ตอนที่ 124 สมองมีปัญหา
หลังจากงีบพักกลางวัน มู่เถาเยาก็พาสองอาหลานตระกูลตี้ แม่ลูกตระกูลเย่ว์ รวมถึงเหลียงจีและไป๋เฮ่าอวี๋ตรงไปที่เชิงเขาโดยแยกกันนั่งรถไปสองคัน
ตี้อู๋เปียนถูกโยนลงที่ปากทางเข้าภูเขา
ไป๋เฮ่าอวี๋ไม่มีทางเลือกอื่นจึงต้องลงรถพร้อมกับเจ้านายของเขาด้วย
ทั้งสองคนมองตามหลังขณะที่คนอื่นๆ เดินเข้าไปในป่าเขียวชอุ่ม
อย่างไรก็ตาม ที่เชิงเขาเองก็มีสวนผลไม้ เชอร์รี่ ละอองบัว มะม่วง เนคทารีน ฯลฯ ผลไม้ทุกชนิดกำลังอยู่ในช่วงสุกงอม
กลิ่นผลไม้หลากชนิดที่ผสมผสานกันทำให้อากาศในรัศมีสิบลี้ช่างหอมหวานยิ่งนัก
แม้ว่าไป๋เฮ่าอวี๋จะไม่สามารถเข้าไปในภูเขาพร้อมกับทุกคนได้ แต่เขาก็พอใจกับสถานที่นี้ที่เต็มไปด้วยผลไม้สีแดงและสีเหลือง
“นายน้อย เดิมผมคิดว่าหมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลจะต้องเป็นแบบที่ผู้คนอาศัยอยู่ในกระท่อมมุงจาก ขาดแคลนอาหารและเสื้อผ้าที่เพียงพอ ต้องเดินข้ามแม่น้ำและภูเขาเพื่อไปโรงเรียน มีสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เลวร้ายมากๆ แถมทรัพยากรต่างๆ เองก็ขัดสน มีระดับการศึกษา สุขอนามัย ฯลฯ ต่ำกว่ามาตรฐานมากเสียอีก!”
ใบหน้าของตี้อู๋เปียนออกเห่อร้อนเล็กน้อย
ก่อนที่เขาจะส่งคนมาที่นี่ เขาเองก็คิดไม่ต่างไปจากที่ไป๋เฮ่าอวี๋เพิ่งบรรยาย ก็ใครใช้ให้ซาลาเปาน้อยพูดว่าเธอไม่เคยไปโรงเรียนล่ะ
ในตอนนั้นเขาคิดว่าหมู่บ้านเถาหยวนซานไม่มีแม้แต่โรงเรียนประถมด้วยซ้ำ…
เขาคิดว่าความรู้ที่เธอมีทั้งหมดถูกสอนมาโดยอาจารย์ทั้งสองของเธอและจากการอ่านหนังสือเอาเอง
ซึ่งในความจริงมันก็เป็นเช่นนั้น โดยหลักๆ แล้วเธอเรียนรู้จากอาจารย์ทั้งสองและจากการอ่านหนังสือเอง แต่เธอเองก็เชิญอาจารย์หลายคนมาสอนเธอเช่นกัน ต่อมาหลังจากเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เธอก็ได้ลงทะเบียนเรียนรู้หลักสูตรออนไลน์มากมาย
นอกจากนี้ หมู่บ้านเถาหยวนซานไม่เพียงแต่ไม่ยากจน กลับยังร่ำรวยมากอีกด้วย!
หากพวกเขาเต็มใจ พวกเขาจะกลายเป็น ‘หมู่บ้านอันดับหนึ่ง’ ของประเทศเหยียนหวงได้อย่างแน่นอน
ความมั่งคั่งและความงดงามระดับนี้แทบจะคิดเชื่อมโยงกับภาพพื้นที่บนภูเขาที่ห่างไกลไม่ได้เลย
แม้แต่คนก็ยังไม่เหมือนกัน!
หาได้ยากมากที่จะเห็นชายชราอายุแปดสิบปีที่มีพละกำลังเหลือล้นแบบนี้ในโลกข้างนอก!
ที่นี่ไม่เพียงแต่ผู้สูงอายุเท่านั้นที่มีสุขภาพที่ดี แต่คนหนุ่มสาวและเด็กๆ ก็แทบไม่มีใครมีน้ำหนักเกินหรือผอมไปเลย รูปร่างของพวกเขาดีมากๆ!
ยกตัวอย่างเช่นกลุ่มชายที่กำลังเก็บผลไม้อยู่ในสวนตอนนี้ แต่ละคนล้วนมีกล้ามท้อง หุ่นแทบจะเทียบได้กับบอดี้การ์ดส่วนตัวของเขาแล้ว!
ตี้อู๋เปียนรู้สึกอิจฉามาก ดวงตาของเขาแดงก่ำไปหมด!
ไป๋เฮ่าอวี๋เองก็อิจฉาเล็กน้อย
แม้ว่าเขาจะมีรูปร่างที่ดี แต่ก็ไม่ได้แข็งแรงและฟิต ดูสมบูรณ์แบบขนาดนี้
ร่างกายที่ฝึกฝนในโรงยิมนั้นแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับชาวบ้านที่ฝึกศิลปะการต่อสู้ตลอดทั้งปีและทำงานในทุ่งนา พวกเขาอ่อนแอมากจริงๆ
แน่นอนว่า ไม่เปรียบเทียบก็จะไม่รู้สึกเจ็บ!
“นายน้อย ทำไมเราไม่ย้ายมาอยู่ที่นี่เลยล่ะ” ว่างๆ ยังสามารถเข้าร่วมฝึกศิลปะการต่อสู้กับพวกชาวบ้านได้!
เขารู้แล้วว่าทุกคนในหมู่บ้านเถาหยวนซานมีอาวุธติดตัว!
พูดตามตรงว่าจุดนี้ทำให้เขาอิจฉามาก!
การที่หมู่บ้านบนภูเขาที่ห่างไกลมีจิตสำนึกเช่นนี้ช่างยากจะจินตนาการได้จริงๆ
มันคล้ายกับทหารที่ปลดอาวุธและกลับสู่ทุ่งนาในสมัยโบราณ แต่เมื่อประเทศต้องการพวกเขา พวกเขาก็จะวางจอบและหยิบอาวุธขึ้นต่อสู้ห้ำหั่น
ถ้าเขาไม่ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ใครจะเชื่อว่าบนภูเขาจะมีหมู่บ้านเล็กๆ แบบนี้ซ่อนอยู่?
“ซาลาเปาน้อยยังต้องไปโรงเรียน!” ทำไมตี้อู๋เปียนจึงจะไม่ต้องการย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนซาน
แต่ถ้าเขาอยู่ที่นี่ ซาลาเปาน้อยจะต้องกลับมาที่นี่ในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์
แบบนั้นจะทำให้เธอเหนื่อยเกินไป!
เดิมทีเธอก็ยุ่งมากอยู่แล้ว เด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งแทบจะไม่ได้ออกไปเล่นสนุกข้างนอก แล้วเขายังจะกล้าลากเธอไปๆ มาๆ นานแปดถึงเก้าชั่วโมงอีกเหรอ
“นั่นก็จริง งั้นเราตามเธอกลับมาหลังปิดเทอมฤดูร้อนก็แล้วกัน”
ตี้อู๋เปียนมองไปยังพื้นที่ว่างเปล่าตรงหน้า ไม่เห็นแผ่นหลังของกลุ่มคนที่คุ้นเคยอีกต่อไป และพูดว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด ดูเหมือนเธอจะพูดว่าอยากกลับไปที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์นะ”
ตามความเข้าใจของเขาที่มีต่อซาลาเปาน้อย เธอจะต้องสนใจ ‘เพลิงชาด’ และ ‘ธารหิมะ’ บนภูเขาเทพจันทราเป็นอย่างมาก เมื่อมีโอกาสแน่นอนว่าเธอย่อมอยากไปเห็นพวกมันด้วยตาตัวเอง
“ถ้าอย่างนั้นเราตามเธอกลับไปที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์ดีไหม” น้ำเสียงของไป๋เฮ่าอวี๋ดูตื่นเต้นเล็กน้อย
เขาอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเผ่านี้มาก
ว่ากันว่าหมาป่าเป็นสมบัติของเผ่าของพวกเขา เช่นเดียวกับหมี M ในประเทศของเรา
ความแตกต่างคือ หมาป่าของผู้อื่นอยู่รวมกันเป็นฝูง! มีหมาป่าแทบจะทุกสายพันธุ์ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นหมาป่าทุ่งหญ้าและหมาป่าหิมะ แถมพวกมันยังไม่ต้องการการดูแลจากมนุษย์ด้วย!
ขนาดของเผ่าไม่ใหญ่มาก แต่จำนวนหมาป่านั้นกลับมากที่สุดในโลก!
สิ่งที่ไป๋เฮ่าอวี๋ไม่รู้ก็คืออายุขัยของหมาป่าในประเทศอื่นมักจะอยู่ระหว่างสิบสองถึงสิบสี่ปี ในขณะที่หมาป่าของเผ่าหมาป่าพระจันทร์สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึงสามสิบปีทีเดียว
เผ่าหมาป่าพระจันทร์เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันมาก พวกเขาจึงไม่เคยเปิดเผยความลับนี้ออกไป
สำหรับพวกเขาแล้วหมาป่าคือครอบครัว คือเพื่อน จึงถูกห้ามล่าหรือผ่าตัดเพื่อดูว่าทำไมพวกมันถึงแตกต่าง
“ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกที มันคงดีถ้าตามเธอไปด้วยได้” ปัญหาคือร่างกายของเขาไม่เหมาะกับการนั่งเครื่องบินนานเกินสิบชั่วโมง
เฮ้อ…
ตี้อู๋เปียนถอนหายใจอย่างหนักในใจ
เมื่อก่อนเพราะกลัวว่าคนในครอบครัวจะเสียใจจึงไม่กล้าตาย ต้องพยายามมีชีวิตอยู่ต่อไป แต่ตอนนี้เขาไม่อยากตายแล้ว
“นายน้อย ทำไมคุณถึงพาเสี่ยวไป๋ไป๋ออกมาข้างนอกด้วยล่ะ”
“มันเป็นต้นไม้ ให้ออกมาอยู่กับต้นไม้ด้วยกันบ้าง เดี๋ยวคนเขาจะคิดว่ามันเป็นแค่เศษพลาสติก”
ดอกฉยงฮวา “…” เจ้านาย ท่านกำลังบูลลี่ร่างกายของดอกไม้!
เห็นได้ชัดว่าจุดประสงค์ที่เจ้านายพามันมาด้วยก็เพื่อใช้งาน ยังมาโจมตีมันอีก!
เจ้านายคนไร้หัวใจ!
หวังว่าซาลาเปาน้อยจะจัดการเขาให้เข็ด! ฮึ่ม!
“งั้นเดี๋ยวผมเอามันไปวางให้” ไป๋เฮ่าอวี๋ยื่นมือออกมา
“อืม”
ตี้อู๋เปียนยื่นกระถางดอกฉยงฮวาให้เขา
ดอกฉยงฮวาอาศัยจังหวะที่ไป๋เฮ่าอวี๋ไม่ทันได้สังเกต หันไปมองเจ้านายของมันและเขย่าตัวเบาๆ ถามว่า “เจ้านาย ข้าควรถามหาเบาะแสของหมอหญิงเดินเท้าก่อน หรือว่าหญ้าพิษชีวิตและดอกไม้สองชีวิตก่อนดี”
ตี้อู๋เปียนดึงใบของมันเบาๆ และตอบว่า “หมอหญิงเดินเท้า” หญ้าพิษชีวิตกับดอกไม้สองชีวิตหาได้ไม่ง่ายขนาดนั้น!
“โอเค!” เรื่องนี้ง่ายนิดเดียว!
การมองหาหญ้าพิษชีวิตและดอกไม้สองชีวิตตลอดช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้มันเริ่มสงสัยในชีวิตของตัวเองแล้ว!
ไป๋เฮ่าอวี๋อุ้มกระถางดอกฉยงฮวาไปวางไว้ที่ช่องเขา เดินเข้าไปลึกอีกเล็กน้อย เมื่อพบสถานที่ที่เหมาะสม เขาก็วางดอกฉยงฮวาไว้ในพุ่มไม้หนาทึบแล้วเดินออกไป
จากนั้น เขาก็เห็นนายน้อยของตัวเองกำลังมองผู้ชายที่เดินออกมาจากสวนพร้อมกับหิ้วตะกร้ามะม่วงสุกสีเหลืองใบใหญ่ในมือทั้งสองข้างแล้วน้ำลายไหล
เฮ้ย ความปรารถนาในกล้ามท้องของนายน้อยตะกละตะกลามมาถึงขั้นนี้แล้ว!
