ผมรีบแต่งตัวและมุ่งหน้าไปยังห้องทำงานของคณบดีหรือพูดให้ถูกก็คือห้องทำงานของน้าผมนั่นเอง 

ผมค่อนข้างแน่ใจว่าอีกไม่นานตัวเองจะต้องหูชาแน่ๆ ผมทำใจให้สบายก่อนจะไปถึงห้องทำงานของเธอ 

ผมเคาะประตูเป็นเชิงขออนุญาตเข้าไป 

“เข้ามาได้”

เมื่อได้ยินเสียงอันไพเราะของมิร่า ผมก็เปิดประตูก่อนจะเดินเข้าไป ในไม่ช้าร่างของหญิงสาวที่สวยงามจนน่าทึ่งก็เข้ามาในสายตาของผม เธอดูไม่ต่างไปจากครั้งล่าสุดที่เราเจอกันเลย เป็นความงามที่ประสบความสำเร็จและทรงพลัง หนึ่งในผู้หญิงที่น่าคบหาที่สุดคนหนึ่งในยุคนี้ แค่ความสวยของเธอก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ผู้ชายอยากได้เธอ

เมื่อผมเห็นว่าเธอกำลังนั่งอยู่หลังโต๊ะขณะมองผ่านเอกสารอย่างเคร่งเครียดที่สุดโดยไม่มีผ้าคลุมหน้าอยู่ ผมก็ตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าแล้วเดินไปหาเธอด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

“น้าครับ! ดีใจที่ได้พบกันอีกครั้งนะครับ!”

เมื่อเห็นผมเข้ามาเธอก็ยิ้มให้ แต่วินาทีต่อมามันก็หายไปก่อนที่ผมจะรู้สึกถึงแรงดึงที่หูจน ทำให้สะดุ้ง

“โอ้ย…โอ้ย…โอ้ย…โอ้ยยย หยุดก่อนครับน้า มันเจ็บนะครับ!”

ผมร้องออกมาอย่างน่าสมเพช แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่มีผลกับผู้หญิงคนนี้เลย

“ดี! มันน่าเจ็บใจนะ เธอคิดอะไรความวุ่นวายในการล่าเซธมันเกิดขึ้นเพราะใครหล่ะ? ไม่ใช่แค่เธอจะสร้างเรื่องวุ่นวายเท่านั้น แต่เธอยังไปดึงดูดความสนใจของคนทั้งโลกด้วย!”

มิร่ารู้สึกปวดหัวเมื่อนึกถึงสิ่งที่หลานชายของเธอทำ 

ผมยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ แม้ว่าเธอจะกำลังดุผมอยู่ แต่ผมก็ยังรู้สึกได้ว่าเธอเป็นห่วงผมจริงๆ

“น้าโทษผมไม่ได้หรอกนะครับ ผมจะรู้ได้ยังไงว่าเรื่องแบบนี้มันจะเกิดขึ้นหล่ะครับ? แถมแล้วไงหล่ะครับ ไม่ใช่ว่าผมมีคุณน้าสุดที่รักและแสนสวยคอยปกป้องอยู่หรอกเหรอครับ?”

มิร่าที่ได้ยินคำพูดของผมก็พ่นลมหายใจออกมาขณะที่มองมาที่ผม เธอปล่อยหูของผมก่อนจะลูบหัวตัวเอง

“เห้อออ….ฉันจะทำยังไงกับเธอดีนะ”

ผมทำได้เพียงจับหูที่แดงก่ำอย่างสมเพชก่อนจะตอบกลับมิร่าด้วยรอยยิ้มซุกซน

“อ่าห์ โชคดีของผมจริงๆ นะครับ ไม่คิดเลยว่าผมจะได้ใช้เวลากับมิร่า ไลออนฮาร์ทผู้โด่งดัง ไม่อยากจะคิดเลยว่าผมจะได้อยู่ใกล้ผู้หญิงที่สวย, เก่งและสุดยอดขนาดนี้ อ่าาห์ผมนี่ช่างโชคดีเสียนี่กระไร”

ขณะที่ผมพูด การท่าทางออกมาด้วยความเคารพอย่างที่สุดและการแสดงของผมก็ทำให้ผมโดยสับเข้าที่หัว

“โอ้ย!”

