ตอนที่ 81 ไข่มุกหล่นหายแล้ว
คนในวังมาแล้ว…
เหวินเทียน เผิงอิงและโม่เสียนหันมามองอย่างพร้อมเพรียง จ้องมองไปยังเย่ซิวตู๋ที่ยังคงนั่งด้วยท่าทางนิ่งสงบ
อีกฝ่ายลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ พยักหน้ากล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว พวกเขาก็ควรจะมากันแล้ว เสิ่นอิง เจ้าไปบอกสองแม่ลูกคู่นั้น ให้พวกนางกินข้าวเย็นกันก่อนได้เลย”
ครั้นกล่าวจบ ก็หมุนกายเดินไปที่ห้องลับ นั่นเป็นสถานที่ที่ไว้คุยกับคนในวังทุกครั้งที่อีกฝ่ายมาถึง
“…ขอรับ” เสิ่นอิงก้มหน้าลง ยังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่ในคำพูด อันที่จริงเขาอยากบอกนายท่านเป็นอย่างมากว่าแม่นางอวี้กำชับกับคนในครัวไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าให้เตรียมอาหารและยกไปให้นางที่ห้อง นางจะกินอาหารร่วมกับหนานหนานเป็นการส่วนตัว ถูกต้อง นางยังเน้นย้ำด้วยว่ามีแค่นางและหนานหนานเท่านั้น สิ่งที่นางพูดไม่ได้มีความคิดที่จะรอนายท่านหรือกินอาหารร่วมกับนายท่านเลยสักนิด
เมื่อครู่เขาก็พอจะรู้สึกได้ ว่าเป็นความตั้งใจของแม่นางอวี้
ถูกต้อง อวี้ชิงลั่วตั้งใจ หลังจากที่นางต้องประนีประนอมอยู่ใต้เท้าของเย่ซิวตู๋ การเข้ามาในประตูแห่งนี้ก็ทำให้นางรู้สึกไม่สบอารมณ์อย่างมาก
โชคดีที่หนานหนานเป็นคนรู้ความ ตอนที่นางกลับมา เด็กน้อยคนนี้ก็รีบนำถุงเงินสองถุงยื่นมาตรงหน้านาง ทั้งยังเงยหน้าพูดด้วยรอยยิ้มประจบประแจง “ท่านแม่ เงินส่วนนี้ข้าให้ท่าน”
เดิมทีอวี้ชิงลั่วอยากจะยื่นมือออกไปรับไว้ แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่นางเพิ่งรักษาคนป่วยที่เป็นโรคติดต่อมาสองคน เพื่อความปลอดภัยของลูก นางจึงถอยหลังออกไปสองก้าว ก่อนจะสั่งให้คนนำน้ำร้อนมาให้นางอาบเพื่อแต่งชุดใหม่
หนานหนานชะงัก เขาถือถุงเงินทั้งสองถุงจ้องมองนางด้วยท่าทางน่าสงสาร ราวกับกำลังกล่าวโทษว่านางไม่รักเขา
อวี้ชิงลั่วมุมปากกระตุกวูบ นางชี้บนเสื้อผ้าของตนเองกล่าวว่า “เมื่อครู่แม่ไปรักษาคนไข้มา รอให้แม่อาบน้ำเสร็จก่อนแล้วค่อยมาอุ้มเจ้า”
หนานหนานได้ยิน ความหดหู่เมื่อครู่ก็หายไป เขาเงยหน้ากล่าวว่า “งั้นข้าอาบกับท่านแม่ด้วย”
“ไม่ต้อง โตเป็นหนุ่มแล้ว ยังจะอาบน้ำกับแม่อีกหรือ? ไม่ขายหน้าคนอื่นหรืออย่างไรกัน?” อวี้ชิงลั่วเหลือบมองเขา คนใช้ที่อยู่ข้าง ๆ ก็มาบอกนางว่าน้ำร้อนเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว นางจึงไม่สนใจหนานหนานอีก และหมุนตัวกลับเข้าไปในห้อง
หนานหนานยังคงถือถุงเงินสองถุงไว้ เดินตามหลังพร้อมกับส่งเสียง ‘ฮึบ ๆ’ น่าเสียดายที่ขาของเขาสั้น ทั้งยังอาลัยอาวรณ์ไม่อยากวางเงินลง ด้วยเหตุนี้ตอนที่มาถึงหน้าประตูห้องของอวี้ชิงลั่ว ประตูห้องก็ถูกปิดลงตรงหน้าเขาแล้ว
เด็กน้อยนั่งลงบนขั้นบันไดหน้าประตูของนาง มือทั้งสองข้างยังคงกอดถุงเงินไม่ยอมปล่อย เมื่อได้ยินเสียงเท้าที่เดินไปเดินมาด้านในนั้น เขาก็พูดออกมาเพราะไม่เต็มใจที่จะทนกับความเหงาในทันที
“ท่านแม่ วันนี้ท่านแม่ไปไหนมาหรือ? หนานหนานรอท่านแม่ทั้งวันเลย ข้าจะบอกอะไรให้ ท่านลุงเสิ่นกับท่านลุงเหวินหลอกล่อให้ข้าไปกินข้าว ข้าก็ยังปฏิเสธอย่างเด็ดเดี่ยวด้วย นี่ก็เป็นเพราะข้าต้องการคุ้มกันเงินเพื่อส่งมอบให้ท่านแม่ ท่านเอาแต่บอกว่าข้าอกตัญญู ตอนนี้ท่านเข้าใจถึงความเพียรพยายามของหนานหนานแล้วใช่หรือไม่ ข้ากตัญญู น่ารักและหล่อเหลาขนาดนั้น ท่านมีลูกชายสุดที่รักเช่นนี้ ก็คงรู้สึกภาคภูมิใจมากเลยใช่หรือไม่?”
