความรู้สึกมาก”

หลานเสี่ยวถางเงยหน้าขึ้น: “มันไวและดีตรงไหนเหรอคะ?”

“ตอนที่คุณถูกลงโทษเมื่อกี้” ในขณะที่สือมูเฉินพูดอยู่นั้น ฝ่ามือของเขาสอดเข้าไปในกางเกงในของหลานเสี่ยวถาง

ฝ่ามือใหญ่ของเขาโอบบั้นท้ายกลมของเธอ เขาบีบไปด้วยพร้อมอุทานขึ้นว่า: “ทำไมเมื่อก่อนผมไม่เคยสังเกตเห็นเลยนะ?”

หลานเสี่ยวถางหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย วินาทีต่อมาเธอก็รีบหุบขาเข้าหากันทันที: “ก้นที่โดนคุณตีเจ็บมากแล้ว ฉันเกรงว่าฉันจะไม่สามารถรับรางวัลนี้ได้แล้ว”

สือมูเฉินได้ยินสิ่งที่เธอพูดแล้ว เขาก็หัวเราะออกมาด้วยความสุข และพูดด้วยน้ำเสียงพอใจว่า: “แล้วผมจะนวดให้คุณหายเจ็บเองนะ”

ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้น เขาก็ดึงมือออกมา จากนั้นก็คว้าตัวของหลานเสี่ยวถางอุ้มเธอขึ้น แล้วเดินไปที่ห้องน้ำทันที

เขาวางเธอลง จากนั้นใช้ความไวและความชำนาญของตัวเอง ถอดเสื้อผ้าเธอออกภายในไม่กี่วินาที

จากนั้นสือมูเฉินวางหลานเสี่ยวถางใต้ฝักบัวอาบน้ำ และบ่นพึมพำกับตัวเองว่า: “วันนี้คุณนั่งรถกับคนที่ควรไม่นั่งด้วย เดี๋ยวสามีของคุณจะล้างและฆ่าเชื้อให้กับคุณเอง!”

ริมฝีปากของหลานเสี่ยวถางกระตุกเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเขายังเคืองเรื่องที่เธอนั่งรถของหันจื่ออี้อยู่ นี่เขายังไม่หายหึงหวงอยู่อีกใช่ไหม?

ในวินาทีถัดมา เขาก็ถอดเสื้อผ้าของเขาออกหมดเช่นกัน จากนั้นใช้เจลอาบน้ำถูเรือนร่างของหลานเสี่ยวถางอย่างจริงจัง

ท่าทางของสือมูเฉินพิถีพิถันมาก เขาออกแรงอย่างเบามือ เมื่อฝ่ามือของเขาเลื่อนผ่านผิวอันนุ่มลื่นของหลานเสี่ยวถาง และมันทำให้เธอรู้สึกร้อนวูบวาบไปทั้งผิวกาย และเสียวจนทำให้ร่างกายของเธอสั่นเทา

นับตั้งแต่ที่พวกเขาแต่งงานกันมา เธอจะถูกเขาแกล้งจนไวต่อความรู้สึก ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่เขากระตุ้นเธอ ร่างกายของเธอก็จะกลายเป็นสีชมพู

หลานเสี่ยวถางเหลือบมองสักครู่ และแน่นอนว่าอวัยวะส่วนที่สือมูเฉินลูบอยู่นั้น ร่างกายของเธอเริ่มปรากฏเป็นสีชมพูไปทั่วเรือนร่าง เธออารมณ์เสียเล็กน้อย เธออธิษฐานในใจขอให้เขาอย่าได้มองเห็นมันเลย

ดูเหมือนเขาจงใจจะแกล้งเธอ เมื่อหลานเสี่ยวถางเพิ่งจะอธิษฐานเสร็จไม่นาน สือมูเฉินก็ได้สวมกอดเธอจากด้านหลัง และเขาลูบไล้บนหน้าอกของเธอเต็มไปด้วยฟองสบู่

เพราะเขานั้นสูงกว่าเธอมาก และในเวลานี้ดูเหมือนว่าเธอจะฝังอยู่ในร่างกายของเขา เขาเกยคางของเขาไว้บนไหล่ของเธอ และเสียงลมหายใจถี่ถั้นของเขาพัดดังอยู่ข้างหูของเธอ น้ำเสียงของเขานั้นเซ็กซี่มาก: “ผมอาบน้ำให้คุณ คุณรู้สึกสบายไหม?”