“ฮึ่มมม ดูเหมือนว่าเธอจะโตขึ้นมากเลยนะ แต่เธอคิดว่าจะสามารถพูดแบบนั้นกับน้าของตัวเองได้งั้นเหรอ? เธอไปหัดพูดแบบนั้นมาจากไหนกัน?”

แต่ถึงแม้มิร่าจะพูดแบบนั้น ใบหน้าของเธอก็ยิ้มขบขันเมื่อได้เห็นกิริยาท่าทางของหลานชาย 

ผมก็ได้แต่กุมหัวตัวเอง แต่ในไม่ช้าสีหน้าของผมก็กลายเป็นเคร่งขรึมเมื่อมองตรงเข้าไปในดวงตาของมิร่า

“หืม? แต่ผมก็แค่พูดความจริงเองนะครับ ผมคิดว่าน้าเป็นผู้หญิงที่สวย, เก่งและสุดยอดจริงๆ ครับ ผมได้แต่อิจฉาผู้ชายที่จะได้อยู่กับน้าจริงๆ ครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดที่กระตือรือร้นและจริงจังของผม มิร่าก็อึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มออกมา เธอลูบหัวผมด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มก่อนที่เธอพูดต่อ

“ดูเธอสิปากหวานจริงๆ ฉันมั่นใจเลยว่าเธอคงเคยใช้ปากแหย่สาวๆ มาหลายคนแล้ว”

“ไม่ครับ! แค่น้าคนสวยของผมเท่านั้นครับ”

“แน่นอนว่าเธอจะพูดอะไรก็ได้”

‘เห้อออ…เธอยังเห็นเราเป็นเด็กอยู่เลย’

เมื่อดูปฏิกิริยาของมิร่าต่อคำพูดของผมแล้ว ผมก็เห็นว่าเธอไม่ได้คิดอะไรกับผมมากไปกว่าเด็กผู้ชายคนหนึ่ง สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงจริงๆ มันอาจจะยากหน่อย แต่ด้วยเวลาที่เหมาะสม ผมจะเปลี่ยนมันให้ได้เอง

ไม่นานผมก็นั่งลงบนโซฟาโดยมีน้ามิร่าอยู่ข้างๆ เธอมีสีหน้าจริงจังขณะที่เธอพูด

“ฉันไม่รู้เหตุผลที่เธอทำให้เกิดฉากใหญ่โตแบบนี้หรอกนะ แต่ฉันแน่ใจว่าเธอคงมีเหตุผลของตัวเองสินะ”

แม้ว่าเธอจะพยายามซ่อนมันไว้ แต่ก็ยังคงมีกลิ่นอายของความภาคภูมิใจและความสุขหลังจากเห็นความสำเร็จของผม แม้แต่ตอนนี้มิร่าก็ยังลบภาพที่เธอได้เห็นไปไม่ได้และยังคงรู้สึกคันลึกๆ อยู่ในใจของเธอ 

ผมยิ้มเมื่อได้ยินคำพูดของเธอ

“แน่นอนครับน้าว่าผมมีเหตุผลอยู่ ไม่ต้องกังวลนะครับผมจะบอกน้าเร็วๆ นี้เองครับ”

“ฉันเข้าใจ ฉันเดาว่าเกรซคงบอกเธอเกี่ยวกับปัญหาภายในจักรวรรดิแล้ว ดังนั้นระวังคนที่เธอไว้ใจด้วย ตอนนี้มีความตึงเครียดอย่างหนักในโลก ฉันไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่ฉันรู้สึกว่ามันคือความสงบก่อนที่จะเกิดพายุขึ้นมาเลย”

