ตอนที่ 123 เดอ ครุช วันที่สอง

คุณหนูโลลิคลั่งเนีย・ลิสตัน

123 ทำงานต่างประเทศที่แว็ง เดอ ครุช วันที่สอง

 

“กำลังรออยู่เลยครับ ริโนะซัง”

 

วันที่สองของการทำงานต่างประเทศ

เมื่อพวกเราไปถึงท่าเรือในตอนเช้า ลูกเรือและกัปตันก็รออยู่แล้ว ดูเหมือนเมื่อวานเลย ……เมื่อคืนตอนที่แยกกันพวกเขามีสีหน้าไม่สู้ดีเล็กน้อย แต่วันนี้พวกเขาดูดีเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ

 

“วันนี้ไม่มีปัญหา”

 

จากนั้นก็กัปตันก็ชูสองนิ้ว นิ้วชี้และนิ้วกลางมือขวาขึ้น

 

“ทางเราได้เตรียมเรือเหาะไว้สองลำครับ ดังนั้นถึงจะล่ามากแค่ไหนก็เก็บกลับมาได้แน่นอน”

 

โอ้ เตรียมเรือไว้สองลำเลยเหรอ เป็นเพราะเหยื่อที่ไม่สามารถขนกลับมาได้เมื่อวานสินะ

 

จะว่าไปแล้ว ทอร์คลงมือจัดการโดยไม่ลังเลเลยงั้นเหรอ? และเป็นการกำลังบอกว่าอย่าลังเลที่จะล่า อย่าลังเลที่จะหาเงินงั้นสินะ?

 

เอาสิ

ถ้าอย่างงั้นเรามาทำตามความคาดหวังนั้นกันเถอะ

 

“นอกจากนี้ ทอร์คซังยังฝากสิ่งนี้มาด้วยครับ นี่คือราคาประเมินรับซื้อซากสัตว์อสูรเมื่อวาน กรุณายินยันด้วยนะครับ หากคุณตกลงก็ช่วยลงนามในเอกสารอย่างเป็นทางการในภายหลัง”

 

“ค๊าค๊า――โอ๊ะ โอ้……”

 

ริโนกิสที่ดูรายการถึงกับเซไปเลย เธอครางเล็กน้อยเมื่อดูลงมาถึงด้านล่าง

 

“――คุณหนูคะ เป็นจำนวนเงินที่สุดยอดมากเลยค่ะ ดิฉันคิดว่าถ้าทำได้ระดับนี้ต่อไปต้องสามารถทำได้ถึงสองร้อยล้านแน่นอนเลยค่ะ”

 

จากนั้นเธอก็คุกเข่าลงกระซิบข้างหูฉันและแสดงเอกสารให้ดู ――หยุดเลยนะ ฉันไม่อยากเห็นตัวเลข ฉันไม่ได้วางแผนที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนั้นนอกจากในการบ้านช่วงวันหยุดฤดูหนาว

 

“เพราะมอบความไว้วางใจให้แล้ว เพราะทิ้งทุกอย่างให้เธอ เอามันออกไปซะ”

 

ฉันเกลียดมันจริง ๆ ตัวเลขคืออะไร? ฉันไม่เห็นต้องการการบวกเลยแปดหลักขึ้นไปในชีวิตประจำวันสักหน่อย

 

“ว่าไปแล้วเราค่อยมาทำทีหลังก็ได้ไม่ใช่รึไง? ไม่รีบไปรึไง?”

 

ฉันอยากที่จะออกล่ามากกว่า ตอนนี้ เสียเวลา

 

ดังนั้น หลังจากขึ้นเรือมาแล้ว การเดินทางก็เริ่มต้นขึ้นตามการกำหนดของนักผจญภัยริโนะ

 

 

 

เรือสองลำ

ที่ตามหลังเรือเหาะที่พวกเราอยู่ คือเรือบรรทุกสินค้าแบบธรรมดา รูปร่างที่ตัดทอนพื้นที่อยู่อาศัยออกไปอย่างมากจนทำได้เพียงนั่งโดยสาร ดูเหมือนว่าจะสามารถบรรทุกได้มากกว่าเรือลำนี้

