บทที่ 474 หึหึ กลับไปเมื่อใดข้าจักไร้เทียมทานในใต้หล้า!

รู้สึกตัวอีกที-ข้าก็เป็นเซียนซะแล้ว-原來我是世外高人

บทที่ 474 หึหึ กลับไปเมื่อใดข้าจักไร้เทียมทานในใต้หล้า!

บนดวงดาวทรุดโทรมที่เหลือเพียงซากปรักหักพัง เลือดและเศษกระดูกเกลื่อนกลาด ที่น่าสังเวชอย่างยิ่งคือ ไม่เหลือสิ่งมีชีวิตสักตนเดียว

หลิงอินและเสี่ยวหยาต่างขนลุกขนชันกับภาพที่เห็น สิ่งมีชีวิตทั้งดาวตายไปทั้งอย่างนี้ ไม่ว่าผู้ใดมาเห็นภาพเช่นนี้คงยากจะรักษาความเยือกเย็นไว้ได้

“ปล่อยให้พวกมันมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้ว!”

หลิงอินเอ่ยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “หลังจากช่วยพี่ชายของเจ้าได้แล้ว เราต้องหาทางกำจัดศพวิกลโบราณเหล่านี้! ขืนปล่อยให้พวกมันล่องลอยเช่นนี้ต่อไป ไม่รู้ว่าต้องมีอาณาจักรในอีกกี่ดวงดาวต้องล่มสลายเพราะพวกมัน!”

“ได้!”

เสี่ยวหยาพยักหน้า ศพวิกลโบราณเหล่านี้อันตรายเกินไป เก็บไว้ไม่ได้จริง ๆ ไม่เช่นนั้น ย่อมต้องเกิดหายนะขึ้นอีกมาก

ญาณสัมผัสของหลิงอินแกร่งกล้า ยามนี้ไม่ด้อยไปกว่าญาณสัมผัสของเทียนตี้ หรืออาจเหนือชั้นกว่าด้วยซ้ำ นางเองก็ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

ถึงอย่างไรนางก็ติดตามคุณชายมานาน ได้รับผลประโยชน์มหาศาล

หญิงสาวปล่อยญาณสัมผัสออกไป ปกคลุมเศษซากดวงดาวนี้ในพริบตา ไม่เหลือจุดอับสักจุด

แล้วนางก็ได้บางอย่างกลับมา ในที่สุดก็ค้นพบศาสตราที่ใช้เดินทางในจักรวาล

มันเป็นรถรบโบราณคันหนึ่ง มีอักขระมิติสลักอยู่เต็มไปหมด หลิงอินหามันพบ

แต่น่าเสียดาย รถรบคันนี้เสียหายเช่นกัน มิใช่รถรบโบราณสมบูรณ์

“ยังพอได้อยู่ ใช้มันเดินทางไปก่อน!”

หลิงอินตรวจสอบรถรบโบราณ

แม้ว่ารถรบโบราณคันนี้เสียหาย ทว่ามิได้หนักหนา ยังแล่นต่อไปในจักรวาลได้

“ได้!”

พวกนางก้าวขึ้นไปบนรถรบโบราณ ออกจากอาณาจักรบนดวงดาวนี้ มุ่งหน้าต่อไป

ณ เมืองชิงซาน

ภายในลานเล็กของหลี่จิ่วเต้า

ปลามังกรในยามนี้สดชื่นเป็นอย่างมาก มันกลายเป็นพี่ใหญ่ของปลาทุกตัวในโอ่ง ปลาทุกตัวล้วนพะเน้าพะนอเอาใจมัน ชีวิตของมันอยู่ดีกินดี

“ข้าอยากออกไปเดินเล่นเสียหน่อย!”

ปลามังกรออกคำสั่งใส่ปลาตัวอื่น ให้ปลาเหล่านี้ช่วยมันออกไป

มันในตอนนี้ไม่พอใจกับการอยู่ในน้ำ ท่านบรรพจารย์เซียนไม่อยู่ มันอยากออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกโอ่ง

ปลาตัวอื่นไฉนเลยจะกล้าไม่ปฏิบัติตาม ต่างพากันเข้าไปช่วยเหลือปลามังกร

ปลามังกรโหดเหี้ยมเกินไป และไร้ข้อกังวล คิดจะกินปลาตัวอื่นก็กิน พวกมันต่างเกรงกลัวปลามังกรมาก

ด้วยความช่วยเหลือจากปลาเหล่านี้ ปลามังกรออกจากโอ่งได้อย่างง่ายดาย

ทว่าพลังของมันยังไม่กลับคืน พลังจากเบ็ดตกปลายังอยู่ สะกดความสามารถทั้งหมดของมันไว้

