นอกจากกองไฟแล้ว สภาพแวดล้อมโดยรอบก็ยังเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อผู้เล่นไม่ได้ให้ความสนใจ

ภายใต้แสงของกองไฟ มีกล่องสองใบปรากฏขึ้น ใบหนึ่งสีแดงและใบหนึ่งสีน้ำเงิน และกระโจมอีกหลังหนึ่ง

ยกเว้นมาร์นี่ที่ถูกวาร์ปออกไปเพราะความอยากรู้อยากเห็นของเขา คนอื่น ๆ ยังคงศึกษาสิ่งใหม่ ๆ ที่ปรากฏขึ้นรอบตัวด้วยความสนใจ

ดูเหมือนว่ากล่องสีแดงจะเรียกว่า ‘กล่องจ่าย’ ตามข้อความที่ลอยอยู่บนกล่อง และไม่มีอะไรอยู่ข้างในกล่อง ส่วนกล่องสีน้ำเงินเรียกว่า ‘กล่องรับ’ ผู้เล่นสามารถทิ้งส่วนผสมหรืออุปกรณ์ที่ดรอปในดันเจี้ยนที่พวกเขาไม่ได้ใช้ เพื่อกับแลกเหรียญเกมและ EXP ได้

ส่วนกระโจมยังมีเตียงที่เรียบง่ายตั้งอยู่ภายใน เอ็ดเวิร์ดลองเข้าไปนอนเพื่อทดสอบ ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่ามันช่วยฟื้นฟูพละพลังของเขาได้อย่างรวดเร็ว

“พวกเจ้าคิดว่านี่คืออะไร?” เอลีน่าปีนเข้าไปในเต็นท์ เธอเห็นรูปสลักขนาดเล็กที่มุมด้านใน

ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยเห็นรูปสลักมาก่อน ในหมู่บ้านเคนนิงตันก็มีช่างไม้เช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นรูปสลักนี้ก็ดูแปลกตามาก นอกจากตรงแท่นวางแล้ว มันก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าลูกบอลทรงกลมแปลก ๆ

“บางที มันอาจจะเป็นรูปสลักของเทพเจ้าแห่งเกม” หัวหน้าผู้คุ้มกันพูดขึ้นมาทันทีแบบไม่คิดเลยเมื่อเขาเห็นรูปสลัก

“ไม่มีทาง มันจะเป็นไปได้ยังไง นี่มันคือการดูหมิ่นเทพเจ้าของเราชัด ๆ!” โตวก้านหรือที่รู้จักกันในชื่อโกวต้านเถียงกลับอย่างรวดเร็ว เขาภักดีต่อเทพเจ้าแห่งเกมมากจนเขาเกือบจะกลายเป็นพวกคลั่งศาสนา

เอลีน่า โจ และเอ็ดเวิร์ดต่างก็พยักหน้าเห็นด้วย พวกเขาทั้งหมดได้เห็นร่างมนุษย์ของซีเว่ยกับตามาแล้ว เทพเจ้าแห่งเกมจะเป็นลูกบอลได้ยังไง!

“โทษที ข้าแค่ล้อเล่น…ข้าศรัทธาต่อเทพเจ้าแห่งเกมมากเจ้าก็รู้” ปกติแล้วหัวหน้าผู้คุ้มกันจะไม่เถียงมากความกับเรื่องแบบนี้ เขาขอโทษอย่างสบาย ๆ ก่อนจะหยิบรูปสลักขึ้นมาดูอย่างระมัดระวัง แต่ไม่นานดวงตาของเขาก็หรี่ลงอย่างรวดเร็ว

“เดี๋ยวก่อน ลองดูข้อความตรงฐานรูปสลักสิ”

[รูปจำลองของเทพเจ้าแห่งเกม สร้างขึ้นในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์]

“…”

คำว่า ‘เชี่ย‘ ปรากฏขึ้นในใจของทุกคนพร้อมกัน

“เป็นไปได้ไหมว่าคนที่เราพบก่อนหน้านี้จะเป็นร่างอวตารของเทพเจ้าแห่งเกม แต่รูปร่างที่แท้จริงของเขาคือลูกบอล” โจตัวสั่นขณะที่เขาพูดความคิดของเขาออกมา

“จะเป็นไปได้ยังไง…” โกวต้านช็อกมาก เห็นได้ชัดว่าเขาไม่อยากจะเชื่อเรื่องนี้

เอ็ดเวิร์ดใช้เวลาเล็กน้อยในการจัดระเบียบความคิดของเขาก่อนที่จะแกล้งไอ

“อย่าตกใจ แม้ว่ารูปสลักนี้จะถูกสร้างขึ้นในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเทพเจ้าของเราเป็นลูกบอล” เขาอนุมานอย่างจริงจัง “แม้ว่าสาวกจะได้เข้าสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์หลังจากที่ตายแล้ว พวกเขาก็อาจไม่ได้พบกับพระองค์จริง ๆ! รูปปั้นนี้น่าจะเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นโดยสาวกบางคนที่ได้เข้าสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ข้าจำได้ว่าลุงมาร์นี่เคยกล่าวไว้ว่า เทพเจ้าแห่งเกมเป็นเทพเจ้าใหม่ที่พึ่งปรากฏขึ้นในรอบ 100 ปีมานี้ พระองค์แตกต่างจากเทพเจ้าโบราณ ไม่มีตำนานใดเกี่ยวกับพระองค์ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก มันเป็นเรื่องปกติที่จะไม่มีใครทราบว่าเทพเจ้าแห่งเกมควรถูกแกะสลักเช่นไร!”

“ใช่แล้ว! มันต้องเป็นแบบที่พี่เอ็ดเวิร์ดพูดแน่!” ใบหน้าของเอลีน่าสดใสขึ้น

แม้แต่โกวต้านที่มุมมองชีวิตเพิ่งสั่นคลอนก็สงบลง เขาพยักหน้าอย่างเชื่อมั่น

มีเพียงหัวหน้าผู้คุ้มกันเท่านั้นที่ยังคงสงสัย แต่เขาก็ไม่โง่ที่จะพูดมันออกมาตอนนี้

“ถ้าให้ข้าเดา การที่มันถูกเก็บไว้ในกระโจม มันอาจจะเชื่อมโยงไปถึงเควสลับก็ได้!” เอ็ดเวิร์ดพูดต่อ “มันน่าจะเกี่ยวข้องกับสาวกรุ่นพี่ที่ได้เข้าสู่อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์!”

“จริงเหรอ! แล้วเราจะเริ่มเควสลับได้ยังไง”

“อู้ววว ข้าขนลุกเลย!”

“เร็วเข้า รีบพูดมา!”

ในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ ซีเว่ยเฝ้ามองเอ็ดเวิร์ดวิเคราะห์ทุกอย่างแม้ว่าเขาจะเดาไม่ถูกเลยก็ตาม

เขาอดไม่ได้ที่จะพบว่ามันตลกมาก เขาสร้างรูปสลักของตัวเองขึ้นมาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแคมป์ไฟ

ด้วยรูปสลักศักดิ์สิทธิ์ของซีเว่ย มันจะทำให้พวกเรเวแนนท์บางตัวในหุบเขาแห่งความตายไม่เข้ามาทำลายแคมป์ไฟ

นอกจากนั้นรูปสลักยังได้เพิ่มพลังให้กับเทเลพอร์ต เพื่อให้เขาสามารถเคลื่อนย้ายผู้เล่นไปยังจุดหมายที่เกี่ยวข้องได้ง่ายขึ้น และเนื่องจาก ID ของผู้เล่นเชื่อมโยงกับระบบ ดังนั้นซีเว่ยจึงไม่ต้องกังวลว่าผู้เล่นจะพยายามใช้กลอุบายใด ๆ กับมัน