 

กองซ้อนได้เยอะสินะ

 

“――ชิโชว”

 

เมื่อฉันเข้าไปในห้องควบคุม ฉันก็เห็นริโนกิสและกัปตันกำลังคุยกันถึงกำหนดการของวันนี้ พร้อมแผนที่การบินของพื้นที่ใกล้เคียง

 

ม๊า ฉันโยนปัญหายุ่งยากทั้งหมดออกไปแล้ว และเพราะว่านักผจญภัยริโน่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างหน้า ฉันก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเธอไป แต่……ฉันก็รู้สึกอยากขอโทษอยู่นิดหน่อยที่ทิ้งไว้ให้เธอ

 

ม๊า เรื่องนั้นเอาไว้ทีหลังแล้วกัน

 

“ถ้ามีเรือเพิ่มมาอีกลำแบบนี้ จะเปลี่ยนแผนก็ไม่เป็นไรใช่ไหม?”

 

การสำรวจออกล่าวันนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนแผนการโดยคำนึงถึงความสามารถในการบรรทุกของเรือ

พวกเราคิดและตัดสินใจเกี่ยวกับเส้นทางที่จะใช้เดินทางไปตามเกาะลอยฟ้าต่าง ๆ โดยคำนึงถึงวิธีสร้างรายได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลีกเลี่ยงการใช้เวลาอย่างสิ้นเปลือง และความสามารถในการบรรทุก

หลังจากล่าสัตว์อสูรบนเกาะนั้นไปกี่ตัว แล้ว……ความรู้สึก

 

ทว่า การมีเรือลำที่สองเข้ามาเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน

เมื่อเป็นเช่นนี้ ในทางกลับกัน ก็อาจไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามแผนที่วางไว้แต่แรกก็ได้

 

นอกจากนี้เป้าหมายคือการหารายได้หนึ่งพันล้านครัม อย่าให้เวลาในการทำงานต่างประเทศต้องเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์แม้เพียงเล็กน้อย

 

“ตอนนี้มาคุยกันให้ช้าลงสักหน่อยได้ไหมคะ ฉันอยากให้ลิลลี่มีส่วนร่วมด้วย นี่ก็ถือเป็นประสบการณ์เช่นกัน”

 

อะ เหรอ กำลังพูดถึงฉันอยู่สินะ

 

จากนี้ไปฉันจะเข้าร่วมการสนทนาด้วยตามคำชวนอย่างเป็นธรรมชาติของริโนกิส ――ฉันไม่เก่งในเรื่องยุ่งยากและเรื่องใช้สมอง แต่เมื่อเกี่ยวกับเหยื่อที่ฉันต้องล่า ก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่เข้าร่วมการสนธนาที่น่าสนุกเช่นนี้

 

“ถ้าอย่างงั้นพูดทวนเรื่องที่คุยกันไปแล้วสักหน่อยดีไหมครับ”

 

กัปตันเหมือนเอ็นดูฉัน และช่วยอธิบายทุกอย่างตั้งแต่ต้น ฉันรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ทั้งที่หน้าฉากของฉันเป็นเพียงลูกศิษย์คนติดตามของนักผจญภัยริโนะ

 

“มีคำสั่งซื้อเพิ่มเติมจากทอร์คซังครับ เขาบอกว่าเป็นของที่อยากให้ล่าให้ได้ แล้วจะรับซื้อในราคาที่มากกว่าราคาตลาด”

 

โห๊ว มีคำสั่งซื้ออะไรเป็นพิเศษงั้นเหรอ

ม๊า ก็เป็นไปได้อยู่แล้ว เมื่อวานพวกเราก็ล่าสัตว์อสูรตามคำสั่งซื้อของทอร์คเหมือนกัน

 

ในวันแรก ฉันตัดสินใจที่จะยั้งใจและสังเกตการณ์ เพราะสำหรับฉัน นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ออกล่าจริง นอกจากนี้ยังต้องทำการวอร์มอัพร่างกายก่อนอีกด้วย

 

