ตอนที่ 145 ข้อเสนอ

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังเข้ามา เย่เฉินก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย

หากฟังจากเสียงฝีเท้าก็ตัดสินได้ไม่ยากว่าเหล่าคนที่มาใหม่นี้มีจํานวนค่อนข้างมาก

หรือเป็นพวกคนโลภที่เห็นแกผลประโยชน์นําคนมาเพิ่ม…

เมื่อคิดถึงเรื่อยงนี้ กลิ่นอายแห่งการสังหารในดวงตาของเยู่เฉินก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้น

“ฟุบ ฟุบ ฟุบ”

ในขณะที่เย่เฉินกําลังคิดเกี่ยวกับมัน หอกสังหารในมือของเขาก็ไม่ได้หยุดโจมตีเลย มัยยังคงตั้งใจเก็บเกี่ยวชีวิตของนายน้อยฮวงและคนอื่นๆ

“เย่เฉิน! ข้าพูดความจริง ตราบใดที่เจ้าปล่อยข้า ข้าจะมอบเงินทั้งหมดของข้าให้กับเจ้า ทั้งหมด 13.9 พัน ล้านเครดิตทั้งหมดข้าให้เจ้า!” นายน้อยฮวงเห็นว่าเย่เฉินไม่ตอบเขาตื่นตระหนกทันทีและตะโกนอย่างเร่งรีบ

เจ็บใจยังไง เกลียดอะไร ณเวลานี้เขาไม่สนมันอีกแล้วเขามีความคิดเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคืออยากมีชีวิตอยู่อย่างไรก็ตามเขายังไม่ได้รับคําตอบใดๆจากเย่เฉินเลยแม้แต่น้อย

เย่เฉินเดินไปข้างหน้าราวกับเดินเล่นในสวนหลังบ้านและลูกน้องของนายน้อยฮวงก็ถอยไปด้ายหลังเรื่อยๆ พวกเขาเบียดเสียดแออัดกันอยู่ในขณะนี้พวกเขาไม่สามารถถอยได้อีกแล้ว

มีเย่เฉินผู้โหดเหี้ยมอยู่ข้างหน้าและพยัคฆ์ตัวสีแดงขวางทางอยู่ด้านหลัง

มีถนนสองข้างทางเป็นทางตัน

ใครก็ตามที่กล้าหนีออกไปไป พยัคฆ์ตัวนั้นจะฆ่าเขาได้ในทันที

ต่อให้มีคนหนีไปทั้งสองทางพร้อมๆ กัน พวกเขาก็ไม่อาจหนีจากพยัคฆ์ขนสีแดงที่ว่องไวดุจสายฟ้าได้ผู้คนจํานวนมากจะถูกมันฆ่าแทน

ในขณะนี้ ใบหน้าของบรรดาลูกน้องของนายน้อยฮวงแสดงออกถึงความสิ้นหวัง

พวกเขาพบว่าเยู่เฉินนั้นไร้เความเมตตาอย่างแท้จริงการอ้อนวอนขอความเมตตาจากเย่เฉินนั้นไร้ประโยชน์กรีดร้องโอดครวญเท่าไหร่ก็ไร้ประโยชน์

เลือดหยดลงจากปลายหอก

ด้วยเลือดที่หยดลงมา หัวใจของพวกเขาก็ยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นเรื่อยๆ

“เย่เฉิน หยุดเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์!” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังออกมาจากพงหญ้า

วินาทีถัดมา ชายวัยกลางคนก็วิ่งออกมา

ไม่นานก็มีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งตามออกมาจากด้านหลังเขาแต่ละคนถืออาวุธที่มีคําว่า “จริง” อยู่ในมือ

เย่เฉินเหลือบมองผู้ที่มาใหม่ กลิ่นอายสังหารที่คลุกกรุ่นอยู่แล้วก็ระเบิดขึ้นอีกครั้ง

“หัวหน้าหู เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าฆ่าเจ้าจริงๆอย่างนั้นหรือ?”คําพูดที่เย็นชาของเยเฉิน ดังขึ้นในทันที

เยเฉันรู้ว่าผู้มาเยือนคือพี่ชายคนโตของเพื่อนร่วมชั้นเขาหูเสี่ยวเย่ว

เยู่เฉินเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาไม่คาดว่าจะเป็นเขา

