การป้องกันของมิร่าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว แต่ก่อนที่สิ่งต่างๆ จะท่วมท้นไปมากกว่านี้ ผมก็หยุดลง สิ่งสำคัญในปัจจุบันคือการเปลี่ยนมุมมองของเธอที่มีต่อผม ส่วนที่เหลือผมยังมีเวลาอีกเยอะเพราะผมอยากให้เธอตกหลุมรักผม ซึ่งมันต้องใช้เวลา
ทันทีที่ความรู้สึกท่วมท้นเริ่มหายไป มิร่าก็หายใจเข้าลึกๆ และหลับตาลง ทันทีที่เธอลืมตาขึ้นอีกครั้งความรู้สึกเหล่านั้นก็สงบลง อย่างที่คาดหวังจากผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ เธอสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
เมื่อเธอลืมตาขึ้นก็พบกับหลานชายของเธอที่กำลังส่งสายตาห่วงใยให้เธออยู่ แม้ว่าตอนนี้เธอจะยังคงรู้สึกได้ถึงอารมณ์ของผมในร่างกายของเธอได้อยู่เล็กน้อยก็ตาม
เมื่อเห็นว่าผมกังวลมากขึ้นเธอจึงพูดขึ้น
“ฉันสบายดี ไม่มีอะไรหรอก”
“เห้ออ ค่อยอย่างชั่วหน่อยครับ ผมคิดว่ามีอะไรเกิดขึ้นซะอีกครับ”
แม้ว่าผมจะพูดอย่างมีความสุข แต่ก็มี ‘ความประหม่า’ อยู่ในน้ำเสียงของผมเล็กน้อย
มิร่าสัมผัสได้ถึง ‘ความกังวลใจ’ จากผม เธอรู้สึกได้ว่าผมกำลังกลัวว่าปฏิกิริยาของเธอจะเกิดจากตัวผมเองอยู่
มิร่ายกมือขึ้นจับของผม ขณะที่เธอรู้สึกพึงพอใจเล็กๆ น้อยๆ ในร่างกายของเธอ ถึงมันจะน้อยลงกว่าเดิมมาก แต่ก็ยังคงรู้สึกอยู่
“ออสติน ฉันดีใจที่เธอรู้สึกแบบนั้นนะ แต่เธอควรรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเราไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันรักเธอในฐานะหลานชาย ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”
คำพูดเหล่านั้นอาจทำให้ผมต้องเจ็บปวดแต่มิร่าต้องทำ เธอต้องทำให้แน่ใจว่าหลานชายของเธอจะกำจัดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อสุขภาพออกไปจนหมด
ทันทีที่เธอพูดจบ ร่างกายของผมก็ ‘สั่น’ ขึ้นมา ผมยิ้ม ‘อย่างอ่อนแรง’ ก่อนจะตอบเธอไป
“ผมรู้ครับน้า อย่างที่บอกผมได้ผนึกความรู้สึกเหล่านั้นไปแล้วครับ แค่ว่าหลังจากที่ได้พบน้า พวกมันก็เลยดูเหมือนจะแข็งแกร่งขึ้นหน่ะครับ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับผมรู้วิธีรับมือพวกมันดีและผมจะกำจัดพวกมันให้หมดสิ้นอย่างแน่นอนครับ”
แม้ว่าผมจะพูดด้วยรอยยิ้ม แต่ความรู้สึกเจ็บปวดลึกๆ ก็เต็มไปทั่วร่างกายของมิร่า เธอคงรู้สึกถึงหัวใจที่แตกสลายของหลานชายจริงๆ
หัวใจของมิร่ารู้สึกถูกบีบรัด แต่เธอก็ต้องยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด เธอปล่อยมือจากมือของหลานชายและพยายามควบคุมอารมณ์โกรธของตัวเอง