ผมพยักหน้ารับคำพูดของเธอ เราพูดคุยกันถึงประเด็นหลักอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ผมจะพูดถึงมุมมองของตัวเองที่ได้รับจากจักรพรรดิ สีหน้าของเธอก็เย็นชาขึ้นมา 

เธอพูดกับผมด้วยเสียงที่แหลมสูงขึ้น

“ออสติน จำไว้ว่าครอบครัวเราไม่ได้หนีจากสิ่งต่างๆ ฉันอาจไม่สามารถจัดการกับปัญหาทางการเมืองของจักรวรรดิได้เนื่องจากสถานะของฉัน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าใครจะแตะต้องครอบครัวของเราได้ ดังนั้นไม่ต้องกังวล ทำในสิ่งที่เธอต้องการไปเถอะ ฉันจะสนับสนุนเธอเสมอ”

ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื้นตันใจเมื่อได้ยินคำพูดของมิร่า ผมแค่ยิ้มให้กับคำพูดของน้ามิร่า ไม่นานการสนทนาที่จริงจังของเราก็จบลง

“น้าครับ? ตอนนี้น้าว่างไหมครับ?”

“ทำไมงั้นเหรอ?”

“ก็ผมแค่อยากคุยกับน้าเกี่ยวกับการผจญภัยของผมหน่ะครับ แถมนานๆ ทีเราจะได้ใช้เวลาร่วมกันด้วยหนิครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม มิร่าก็ลังเลเล็กน้อย แต่เมื่อเห็นท่าทางอ้อนวอนของผมแล้ว ในที่สุดเธอก็ยอมตกลง 

แต่แล้วผมก็รู้สึก ‘ปวดหัว’ ขึ้นมาก่อนผมจะกุมหัวตัวเองด้วย ‘ความเจ็บปวด’ 

เมื่อเห็นอาการของผม น้ามิร่าก็เข้ามาใกล้พร้อมกับมองมาที่ผมอย่างเป็นห่วง

“ออสตินเป็นอะไรรึเปล่า? เกิดอะไรขึ้น?”

“เปล่าครับไม่มีอะไร ผมแค่ปวดหัวนิดหน่อยครับ หมอบอกให้นอนเฉยๆ แต่เพราะผมอยากเจอน้า ผมเลยรีบมาหาหน่ะครับ”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม มิร่ารู้สึกขัดแย้ง เธอมองใบหน้าที่เจ็บปวดของผม เหมือนว่าเธอจะคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่ตอนนี้ผมก็โตขึ้นมากแล้ว แต่เมื่อคิดว่าตัวเองคือต้นเหตุของความเจ็บปวดของผม ความลังเลใจของเธอก็หายไป เธอค่อยๆ จับหัวผมให้หนุนตักเธอ

“น้าครับ?”

ผมมีท่าทาง ‘สับสน’ เมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ยิ้มพร้อมกับวางหัวของผมไว้บนต้นขาของเธอโดยเชิดหน้าขึ้นอย่างอ่อนโยน กลิ่นหอมหวานจากร่างกายของเธอโชยเข้าจมูกของผมขณะที่เธอลูบหัวผม

“ไม่ต้องห่วง นอนตักฉันพักผ่อนก็ได้ ฉันเคยทำแบบนี้กับเธอตอนเด็กๆ นะรู้ไหม”

ผมไม่ได้พูดอะไรอีกในขณะที่จดจ่ออยู่กับหมอนนุ่มใบนี้ ผมเริ่มคุยกับเธอเกี่ยวกับการผจญภัยของตัวเองด้วยรอยยิ้ม แน่นอนว่าผมข้ามบางส่วนไป ไม่นานภายในห้องทำงานก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของมิร่าและอารมณ์อื่นๆ อีกมากมาย

เวลาค่อยๆ ไปขณะที่ผมได้นอนหนุนตักผู้หญิงสวยคนนี้ที่ห่วงใยและรักผมอย่างแท้จริง

 

 

 

-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy 
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต