ตอนที่ 118 นักบินคนสวย
มู่เถาเยาพูดคุยกับคนตระกูลตี้จนถึงสิบเอ็ดโมง ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
“เสี่ยวหว่าน เธอกับเสี่ยวเหมียนอยู่ที่ไหนกัน”
“…”
“โอเค รออยู่ตรงนั้น เดี๋ยวฉันให้คนไปรับพวกเธอ”
“…”
หลังจากทราบตำแหน่งแล้ว มู่เถาเยาจึงขอยืมคนขับรถของปู่ตี้
ปู่ตี้เอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ถ้าเสี่ยวเยาเยาต้องการใช้รถ เรียกใช้อาคุนได้เลย”
“อาคุนเป็นบอดี้การ์ดของตี้อู๋เปียน จะให้เขาทิ้งตี้อู๋เปียนบ่อยๆ ไม่ได้หรอกนะคะ”
ตี้อู๋เปียนเอ่ยขึ้นอย่างใจดี “ในบ้านมีคนเยอะแยะ ถ้าเธอจะใช้คนก็บอกอาคุน ไม่จำเป็นต้องแจ้งพวกเราหรอก”
“พี่ชายของฉันส่งนักบินมา ถึงตอนนั้นฉันคงไม่ต้องรบกวนอาคุนบ่อยๆ แล้วล่ะ”
อาคุนที่ยืนอยู่ด้านหลังของตี้อู๋เปียนยกยิ้มบางๆ ขึ้นบนใบหน้าที่เคร่งขรึม พลางเอ่ยขึ้น “เป็นเกียรติของผมที่ได้รับใช้หมอเทวดาน้อยมู่ครับ”
อาคุนทักทายทุกคน จากนั้นจึงขับรถออกไปที่หน้าประตู
มู่เถาเยาอมยิ้มที่มุมปากเบาๆ
“เดี๋ยวฉันจะให้เชฟส่งอาหารและวัตถุดิบจำนวนหนึ่งให้พวกเธอนะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ ฉันขอตัวก่อน”
ถุงลมน้อยรีบเข้าไปกอดขาเธอไว้ “พี่สาว อันเหยี่ยไปด้วยนะครับ”
“เดี๋ยวพี่ต้องไปส่งคนที่สนามบิน แต่หลังมื้ออาหารอันเหยี่ยต้องนอนกลางวันนะคะ”
“อันเหยี่ยไม่นอน”
“เด็กดีต้องกินข้าวแล้วก็นอนหลับให้ตรงเวลา จะได้ตัวสูงๆ”
ถุงลมน้อยสับสนมาก
ตี้อู๋เปียนเข้าไปดึงเจ้าตัวเล็กออกมา “ตี้อันเหยี่ย เลิกเกาะติดพี่เขาได้แล้ว” ทีเขายังไม่ได้เกาะเลย! เธอถือสิทธิ์อะไร!
ถุงลมน้อยเบะปาก
แต่ก็ไม่ได้ก่อกวน
มู่เถาเยาลูบหัวทุยเล็กของเขาแล้วเอ่ยขึ้น “เดี๋ยวพี่จะกลับมาทานอาหารเย็นด้วย”
“อื้มๆ” ทำได้แค่พยักหน้า
เขาเป็นเด็กดี! ต้องเชื่อฟังพี่สาว!