รูปสลักนี้ถูกสร้างขึ้นจากเศษซากที่เหลืออยู่ หลังจากที่ซีเว่ยได้ดูดซับแก่นพลังงานจากสัตว์ประหลาดที่ผู้เล่นสังเวยมา ปกติแล้วมันก็ไม่ได้ต่างจากเหรียญเกม แต่มันได้รับพรพิเศษจากซีเว่ย ทำให้ผู้เล่นสามารถเล่นมันได้ในระยะรอบแคมป์ไฟเท่านั้น พวกเขาจะไม่สามารถนำมันออกไปได้

นอกจากนี้หลังจากผู้เล่นออกจากแคมป์ไฟแล้ว รูปปั้นศักดิ์สิทธิ์จะถูกส่งกลับไปยังตำแหน่งเดิมภายในกระโจม ไม่ว่าพวกเขาจะวางมันทิ้งไว้ที่ไหนก็ตาม

ซีเว่ยได้สร้างรูปสลักนี้ขึ้นมากว่าร้อยรูป ทุกครั้งที่ผู้เล่นขยายอัตราการสำรวจหุบเขาแห่งความตายขึ้น 1% เขาจะทิ้งมันหนึ่งอันไว้ในแคมป์ไฟใหม่เรื่อย ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดการสำรวจหุบเขา

“เอาล่ะ ด้วยวิธีนี้ระบบดันเจี้ยนในหุบเขาก็เสร็จเรียบร้อย ส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่นและรายได้ในดันเจี้ยน” ซีเว่ยพยักหน้าพอใจกับผลงานของเขา

แต่ไม่นาน หน้าตาเขาก็บูดบึ้ง

หลังจากที่เอลีน่าและคนอื่น ๆ ประสบความสำเร็จในการเผยแพร่ศาสนาให้กับคาราวานพ่อค้า และทำให้เขาได้รับพลังศรัทธามากมาย จนพลังศักดิ์สิทธิ์ในปัจจุบันของเขามีความมั่นคง แต่หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้รับผลกำไรอะไรเพิ่มเติมเลย

หลังจากที่เขาสร้างรูปสลักและไอเทมต่าง ๆ สำหรับดันเจี้ยนเสร็จ ซีเว่ยก็พบว่าพลังงานสำรองของเขาเหลือน้อยอย่างน่าสมเพชอีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งอำนวยความสะดวกในดันเจี้ยนใหม่ของหุบเขาแห่งความตายก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการบำรุงรักษาทุกวัน นี่ไม่ต้องพูดถึงสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ในหมู่บ้านเริ่มต้น รวมถึงพืชในฟาร์มที่บริโภคพลังศักดิ์สิทธิ์ในช่วงนอกฤดูกาลเพาะปลูกเกินงบ

เมื่อสิ่งต่าง ๆ ยังดำเนินต่อไปเช่นนี้ พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เขามีก็จะร่อยหรอลงทุกวัน หากเขาไม่สามารถคิดหาวิธีดี ๆ ได้ ซีเว่ยอาจจะต้องอยู่ในหมู่บ้านเริ่มต้นและหุบเขาแห่งความตายไปสักพัก

ขณะที่ซีเว่ยกำลังคิดถึงแผนการในอนาคตที่จะรับสมัครสาวกใหม่ เขาก็สังเกตเห็นมาร์นี่ที่ถูกวาร์ปกลับมาที่เมืองเริ่มต้นก่อนคนอื่น ๆ กำลังนำรถบรรทุกสินค้าของเขาออกจากเมืองและเตรียมตัวออกเดินทาง

หลังจากมองงง ๆ อยู่พักหนึ่ง ซีเว่ยก็เข้าใจ

แม้ว่ามาร์นี่•วิลฟ์จะเข้าร่วมศาสนจักรเทพเจ้าแห่งเกม แต่เขาก็มีตัวตนอีกอย่างหนึ่ง นั่นก็คือสมาชิกของหอการค้ากระดิ่งลมสีเงิน

เขาอยู่ในเมืองเริ่มต้นมาสักพักแล้ว ตอนนี้เขาต้องกลับไปที่หอการค้าเพื่อรายงานตัว

ซีเว่ยใช้หนวดลูบคางขณะที่คิดกับตัวเองว่า “อืม เพื่อนคนนี้น่าจะใช้การได้…”

———————————————————