บทที่ 477 ที่นี่คืออาณาจักรอวี้ซวี ภูมิลำเนาของมัจฉาสัตมายา!
อาณาจักรอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ มีสิ่งแวดล้อมในปฐพีดีเลิศ ทุกลมหายใจเปี่ยมไปด้วยพลังปราณที่สร้างความผาสุกได้เหลือคณา
ดำรงชีวิตในอาณาจักรใหญ่เยี่ยงนี้ แม้แต่ปุถุชนที่ธรรมดาที่สุดก็คงมีชีวิตได้เป็นอย่างดี โรคภัยยากจะแผ้วพาน อายุขัยยืนยาว
ส่วนผู้ฝึกตน ยิ่งได้รับประโยชน์มหาศาล บำเพ็ญตนได้อย่างราบรื่น และก้าวสู่ขอบเขตที่สูงกว่าได้ง่ายขึ้น บรรลุเป็นเทวะ เป็นนักบุญได้โดยไม่มีปัญหา
“แค่บรรลุเป็นนักบุญได้โดยไม่มีปัญหา บรรลุเป็นจักรพรรดิคงยิ่งมิใช่ปัญหา…”
หลิงอินสะท้อนใจ รู้สึกได้ว่ากฎแห่งสวรรค์และโลกในอาณาจักรแห่งนี้สมบูรณ์ทรงพลังอย่างยิ่ง เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมเช่นนี้ การบรรลุจักรพรรดิมิใช่ปัญหาจริง ๆ คงมีสิ่งมีชีวิตมากมายทำสำเร็จ
นึกถึงอาณาจักรที่นางอาศัยอยู่ ความห่างชั้นช่างมากมายเหลือเกิน
ในอาณาจักรที่นางอาศัยอยู่ อย่าว่าแต่บรรลุจักรพรรดิเลย แม้แต่บรรลุนักบุญยังลำบากเหลือแสน แทบเป็นไปมิได้
เหล่ากำลังรบเหนือขอบเขตนักบุญในอาณาจักร ส่วนใหญ่อยู่มาตั้งแต่ยุคโบราณ หรือยุคสมัยที่เก่าแก่ยิ่งกว่านั้น
มีเพียงส่วนน้อยที่มีพรสวรรค์สะท้านโลกามากพอ ถึงบรรลุนักบุญได้ในยุคนี้!
คิดดูว่าลำพังบรรลุนักบุญยังยากเย็นเพียงนี้ บรรลุจักรพรรดิยิ่งไม่ต้องสาธยายไปมากกว่านี้…
สิ่งแวดล้อมแข็งแกร่งหรืออ่อนแรง ดีหรือร้าย ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตที่ใช้ชีวิตอยู่ภายในอย่างยิ่งยวด!
“เมื่อใดสิ่งแวดล้อมในปฐพีของเราจะดีได้ปานนี้!”
สายตาหลิงอินเปี่ยมความหวัง เอ่ยอย่างครุ่นคิด “คุณชายจะออกโรงเปลี่ยนแปลงสิ่งมีชีวิตในฟ้าดินของเราหรือไม่”
อาณาจักรทั้งปวงในจักรวาลนี้ เหตุไฉนคุณชายถึงเลือกปรากฏตัวในอาณาจักรนี้
นางรู้สึกว่าเป็นไปได้สูงที่อาณาจักรนี้จะเกิดการพลิกผันเพราะคุณชาย สิ่งแวดล้อมในปฐพีจะดียิ่งขึ้นจนล้ำหน้าอาณาจักรอื่น!
นางผุดความคิดที่บ้าบิ่นยิ่งกว่านั้น
คุณชายอาจสร้างอาณาจักรแห่งนี้ให้เป็น…ภพเซียน!?
ด้วยความสามารถและฝีมือของคุณชาย ขอเพียงคุณชายต้องการ ใช่ว่าทำมิได้!
“คุณชายมีใจเมตตา ข้ารู้สึกว่าเป็นไปได้สูงที่คุณชายอาจเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมในอาณาจักรของเราให้ดียิ่งขึ้น”
เสียงของเสี่ยวหยาใสกังวานดังสะท้อน ไพเราะประหนึ่งนกจาบฝน นางรู้สึกเหมือนกันว่าคุณชายอาจออกโรงเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมในอาณาจักรนี้
“เฝ้ารออย่างยิ่ง!”