นั่นเป็นเหตุผลที่ในวันแรกฉันให้ความสำคัญกับคำสั่งซื้อของทอร์ค

หลังจากใช้ยั้งใจและสังเกตการณ์แล้ว ฉันก็วางแผนที่จะออกล่าอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่สอง ซึ่งน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง

แต่ถ้าฉันเริ่มจริงจัง ก็มีความไปได้ที่พวกเราจะไม่สามารถทำตามคำสั่งซื้อของทอร์คได้

 

“คำสั่งซื้อเพิ่มเติมคือ สโนว์ไทเกอร์ งูเพลิงทะเล ต้นไม้เก่าแห่งความโชคร้าย(เบลล์วูด) ผึ้งประตูภัยพิบัติ(ไซม่อนบี) ปูกางเขนเลือดสด(บลัดคลอสแครบ) และ ตั๊กแตนตำข้าวนักดาบ(ตั๊กแตนตำข้าวนักสู้)……ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสัตว์อสูรที่อันตรายที่สุดในประเทศนี้”

 

อืม

พวกนี้เป็นตัวที่ฉันวางแผนล่าไว้อยู่แล้ว แบบนี้ก็สะดวกจริง ๆ

 

“ลิลลี่อยากเห็นตัวไหนก่อน?”

 

เมื่อได้ยินชื่อสัตว์อสูรที่จะต้องต่อสู้ต่อจากนี้ นักผจญริโนะก็ขอความเห็นจากลูกศิษย์โดยไม่ลังเล

 

“ทุกตัว วันนี้พวกเราไปเที่ยวให้ได้มากที่สุดกันเถอะ ชิโชว”

 

“เหรอ? ถ้าลิลลี่คิดว่าไม่เป็นไร งั้นก็มาล่ากันเถอะ”

 

ในแง่ขององค์ประกอบแล้ว ก็เหมือนกับเด็กที่พูดไม่ยั้งคิดอย่างไร้เดียงสา และอาจารย์ที่ยอมรับด้วยรอยยิ้ม

 

ท่าทางของริโนกิสดูน่าเชื่อถืออย่างไม่น่าเชื่อ ไม่ใช่แค่กัปตันเท่านั้น แต่แม้แต่ลูกเรือที่ทำงานอยู่โดยรอบต่างก็หยุดมือ และมองเธอด้วยความเคารพและชื่นชม

 

ท่วงท่าที่ผ่อนคลายของนักผจญภัยริโนะที่ล้นออกมาจากร่างกายราวกับกำลังพูดว่า 「ไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนที่เป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้」 ทำให้เธอดูเหมือนวีรสตรีที่มีชื่อเสียง ห่างไกลจากการเป็นนักผจญภัยมือใหม่

 

――ขายดีสุด ๆ ตอนนี้ชื่อเสียงของริโนะกำลังขายดีสุด ๆ

 

ม๊า พวกเขาก็ไม่ได้เข้าใจท่าทางของเธอผิดไป 「ไม่มีสัตว์อสูรตัวไหนที่เป็นคู่ต่อสู้ของฉันได้」นั้นเป็นเรื่องจริง

เพราะพวกมันจะถูกฉันฆ่าก่อนไงล่ะ

 

 

 

เมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และท้องฟ้าสดใส พวกเราก็มาถึงจุดหมายที่ฉันเล็งไว้ เกาะชั้นล่างลำดับที่เก้าสิบเอ็ด

 

เกาะลอยฟ้าทั้งหมดภายในอาณาเขตของจักรวรรดิแว็ง เดอ ครุช ตั้งชื่อตามตัวเลข

เกาะบางแห่งอาขมีชื่อเมืองและชื่อสามัญด้วย แต่ชื่ออย่างเป็นทางการมีเฉพาะตัวเลขเท่านั้น หากคุณเดินทางตามแผนที่การบินจะจำได้ง่ายกว่า

 

และ เกาะลอยฟ้าทั้งหมดแบ่งออกเป็นชั้นบนสุด ชั้นบน ชั้นกลาง ชั้นล่าง และชั้นล่างสุด

ชั้นล่างสุดเป็นเกาะที่อยู่ในระดับต่ำสุดใกล้พื้นทะเล หรือเป็นเกาะที่เผชิญหน้ากับทะเลโดยตรง