มู่เถาเยาทักทายทุกคนแล้วออกจากประตูไป
เมื่อรถเคลื่อนตัวมาถึงจัตุรัสกลางของเขตวิลล่า ก็เห็นมู่หว่านและเจียงเฟิงเหมียนนั่งให้อาหารปลาอยู่ริมสระ
ไม่รู้ว่าพวกเธอไปเอาอาหารปลามาจากไหน
เมื่อทั้งสองเห็นรถ ก็รีบโปรยอาหารปลาในมือทันที
มู่หว่านและเจียงเฟิงเหมียนรีบวิ่งมาอย่างรวดเร็ว พวกเธอเปิดประตูรถแล้วก้าวขึ้นไปนั่ง
“เสี่ยวเยาเยา เธอตรวจคนไข้เสร็จแล้วเหรอ”
“อืม”
“แล้วเราจะออกไปตอนนี้เลยไหม”
“ไปกินข้าวที่วิลล่าตระกูลเย่ว์ก่อน กินข้าวเสร็จแล้วฉันจะไปส่งเธอที่สนามบิน”
“ฉันไปสนามบินเองได้นะ”
“ไม่เป็นไร ฉันว่าง” ตอนที่ควรว่าง เธอมีเวลาเสมอแหละ
“งั้นก็ได้ วิลล่าตระกูลเย่ว์อยู่ที่ไหนเหรอ”
“ก็อยู่ในเขตสวนนี่แหละ”
เจียงเฟิงเหมียน “วิลล่าตระกูลเย่ว์เป็นบ้านของใครเหรอคะ พี่เยาเยา ใช่บ้านของพี่ใหญ่เย่ว์ พี่รองเย่ว์หรือเปล่า”
“อืม”
มู่หว่านเอ่ยถามด้วยใบหน้าที่งุนงง “เสี่ยวเหมียน พี่ใหญ่เย่ว์พี่รองเย่ว์คือใครกัน”
“เป็นเพื่อนของพี่เยาเยาน่ะ…พี่เยาเยา ฉันจะไม่พูดอะไรทั้งนั้น!” เจียงเฟิงเมียนชูสามนิ้วขึ้นเพื่อสาบาน
ที่แท้ตระกูลเย่ว์ของเครือเทียนเย่ว์ก็อยู่ที่นี่!
“อืม”
“เสี่ยวเยาเยา เธอมีเพื่อนในเมืองเย่ว์ตูเยอะหรือเปล่า”
“มีไม่กี่คน” แต่เมื่อเทียบกับชีวิตก่อนหน้านี้ ดูเหมือนว่าจะมีค่อนข้างมากเลยล่ะ
“ใช้ได้เลยนี่เสี่ยวเยาเยา!” ดวงตาของมู่หว่านเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เด็กสาวสามคนคุยกันเรื่องทั่วไป ไม่นานรถก็เคลื่อนตัวมาถึงวิลล่าตระกูลเย่ว์ที่อยู่ทางทิศเหนือ
“ว้าว! นี่น่ะเหรอวิลล่าตระกูลเย่ว์! สวยมาก!”
สองสาวอุทานขึ้นพร้อมกัน
มู่หว่าน “เสี่ยวเยาเยา พื้นที่นี้กว้างมากเลย! ทำไมมีอาคารเพียงหลังเดียวล่ะ”
“คนตระกูลเย่ว์ไม่ชอบพักอยู่ในสถานที่แออัดน่ะ”
“อ๋า…แออัด…วิลล่านี้ดีที่สุดและสวยที่สุดในประเทศแล้วนะ ระยะห่างระหว่างวิลล่าก็ไกลกันมาก! พี่เยาเยา พี่เข้าใจคำว่า ‘แออัด’ ผิดหรือเปล่า ”
มู่เถาเยายิ้มขบขัน จากนั้นจึงพาสองสาวไปทักทายเชฟที่ตระกูลตี้ส่งมาซึ่งยืนรอพวกเธออยู่หน้าประตู ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป
“วิธีการเปิดประตูเจ๋งมากเลย! เหมือนในทีวีไม่มีผิด! ฉันเห็นของจริงเป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย!” มู่หว่านเต็มไปด้วยความรู้สึกประหลาดใจ
เจียงเฟิงเหมียนพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันก็เหมือนกัน”
หลังจากเข้าประตูมา เด็กสาวสองคนก็เหมือนสาวบ้านนอกเข้ากรุง รู้สึกแปลกใหม่ไปหมด
มู่หว่านไม่รู้เกี่ยวกับตระกูลเย่ว์ เธอเพียงคิดว่าเพื่อนของเสี่ยวเยาเยาสุดยอดเลย!
บ้านแบบนี้หากไม่มีเงินเป็นพันล้านก็เอื้อมไม่ถึงหรอก!
ดูของโบราณนี่สิ!
รูปวาดอันล้ำค่านี่ด้วย!
มีความเป็นสไตล์โบราณ อ่อนช้อยงดงาม หรูหราดูแพง…
“เสี่ยวเยาเยา เพื่อนเธอไม่อยู่บ้านเหรอ ทำไมไม่เห็นเจ้าของบ้านเลย”
“พวกเขาไม่ใช่คนท้องถิ่น ไม่ค่อยมาที่นี่หรอก”
“!!!”
สิ้นเปลืองชะมัด!
มู่เถาเยาไม่ได้พาพวกเธอชมบ้าน เพราะวิลล่าตระกูลเย่ว์ไม่ใช่ของเธอ
เด็กสาวทั้งสองก็เป็นคนรู้มารยาท จึงไม่ได้เอ่ยขอเยี่ยมชมบ้านส่วนตัวของคนอื่น โดยที่เจ้าของบ้านไม่อยู่แบบนี้
เชฟที่มาจากตระกูลตี้ไม่เพียงแต่นำวัตถุดิบมาเท่านั้น แต่ยังนำผลไม้มากมายมาด้วย
เขาหั่นผลไม้ใส่จานให้สามสาวทานระหว่างพูดคุยกัน จากนั้นจึงไปทำอาหารกลางวัน
มู่หว่านมองตามหลังเชฟที่เดินเข้าห้องครัวไป แล้วจึงเอ่ยถามขึ้น “เสี่ยวเยาเยา เจ้าของบ้านก็ไม่อยู่ ทำไมเชฟยังทำงานอยู่ล่ะ”
“ไม่ใช่เชฟของที่นี่ นี่เชฟจากบ้านคนไข้ฉันเอง”
“…”
ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับเพื่อนสนิทมักผ่านไปเร็วเสมอ
หลังอาหารกลางวัน มู่เถาเยาและเจียงเฟิงเหมียนได้ไปส่งมู่หว่านที่สนามบินด้วยกัน จากนั้นก็ตรงไปยังมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตูทันที
เจียงเฟิงเหมียนมีห้องวาดภาพขนาดใหญ่หนึ่งห้อง
มู่เถาเยาดูภาพวาดล่าสุดของเธอทีละภาพ และให้คำแนะนำไปมากมาย แถมยังวาดภาพต้นหลิวและสะพานเล็กๆ ตามคำขอของเจียงเฟิงเหมียนอีกด้วย
นี่เป็นสิ่งที่เธอถนัดที่สุด
“เสี่ยวเหมียน ตอนเธออยู่บ้านคนเดียวอย่าเข้าครัวเด็ดขาด ถ้าอาจารย์อาเล็กกลับมาทำอาหารให้เธอช้า เธอก็ไปกินที่โรงอาหารหรือไม่ก็สั่งเดลิเวอร์รีเอา”
“ฉันเข้าใจแล้ว พี่เยาเยา”
ถ้าไม่ใช่เพราะมีธุระต่อ เจียงเฟิงเหมียนไม่มีทางยอมให้เธอกลับไปเร็วขนาดนี้หรอก
มู่เถาเยาลูบเส้นผมของเธอราวกับผู้อาวุโส พลางเอ่ยขึ้น “อืม ฉันกลับก่อนนะ”
“โอเค”
มู่เถาเยาออกจากมหาวิทยาลัยแพทย์เย่ว์ตู ตรงกลับไปที่เขตเซิ่งซื่อฉางอันทันที
หลังจากรออยู่ในวิลล่าตระกูลเย่ว์สักพักก็ได้ยินเสียงสั่นสะเทือนของเฮลิคอปเตอร์
จากนั้นจึงขับรถไปที่สวนหลังบ้าน