ดวงตาหลิงอินวาวโรจน์ เฝ้ารอการมาของวันนั้นจากใจจริง
“ไปเถิด พวกเราไปตามหาศาสตราเดินอากาศกันดีกว่า” นางเอ่ย
จากนั้น นางหลับตาลง ปลดปล่อยญาณสัมผัสอันทรงพลังออกไป เพื่อสืบเสาะสถานการณ์ในอาณาจักรแห่งนี้
พวกนางเพิ่งมาถึงอาณาจักรนี้ ไม่คุ้นชินกับทั้งคนและสถานที่ จำต้องรู้จักอาณาจักรนี้ให้มากขึ้นถึงออกตามหาศาสตราเดินอากาศได้ จะคลำทางตามหาไปเรื่อย ๆ คงมิไหว เช่นนั้นไม่รู้ต้องตามหาไปถึงเมื่อไรถึงจะพบ
ผ่านไประยะหนึ่ง นางลืมตา ได้รับรู้เรื่องราวมากมาย
ญาณสัมผัสของนางกล้าแกร่งอย่างยิ่ง กล้าแกร่งกว่าเทียนตี้มาก หลังจากคลี่แผ่ญาณสัมผัสออกไป นางก็ได้รับข้อมูลมากมาย
“มิน่า อาณาจักรแห่งนี้ถึงน่าทึ่งได้เช่นนี้ ที่นี่คืออาณาจักรอวี้ซวี ซึ่งเป็นหนึ่งในเก้าอาณาจักรตอนบน!”
เหนือความคาดการณ์ของหลิงอินไปนิดหน่อย พวกนางมาถึงเก้าอาณาจักรตอนบนแล้วหรือนี่
“อาณาจักรอวี้ซวี น่าสนใจ พวกเรามาถึงภูมิลำเนาของมัจฉาสัตมายาตัวนั้นแล้ว”
หลิงอินหัวเราะ นึกถึงมัจฉาสัตมายาตัวนั้น
นางจดจำมัจฉาสัตมายาตัวนั้นได้แม่น เป็นปลาที่อยู่ในลานท่านเซียนมานานที่สุด นางมักรู้สึกว่าคุณชายไม่คิดฆ่ามัจฉาสัตมายา และมีสิ่งอื่นเตรียมไว้ให้มัจฉาสัตมายา มิฉะนั้น ต่อให้มัจฉาสัตมายาโชคดีเพียงใดก็ไม่อาจรอดมาได้ถึงบัดนี้กระมัง…
“มัจฉาสัตมายาตัวนั้นหรือ”
เสี่ยวหยาจำได้เช่นกัน นางเคยเห็นมัจฉาสัตมายาในลานเล็กคุณชาย เป็นปลาที่สวยงามน่าดูชมมาก เมื่อครั้งนางได้เห็นก็รู้สึกชอบเป็นอย่างยิ่ง
“ใช่แล้ว ลั่วสุ่ยสนิทกับปลาตัวนี้มาก ได้ยินจากลั่วสุ่ยว่ารับปลาตัวนั้นเป็นลูกน้องแล้ว ยามว่าง ๆ มักอยู่สนทนากับปลาตัวนั้น ลั่วสุ่ยเรียกปลาตัวนี้ว่าเสี่ยวชี”
หลิงอินพยักหน้า เมื่อคราวอยู่ที่เมืองชิงซาน นางไปหาคุณชายเป็นประจำ บางครั้งยามคุณชายไม่อยู่ในลานเล็ก นางจะสนทนากับลั่วสุ่ย
ครั้งหนึ่ง พวกนางกล่าวถึงมัจฉาสัตมายาผู้โชคดีตัวนี้ ลั่วสุ่ยบอกว่ามัจฉาสัตมายาตัวนี้น่าสนใจ จึงรับไว้เป็นลูกน้อง ทั้งยังบอกอีกว่าหากนางมีโอกาส หวังว่านางจะช่วยดูแลปกป้องมัจฉาสัตมายาตัวนี้
“ดูออกว่าลั่วสุ่ยใส่ใจมัจฉาสัตมายาตัวนี้มาก ครานั้นบังเอิญได้ยินการสนทนาถึงมัน น่ากลัวว่าอาจมิใช่บังเอิญ ลั่วสุ่ยคงตั้งใจกล่าวถึง”
หลิงอินคลี่ยิ้ม ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เกรงว่าลั่วสุ่ยคงกลัวคุณชายจะเชือดมัจฉาสัตมายา ถึงได้จงใจกล่าวถึงมัจฉาสัตมายากับข้า อยากให้ข้าช่วยพูดจาปกป้องมัจฉาสัตมายาเมื่อมีโอกาส ทว่าลั่วสุ่ยประเมินข้าสูงเกินไปแล้ว ข้าไฉนเลยจะกล้าเจ้ากี้เจ้าการในการตัดสินใจของคุณชาย…”
“ข้าชอบมัจฉาสัตมายาตัวนั้นเหมือนกัน หวังว่าคุณชายจะไม่ฆ่ามัน”
เสี่ยวหยาเอ่ย ถูกชะตากับมัจฉาสัตมายาตัวนั้นยิ่ง ไม่อยากให้คุณชายเชือดมัจฉาสัตมายาตัวนั้นจากใจจริง
“คงไม่กระมัง”
หลิงอินกล่าว “ข้ามักรู้สึกว่าคุณชายมีสิ่งอื่นเตรียมไว้สำหรับมัจฉาสัตมายา มันไม่น่าจะถูกฆ่า ตรงกันข้าม ข้ากลับรู้สึกว่ามันจะได้รับวาสนาการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่”