 

ดังนั้นเพื่อที่จะไปถึงเกาะลอยฟ้าที่จมอยู่ใต้น้ำครึ่งหนึ่ง พวกเราสองคนจึงลงเรือเดี่ยวไป

ส่วนเรือเหาะจะรออยู่บนท้องฟ้า และวางแผนให้ตามลงหลังจากล่าเสร็จแล้ว

 

――ซ้า

 

“นั่นปูกางเขนเลือด(บลัดครอสแครบ)? ตัวใหญ่จังน๊า”

 

มองเห็นกระดองสีแดงเด่นชัดบนหาดทรายกว้าง

มองเห็นได้จากระยะไกลจากบนท้องฟ้า แต่เมื่อมองจากพื้นระดับเดียวกัน ก็เห็นรูปร่างใหญ่โตราวกับภูเขาลูกเล็ก ๆ

 

ปูมีร่างกายสีแดงฉูดฉาดราวกับอาบไปด้วยเลือดสด ๆ มีเพียงก้ามทางด้านขวาเท่านั้นที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ ราวกับกำลังอวดอาวุธอันล้ำค่า

กระดองมีลวดลายคล้ายไม้กางเขน หน้าตาที่ราวกับแบกไม้กางเขนเปื้อนเลือดไว้บนหลังทำให้เกิดความกลัวแก่ผู้ที่ยึดมั่นในศรัทธาที่ได้พบเห็น

 

――ม๊า แต่สำหรับฉันก็เป็นแค่ปูตัวใหญ่

 

ดูเหมือนเจ้านี่ตัวเดียวก็มากพอที่จะเต็มเรือบรรทุกสินค้า แต่นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีเรืออีกลำมาด้วยตั้งแต่แรก

เรือบรรถทุกสินค้าน่าจะกลับไปเมืองหลวงของแว็ง เดอ ครุชก่อนอย่างหน่อยหนึ่งรอบ โหลดสินค้าออกแล้วกลับมารวมตัวกันใหม่

 

ยังไงก็ตาม หัวปูนั่นมีมูลค่าถึงยี่สิบล้านครัม รวมถึงรางวัลและค่าหัวต่าง ๆ ด้วย

 

“ถึงจะเป็นปูที่ตัวใหญ่มากขนาดนั้น แต่คิดยังไงราคาก็ไม่สมเหตุสมผลเลย”

 

“เป็นเพราะว่าคนธรรมดาไม่สามารถเอาชนะได้ค่ะ”

 

ว่ากันว่าบรรดาผู้ที่มาท้าทายต่างพ่ายแพ้ และมีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน และด้วยเหตุนี้เกาะลอยฟ้าแห่งนี้จึงยังไม่มีการสำรวจหรือพัฒนา

 

เป็นเวลาเกือบร้อยปีแล้วนับตั้งแต่ที่เกาะถูกค้นพบ……

 

ม๊า ปูที่มีประวัติเช่นนั้นกำลังจะตายตอนนี้แล้ว

อาจจะดูใจดำไปซะหน่อย แต่ก็เป็นเรื่องช่วยไม่ได้ ยังไงมันก็ฆ่าคนไปมากมายในการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด

 

ฉันไม่ได้รู้สึกจะกล่าวโทษในเรื่องนั้น

ทว่า ก็แค่เป็นเรื่องที่อีกฝ่ายต้องตายในการต่อสู้ครั้งนี้

 

“เจ้านั่น『เสียงอสนีบาต』ใช้ได้ผลไหมคะ?”