เฮลิคอปเตอร์ที่ทันสมัยและมีกลิ่นอายของเผ่าหมาป่าพระจันทร์อย่างเข้มข้น กำลังเฝ้ารอการมาถึงของเจ้าของของมันอย่างสงบบนลานจอดเฮลิคอปเตอร์
นักบินหญิงสูงหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าเซนติเมตร ผมดัดลอน ริมฝีปากสีแดงสด กายสวมชุดลายพรางสีเขียว ยืนพิงข้างบันไดราวกับว่าเธอไม่มีกระดูกสันหลัง
เมื่อเธอเห็นมู่เถาเยาและอาคุนก็เดินเข้ามาด้วยท่าทีดุดัน
นัยน์ตาของอาคุนหรี่เป็นเส้นตรง
ไม่ใช่มองด้วยสายตาลามกเจ้าชู้แบบนั้น แต่เป็นการมองด้วยสายตาที่เกินความคาดหมายต่างหาก
นะ…นักบินหญิงทั้งเท่ และก็สวยขนาดนี้เชียวเหรอ!
“เจ้าหญิงน้อย ตามคำสั่งของคุณชายใหญ่เหิง เหลียงจีมารายงานตัวแล้วค่ะ”
“ฉันทำให้เธอต้องคับข้องใจหรือเปล่า”
“เจ้าหญิงน้อยพูดตลกแล้ว เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับเหลียงจีที่ได้รับใช้เจ้าหญิง”
มู่เถาเยาดูออกว่าเธอพูดจริง
“เจ้าหญิงน้อย ได้ยินมาว่าวรยุทธ์ของเจ้าหญิงน้อยเก่งกาจกว่าคุณชายรองอีก ถ้ามีโอกาสช่วยให้คำแนะนำเหลียงจีหน่อยได้ไหมคะ” นี่เป็นความปรารถนาสูงสุดของเธอ
“ถ้าเธอเต็มใจที่จะเรียนรู้ ฉันก็ไม่รังเกียจอยู่แล้ว”
“เหลียงจีขอบคุณเจ้าหญิงน้อยล่วงหน้าค่ะ”
มู่เถาเยายิ้ม จากนั้นก็เอ่ยถามว่า “เหลียงจีเคยเป็นนักบินของใครมาก่อนเหรอ”
“หัวหน้าเผ่าค่ะ” ไอดอลของเธอ!
“คุณอาเหรอ” ตอนแรกเธอคิดว่าเป็นของพ่อเสียอีก อย่างไรพ่อก็…
“เจ้าหญิงน้อยอย่ากังวลไปเลยค่ะ หัวหน้าเผ่าไม่ได้ให้ฉันเป็นแค่นักบิน ยิ่งไปกว่านั้นในอนาคตเจ้าหญิงน้อยก็ต้องรับช่วงขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าต่อ เหลียงจีก็จะยังเป็นนักบินของหัวหน้าเผ่าด้วยเหมือนเดิม เพราะงั้นไม่มีอะไรคับข้องใจเลยสักนิดเดียวค่ะ”
“…ขอบคุณ”
“ยินดีค่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เหลียงจีในวัยยี่สิบห้าปีที่กำลังรุ่งโรจน์จะเป็นนักบินและคนขับรถของเจ้าหญิงน้อยเองค่ะ”
ให้เธอเป็นบอดี้การ์ด เธอยังไม่มีคุณสมบัติขนาดนั้นหรอก
แม้แต่คุณชายเหิงเธอยังสู้ไม่ได้ อย่าพูดถึงคุณชายรองเลย เจ้าหญิงน้อยแข็งแกร่งยิ่งกว่าคุณชายรองเสียอีก!
รอคอยอนาคตเลยแฮะ!