บทที่ 108 นางระบำที่เปลื้องผ้า

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หน้าตาของหลานจิ่นเอ๋อโดดเด่นมาก สามารถเทียบได้ก็หญิงงานอันดับหนึ่งของเมืองหลวงอย่าง ถังมู่หวั่น นิสัยอ่อนโยน ครั้งหนึ่งเคยเป็นผู้หญิงเก่งที่มีชื่อเสียง ในสายตาของผู้ชาย ความสามารถของนางโดดเด่นก่วาหลินเฟยหรันเสียอีก

แม่ของหลานจิ่นเอ๋อคือจ้าวซื่อ หลังจากที่แม่นางตายแล้ว จ้าวซื่อได้รับความชื่นชอบมากจากหลานเฉินมู๋ กี่ปีก่อน ไม่รู้เพราะเหตุใด จ้าวซื่อกับหลานจิ่นเอ๋อได้กลับไปที่บ้านเกิดของพวกเขากันหมด

วันที่นางแต่งงานกับเย่เจ๋หยิ่ง นิ่งซื่อโดนจับขังเขาคุก คุณหนูสี่หลานชิวหยุนโดนส่งออกไปจากจวน

ในจวนแม่ทัพใครจะขึ้นไปตัวแทนผู้นำคนใหม่ ตอนนั้นยังไม่สามารถรู้ได้!

ตอนนี้เห็นหลานจิ่นเอ๋อ นางรู้แล้ว ว่าตอนนี้ถึงคราวของจ้าวซื่อขึ้นแท่นเป็นตัวแทนผู้นำใหม่แล้ว

หึ!

เริ่มมีความหมายล่ะ

ทุกคนเห็นเย่เจ๋หยิ่งพานางเข้ามา ต่างก็ตกใจไม่อยากเชื่อ!

คนหนึ่งสง่าภูมิฐาน ส่วนอีกคนถึงแม้จะแต่งตัวเป็นผู้ชาย แต่หน้าตาก็สวยงดงาม ไม่ว่าจะมองจากจุดไหน พวกเขาทั้งสองถือว่าเหมาะสมกันมาก!

การมาของพวกเขาทั้งสองคน ทำให้คนในโรงน้ำชาหมองคล้ำไปทันที

นึกไม่ถึง อ๋องเย่ที่เย็นชาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงเลย เมื่อแต่งงานกับหลานเยาเยาแล้ว กลายเป็นคนที่รักเมียได้มากถึงขนาดนี้!

เย่หลีเฉินที่เป็นถึงองค์ชายรัชทายาท เมื่อเห็นพวกเขาจับมือกันแน่น ทำให้เขาเกิดความโกรธขึ้นมา

หลานเยาเยาควรจะเป็นของเขาแต่แรก······

เห็นเขาสองคนเดินเข้ามา ทุกคนต่างยืนขึ้นให้ความเคารพพวกเขา

เย่เจ๋หยิ่งมองเห็นสายตาที่เย่หลีเฉินมองพวกเขา มือเขาที่จับหลานเยาเยาอยู่ยิ่งจับแน่นขึ้นอีก จากนั้นดึงนางให้นั่งลงด้วยกัน

ในโรงน้ำชา มีคนหยอกล้อพูดขึ้นมาว่า

“อ๋องเย่ออกมายังไม่ลืมพาพระชายาออกมาด้วย ถือว่าเป็นสามีภรรยาที่รักกันมาก แม้แต่มือก็ไม่ยอมปล่อย สร้างความอิจฉาให้คนรอบข้างจริงๆ”

หลานเยาเยารู้สึกเหงื่อเริ่มไหล!

อะไรคือออกมาก็ไม่ลืมพานางออกมาด้วย?ความเป็นจริงแล้วคือนางดื้อรั้นจะมากับเขาเพื่อที่จะมากินมาดื่มต่างหาก

แต่ว่า!

หลังจากที่พวกเขานั่งลงแล้ว ทำไม่เย่เจ๋หยิ่งยังไม่ยอมปล่อยมือนางอีก?ขนาดเวลาแทน้ำชาก็ไม่ยอมปล่อย ยิ่งทำให้นางสับสนเข้าไปอีก

ตอนแรกนึกว่าเย่เจ๋หยิ่งจะไม่อยากตอบ

ใครจะรู้······

เสียงนุ่มของเขาดังขึ้นมาข้างๆ “สมควรที่จะอิจฉาข้าที่ได้แต่งงานกับพระชายาที่ดีอย่างนาง”

สำหรับการพูดจากลักษณะนี้ของเขา คุณชายคนอื่นต่างก็คุ้นเคยจนเห็นเป็นเรื่องปรกติแล้ว!

แต่สิ่งที่ทุกคนคาดคิดไม่ถึงก็คือ อ๋องเย่จะชื่นชมพระชายาของเขาต่อหน้าทุกคน นิ่ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยาก!

มีบางคนที่มองไปที่เย่หลีเฉินโดยปริยาย

เย่หลีเฉินในฐานะที่เป็นองค์ชายรัชทายาท เมื่อก่อนเคยหมั่นหมายกับหลานเยาเยามาก่อน อย่างไรก็ตามตอนนั้นเขาไม่ชอบหลานเยาเยาที่เป็นลูกเกิดจากภรรยาน้อย แถมยังรังเกียจหาว่าหน้าตาของหลานเยาเยาน่าเกลียดไม่สวย

เพิ่งจะมาเสียดายตอนนี้

หลานเยาเยาเผยโฉมหน้าที่สวยงามออกมา ได้แต่งงานกับอ๋องเย่ผู้มีอำนาจบารมีในวัง แถมอ๋องก็รักนางมาก

องค์ชายรัชทายาทเหมือนโดนอ๋องเย่ตบหน้าตัวเองแรงๆ!

ส่วนหลานชิวหยุนที่เขาเลือกจิตใจโหดเหี้ยมอำมหิต ซึ่งตอนนี้ชื่อเสียงได้เสื่อมเสียไปทั่ว จึงโดนส่งไปที่วัดเพื่ออบรมบ่มนิสัย ส่วนแม่ของหลานชิวหยุนโดนจับเข้าคุก อีกไม่นานก็จะโดนประหารแล้ว

เหตุการณ์ในโลกนี้

คาดการณ์ได้ยาก!

“อ๋องเย่พูดได้ดีมาก พระชายาเย่เป็นผู้มีบุญวาสนา”

เซียวซื่อจื่อมองไปที่พวกเขาและพูดขึ้นเบาๆว่า ข้าขอดื่มกับพวกท่านหนึ่งจอก โดยใช้น้ำชาแทนเหล้า

เมื่อเซียวซื่อจื่อเป็นคนเริ่มต้นแล้ว ทุกคนก็ถยอยกันทำตาม สุดท้ายก็เหมือน ทำให้เย่หลีเฉินก็ต้องยกชาขึ้นมา ใช้ชาแทนเหล้าดื่มพร้อมกัน แล้วพูดขึ้นว่า

“ขอให้พวกเจ้าครองรักกัน ตลอดไปจนแก่เฒ่า !”

“เช่นเดียวกัน!”

เย่เจ๋หยิ่งนั้นก็ยกชาขึ้นดื่มจนหมดแก้ว

ทันใดนั้น หลานเยาเยาที่โดนผู้คนชื่มชมว่าเป็นสุดที่รักของเย่เจ๋หยิ่งนั้น ก็ดื่มชาหมดไปหลายแก้ว สายตาก็มองไปรอบด้าน

ของอร่อยหล่ะอยู่ไหน?

ทำไมมีแต่น้ำชา?

เมื่อมองไม่เห็นของอร่อย หลานเยาเยารู้สึกประหลาดใจ ในใจเริ่มกังวล ใจของนางนั้นตอนนี้เริ่มค่อยๆบินออกไปหาเรือลำใหญ่บนทะแลสาบด้านนอก

ของอร่อยน่าจะอยู่ข้างในนั้นมั้ง!

ใจของนางเหมือนออกไปจากบ้านไปชั่วขณะ จนกระทั่งรู้สึกถึงสถานการณ์ที่ผิดประติ จึงดึงความคิดของตัวเองกลับมาอีกครั้ง

มองเห็นผู้ชายทั้งหมดลุกขึ้นยืน ส่วนผู้หญิงนั้นยังอยู่ที่เดิมไม่มีใครขยับ

หลานเยาเยารู้สึกประหลาดใจ!

เมื่อหลานเยาเยาหันไปมองเย่เจ๋หยิ่ง เห็นเขาก็ลุกขึ้นยืนด้วย ยิ่งทำให้นางรู้สึกประหลาดใจขึ้นไปอีก

เมื่อเห็นหนึ่งในคุณชายทั้งหมดนั้นเดินออกไปข้างนอก แล้วเขาก็เดินเข้าไปที่เรือลำใหญ่นั้น

นางถึงเข้าใจว่าเป็นเพราะอะไร

ดูแล้วพวกเขาน่าจะกำลังจะขึ้นไปบนเรือ!เมื่อนางกำลังจะลุกขึ้นไปกับพวกเขาด้วย กลับได้ยินเสียงที่นุ่มทุ้มของเย่เจ๋หยิ่งพูดขึ้นมาว่า“รอข้าอยู่ที่นี่!”

ความหมายคือไม่ให้นางไปด้วย

หลานเยาเยาเบ้ปากไม่พูดอะไร เย่เจ๋หยิ่งมองไปที่นาง จากนั้นก็เดินออกไป เมื่อเดินไปถึงข้างนอก ก็มีองครักษ์ลับปรากฏตัวออกมา

ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรหกันจากนั้นเห็นองครักษ์ลับมองมาที่นาง พยักหน้าทักทาย แล้วเขาก็เดินออกไป !

เหย่……

คงไม่ใช่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่มั้ง!

เพราะฉะนั้นเขาถึงให้องครักษ์ลับมาอยู่เฝ้านาง?