ใครที่ไม่รู้แล้วมาเห็นพฤติกรรมเช่นนี้ของนายน้อย คงเข้าใจผิดคิดว่าเขาเบี่ยงเบนทางเพศแน่ๆ!
อืม ทนมองต่อไปไม่ไหวแล้ว!
ผิวที่คล้ำแดดของชาวบ้านคนนั้นดูเรียบเนียนมากและกล้ามเนื้อของเขาก็เต็มไปด้วยพละกำลัง ทำให้เขาดูมาดแมนสมเป็นผู้ชายมาก
ตี้อู๋เปียนกระหายอยากจริงๆ นะ!
เขาอยากได้หุ่นแบบนี้จริงๆ!
“นายน้อย รีบปกปิดสีหน้าของคุณเร็วเข้า ไม่งั้นชาวบ้านที่แสนซื่อตรงเหล่านี้คงได้หวาดกลัวกันหมด”
ในที่สุดสายตาของตี้อู๋เปียนก็เบี่ยงเล็งไปที่ตะกร้ามะม่วงใบใหญ่แทน
ผลไม้ในตะกร้านี้รวมๆ แล้วน่าจะหนักไม่ต่ำกว่าห้าสิบกิโลกรัมใช่ไหม ผู้ชายคนนี้ย้ายมันจากสวนไปที่ถนนใหญ่อย่างง่ายดายโดยไม่หอบเลยแม้แต่น้อย
แรงเยอะจริง!
สายตาอดไม่ได้ที่จะจับจ้องไปยังร่างกายท่อนบนที่ไร้เสื้อเชิ้ตของชายคนนั้นอีกครั้ง
“สาวน้อยคนนี้…”
อุ๊บ…
ไป๋เฮ่าอวี๋อดไม่ได้หลุดหัวเราะออกมา
ชาวบ้าน “…”
“ลุงครับ ไม่ใช่สาวน้อย แต่เป็นพ่อหนุ่มต่างหาก”
ชาวบ้านเบิกตากว้าง จ้องมอง ‘พ่อหนุ่ม’ ด้วยสายตาร้อนแรง
มีชายหนุ่มที่หน้าตาดีขนาดนี้ด้วยเหรอ พวกเขาสงสัยในสายตาของตัวเองเล็กน้อย!
ตอนนี้ทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์กำลังตั้งกองอยู่ในป่าเซียนโหยว และพวกเขาจะกลับมาพักในหมู่บ้านตอนเย็น พวกเขาจึงได้เห็นคนหน้าตาดีทุกวันในช่วงนี้
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีขนาดนี้!
เขาไม่ได้มีการศึกษาที่สูงนัก ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหาคำพูดสวยหรูใดๆ มาอธิบายรูปลักษณ์ของคนตรงหน้า เขาแค่คิดว่าคนคนนี้หน้าตาดีพอๆ กับเสี่ยวเยาเยาเลย!
อืม เสี่ยวเยาเยาเป็นคนที่สวยที่สุดในโลกในหัวใจของทั้งหมู่บ้าน!
ทุกคนยอมรับและไม่มีใครโต้แย้ง!
แต่ตอนนี้ในหมู่บ้านมีพ่อหนุ่มคนนี้มาเพิ่มอีกคนหนึ่ง!
“ลุงครับ เรียกผมว่าเสี่ยวตี้ก็พอแล้ว”
“เสี่ยวตี้ (น้องชาย) ?”
เห็นๆ อยู่ว่าอีกฝ่ายเรียกเขาว่าลุง แต่ตัวเองกลับต้องการให้เขาเรียกว่าน้องชายงั้นเหรอ
พ่อหนุ่มที่หน้าตาดีพอๆ กับเสี่ยวเยาเยาคนนี้…สมองของเขามีปัญหาหรือเปล่า
ถ้าอย่างนั้นก็คงเทียบกับเสี่ยวเยาเยาไม่ได้แล้ว!
เสี่ยวเยาเยาเป็นยอดดวงใจประจำหมู่บ้านของเขา ไม่เพียงแต่เป็นเด็กสาวที่สวยที่สุด แต่ยังเป็นคนที่ฉลาดที่สุดอีกด้วย!
ใครที่คิดหักล้างคำพูดของเขา ก็ล้มหมัดเขาให้ได้เสียก่อน!