ในทันที เจตนาแห่งการสังหารที่ทรงอํานาจก็แผ่ออกมาจากเย่เฉินทันที

นายน้อยฮวงและคนของมัน เย่เฉินไม่ได้เกลียดชังหรือโกรธอะไรมากนัก

เพราะพวกมันเป็นเพียงกลุ่มของขยะที่มีความปรารถนาและความโลภไม่รู้จบแต่พวกมันก็ไม่ได้มีพลังที่แข็งแกร่งอะไร

อย่างไรก็ตาม การปรากฏตัวของหัวหน้าของหูกระตุ้นความโกรธของเย่เฉินอย่างแท้จริง

เพราะเขาเคยเจอกับเย่เฉินมาก่อนแล้วและแม้แต่เขายังเป็นพี่ชายของเพื่อนร่วมชั้นของเยู่เฉินหูเสี่ยวโย่ว

เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะความสัมพันธ์นี้เองที่กองกําลังเบื้องหลังของเขาขอให้เขาพาคนมาที่นี่เพื่อตามหาเย่เฉินและนี่คือต้นเหตุความโกรธของเยเฉิน

มารดามันเถอะ ข้าไม่มีอารมณ์จะมาเล่นกับพวกเจ้า?

สําหรับกัปตันหูเย่เฉินไม่คิดว่าเขาจะเป็นผู้บงการทั้งหมด ที่เย่เฉินไม่ได้คิดอย่างนั้นเพราะเย่เฉินสัมผัสได้ตั้งแต่การพบกันครั้งแรก

กับตันหผู้นี้เพียงทําตามคําสั่ง

“ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย เจ้าเย่เฉินมันเป็นฆาตกร เขาฆ่าคนไปเยอะมากคุณเห็นไหมศพที่อยู่บนพื้นทั้งหมดถูกเขาฆ่าตาย!” นายน้อยฮวงเห็นคนที่เพิ่งมาใหม่ ดวงตาของเขาก็เปิดกว้างเปล่งประกายแสงแห่งความหวังอันแรงกล้าจากนั้นเขาก็อ้าปากของเขาและตะโกนออกไป

ทันทีที่คําพูดของเขาจบลง เหล่าผู้คนนับร้อยที่ยังมีชีวิตก็เริ่มตะโกนออกมา

“ช่วยพวกเราด้วย ช่วยพวกเราทุกคนช่วยพวกเราด้วย!”

“เย่เฉินมันเป็นปีศาจแห่งการสังหาร ฆ่ามัน ฆ่ามันซะ!”

“เยู่เฉินไร้มนุษยธรรม เจ้าเห็นมันไหม มันเป็นคนเลือดเย็นโหดเหี้ยมฆ่าคนจํานวนมากโดนไม่กระพริบตารีบฆ่ามันเร็ว ๆเข้า!”

พวกเขาตะโกนด้วยความตื่นเต้นราวกับว่าพวกเขาเห็นแสงแห่งความหวังเพราะทุกคนที่มาที่นี่สวมชุดลายพราง

กับตันหูได้ยินเสียงตะโกนของนายน้อยฮวงและเหล่าคนที่เหลือ แต่ในขณะนี้ จิตใจของเขารู้สึกหงุดหงิดกับเจตนาฆ่าที่โหดร้ายของเยู่เฉิน เขาไม่มีเวลามาสนใจนายน้อยฮวงและคนอื่นๆ

เมื่อมองดูศพและเศษอวัยวะต่างๆ กระจายอยู่ทั่วบริเวณ เช่นเดียวกับพื้นดินที่อาบย้อมไปด้วยโลหิตมุมปากของกัปตันหูกระตุกโดยไม่ตั้งใจ จากนั้นเขาก็มองไปที่เย่เฉินและกล่าวว่า:

“เย่เฉิน พอเถอะโลกนี้กลายเป็นแบบนี้ไปแล้ว มีเผ่าพันธุ์มอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งก็ปรากฎขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์ ไม่สามารถฆ่ากันเองได้อีกต่อไป”

“การฆ่ากันเอง? ตามความเห็นของเจ้า ผู้คนควรรวมตัวกันและทํางานร่วมกันเพื่อต่อต้านเผ่าพันธุ์ปีศาจ?” เย่เฉินมองกัปตันหู อย่างเย็นชาแล้วถาม

“มันควรเป็นแบบนั้น เมื่อมนุษย์รวมกันเป็นหนึ่ง พวกเราจะอยู่รอดในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปนี้ได้เผ่าพันธุ์ มนุษย์ก็จะไม่สูญพันธุ์” กัปตันหู พยักหน้ายืนยันแล้วกล่าว

“เจ้าพูดถูก มนุษย์จําเป็นต้องสามัคคีกันจริงๆ ด้วยวิธีนี้ มนุษย์จะไม่ถูกฆ่าล้างบาง” เย่เฉินพยักหน้าแล้วพูด

การแสดงออกของกัปตันหู มีความสุขทันทีเมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาไม่ได้คาดหวังว่า เย่เฉินจะคิดอย่างนั้นเช่นกันคราวนี้เขามาที่นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดี

อย่างไรก็ตาม

เย็นชาของเยู่เฉินก็ดังขึ้นอีกครั้ง

“ว่าแต่ มันเกี่ยวอะไรกับข้า”

“เย่เฉิน เจ้าหมายความว่าอย่างไร” สีหน้าของกับตันหูเปลี่ยนไป จากนั้นเขาก็ถามด้วยน้ําเสียงที่จริงจัง

“ถ้าไม่มีผู้นําแบบเหล่านั้นในโลกใบนี้ บางทีข้าจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างจริงจัง” เย่เฉินเหลือบมองที่กัปตันหูแล้วพูดเบา ๆ

“หากไม่มีใครเป็นผู้นํามนุษย์จะสามารถต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ปีศาจได้อย่างไร เราจะอยู่รอดในโลกแบบนี้ได้ อย่างไร” สีหน้าของกัปตันหู เปลี่ยนไปอีกครั้งเมื่อได้ยินเรื่องนี้ จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ําเสียงที่หนักแน่น

“กัปตันหูบอกมาตามตรง ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว เงื่อนไขของคนเหล่านั้นคืออะไร?” เย่เฉินกล่าวออกมาด้วยความขบขัน

เมื่อได้ยินดังนั้นกัปตันหูก็เงียบไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า:

“ถ้าเจ้าเต็มใจที่จะเข้าร่วมลีกหยานหวง เจ้าจะได้รับยศนายพลใหญ่ เจ้าจะสามารถใช้สมบัติทั้งหมดในลีกหยานหวงได้ตามที่เจ้าต้องการ

“โฮ้ แค่นั้น? เงื่อนไขคืออะไร?” เย่เฉินถามด้วยปากที่โค้งงอขึ้น

เมื่อกัปตันหูได้ยินเช่นนี้ เขาก็เงียบไปนาน และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดต่อ:

“มอบหลุนฮุย,เตียนอุยกุยแกจูล่งและความลับทั้งหมดที่เจ้ารู้เกี่ยวกับเกม”

กัปตันหูกล่าวเช่นนี้ เขาหยุดชั่วครู่แล้วกล่าวต่อว่า

“เย่เฉิน โลกนี้เปลี่ยนไปแล้ว การแบ่งปันทรัพยากรเท่านั้นที่มนุษย์จะแข็งแกร่งขึ้นทั้งในเกมและโลกความเป็นจริงด้วยวิธีนี้มนุษย์เท่านั้นที่สามารถต่อสู้กับเผ่าพันธุ์ปีศาจได้”

“เปะ เปะ เปะ”

เย่เฉินปรบมือด้วยรอยยิ้ม: “วิเศษ วิเศษมาก เร็วเข้า พูดต่อ อะไรอีก อย่าได้ปิดบัง”

“เย่เฉิน เจ้าหมายความว่ายังไง!” ใบหน้าของกัปตันหูแข็งที่อในทันทีเมื่อได้ยินสิ่งที่เย่เฉินพูดจากนั้นเขาก็ตะโกนด้วยความโกรธ

เขาเห็นท่าทีที่เย้ยหยันของเย่เฉิน อันที่จริงแล้วเขาเห็นมันตั้งแต่ต้น แต่เขายังคงอดทนเกลี้ยกล่อมเย่เฉินต่อไป

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ เขาพบว่าทุกอย่างที่เขาพูดไปนั้น เย่เฉินไม่ได้คิดเกี่ยวกับมันแม้แต่น้อย