ตอนที่ 123 ปวดใจแทนลูกสาว
หลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ มู่เถาเยาก็จัดให้ตี้อู๋เปียนและถุงลมน้อยเข้าพักที่บ้านพักของเธอ ส่วนเหลียงจีและไป๋เฮ่าอวี๋ เนื่องจากที่บ้านไม่เหลือห้องว่างอีกจึงต้องระเห็จไปนอนที่บ้านของอดีตผู้ใหญ่บ้านมู่
จัดการเรื่องการเข้าพักเสร็จเรียบร้อยแล้ว มู่เถาเยาก็สั่งให้ตี้อู๋เปียนไปนอนพัก ส่วนตัวเองก็จูงมือเจ้าถุงลมน้อยเดินเข้าห้องของเธอไปด้วยกัน
เดิมทีถุงลมน้อยสามารถนอนคนเดียวได้ แต่เขาต้องการนอนกับมู่เถาเยา
ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย มู่เถาเยาย่อมหักใจปฏิเสธเขาไม่ลง
เป่ยซีและเย่ว์จือกวงมองตามแผ่นหลังเล็กๆ ของพวกเขาและรู้สึกไม่มีความสุขเล็กน้อย
ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ชอบถุงลมน้อย แต่ลูกสาว/น้องสาวของพวกเขายังเด็ก และตอนนี้เธอกลับต้องมาดูแลเด็กอีกคนที่ตัวเล็กกว่า…
พวกเขารู้สึกปวดใจมาก!
หยวนเหยี่ยมองออกว่าสองแม่ลูกคู่นี้กำลังคิดอะไรอยู่ จึงหัวเราะเบาๆ และพูดด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าว่า “เสี่ยวเยาเยาดูแลคนอื่นแบบนี้มาตั้งแต่เธอยังเด็กๆ แล้ว ไม่ว่าเด็กคนไหนในหมู่บ้านเรา จะแก่หรืออ่อนกว่าเธอก็ตาม ไม่มีใครที่ไม่ชอบให้เธอสัมผัสตัว เธอเองก็ชอบอยู่กับเด็กๆ มาก”
ใบหน้าที่ติดซีดเซียวเล็กน้อยของเป่ยซียังคงไม่มีรอยยิ้มให้เห็น
พูดอย่างนั้นก็ไม่ผิด แต่ลูกสาวของเธอก็ยังอยู่ในวัยที่เอาแต่ใจตัวเองเหมือนกันไหม
แม้แต่เด็กผู้หญิงจากครอบครัวธรรมดายังถูกตามใจจนนิสัยเสีย แต่เจ้าหญิงน้อยของเผ่าพวกเขา ยังไม่ต้องพูดถึงว่าตัวเธอกำลังเสี่ยงกับการถูกคนกลุ่มหนึ่งไล่ล่าอยู่ กลับเป็นฝ่ายที่ต้องคอยไปดูแลคนอื่นแทน
เธอปวดใจมากจริงๆ
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องดีที่ลูกสาวของเธอชอบ
“เสี่ยวเยาเยารู้จักวิธีดูแลผู้คน และแม้แต่ศิษย์พี่ชายหญิงของเธอก็ได้รับการดูแลจากเธอเป็นอย่างดี!” ความคิดของซย่าโหวโซ่วนั้นเรียบง่ายและไม่ละเอียดอ่อนมากนัก ดังนั้นเขาจึงไม่สังเกตเห็นอารมณ์ในแววตาของสองแม่ลูกเลย
เป่ยซีและเย่ว์จือกวงรู้สึกเป็นทุกข์หนักเข้าไปใหญ่
ดูแลเด็กไม่พอ ยังต้องมาดูแลผู้ใหญ่ด้วย!