ในขณะที่สือมูเฉินพูดอยู่นั้น ริมฝีปากของเขาก็ถูกับใบหูของเธอ หลานเสี่ยวถางเหมือนร่างกายนั้นเต็มไปด้วยกระแสไฟฟ้าสถิตย์ ในขณะนั้นเธอก็หมดเรี่ยวแรงลง และเธอสูดหายใจเข้าลึกๆเบาๆ จากนั้นเธอก็กระซิบบอกว่า: “ฉันอาบเองดีกว่านะคะ”

“เป็นเพราะว่าผมอาบให้คุณไม่ทั่วถึงเหรอ?” มือของสือมูเฉินลูบไปตามหน้าอกของเธอแล้วค่อยๆลูบลงไปข้างล่าง และลูบวนเป็นวงกลมบนหน้าท้องแบนราบของเธอ จากนั้นเขาก็ลูบต่ำลงไปด้านล่างอีก และในที่สุดก็หยุดอยู่ตำแหน่งลับของเธอ: “เป็นเพราะว่ายังล้างไม่ถึงจุดนี้หรือเปล่า?”

“คุณ—” หลานเสี่ยวถางค่อยๆขยับหนี

ใครจะไปรู้ล่ะ วินาทีต่อมาสือมูเฉินก็เอานิ้วแหย่เข้าไปในส่วนนั้นของเธอ จากนั้นก็เริ่มขยับนิ้วเข้าออกอย่างต่อเนื่อง เขากระตุ้นบริเวณที่บอบบางของเธอ และมันทำให้เธอเสี่ยวซ่านไปทั้งตัว

เธอแทบจะทนไม่ไหว และเอื้อมมือผลักเขาออกไป แต่เขากลับหันตัวเธอมาหาเขา จากนั้นจึงก้มศีรษะลงและบดจูบริมฝีปากของเธอ

แต่ว่ามือข้างหนึ่งของเขาดันเธอไว้ติดอยู่กับกำแพง และมืออีกข้างหนึ่งยังคงเคลื่อนไหวไม่หยุด หลานเสี่ยวถางรู้สึกเพียงว่ามันร้อนวูบวาบไปทั่วเรือนร่าง ทำให้เธอแทบบ้า

เธออ้อนวอนขอความเมตตา แต่เขาทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น และเคลื่อนไหวเร็วขึ้น

เหนือศีรษะมีน้ำจากฝักบัวไหลลงมาไม่หยุด และฟองสบู่บนตัวทั้งสองคนก็ถูกชะล้างออกไป ในที่สุด สือมูเฉินก็ดึงมือกลับ เขาก้มลงมองเธอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์แห่งความเสน่หา:“ตอนนี้ ถึงเวลาที่จะมอบรางวัลอย่างเป็นทางการแล้วล่ะ ”

หลานเสี่ยวถางเข่าอ่อนทันที และเธอเหมือนกำลังจะล้มลง แต่สือมูเฉินกลับอุ้มเธอขึ้นมา แล้ววางเธอลงในอ่างอาบน้ำ จากนั้นเริ่มปรับตำแหน่งให้พอดี

ทันใดนั้น น้ำฝักบัวหยุดไหล และน้ำในอ่างอาบน้ำค่อยๆไหลออกมาอย่างช้าๆ

นอกจากนี้เมื่อสือมูเฉินเริ่มนวดให้เธอ และทันใดนั้นส่วนล่างของหลานเสี่ยวถางก็เหมือนมีอะไรไหลล้นออกมา

เขาก้มศีรษะลงจูบเธอ เขาถูระหว่างขาของเธอไปมาแต่กลับไม่เอาเข้าไปสักที

หัวใจของเธอเต้นแรงเพราะอารมณ์เสน่หา หลานเสี่ยวถางเงยหน้าขึ้นมองอย่างยั่วยวน และร่างกายของเธอก็เริ่มสั่น

“เสี่ยวถาง คุณชอบการลงโทษหรือการได้รับรางวัล” เขาก้มลงมองไปที่เธอ :“ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง”

ไม่เลือกได้ไหมคะ?

การลงโทษคือการถูกตีก้น และรางวัล ……

ดูเหมือนว่าเขามีพลังงานที่ไม่มีวันหมด และหลังจากที่ภารกิจเสร็จสิ้นทุกครั้ง แม้แต่จะยกนิ้วเธอยังไม่มีเรี่ยวแรงที่จะยกเลย

เมื่อเธอไม่พูด สือมูเฉินกล่าวว่า:“เวลาสำหรับการขอความคิดเห็นสิ้นสุดลงแล้ว ดังนั้น ผมจึงตัดสินใจให้รางวัลและลงโทษไปพร้อมๆกัน”

ขณะที่เขาพูดอยู่นั้น เขาเอื้อมมือไปบีบบั้นท้ายของหลานเสี่ยวถาง แล้วตบเข้าไปทีหนึ่ง และในขณะที่เธอตกตะลึงงันอยู่นั้น เขาก็คว้าเอวของเธอและสอดมันเข้าไป

น้ำค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แรกเริ่มนั้นหลานเสี่ยวถางยังคงทนอดกลั้นไว้ แต่ว่า เมื่อถึงตอนสุดท้าย ร่างกายอ่อนยวบไปทั้งตัว และภายใต้การกระทำของสือมูเฉินราวกับว่าแผ่นดินทั้งหมดกำลังจะล่มสลายแล้ว……

ในตอนท้าย เธอไม่มีเรี่ยวแรงเหลือเลยจริงๆ เขายังคงกอดเธอ และอาบน้ำให้เธออีกครั้ง จากนั้นพาเธอไปที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเป่าผมให้แห้งก่อนจะให้เธอเอนตัวลงนอน

“เสี่ยวถาง คุณเข้านอนก่อนนะ วันนี้ผมยังต้องเคลียร์งานต่อ ยังมีสิ่งหนึ่งที่ยังทำไม่เสร็จ”ในขณะที่สือมูเฉินพูดอยู่นั้น เขาปิดไฟหัวเตียงแล้วเดินออกไป

เดิมหลานเสี่ยวถางง่วงนอนมาก ความง่วงนั้นค่อยๆหายไป และเธอก็นึกขึ้นได้ว่า เวลาที่เธอส่งข้อความถึงเขา ในเวลานั้นเขาก็น่าจะกำลังยุ่งอยู่

แต่ว่าเขาก็ไม่วางใจเรื่องงานของเขาอยู่ดี แต่เพื่อดูแลเธอให้เข้านอนก่อนถึงจะไปเคลียร์งานของตัวเองต่อได้

ดังนั้น ตอนนี้เขากำลังเคลียร์งานของตัวเองอยู่หรือเปล่า? หลานเสี่ยวถางตื้นตันใจอย่างมากที่เขาเห็นเธอสำคัญกว่างานอยู่เสมอ

เธอเลิกผ้าห่มขึ้น และพลิกตัวไปมาแล้วรู้สึกปวดที่เอว เธอลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกจากห้อง

แน่นอนว่า โคมไฟในห้องหนังสือสว่างขึ้น และหลานเสี่ยวถางมองผ่านช่องระบายอากาศของประตู แล้วเห็นว่าสือมูเฉินกำลังทำงานอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ภายใต้แสงโคมไฟ

เขาดูคอมพิวเตอร์สักครู่ และครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วดีดคีย์บอร์ดพิมพ์งานบนคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว

เธอมองดูเขาอย่างเงียบ ๆเป็นเวลานาน จากนั้นจึงค่อยๆ เดินกลับห้องนอนไป

เมื่อกลับมาบนเตียง หลานเสี่ยวถางมองโทรศัพท์อยู่ครู่หนึ่ง วันนี้เป็นวันที่ 7 เวลาผ่านไปเร็วมาก ดูเหมือนว่าสือมูเฉินจะต้องกลับไปทางแถบตะวันตกในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว

หลานเสี่ยวถางสืบข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตเกี่ยวกับเรื่องการตรวจไขกระดูก และเมื่อเธอกำลังจะปิดโทรศัพท์มือถือ เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านั้นเธอและสือมูเฉินได้ไปจดทะเบียนสมรสกัน และเธอก็เห็นหมายเลขบัตรประชาชนของสือมูเฉิน แท้จริงแล้วเขาเกิดราศีสิงห์

ดังนั้น ใกล้ถึงวันเกิดของเขาแล้ว?