 

“เป็นไปไม่ได้หรอก เจ้านั่นตัวใหญ่เกินไป คิดว่าคงทำดาเมจไม่ได้เลย ถ้าจะมีล่ะก็คงเป็น『อสนีบาตคำราม』ที่จะได้ผลมากกว่าล่ะมั้งนะ”

 

“แกนดอล์ฟสินะ……”

 

แกนดอล์ฟ……ไม่ใช่แค่นั้นสิ ริโนกิสซึ่งมองว่าทุกคนที่ฉันสอนเป็นคู่แข่งกันกำลังทำหน้าไม่พอใจ

 

“ต่อให้เธอจะใช้『อสนีบาตคำราม』เป็น แต่ถ้าไม่มีประสบการณ์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างกัน ดังนั้นไม่ต้องรู้สึกแบบนั้นก็ได้”

 

ยังไงก็ตาม「คิเคน・อสนีบาตคำราม」เป็นเทคนิคที่ฉันสอนให้แกนดอล์ฟ เป็นหมัดหนักที่เน้นพลังทำลายล้างบนพื้นผิว ตรงข้ามกับ「เสียงอสนีบาต」ที่เป็นการกระแทกโดยเน้นความเร็วเพื่อให้ทะลุทะลวง

เขาเป็นคนขยัน ตอนนี้เขาก็น่าจะกำลังฝึกฝนอย่างหนักอยู่

 

“ซ้า ได้เวลาไปกันแล้ว”

 

พวกเราเดินเข้าไปหาปูกางเขนเลือด(บลัดครอสแครบ) เจ้านั่นยังไม่สังเกตเห็นพวกเรา……หรือไม่ก็กำลังคิดว่าเล็กเกินกว่าจะต้องใส่ใจ

 

“ชนะได้ไหมคะ?”

 

“นั่นเป็นคำถามโง่ ๆ ล่ะ ฉันก็บอกแล้วไงว่าเป็นแค่ปูตัวใหญ่เท่านั้น”

 

เมื่อเข้าไปใกล้ก็สามารถมองเห็นรอยขีดข่วนเต็มตัวปู

 

นี่คือประวัติศาสตร์การต่อสู้

ร่องรอยทั้งหมดเป็นของประวัติศาสตร์สงครามอันยาวนาน ประวัติศาสตร์ที่สะสมความเป็นมาของปู

 

――น่าอิจฉาเหลือเกิน

 

ได้ต่อสู้จนตัวตายคงจะดีไม่น้อยสินะ

แทนที่จะแก่เฒ่า อ่อนแอ และตายโดยไม่ได้ต่อสู้ไม่ได้ผ่ายแพ้ แบบนี้ดีกว่ามากเลยสินะ

 

ฉันก็อยากเป็นเช่นนี้ แต่สุดท้ายก็ไม่อาจเป็นจริงได้

 

ตาของปูหันมาทางฉัน

มันยกก้ามขวาที่เหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อขู่ ――เมื่อฉันก้าวเข้าสู่ระยะการโจมตีของปูโดยไม่ลังเล มันก็เหวี่ยงลงมาด้วยความเร็วอันน่าสะพรึงกลัวตรงมาหาทันที

 

เสียงกระแทกดังกึกก้อง แรงสั่นสะเทือนที่สั่นสะท้านไปทั้งหาดทราย และฉันที่ปลิวขึ้นอย่างสะดุดตา

 

ดวงตาของปูสบกับฉันที่กำลังเต้นรำอยู่บนอากาศ

 

――จงสลักภาพของฉันไว้ในจิตวิญญาณซะ อาจจะกลายเป็นของที่ระลึกสำหรับชาติหน้าก็ได้

 

ความตั้งใจของฉัน……ม๊า ฉันคิดว่ามันไม่เข้าใจหรอก ก็เพราะมันเป็นแค่ปู

 

 

 

ผลลัพท์ของวันนี้

ปูกางเขนเลือดสด(บลัดคลอสแครบ) ขนาดใหญ่มากเป็นพิเศษ หนึ่งตัว ขนาดใหญ่พิเศษ หกตัว

ผึ้งประตูภัยพิบัติ(ไซม่อนบี) หนึ่งร้อยสามสิบสามตัว และรังขนาดใหญ่

ต้นไม้เก่าแห่งความโชคร้าย(เบลล์วูด) ขนาดใหญ่พิเศษพร้อมผลไม้

ตั๊กแตนตำข้าวนักดาบ(ตั๊กแตนตำข้าวนักสู้) สามตัว

สโนว์ไทเกอร์ สองตัว

แอสซาซินอีเกิล หกตัว และไข่สองฟอง