อาจารย์แม่เล็กถังหยวนปรายตามองสามีของเธออย่างรังเกียจแวบหนึ่ง เธอหัวเราะเบาๆ ก้าวไปด้านหน้าและจับมือของเป่ยซีไว้ พูดว่า “เสี่ยวซี เธอวางใจเถอะ เสี่ยวเยาเยามีแต่จะดีกว่าที่เธอจินตนาการไว้มาก พวกเธออาจคิดว่าสิ่งนั้นเป็นทุกข์ แต่สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่ ที่เธอทำไปทั้งหมดเพราะเธอรักหมู่บ้านเถาหยวนซานแห่งนี้มาก”
หยวนเหยี่ยพยักหน้า หัวเราะพลางพูดว่า “ที่เสี่ยวเยาเยาออกไปเรียนต่อข้างนอก ก็เพราะคนแก่ๆ อย่างพวกเราทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเด็กสาวตัวเล็กๆ เอาแต่ซ่อนตัวใช้เวลาอยู่ในหุบเขาทั้งวัน เอ็งไม่รู้หรอกว่าพวกข้าต้องใช้ความพยายามมากแค่ไหนกว่าจะหลอกล่อให้ยัยหนูออกไปจากหมู่บ้าน เธอเหมาะกับท้องฟ้าที่กว้างใหญ่มากกว่านี้”
เป่ยซีถอนหายใจหนักๆ
“ฉันรู้ค่ะ ฉันแค่รู้สึกปวดใจ เห็นได้ชัดว่าเธอดีกว่าลูกบ้านอื่นเป็นล้านๆ เท่า แต่สิ่งที่เธอได้รับกลับไม่มากไปกว่าคนอื่นสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่เธอจ่ายไปนั้นกลับมากเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้”
“เสี่ยวซี อย่าได้เอาแต่คิดเกี่ยวกับกำไรและขาดทุนมากเกินไป ตราบใดที่เธอมีความสุขและพึงพอใจกับมัน มันก็คุ้มค่าที่จะทำ”
เป่ยซีพยักหน้า
ไม่ใช่ว่าเธอไม่เข้าใจ เธอแค่ปวดใจแทนลูกสาวตัวน้อยของเธอ
“แม่ครับ ตราบใดที่น้องสาวมีความสุขเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” เย่ว์จือกวงรู้สึกปวดใจเหมือนกัน แต่เขาก็เข้าใจและสนับสนุนเธอ
ไม่มีอะไรน่าพึงพอใจไปกว่า ‘ฉันดีใจที่ได้ทำมัน’ อีกแล้ว
“จ้ะ” เป่ยซียกยิ้มเล็กน้อย
“แม่ครับ ผมว่าแม่ควรจะดีใจนะ บรรยากาศในหมู่บ้านเถาหยวนซานคล้ายกับเผ่าหมาป่าพระจันทร์ของเรามาก สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าน้องสาวจะต้องชอบบ้านเกิดของเราอย่างแน่นอน”
“อื้ม”
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เป่ยซีก็มีความสุขมาก
ลูกสาวไม่เคยไปที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์ แต่ดูจากที่เธอจัดการหมู่บ้านเล็กๆ บนภูเขาที่ห่างไกลแห่งนี้ มันช่างเหมือนกับการจัดการในเผ่าหมาป่าพระจันทร์ไม่ผิดเพี้ยน
แม้ว่าจะถูกแยกออกจากโลกภายนอก แต่หมู่บ้านเถาหยวนซานก็สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้อย่างอิสระ เช่นเดียวกับเผ่าหมาป่าพระจันทร์ท่ามกลางนานาประเทศ
“แม่ครับ ร่างกายแม่ยังไม่ฟื้นตัวดี ผมว่าแม่กลับไปพักผ่อนก่อนสักหน่อยเถอะนะ น้องสาวคงไม่ลงมาเร็วขนาดนั้นหรอก”
หลายคนพยักหน้าเห็นด้วย
เด็กอายุสามขวบควรงีบหลับอย่างน้อยหนึ่งถึงสองชั่วโมงในระหว่างวัน
โดยปกติแล้ว เด็กสามขวบควรนอนทั้งสิ้นสิบถึงสิบสามชั่วโมงต่อหนึ่งวัน
โดยแบ่งออกเป็นช่วงกลางคืนเก้าถึงสิบเอ็ดชั่วโมง และช่วงกลางวันหนึ่งถึงสามชั่วโมง
แม้ว่าสถานการณ์ของเด็กแต่ละคนจะแตกต่างกัน แต่ก็ไม่แนะนำให้นอนนานเกินไปในช่วงกลางวัน มิฉะนั้นจะส่งผลต่อการนอนหลับในตอนกลางคืน
หากคุณไม่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอในเวลากลางคืน จะทำให้ร่างกายขาดพลังงานในระหว่างวัน
ยกเว้นเย่ว์จือกวง ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ไม่ใช่หมอก็เป็นคุณแม่ที่เคยเลี้ยงลูกมาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าเด็กอายุสามขวบต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการงีบหลับระหว่างวัน
“ถ้าอย่างนั้นฉันขอตัวไปนอนก่อนนะคะ”
ทุกคนพยักหน้า
ผู้เฒ่าทั้งสามคนนอนหลับสบายมากในเวลากลางคืน ดังนั้นช่วงระหว่างวันพวกเขาจึงไม่ค่อยงีบหลับกันสักเท่าไหร่
ส่วนเย่ว์จือกวงเขาเป็นชายหนุ่มแถมยังเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ดังนั้นพลังงานของเขาจึงไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปจะเทียบเคียงได้ หากมีเวลาเขาก็หลับ ไม่มีเวลาก็ไม่หลับ
ตราบใดที่คุณนอนหลับอย่างเพียงพอในเวลากลางคืน คุณก็จะไม่รู้สึกง่วงในเวลากลางวัน
ยิ่งวันนี้น้องสาวตัวน้อยของเขามาหาถึงที่นี่ เขาตื่นเต้นมาก จะหลับลงได้ยังไง!
ดังนั้นเย่ว์จือกวงและผู้เฒ่าทั้งสามจึงชงชาและย้ายตัวเองออกมานั่งใต้ต้นไม้ใหญ่ในสวนและพูดคุยกันเกี่ยวกับชีวิต
หลังจิบชาร้อนๆ ลงไปหนึ่งอึก หยวนเหยี่ยก็พูดขึ้นว่า “อากวงเอ๋ย เธอเองก็อยู่ที่นี่กับแม่มาได้ระยะหนึ่งแล้ว ไปทำธุระของตัวเองต่อเถอะ”
คนหนุ่มสาว ไม่ควรใช้ชีวิตหลังเกษียณเหมือนกับผู้สูงอายุอย่างพวกเขา
เหตุผลหลักคือเผ่าหมาป่าพระจันทร์จะถูกส่งต่อให้กับลูกศิษย์ตัวน้อยของเขาในอนาคต เขาไม่ต้องการเห็นเสี่ยวเยาเยาของเขาเหนื่อยจนเกินไป ดังนั้นในฐานะพี่ชายทั้งสองคนควรเหนื่อยให้มากกว่านี้!
ยิ่งเผ่าหมาป่าพระจันทร์แข็งแกร่งมากเท่าไหร่ เสี่ยวเยาเยาก็จะยิ่งสบายมากขึ้นเท่านั้น
เย่ว์จือกวงไม่รู้ความคิดลึกๆ ของหยวนเหยี่ย แต่เขาก็ควรกลับไปทำงานแล้วจริงๆ
เขาต้องจัดตารางงานไว้ล่วงหน้า เพราะเขายังต้องเข้าไปในเขตป่าชั้นในพร้อมกับถังถังในภายหลัง
จำเป็นต้องกำจัดอันตรายที่ซุกซ่อนอยู่ออกไปให้หมดก่อน น้องสาวจึงจะกลับมายืนเคียงข้างพวกเขาได้อย่างเปิดเผย การแก้ปัญหาเชิงรุกง่ายกว่าการป้องกันมาก
มีแต่เป็นโจรหนึ่งพันวัน ไหนเลยจะมีคติที่ว่าป้องกันโจรตลอดทั้งหนึ่งพันวัน
ยิ่งเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของน้องสาว พวกเขาจึงไม่กล้าที่จะประมาทแม้แต่น้อย
“อาจารย์ใหญ่ พรุ่งนี้ผมจะกลับไปที่เย่ว์ตูพร้อมกับน้องสาว เรื่องทางนี้คงต้องลำบากทั้งสามท่านช่วยดูแลต่อแล้ว”
ซย่าโหวโซ่วโบกมือส่ายไปมา “ลำบงลำบากอะไรกัน ไม่ใช่ว่าเธอเตรียมการเอาไว้หมดแล้วอย่างนั้นเหรอ พวกเราแค่รอดูความสนุกเท่านั้น”
“…ครับ” เรื่องการสร้างบ้านและเปิดถนนเชื่อมต่อกับทั้งสามหมู่บ้านล้วนมีผู้เชี่ยวชาญคอยกำกับดูแลอยู่แล้ว
ถังหยวนยิ้มและพูดว่า “อากวง เธอไปทำงานให้สบายใจเถอะไม่ต้องกังวล แม่ของเธอกับเสี่ยวเยาเยา ยังมีพวกเราคอยดูแลอยู่”
มันควรจะเป็นผู้เยาว์ที่ต้องดูแลผู้อาวุโส แต่สภาพร่างกายและจิตใจของเป่ยซีนั้นไม่ปกติ และผู้อาวุโสเหล่านี้ก็ยังดูเด็กมาก ไม่เพียงแต่พวกเขาไม่จำเป็นต้องให้ใครมาดูแล แต่พวกเขายังสามารถรับดูแลคนอื่นได้อีกด้วย
ปีนเขา เก็บผลไม้ เก็บชา ฯลฯ พวกเขาทำได้ดีกว่าคนหนุ่มสาวจริงๆ เสียอีก!
“ขอบคุณครับอาจารย์ อาจารย์แม่”
“อย่ามาพูดจาเกรงใจแถวนี้! พวกเราเลี้ยงดูเสี่ยวเยาเยามา เธอเหมือนเป็นหลานสาวแท้ๆ ของเราคนหนึ่ง ครอบครัวของหลานสาว ก็เป็นครอบครัวของเราด้วยไม่ใช่เหรอ” ซย่าโหวโซ่วเกลียดท่าทียึกๆ ยักๆ ขี้เกรงใจแบบนี้เป็นที่สุด!
“เอางั้นก็ได้ครับ ถ้างั้นอากวงจะไม่เกรงใจอาจารย์กับอาจารย์แม่แล้ว”
ซย่าโหวโซ่วพยักหน้าด้วยรอยยิ้มและพูดว่า “ต้องแบบนี้สิ” การสุภาพมากเกินไปจะทำให้กลายเป็นดูห่างเหินกันมากกว่า
พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นญาติของเสี่ยวเยาเยา ดังนั้นพวกเขาจึงควรสนิทกันเข้าไว้ มิฉะนั้นเสี่ยวเยาเยาจะลำบากใจเอาได้
“ว่าแต่อากวง เรื่องของเธอกับถังถังนี่มันยังไงกัน ฉันดูว่าแม่ของเธอค่อนข้างถูกใจแม่หนูถังถังทีเดียว” อาจารย์แม่ถามด้วยรอยยิ้ม
อาจารย์ทั้งสองก็แสดงท่าทางซุบซิบกัน
เย่ว์จือกวง “…”
เพราะถังถังเอาแต่ตามติดเขาไปทุกที่ทุกครั้งหลังจากที่เธอถ่ายทำเสร็จ ทั้งหมู่บ้านจึงพากันเข้าใจผิดไปหมด
มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่รู้ว่ามันไม่มีอะไรในกอไผ่เลย!
“ถังถังของเราเป็นเด็กดีมากจริงๆ นะ อย่างไรก็ตามมันไม่ง่ายเลยที่คนตระกูลถังจะให้กำเนิดทายาท ไม่ว่าจะเป็นสายหลักหรือสายรอง นอกจากนี้ยังมีลุงและหลานชายในครอบครัวอีกจำนวนไม่น้อยที่ไร้ทายาทตลอดทั้งชีวิตของพวกเขา ดังนั้นอากวง ถ้าเธอชอบถังถัง เธอต้องเตรียมใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ให้พร้อม”
“ผมไม่สนใจหรอกครับ อีกอย่างเผ่าหมาป่าพระจันทร์ของเราก็มีลูกหลานมากมาย…อา ไม่ใช่สิ อันที่จริง ผมอยากจะบอกกับทุกคนว่าผมกับถังถังเราไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด ถังถังแค่อยากขอให้ผมพาเธอเข้าไปในเขตป่าชั้นในเท่านั้นครับ เพราะเจ้าพิษน้อยๆ ในป่าที่เธอชอบเรียกติดปาก เลยทำให้เธอเอาแต่ตามติดผมทุกวัน” เกือบโดนลากลงน้ำแล้วไหมล่ะ
ผู้เฒ่าทั้งสามดูผิดหวังมาก
พวกเขาค่อนข้างมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับหนุ่มสาวคู่นี้จริงๆ!
หนุ่มหล่อสาวสวย แถมยังมากความสามารถ มองยังไงก็เหมาะสมกัน!
อื้ม ดูแล้วเจริญตามาก!