เมื่อนึกถึงนี่ หลานเสี่ยวถางก็รีบค้นหาใบทะเบียนสมรสของตัวเองทันที

แน่นอนว่า วันเกิดของสือมูเฉินนั้นคือวันมะรืนนี้!

เธอแต่งงานกับเขา และไม่เคยช่วยเหลืออะไรเขาได้เลยสักครั้ง ถ้าเช่นนั้น เธอจะใช้วันนั้นจัดงานเซอร์ไพรส์วันเกิดให้กับเขา จากนั้นเธอก็จะใช้เวลาที่มีความสุขกับร่วมกับเขา!

มุมปากของหลานเสี่ยวถางยกขึ้น และเธอกำลังคิดไอเดียวันเกิดอยู่ ว่าควรหาของขวัญวันเกิดอะไรเซอร์ไพรส์ในวันเกิดของเขาดีนะ

หลังจากคิดวางแผนได้แล้ว เธอบิดเอวด้วยความเกียจคร้านและกำลังจะปิดเครื่อง เธอก็ได้รับข้อความจากสือเพ่ยหลิน

เขาบอกว่า เขาเรียนกฎระเบียบจราจรเสร็จและสอบผ่านแล้ว และตอนนี้ก็พร้อมที่จะกลับบ้านแล้ว ส่วนเรื่องเมื่อกลางวันนั้น เขาจะไม่มีวันยอมแพ้หรอก

หลานเสี่ยวถางอ่านจบแต่ก็ไม่สนใจอะไร

หลังจากที่เธอกำลังจะกดออก หลานเสี่ยวถางก็เห็นใครบางคนเพิ่มเพื่อนเข้ามาในWeChat ดังนั้น เธอจึงคลิกเข้าไปดู

ปรากฎว่าคนที่เพิ่มเพื่อนมานั้นรู้เรื่องเกี่ยวกับเธอไม่น้อยเลยล่ะ เธอเลื่อนไปดูอีก ในที่สุดก็เข้าใจทุกอย่าง

วันนี้ ฟีดข่าวบนแอปเวยป๋อนั้นร้อนแรงมาก คนที่ไม่รู้จักเธอแน่นอนว่าต้องไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ว่าเพื่อนร่วมชั้นที่รู้จักเธอมานานหลายปี ต้องจำเธอได้อย่างแน่นอนเลย?

ดังนั้น เธอก็เลยตัดสินใจถามในกลุ่มว่ามีใครรู้จักสือเพ่ยหลินบ้างไหม และยิ่งตลกไปกว่านั้นก็คือ มีคนถามเธอว่า งานแต่งงานของสือเพ่ยหลินก่อนหน้านี้ จู่ๆก็ข่าวคราวก็เงียบหายไป เป็นเพราะเธอหนีออกจากงานแต่งในวันนั้นใช่ไหม และได้กลายเป็นเจ้าสาวที่หนีเจ้าบ่าว จึงมีเรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นตามมาไม่จบไม่สิ้น?

หลังจากที่หลานเสี่ยวถางอ่านข้อความแล้ว ก็ตอบกลับง่ายๆเพียงแค่ประโยคเดียวว่า: จินตนาการของคุณนี่ดีเลิศจริงๆเลยนะคะ

เธอไม่ต้องการคุยกับพวกเขาอีกต่อไป แต่เธอเห็นจุดสีแดงเล็กๆ ในแวดวงกลุ่มเพื่อนในWeChat

เธอคลิกเข้าไปดู และรู้สึกตื่นเต้นที่เห็นว่าคุณJarvis ได้อัปเดตโมเม้นต์ในแวดวงเพื่อนใหม่แล้ว!

ยิ่งไปกว่านั้น เนื้อหาที่เขาอัปเดตในครั้งนี้ไม่ใช่ข้อมูลเกี่ยวกับทางเทคโนโลยี แต่เป็นประโยคที่แสดงความรู้สึก!

เขาโพสว่า ลูกหมูที่บ้านนั้นเลี้ยงไม่ง่ายเลยสักนิด