ใจนางตอนนี้เริ่มรู้สีกไม่พอใจขึ้นมา……

“น้องหก เจ้าอยู่ที่จวนท่านอ๋องเย่สบายดีไหม?”

“น้องหก เจ้าอยู่ที่จวนท่านอ๋องเย่สบายดีไหม?”

เสียงนุ่มนวลดังขึ้นมา ทำให้หลานเยาเยาหันไปมอง

คือหลานจิ่นเอ๋อ!

พวกนางดื่มชาด้วยกันหลายคน โดยมีถังมู่หวั่นเป็นตัวหลัก หลานจิ่นเอ๋อเลยเดินมาหาหลานเยาเยา

“สบายดีไหม!”

ถ้าจำไม่ผิด หลานจิ่นเอ๋อก็เป็นลูกที่เกิดจากภรรยาน้อย แต่ว่าช่วงนั้น อนุภรรยาจ้าว แม่ผู้ให้กำเนิดนาง อยู่ในวังถือว่าทำงานดีเจริญก้าวหน้า

ถึงแม้นางจะไม่เหมือนหลานชิวหยุนชอบรังแกนาง ดุด่านาง แต่นางก็ไม่เคยเข้าหาหลานเยาเยา เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงไม่สนิทกันเลย“เห็นอ๋องเย่รักและถนอมเจ้าขนาดนี้ ข้าซึ่งเป็นพี่สาวของเจ้าก็รู้สึกหายห่วง!”หลานจิ่นเอ๋ออยู่ๆก็มานั่งลงตรงข้ามนาง

“ออ!”

หลานเยาเยาไม่มีอารมณ์ที่จะพูดคุยกับนางด้วย

เนื่องจากไม่สนิทกันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว จะให้เข้าใกล้กันสนิทกันคงทำได้ยาก

เมื่อหลานเยาเยาเตรียมตัวที่จะลุกขึ้นเดินออกไป ทันใดนั้นหลานจิ่นเอ๋อก็หยิบหัวข้อเรื่องพูดขึ้นมาว่า เพื่อดึงดูดความสนใจของนาง

“เยาเยา เจ้ารู้ไหมว่าเรือลำใหญ่นั้นมีอะไร?”

“มีอะไรเหรอ?”

ไม่ใช่เรื่องกิน ก็เป็นเรื่องเล่น! ยังจะมีอะไรได้อีกนะ?

“ความจริงข้าก็ไม่รู้ แต่ว่าข้าได้ยินมาว่า เรือลำใหญ่ลำนั้นเข้าได้แค่ผู้ชาย ผู้หญิงเข้าไปไม่ได้

มีคนพูดว่าข้างในมีการร้องรำทำเพลงกัน ทั้งวันทั้งคืน เป็นสวรรค์ของผู้ชาย แต่ก็มีคนพูดว่าข้างในนั้นมีทั้งคนดีคนชั่วปะปนกัน โหดร้ายมาก

แต่ไม่รู้ว่าอันไหนคือความจริง บางทีอาจจะเป็นเรื่องโกหกทั้งสองอย่างก็ได้!”หลานจิ่นเอ๋อพูดจบก็ยกชาขึ้นจีบ

“ฟังจากที่เจ้าพูด เหมือนจะน่าสนใจเหมือนกันนะ ”ยิ่งทำให้นางอยากเข้าไปสัมผัส

ใครจะรู้……

อาจเป็นเพราะนางอยู่ที่นี่ทำให้มีคนเริ่มไม่พอใจ พยายามหาเรื่องนางขึ้นมา!

“อะไรกัน คนบางคนถ้าไม่รู้ก็อย่าพูดไปเรื่อย พี่มู่หวั่นพูดขึ้นมา ข้างในนั้นคือศูนย์รวมของคนที่มีความสามารถ

ข้างในนั้น ไม่แบ่งชนชั้น ใครจะแข่งขันประลองฝีมือกับใครก็ได้ ถึงแม้จะมีคนตายเกิดขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องมีการชดใช้

มีแค่สิ่งหนึ่งที่พูดถูกต้อง ถึงแม้เรือลำใหญ่ลำนั้นไม่ให้ผู้หญิงเข้าไป แต่ข้างในมีนางรำเปลื้องผ้า เพื่อให้ผู้ชายได้สำราญเพลิดเพลิน และได้ผ่อนคลายด้วย

ได้ยินว่าวันนี้คือครั้งแรกที่อ๋องเย่เข้าไป ไม่รู้ว่าจะต้านทานสิ่งล่อลวงได้หรือไม่ ถึงแม้จะต้านทานได้ แต่ร่างกายของนางรำเหล่านั้นยังไงอ๋องเย่ก็ได้เห็นแน่นอน

เพราะฉะนั้น พระชายาเย่คืนนี้เจ้าจะได้นอนคนเดียวแน่นอน!”

คนที่พูดคือหลินเฟยหรัน ลู่สาวของไท่ฟู่