ปลาจำนวนมากตั้งตารอ อยากเห็นภาพปลามังกรถูกเชือด ถึงอย่างไรก็เคยมีกรณีมัจฉาหยินหยางตัวหนึ่งออกจากโอ่ง และถูกคุณชายสังหารด้วยมีดอีโต้

ปลามังกรมิใช่ปลานิสัยดีนัก พวกมันอยากให้ปลามังกรตายใจแทบขาด

อนิจจา ครั้งนี้ต่างจากครั้งก่อน หลังจากปลามังกรออกไป มิได้พบเจอเรื่องไม่คาดคิด

“พวกเราจินตนาการเก่งเกินไปแล้ว…”

“ท่านเซียนกล่าวว่าจะเลี้ยงมันไว้ เป็นไปได้อย่างไรที่จะเกิดเรื่องกับมัน”

ปลาเหล่านี้พากันส่งเสียงบุ๋งบุ๋ง รู้ว่าพวกมันคิดเยอะเกินไป

อย่างไรปลามังกรก็ต่างจากพวกมัน นี่คือปลาที่ท่านเซียนเอ่ยจากปากว่าต้องการเลี้ยง ต่อให้ออกจากโอ่งน้ำก็ไม่น่าจะเกิดปัญหา

“ข้างนอกนี่ดีจริงน่า!”

หลังปลามังกรออกมาได้แล้ว สีหน้าพลันเปรมปรีดิ์เหลือคณา

ไม่ให้มันเปรมปรีดิ์ได้อย่างไร ทุกลมหายใจเต็มไปด้วยขุมปราณชีวิตเข้มข้นเกินจินตนาการ อย่าให้พูดเลยว่าความรู้สึกเช่นนี้สาแก่ใจเพียงใด

“นี่คือภพเซียนอย่างแท้จริง!”

มันเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้

ลานเล็กแห่งนี้ทรงพลังกว่าอาณาจักรที่มันอยู่มากนัก เทียบไม่ติดเลย มันสัมผัสถึงลมปราณแห่งนิจนิรันดร์จากลานเล็กแห่งนี้ ได้เห็นปราณเซียนอย่างแท้จริง สูงส่งเลิศล้ำยิ่ง!

“ฮ่า ๆ ข้ากลับไปเมื่อใด ดูซิว่าผู้ใดบังอาจดูถูกข้าอีก!”

ปลามังกรหัวเราะไม่หยุด “ยายเฟิ่งหนี่ว์นั่น ข้าบอกว่าจะแต่งงานด้วยแท้ ๆ เจ้ากลับไม่รู้ที่ต่ำที่สูง ปฏิเสธข้า! ข้ากลับไปแล้วจะจับเจ้ามาเป็นสาวใช้อุ่นเตียง ไม่สิ เจ้าไม่มีสิทธิ์อุ่นเตียงด้วยซ้ำ คอยล้างเท้าให้ข้าแล้วกัน!”

มันนึกถึงเฟิ่งหนี่ว์ หญิงงามอันดับหนึ่งแห่งอาณาจักร มันขอแต่งงานอยู่หลายคราทว่าถูกปฏิเสธทุกครั้ง สร้างความสะเทือนใจให้มันอย่างมาก

“เอ๊ะ ข้าไม่มีเท้านี่ บัดซบ ไม่มีเท้าก็ล้างหางให้ข้าแล้วกัน!”

มันหัวเราะเสียงผยอง สีหน้าวิตถารสุด ๆ

มันที่เข้าตาบรรพจารย์เซียนท่านหนึ่ง ย่อมมีอนาคตยิ่งใหญ่เหนือจินตนาการ หลังจากมันกลับไป เฟิ่งหนี่ว์อะไรนั่นมันไม่เห็นในสายตาด้วยซ้ำ!

“เอาเข้าจริง แม่ของเฟิ่งหนี่ว์ก็ไม่เลว…”

เนตรปลาของมันวาวโรจน์ยามนึกถึงแม่ของเฟิ่งหนี่ว์ นับเป็นการดำรงอยู่ระดับสูงเป็นผู้ไร้เทียมทานอย่างแท้จริง และเป็นหนึ่งในกำลังรบสูงสุดแห่งอาณาจักรที่มันอยู่

“ใช้ได้นี่ ลูกล้างเท้า ถุย ขัดหาง แม่อุ่นเตียง!”

ยิ่งคิดมันก็ยิ่งแช่มชื่น เฝ้ารอจากใจจริงว่าจะได้กลับไปไว ๆ

อืม แน่นอนว่ากลับไปในสภาพนี้ไม่ได้

มันต้องกลายเป็นผู้ไร้เทียมทานในใต้หล้าก่อนแล้วค่อยกลับไป

“เมื่อได้อยู่ที่นี่ การกลายเป็นผู้ไร้เทียมทานในใต้หล้าหาใช่เรื่องยาก!”

มันสอดส่ายสายตาไปทั่วลานด้วยสายตาไม่หวังดี

“อย่าเอาแต่มองสิ ลงมือได้แล้ว!”

ภายในโอ่ง ปลาตัวอื่นคอยจับตาดูปลามังกรอยู่ตลอด เมื่อได้เห็นสายตาปลามังกร ก็รู้ในทันทีว่าปลามังกรเริ่มวางแผนบางอย่างแล้ว พวกมันต่างคิดในใจ

หากปลามังกรก่อความวุ่นวายในลานจริง ๆ หึหึ เช่นนั้นมันก็เข้าใกล้ความตายขึ้นอีกหนึ่งก้าว!

อย่าไรเสียมันก็ไม่คิดว่าปลามังกรจะพบจุดจบที่ดี ปลามังกรโอหังเกินไป ไร้ความยำเกรงเกินไป อำมหิตเกินไป

“นี่คือ…ผลงานของจักรพรรดินีผู้นั้นหรือ!?”

ปลามังกรกลอกตาไปมา และเห็นกระถางที่มีดอกไม้เจริญงอกงามอยู่ มันสะกิดใจ สัมผัสถึงจังหวะแห่งเต๋าอันคุ้นเคยจากกระถางดอกไม้นี้

เผ่าของมันเคยมีกระถางดอกไม้เช่นเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นฝีมือของจักรพรรดินีผู้นั้น พวกมันต้องจ่ายราคาสูงลิ่วกว่าจะได้มา

มันไม่รู้ว่าจักรพรรดินีผู้นั้นมีนามว่าอะไร

จักรพรรดินีผู้นั้นลึกลับอย่างยิ่ง ไม่เคยทิ้งชื่อไว้เลย อาณาจักรที่มันอยู่เป็นเพียงทางผ่าน นางมิได้ค้างอยู่ที่นั่นนาน

ทว่า แม้เป็นการพักพิงชั่วคราวสั้น ๆ จักรพรรดินีผู้นั้นก็ทิ้งกิตติศัพท์ยิ่งใหญ่ไว้ในใจจักรพรรดิของมัน!

นางแกร่งกล้าเกินไป แกร่งกล้าจนจินตนาการไม่ถึง แม้กระทั่งยอดฝีมือกำลังรบชั้นยอดในอาณาจักรของมันยังเทียบมิได้ ห่างกันไกลโข พ่ายแพ้ในกระบวนท่าเดียว

“ที่นี่มิใช่ภพเซียนอย่างแท้จริง ข้าต้องการไปยังภพเซียนที่แท้จริง”

นั่นเป็นถ้อยคำเดียวที่จักรพรรดินีผู้นั้นเคยกล่าวในอาณาจักรของมัน วาจานั้นแฝงไว้ด้วยบารมี จักรพรรดินีผู้นั้นบุกไปยังภพเซียนที่แท้จริง

‘กระถางดอกไม้ของจักรพรรดินีผู้นั้นมาอยู่ในลานของท่านบรรพจารย์เซียน หรือว่าจักรพรรดินีผู้นั้นมีความเกี่ยวข้องกับท่านบรรพจารย์เซียน หากเป็นเช่นนั้นจริง ทุกอย่างอธิบายได้หมดแล้ว จักรพรรดินีผู้นั้นสยดสยองทรงพลังเช่นนั้นจริง ๆ!’

ปลามังกรกล่าวอย่างใช้ความคิด

จักรพรรดินีผู้นั้นเก่งกาจเหนือชั้น พวกมันไม่รู้เลยว่าจักรพรรดินีผู้นั้นทำได้เยี่ยงไร ดูเหมือนบัดนี้มันรู้คำตอบแล้ว

กระถางดอกไม้ของจักรพรรดินีปรากฏในลานเล็กท่านบรรพจารย์เซียน ซ้ำยังมากมายขนาดนี้ เป็นไปได้ว่าจักรพรรดินีได้รับการชี้แนะจากท่านบรรพจารย์เซียน ถึงได้ทรงพลังแกร่งกล้าเหนือผู้อื่นปานนั้น!

“หึหึ ข้าจะเป็นการดำรงอยู่แกร่งกล้าเหนือผู้อื่น ตนต่อไป!”

มันยิ้มอย่างลำพอง ราวกับได้เห็นภาพที่มันไร้เทียมทานในใต้หล้าแล้ว

“อย่าผลีผลามทำอะไรลงไปดีกว่า แต่หญ้าที่วัวพวกนั้นกิน ข้ากินเสียหน่อยคงไม่เป็นไร”

มันกลอกตาไปมา หมายตาหญ้าที่อสูรฟ้าชิงหนิวในลานด้านข้างกินอยู่