“เป็นเช่นนั้นหรือ”
เสี่ยวหยาตาเป็นประกาย พี่หญิงหลิงอินติดตามข้างกายคุณชายมานาน ย่อมรู้จักคุณชายในระดับหนึ่ง
มิหนำซ้ำพี่หญิงหลิงอินยังไตร่ตรองได้ถี่ถ้วนครบทุกด้าน ในเมื่อพี่หญิงเอ่ยเช่นนี้ ไม่แน่ว่ามัจฉาสัตมายาอาจรอดต่อไปได้จริง ๆ ซ้ำยังมีวาสนาการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่รอมันอยู่
“เอาล่ะ พวกเราไปที่เมืองนภากันดีกว่า ที่นั่นเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในอาณาจักรอวี้ซวี ในนั้นมีร้านประมูลที่ใหญ่ที่สุด พวกเราไปที่นั่นเพื่อดูว่าพอจะหาศาสตราเดินอากาศได้หรือไม่”
หลิงอินบอกกับเสี่ยวหยา
เมืองนภามิได้ใกล้กับที่นี่ ห่างกันไกลพอสมควร พวกนางมาอยู่ในสำนักฝึกตนแห่งหนึ่งใกล้ ๆ ใช้หินปราณนิดหน่อยเพื่อยืมค่ายกลเคลื่อนย้ายในสำนักฝึกตนแห่งนี้เดินทาง
ที่แห่งนี้ค่อนข้างร้างและไกล มิใช่เขตเจริญรุ่งเรือง สำนักฝึกตนนี้ก็มิใช่สำนักใหญ่ ค่ายกลเคลื่อนย้ายด้านในมีระดับต่ำต้อย ระยะทางที่ส่งออกไปมีจำกัด
ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี้ส่งพวกนางไปได้ไกลที่สุดคือแถบตระกูลหลี ไม่สามารถส่งพวกนางจนถึงเมืองนภา
ตระกูลหลีคือตระกูลจักรพรรดิเก่าแก่ มีรากฐานลึกล้ำ และความสามารถแกร่งกล้า ถ้าหากสิ่งมีชีวิตในแถบนี้ต้องการเดินทางไปเมืองนภา ต่างต้องไปขอยืมใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายของตระกูลหลี
ทว่ามิได้เปิดให้ยืมเปล่า ๆ ปลี้ ๆ ตระกูลหลีเก็บค่าใช้จ่ายสูงลิ่ว สิ่งมีชีวิตทั่วไปสู้ราคาไม่ไหว
หลิงอินไม่กลัวเรื่องค่าใช้จ่ายสูง ขอเพียงไปถึงเมืองนภาได้ก็พอ
ภายในดวงดาวหักพังดวงนั้น แม้ว่าสิ่งของมากมายถูกทำลาย ทว่ายังมีของดีจำนวนหนึ่งถูกรักษาไว้ได้ หลิงอินและเสี่ยวหยาเก็บเกี่ยวจากดาวดวงนั้นได้ไม่น้อยทีเดียว
คล้อยตามการวูบไหวของคลื่นริ้วค่ายกล พวกนางมาถึงแถบตระกูลหลี
เมืองนภาเจริญรุ่งเรือง เป็นเมืองใหญ่อันดับหนึ่งของอาณาจักรอวี้ซวี สิ่งมีชีวิตนับคณาล้วนใฝ่ฝันถึงเมืองนภา อยากไปเที่ยวเล่นชมเมืองที่เมืองนภา
แม้ว่าค่าใช้จ่ายที่ตระกูลหลีคิดในการใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายสูงยิ่ง กระนั้นยังมีสิ่งมีชีวิตมากมายมุ่งหน้าไปที่ตระกูลหลี หวังจะยืมค่ายกลเคลื่อนย้ายของตระกูลหลีเพื่อเดินทางไปยังเมืองนภา
หลิงอินและเสี่ยวหยาตามหลังสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ไปจนถึงตระกูลหลี
ที่นี่โอ่อ่ายิ่งใหญ่เหลือแสน กลิ่นอายแห่งกาลเวลาอันยาวนานแผ่ซ่านอยู่ทุกที่ จนผู้คนสัมผัสถึงความหนักหน่วงแห่งประวัติศาสตร์ที่เลยผ่านได้อย่างลึกซึ้ง
“สุดยอด…”
หลิงอินตะลึงในใจนิดหน่อย ตระกูลหลีสมเป็นตระกูลจักรพรรดิเก่าแก่ มีความสามารถน่าทึ่งอย่างแท้จริง
นางสัมผัสถึงพลังปราณของเทียนตี้ได้จากที่นี่!
ตระกูลหลีมีเทียนตี้คอยพิทักษ์!