“ดีแล้ว มันคงดีกว่าที่เธอจะไปหาคนอื่น ฉันแน่ใจว่าเธอจะพบผู้หญิงที่สุดยอดซึ่งเหมาะสมกับเธอแน่ๆ”
“แน่นอนครับ…”
มีความเงียบที่น่าอึดอัดใจระหว่างเราเมื่อเราพูดกันจบ มิร่าไม่รู้ว่าเธอควรทำอะไรตอนนี้ หลังจากที่เธอได้ยินเกี่ยวกับความรู้สึกของผมแล้ว เธอไม่สามารถเห็นผมเป็นเด็กได้จริงๆ
และแล้วก็เป็นผมเองที่ทำลายความเงียบ
“ดูเหมือนว่าผมจะอยู่นานไปแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“แน่นอน”
ขณะที่ผมกำลังจะออกไป ผมก็ทำเหมือนนึกอะไรออกได้และหยิบหินอ่อนสีขาวก้อนเล็กๆ ออกมา
ผมถือมันไว้ในมือแล้วยื่นให้มิร่า
“ฟังนะครับน้า นี่คือของขวัญที่ผมเตรียมไว้ให้น้าครับ”
เมื่อได้ยินคำว่าของขวัญและรู้สึกถึงอารมณ์ที่เอ่อล้นของผม เธอก็มองไปที่หินอ่อนเล็กๆ ที่อยู่ในมือของผม เมื่อเห็นมันแล้วดวงตาของเธอก็สั่นไหวด้วยความประหลาดใจ
“ได้ยังไงกัน?!”
“ผมบังเอิญเจอมันหน่ะครับ”
มิร่าได้ยินคำตอบที่น่าสงสัยของผมก็อึ้งเพราะของในมือผมนั้นไม่ใช่ของที่จะบังเอิญเจอได้ เธอส่ายหน้าอย่างหนักเพื่อปฏิเสธของขวัญจากผมด้วยความประหลาดใจ
“ไม่ออสตินมันมีค่าเกินไป เธอสามารถใช้มันเพื่อตัวเองได้เมื่อถึงจุดสูงสุด”
ผมส่ายหัวขณะวางหินอ่อนลงบนมือของเธออย่างไม่เต็มใจ สิ่งที่ผมให้เธอเรียกว่าหินแห่งกฎ การใช้งานนั้นง่ายมาก มันจะช่วยให้คุณเรียนรู้กฎของโลก หินแห่งกฎเป็นสิ่งที่ทุกคนซึ่งติดอยู่ในระดับต้นกำเนิดขั้น 10 ล้วนปรารถนา
พวกเขาจะยอมขายทรัพย์สมบัติของครอบครัวทั้งหมดเพื่อแลกมันเลยแหละ แต่การจะได้มันมานั้นไม่ง่ายเลย หินแห่งกฎเป็นสิ่งที่ก่อตัวขึ้นจากโลกนี้ตามธรรมชาติ เป็นไปได้ยากมากที่จะได้มันมาสักก้อน
มิร่าถือหินอ่อนในมือขณะที่มองมาที่ผม
ผมยิ้มให้เธอก่อนที่จะพูดขึ้น
“รับไปเถอะครับน้า ไม่ใช่ว่าพวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันเหรอครับ? แถมผมยังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะไปถึงจุดสูงสุดครับ ดังนั้นให้น้าเป็นคนใช้มันจะดีกว่าครับ”
“ไม่ออสติน เธอไม่รู้เหรอไงว่ามันมีค่าขนาดไหน? เธอเป็นคนเจอมัน เธอก็ควรใช้มันเพื่อตัวเองสิ”
“น้าครับ”
เสียงของผมทุ้มลึก ทันใดนั้นมิร่าก็รู้สึกได้ถึงความโกรธของผมที่เต็มร่างกายของเธอ
“นี่คือของขวัญที่ผมต้องการให้น้าครับ การที่น้าไม่ยอมรับ มันหมายความว่าน้าไม่คิดว่าผมเป็นครอบครัวและอย่าแม้แต่จะคิดที่จะเก็บมันไว้นะครับ ถ้าน้าคิดว่าผมเป็นครอบครัวก็ใช้มันเถอะครับได้โปรด”
มิร่าที่ได้ยินคำอ้อนวอนของผมและรู้สึกได้ถึงอารมณ์ปรารถนาให้เธอใช้มันอย่างแท้จริงก็เริ่มรู้สึกขัดแย้งในตัวเอง ในแง่หนึ่งเธอมีความสุขที่ได้รับความรักและความเอาใจใส่ แต่อีกแง่หนึ่งเธอก็รู้สึกผิดที่เธอใช้ความรู้สึกของผมเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
ผม ‘ถอนหายใจ’ ก่อนที่จะเอามือข้างหนึ่งลูบหน้าเธอ ทำให้มิร่าตัวสั่นด้วยความสุข ผมดึงหน้าเธอให้มองตรงมาที่ผม
“น้าเชื่อผมเถอะ ผมอยากให้น้าใช้มัน ผมอาจจะพูดออกไปด้วยความเห็นแก่ตัวของผม แต่ผมอยากให้น้ามีความสุขครับและนี่คือความปรารถนาของผมที่จะให้น้าใช้มัน ได้โปรดใช้มันเถอะครับ”
มิร่าลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจและรับของขวัญไป
ผมยิ้มอย่างทะเล้นก่อนที่จะพูดกับเธอ
“ถ้าน้าลังเลขนาดนั้น จะจ่ายค่าของขวัญนั้นให้ผมก็ได้นะครับ”
“จ่ายให้เธอเหรอ?”
“ครับ”
แม้จะสงสัยแต่เธอก็ถามกลับมา
“เธอต้องการอะไรหล่ะ?”
ฉันยิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่ชี้ไปที่แก้มของตัวเอง
“ผมจะมีความสุขมากเลยแหละครับถ้าน้าจูบผมตรงนี้”
“เห้อออ….ฉันจะพูดยังไงกับเธอดีเนี่ย ยอมแลกหินแห่งกฎกับจูบแบบนี้”
“แต่สำหรับผม จูบของน้ามีค่ามากกว่าโลกทั้งใบอีกนะครับ”
ได้ยินคำตอบที่จริงจังของผมและรู้สึกถึงอารมณ์ของผม ก็เป็นครั้งแรกเลยที่มิร่าหน้าแดงขึ้นมา เธอรู้สึกได้ว่าหัวใจของตัวเองเต้นเร็วขึ้นชั่วครู่ แต่เธอก็หายใจเข้าลึกๆ เพื่อควบคุมมัน
มิร่าลังเลกับคำตอบของผม เธอเคยหอมแก้มผมตอนที่ผมยังเด็กอยู่หรอก แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างเมื่อเธอถูกขอให้จูบ ความรู้สึกแปลกๆ กลับแล่นไปทั่วร่างกายของเธอ
เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่กระตือรือร้นของผม เธอก็ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง
‘ก็แค่จูบเอง’
เมื่อคิดว่าไม่มีอันตรายอะไร เธอก็ค่อยๆ ยืนขึ้นและจูบแก้มผมอย่างรีบร้อน แต่ผมก็ยังสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แก้มของตัวเอง
“นุ่มมาก…”
เมื่อได้ยินคำตอบโดยไม่รู้ตัวของผม หัวใจของมิร่าก็เริ่มเต้นแรงอีกครั้ง
ผมไม่ได้พูดอะไรอีกในขณะที่ยิ้มอย่างมีความสุขและออกจากห้องไป
ทันทีที่ผมออกไปมิร่าก็ล้มลงบนโซฟาด้วยสีหน้างุนงง เธอไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้
“เห้อออ…เกิดอะไรขึ้นกับฉันกันนะ”
มิร่าทำได้เพียงบ่นขณะมองเพดาน โดยไม่รู้ว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต