ตอนที่ 9 วางเดิมพัน 2

“เขาเข้ามายังสำนักได้สองปีแล้ว แต่ยังเป็นแค่ผู้ใช้พลังปราณล้ำลึก ขยะชิ้นนี้ควรค่าให้ข้านึกถึงด้วยหรือ?” เจียงชิวสุ่ยเอ่ยด้วยถ้อยคำเหยียดหยาม “มันจะสักเท่าไหร่กัน ข้าเดิมพันยี่สิบหินพลังปราณ หากต้วนจวินสามารถจัดการได้ในห้ากระบวนท่า เจ้ากล้ารับคำท้าไหม?”

“ทำไมข้าจะไม่กล้า?” ชายหน้ารูปไข่ตะโกนพร้อมหัวเราะ “ตั้งแต่ที่ศิษย์ใช้แรงงานกล้าท้าต้วนจวิน นั่นหมายความว่า เขาเองก็คงมีความสามารถพอ ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะรับมือได้ไม่ถึงสิบกระบวนท่า มีผู้ใดต้องการเดิมพันเพิ่มอีกไหม?”

“ข้าขอเดิมพันห้ากระบวนท่า!”

“ข้าพนันสิบกระบวนท่า!”

“ข้าขอเดิมพันห้าสิบหินพลังปราณว่าศิษย์ใช้แรงงานจะชนะ!” ในขณะนั้นเอง น้ำเสียงสดใสของเด็กผู้หนึ่งดังก้องขึ้น

เหล่าศิษย์นอกสำนักต่างชะงัก เมื่อหันไปมอง พวกเขาเห็นเด็กผู้หญิงอายุราวสิบสี่หรือสิบห้าปียิ้มกว้างให้ เด็กผู้หญิงสวมชุดกระโปรงเหลืองอ่อนลายดอกไม้ มันปกคลุมร่างผอมบางของนาง นางมีคิ้วรูปใบไม้ ปากเล็กเหมือนเชอรี่ และดวงตาที่ดูมีชีวิตชีวามองไปรอบกายอย่างมีเลศนัย

เด็กผู้หญิงไม่ใช่ใครอื่น นางคือเปาเอ๋อจากยอดเขาผู้ใช้ยันต์ นางตั้งใจมาหาหยางเย่วันนี้ แต่ไม่คาดคิดว่าหยางเย่จะมีเรื่องกับผู้อื่นอยู่ และไม่คาดว่าบรรดาคนพวกนี้จะดูถูกหยางเย่ถึงเพียงนี้ นางทราบดีถึงความร้ายกาจของหยางเย่ และที่หยางเย่มีพลังปราณห้าธาตุด้วย!

เมื่อบรรดาศิษย์นอกสำนักเห็นเด็กผู้หญิง พวกเขาค่อนข้างประหลาดใจ แม้ตอนนี้จะเป็นเพียงเด็กผู้หญิง ก็ยังสามารถจินตนาการถึงความสวยงามในอนาคตที่หาผู้ใดเปรียบมิได้ ยิ่งกว่านั้น สายตาบางคนที่มองนางยังเต็มไปด้วยราคะ

เมื่อนางเห็นสายตาอันน่ารังเกียจของบางคน เปาเอ๋อรู้สึกสั่นกลัว จากนั้นจึงเดินไปยังเจียงชิวสุ่ยและพรรคพวกพร้อมปึกยันต์ในกระเป๋า “ข้าอยากจะเดิมพันกับพวกเจ้า! ข้าพนันว่าศิษย์แรงงานตัวจ้อยจะชนะ”

เจียงชิวสุ่ยชะงัก แต่เมื่อเห็นปึกยันต์ในมือของเปาเอ๋อ เจียงชิวสุ่ยยิ่งงุนงงหนักไปอีก เขาเรียกสติกลับคืนมา ท่าทีเย็นชาและเย่อหยิ่งในตอนแรกกลายเป็นตื่นเต้นพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงเบา “เจ้า เจ้ามากจากยอดเขาผู้ใช้ยันต์อย่างงั้นหรือ?”

ขณะนี้เอง บรรดาศิษย์นอกสำนักสังเกตเห็นปึกยันต์ในมือของเปาเอ๋อ ยันต์นี้มีแต่ยอดฝีมือสิบอันดับแรกเท่านั้นที่จะได้รับจากยอดเขาผู้ใช้ยันต์! สายตาของพวกเขาถึงกับลุกเป็นไฟ

เปาเอ๋อตะโกนออกมา “ใช่แล้ว ข้าเดิมพันว่าศิษย์ใช้แรงงานตัวจ้อยจะชนะ พวกเจ้าทั้งหมดจะรับเดิมพันหรือไม่?” นางเกลียดคนพวกนี้อย่างยิ่ง เพราะพวกเขาไม่เพียงแค่ดูถูกศิษย์แรงงานตัวจ้อย ยังมีสายตาที่มองนางอย่างน่ารังเกียจอีก ดังนั้น นางตั้งใจจะข่มพวกเขาด้วยทรัพยากรแห่งการบ่มเพาะพลัง!

หรือนางหวังว่าศิษย์แรงงานตัวจ้อยจะชนะ?

บรรดาศิษย์นอกสำนักทั้งหมดหันมามองเมื่อได้ยิน หัวนางผิดปกติไปแล้วยังไงกัน? นางต้องการเดิมพันข้างศิษย์แรงงานโดยแท้จริง! อย่างไรก็ตาม ต้วนจวินเข้าสู่ระดับแปดของขั้นปราณมนุษย์แล้ว ทว่า ศิษย์ใช้แรงงานยังอยู่แค่ระดับสี่หรือห้าของขั้นปราณมนุษย์ เช่นนั้น เขาจะสามารถล้มต้วนจวินได้หรือ?