“อันที่จริง บางครั้งข้าก็ร้องไห้เพราะความหล่อของตัวเองเหมือนกัน ตอนที่ข้าฝันก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะความหล่อของตัวเอง ท่านเอาแต่บอกว่าข้าไม่ยอมนอนให้ดี ๆ ท่านดูเอาเถอะ นี่แหละคือสาเหตุขั้นพื้นฐานที่สุดของเรื่องนี้ หลังจากนี้ท่านแม่อย่าได้ทำผิดกับข้าเล่า”
“จริงสิท่านแม่ วันนี้ท่านออกไปข้างนอกได้นำของอร่อย ๆ กลับมาฝากหนานหนานหรือไม่? อย่าหาว่าข้าตำหนิท่านแม่เลยนะ ทุกครั้งที่ท่านแม่กินอิ่มก็ไม่เคยคิดจะเอามาฝากข้าบ้างเลย แต่ข้าไม่เหมือนกับท่านแม่หรอก เมื่อวานตอนที่ออกไปกินข้าวกับท่านลุงเย่ ก็ใส่ห่อกลับมาให้ท่านแม่ตั้งเยอะแยะ แม้ข้าจะไม่รู้ว่าของเหล่านั้นเปื้อนน้ำลายของข้าหรือไม่ แต่ข้าเชื่อว่าน้ำลายของข้าก็หอมเหมือนกัน ท่านแม่อย่าได้ถือสาเลย”
“พรืด…” สาวใช้ที่เดินผ่านมาจากข้าง ๆ กลั้นขำไม่ไหว แต่ละคนพากันปิดปากกลั้นขำเดินผ่านหน้าของเขา แต่ก็ไม่ได้รบกวนเวลาในการพูดของเขา
แต่อวี้ชิงลั่วที่อยู่ด้านในกลับแอบลูบหน้าผาก นางรู้สึกว่าเด็กคนนี้ไร้ยางอายมากเกินไปแล้วจริง ๆ คำพูดยกยอปอปั้นตัวเองเช่นนี้ยังพูดออกมาโดยที่หน้าไม่แดงเลยสักนิด เหมือนใครกันแน่นะ
หนานหนานเห็นว่ามีคนเข้าใกล้ ดวงตาก็คล้ายกับตัวจับสัญญาณ รีบกอดเงินและพยายามจ้องมองคนผู้นั้น เพราะกลัวว่าเงินที่อยู่ในอ้อมกอดจะถูกแย่งไป
“ท่านแม่ พรุ่งนี้ข้าอยากออกไปข้างนอก ท่านแม่มีความคิดอยากเย็บเสื้อใหม่ให้ข้าบ้างหรือไม่? ถึงอย่างไรข้าก็เป็นบุตรชายสุดที่รักของท่านแม่นะ ข้าสวมใส่เสื้อผ้าสวย ๆ ออกไปข้างนอกก็ทำให้ท่านแม่ได้หน้าได้ตามิใช่หรือ? ท่านแม่ซื้อเครื่องประดับให้ข้าสักหน่อยก็ได้ แต่งตัวสักหน่อยก็ดูดีมากเหมือนกัน”
ในที่สุดอวี้ชิงลั่วก็ทนฟังต่อไปไม่ไหว นางพิงเข้ากับขอบอ่างอาบน้ำเพลิดเพลินไปกับน้ำอุ่นในอุณหภูมิที่พอเหมาะที่อาบไล้ผิวหนัง ขจัดความอ่อนล้าทั้งร่างกาย ระหว่างนั้นก็แค่นเสียงเบา ๆ ขึ้นเสียงตอบกลับมาว่า “เจ้าไม่ต้องห่วง เสื้อผ้าเหล่านั้นของเจ้า แม่นำกลับมาจากเจียงเฉิงทั้งหมดแล้ว เป็นเสื้อผ้าใหม่เอี่ยมทั้งนั้น ส่วนเครื่องประดับ เจ้าไม่ต้องคิดเลย เด็กผู้ชายจะใส่เครื่องประดับทำไมกัน? กลับไปก็ต้องนำไปแลกเป็นเงินเพื่อนำไปซื้อของกินอยู่ดี ห่วงแต่เรื่องกินหลังจากนี้คงเดินไม่ไหว”
หนานหนานชะงัก ลุกขึ้นยืนด้วยความโกรธเคือง “น่ารังเกียจ เหตุใดท่านแม่ถึงนำเสื้อผ้าของข้ามาที่นี่? ข้าตั้งใจลืมมันไว้ที่เจียงเฉิงเพื่อให้พวกมันสาบสูญไป ท่านแม่ทำเช่นนี้ ไม่เข้าใจหัวใจของบุตรชายสุดที่รักของท่านแม่เลยสักนิด ข้าได้รับบาดเจ็บแล้ว บาดเจ็บอย่างหนักเลยด้วย”
อวี้ชิงลั่วแค่นเสียงเบา “แม่มียา เจ้าอยากกินหรือไม่?”
“ไม่กิน ท่านแม่ปล่อยให้ข้าป่วยระยะสุดท้ายก็สิ้นเรื่อง”
“ก็ดีเหมือนกัน งั้นเงินที่แม่เตรียมไว้ให้เจ้าเพื่อใช้แต่งงานก่อนหน้านี้ แม่จะใช้แทนเจ้าก็แล้วกัน”
หนานหนานกะพริบตาปริบ ๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งจึงกลับมานั่งอีกครั้ง มุ่ยปากมองดูเงินในอ้อมกอดหลังจากผ่านไปเนิ่นนานจึงพูดเสียงดังว่า “ข้ารักษาตัวเองแล้ว เงินสำหรับแต่งงานข้าใช้เองได้”
อวี้ชิงลั่วเลิกคิ้ว นางทราบดีว่าเด็กคนนี้มีแต่เป็นห่วงเงิน แค่พูดเรื่องนี้ก็เกิดความร้อนใจแล้ว ราวกับว่านางเอาเปรียบเขาอย่างไรอย่างนั้น
หนานหนานเม้มปาก เขาไม่อยากคุยกับท่านแม่แล้ว เขาทราบดีว่าท่านแม่เอาแต่สนใจเงินของเขา โชคดีที่เขาฉลาด จึงรู้จักหาเงินไว้ให้ตัวเองใช้ ไข่มุกราตรีที่ได้มาในวันนี้ เป็นสมบัติจริง ๆ ต้องแลกได้เงินจำนวนมากเป็นแน่
สิ่งนี้ เขาไม่มีทางบอกให้ท่านแม่รู้อย่างเด็ดขาด
หนานหนานนึกถึงไข่มุกราตรี ก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเอาไปหยิบด้านในเสื้อ เขาอยากใช้โอกาสตอนที่ท่านแม่ไม่ได้อยู่ข้าง ๆ เอาออกมาลูบ ๆ คลำ ๆ สักหน่อย
แต่ทว่า…
ด้านซ้าย…ไม่มี!
ด้านขวา…ก็ไม่มี!!!
เอ๋? ไข่มุกราตรีของเขาเล่า? ไข่มุกราตรีที่ทั้งสวยงามและมีราคาสูงเป็นอย่างมากเม็ดนั้นเล่า?
หนานหนานถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก ถุงที่แขวนอยู่บนตัวของเขาถูกพลิกออกมา แต่กลับไม่เจอถุงเงินที่ใส่ไข่มุกถุงนั้นแล้ว
บนหน้าผากของเด็กน้อยเริ่มมีเหงื่อผุดออกมาเต็มไปหมด จนแทบจะถอดกางเกงเพื่อหาไข่มุกอยู่แล้ว แต่หาไปหามาก็ยังไม่เจอไข่มุกของเขาอยู่ดี
หล่นหาย ต้องหล่นหายเป็นแน่
หนานหนานพยักหน้า พยายามย้อนนึกถึงสถานที่ที่ตัวเองไปในวันนี้ ทว่าหลังจากออกมาจากห้องลับ เขาก็เฝ้าเงินไม่ได้ไปไหนเลย
เอ๋ ห้องลับ!!!
ดวงตาของหนานหนานเป็นประกาย โน้มตัวยกเงินที่อยู่บนพื้นขึ้นมา ก่อนจะหมุนกายสาวเท้าไปยังห้องลับทีละก้าวอย่างยากลำบาก
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
เดี๋ยวค่อยไปหาไข่มุกก็ได้ไหมหนานหนาน ในห้องลับตอนนี้มีคนอยู่นะ
อ่านความคิดของเจ้าเด็กแล้วปวดหัวแทนชิงลั่วเลย
ไหหม่า(海馬)