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ สายตาพวกเขาแสดงถึงความโลภอย่างเห็นได้ชัด

ดวงตาเจียงชิวสุ่ยเปล่งประกาย “พวกข้า… พวกข้าสามารถเดิมพันกับเจ้า แต่เจ้าต้องเป็นเจ้ามือ เพราะพวกข้าคิดว่าศิษย์ใช้แรงงานนั่นจะพ่ายแพ้ เจ้าคิดเห็นเช่นไร?”

เปาเอ๋อคิดชั่วอยู่ชั่วครู่หนึ่งก่อนเอ่ยคำ “ได้สิ พวกเจ้าทั้งหมดวางเดิมพันไว้ ข้าจะรับเดิมพันทุกราคา!”

เจียงชิวสุ่ยเต็มไปด้วยความตื่นเต้นในใจ “ดูสิ มีศิษย์นับร้อยที่นี่ ราคามันค่อนข้างมหาศาลอยู่นะ หากเจ้าแพ้ละก็…”

เปาเอ๋อทราบดีว่าเจียงชิวสุ่ยหมายความว่ายังไง นางยกคิ้วก่อนจะนำยันต์ทั้งหมดในกระเป๋าออกมา “โอ้ มียันต์อยู่ยี่สิบแผ่นในนี้ พวกมันอยู่ในระดับกลาง ทุกแผ่นสามารถขายได้ในราคาห้าร้อยหินพลังปราณ หากพ่ายแพ้ ข้าจะใช้ยันต์เหล่านี้จ่ายพนันเอง พอใจเจ้าหรือยัง?”

“ยันต์ระดับกลาง?” พวกเขามองไปที่ยันต์ในมือเปาเอ๋อ ดวงตาทุกคนลุกเป็นไฟด้วยความโลภ ยันต์ระดับกลางแต่ละแผ่นไม่ใช่ราคาเพียงห้าร้อยหินพลังปราณ หากพวกเขานำมันมาขายได้ หนึ่งพันหินพลังปราณย่อมไม่ใช่เรื่องยาก

เวลานี้ เจียงชิวสุ่ยไม่จำเป็นต้องเอ่ยสิ่งใดอีก บรรดาศิษย์นอกสำนักรีบพยักหน้าตกลง มันไม่ง่ายที่จะมีใครสักคนมามอบความร่ำรวยให้ง่าย ๆ ดังนั้นหากไม่รับไว้ พวกเขาคงไม่อาจรับความทุกข์ทนจากโทสะของสวรรค์เป็นแน่!

“ข้าเดิมพันห้าร้อยหินพลังปราณ!” เจียงชิวสุ่ยกล่าวออกมาทันที “ข้าไม่มีหินพลังปราณมากมาย เช่นนั้นเจ้าสามารถบันทึกไว้ หากพ่ายแพ้ ข้าจะให้มันแก่เจ้า บรรดาศิษย์นอกสำนักทุกคนก็เช่นกัน พวกข้าไม่คิดจะหลอกลวงเจ้า!”

เมื่อได้ยินเจียงชิวสุ่ยกล่าว เหล่าศิษย์ใช้แรงงานหยุดชะงัก ห้าร้อยหินพลังปราณไม่ใช่ราคาที่น้อยนิด พวกเขาได้รับเพียงยี่สิบหินพลังปราณต่อเดือน ดังนั้นเจียงชิวสุ่ยจะครอบครองมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร?

ขณะที่บรรดาศิษย์นอกสำนักคิด ว่าเจียงชิวสุ่ยไม่มีทางครอบครองห้าร้อยหินพลังปราณ ทว่าเขาไม่หวาดเกรงใด ก็เพราะมีหรือที่ศิษย์แรงงานจะชนะได้? คำตอบก็คือไม่!

เปาเอ๋อครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ “ได้เลย พวกเจ้าทั้งหมดวางเดิมพันได้! ข้าจะจดจำเดิมพันของทุกคน” นางไม่กลัวว่าบรรดาศิษย์จะกลับคำ เพราะไม่มีผู้ใดในสำนักดาบราชันกล้าเอารัดเอาเปรียบต่อนาง!

.

“ข้าขอเพิ่มอีกสองพันหินพลังปราณ!” เมื่อได้ยินว่าสามารถจดเป็นตัวเลขไว้ก่อนได้ เจียงชิวสุ่ยรีบเพิ่มไปอีกสองพันหินพลังปราณ เขาคงไม่อาจให้อภัยตัวเองได้หากไม่รับผลประโยชน์จากคนใจกว้างเช่นนี้

เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเปาเอ๋อให้เจียงชิวสุ่ยจดตัวเลขไว้ก่อนได้ ความวุ่นวายจึงบังเกิด บรรดาศิษย์นอกสำนักรีบวางเดิมพันกันทันที

“ข้าขอวางหนึ่งพันหินพลังปราณเช่นกัน!”

“ข้าวางแปดร้อย!”

“ข้าวางสองพัน!”

ยามเมื่อเห็นคนเหล่านี้วางเดิมพัน เปาเอ๋อเผยยิ้มจนถึงขนาดดวงตาหรี่ลงเล็ก นางรีบนำพู่กันออกมาจดบันทึกเดิมพัน ในความคิดนาง ดีที่สุดหากหยางเย่สามารถชนะ แต่หากพ่ายแพ้ก็ไม่เป็นไร เพราะอย่างไรที่ยอดเขาผู้ใช้ยันต์ก็มียันต์เช่นนี้มากมาย ยิ่งไม่กล่าวถึงว่านางสามารถสร้างพวกมันขึ้นเองได้